Thai VI

แล้วบริษัทเกษตร ปิโตรเคมี เหมืองแร่ และ ฯลฯ อีกมากมาย
ใครจะทำธรกิจเหล่านี้ละครับ ไม่มีนักลงทนสนใจที่จะลงทนเลย ราคาห้นของบริษัทเหล่านี้ก็จะต่ำมากๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจซื้อ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ไม่มี DCA

อย่างที่อ่านเจอในหนังสือครับ

คนทุกคนสามารถเข้าใจและลงทุนเหมือนวอร์เรน หรือ เกรแฮมได้ แต่ทำไมไม่ทำตามกันก็ไม่รู้ ทั้งๆที่ก็เห็นกันแล้วว่า ผลงานออกมาเป็นอย่างไร

วอเรน ก็ลงทุนใน petro china นะครับ คุณฉัตรชัย

นิยามของ DCA คือมีความสามารถในการแข่งขันอย่างคงทน ทีนี้การที่บริษัทอยู่ในกิจการบางอย่างที่เป็นสินค้า commodities ก็สามารถมี DCA ได้เหมือนกัน

อันนี้ต้องยกให้ Peter Lynch กระมังครับ เค้ายกตัวอย่างเช่นกิจการถมดินกระมัง ที่คู่แข่งจะเข้ามาบุกตลาดได้ยากถ้าไม่มาตั้งโรงงานใกล้ๆ

เชื่อมั้ยผมว่า โรงน้ำแข็งก็มี DCA เผลอๆ มากกว่าโรงงานปิโตรเคมีเสียอีก เพราะในเขตๆ นึงจะมีโรงน้ำแข็งได้ไม่เกินสองราย การที่ขายข้ามเขตค่อนข้างยากเพราะราคาค่าขนส่งจะกินหมดครับ

ไม่ได้แย้ง คุณ chatchai หรอก แค่อยากบอกอีกแง่มุมนึงครับ

อ้อ ถ้าเล่นแนว peter lynch เนี่ย เค้าเอาหมดละครับ ถ้าเล่นแนว buffet สงสัยไม่ได้ลงทุนในบรรดาพวกอุตสาหกรรมนี้แน่นอน

ผมว่ามีคนซื้อครับ ในระยะแรกราคาหุ้นคงตกเอา ตกเอา แต่เมื่อราคาต่ำมากๆ จน Margin Of Safty สูงพอ ผมมั่นใจว่า วอเรนต์ก็คงซื้อ
อ้อ อีกเรื่อง ถ้าทุกคนเป็นแบบวอเรนต์หมด จะมีสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวมากเกิดขึ้นครับ
EMT จะเป็นจริงเพราะทุกคนประเมินมูลค่าตลาดได้แม่นยำหมดในระยะยาวและ ทุกคนจะไม่สามารถทำกำไรจากตลาดได้อีกต่อไป
โอ้ มันแย่มากเลย

ถ้าทุกคนลงทุนเหมือน Buffett การซื้อขายก็ไม่เกิดขึ้นครับ
ไม่ว่าจะเป็นหุ้นดีหรือหุ้นไม่ดีก็ตาม

ถ้าทุกคนคิดว่าหุ้นตัวนี้น่าซื้อ จะมีใครขายล่ะครับ
หรือถ้าทุกคนคิดว่ามัน over value แล้ว จะมีใครซื้อล่ะครับ

ผมคิดว่า นั้นก้อ อาจจะเป็นวัตถุประสงค์ในการลงทุน อย่างแท้จริงก้อได้นะครับ ถ้าเรามีเงินแล้วเอาเงินนั้นไปลงทุนยาวๆๆให้ บ.ได้เอาทุนไปหมุนเวียนก่อให้เกิดรายได้แล้วนำรายได้กลับคืนสู่ ผู้ถือหุ้นไงครับ

Buffett นั้นบอกว่า จะซื้อแต่ธรกิจที่ดี (มี DCA) ในราคาที่เหมาะสมเท่านั้น แต่จะไม่สนใจธรกิจพื้นๆที่มีราคาถกเลยครับ

ที่นี้บริษัทที่มี DCA ในแต่ละอตสาหกรรมจะมีซักกี่บริษัทละครับที่นี้ บริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่ มีประวัติผลการดำเนินงานไม่มากก็ไม่มีใครที่จะลงทนนะซิครับ