หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ตุล ไวฑูรเกียรติ 'การลงทุนคือศิลปะ'

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 17, 2007 11:11 pm
โดย vichit
ตุล ไวฑูรเกียรติ 'การลงทุนคือศิลปะ'

นอกจากชีวิตจะมีความสุขสนุกกับการทำงานที่รักและชื่นชอบในแวดวงดนตรี อีกมุมหนึ่งของตัวตน "ตุล ไวฑูรเกียรติ" นักร้องนำวง "อพาร์ตเมนต์คุณป้า" ยังมองการ "ลงทุน" เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน "ศิลปะ" ที่เป็นส่วนเพิ่มเติมให้แก่ชีวิตอีกด้วย

"ผมมองการลงทุนเป็นศิลปะที่มีความสุข ไม่ต่างจากการเล่นดนตรี ซึ่งเป็นทั้งการลงทุนทางทรัพย์สินทางปัญญา และทำให้ชีวิตผมมีความสุขในวันนี้"



ในมุมของการทำงานดนตรี เขียนบทเพลง ตุล ไวฑูรเกียรติ นักร้องนำวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก แต่ในมุมการลงทุน น้อยคนที่จะรู้ว่าเขาเป็นคนรุ่นใหม่อีกคนที่ชื่นชอบสไตล์การลงทุนแบบ "หุ้นมูลค่า" หรือ Value Investor ตามแบบฉบับ "วอร์เรน บัฟเฟตต์"

ตุลเล่าว่า เริ่มต้นลงทุนครั้งแรกเมื่อราวปี 2546 จากการชักชวนของรุ่นพี่คนหนึ่ง และเป็นจังหวะดีที่ตลาดหุ้นเพิ่งเข้าสู่ยุคกระทิงรอยใหม่ ดังนั้นไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นอะไรก็ทำกำไรได้ทุกตัว "ตอนนั้นผมยังไม่ได้ลงทุนสไตล์แวลู เพราะช่วงปี 2546 ตลาดหุ้นบูมมาก ไม่ว่าลงทุนหุ้นตัวใดก็ได้กำไรหมด"

หลักทรัพย์ที่ทำให้ตุลได้รับผลกำไรเป็นกอบเป็นกำมากที่สุด ในยุคนั้นคือ "SSI" หรือบริษัทสหวิริยาสตีลอินดัสตรี ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจเหล็ก

ตุลบอกว่า เป็นหุ้นตัวแรกที่ทำให้ชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด (จุดพีค) จากที่ซื้อครั้งแรก 6-7 บาท ราคาได้ปรับตัวขึ้นไปถึง 42-44 บาท จากเงินลงทุนเริ่มแรกราวๆ 2-3 แสนบาท ก็มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 2-3 ล้านบาท ภายในเวลารวดเร็ว

"หุ้น SSI จึงเสมือนเป็นโรงเรียนที่สอนวิชาเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นให้ผม และตอนนี้ผมก็ยังถือหุ้นตัวนี้อยู่ แต่หลังจากแตกพาร์แล้วราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆ เหลือเพียงไม่ถึง 1 บาท ซึ่งเป็นเรื่องปกติของหุ้นที่มีวงจรธุรกิจหรือไซเคิล ขณะที่หุ้นเหล็ก ไม่ได้มีจุดเด่นในเรื่องยี่ห้อสินค้า ราคาหุ้นจึงขึ้นอยู่กับวงจรธุรกิจว่าเมื่อใดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง แตกต่างจากธุรกิจอื่นๆ"

จนกระทั่งปี 2547-2548 ตลาดหุ้นได้ปรับตัวไม่ใช่ขาขึ้นเช่นปี 2546 ทำให้ตุลเริ่มเรียนรู้ว่าตลาดหุ้นไม่ได้จีรัง และเริ่มเห็นผลขาดทุนในหุ้นบางตัวหลังจากได้ลงทุนในหุ้นแฟชั่นหรือเล่นหุ้นตามกระแสขณะนั้น

เหตุนี้เองจึงทำให้ตุลเริ่มหันมาให้ความสนใจในแนวทางการลงทุนแบบแวลู อินเวสเตอร์ โดยใช้วิธีการเลือกหุ้นที่มีกิจการ "สูงกว่า" สภาพราคาหุ้น "ผมเริ่มมองหาหุ้นที่มีมูลค่ากิจการดีกว่าราคาหุ้น ไม่ได้มองหุ้นตามกระแส"

ตุลบอกว่า การเลือกหุ้นตามแนวทางการลงทุนแบบแวลู หรือ VI จะเป็นหุ้นกลุ่มอะไรก็ได้ แต่ต้องมีคุณค่ามากกว่าราคาซื้อขาย และไม่ได้หมายถึงหุ้นเล็กเสมอไป ซึ่งควรเป็นสินค้าที่จับต้องได้ เข้าใจง่าย

ที่สำคัญต้องเข้าถึงสินค้าและรับรู้ข้อมูลของกิจการหรือธุรกิจนั้นๆ ด้วยตัวเอง นอกจากนั้นยังต้องพิจารณางบการเงินประกอบการตัดสินใจก่อนเข้าลงทุน

"อย่างหุ้นซีเอ็ด ผมมองเป็นหุ้นแวลูตัวหนึ่ง ตลอดเวลาที่ผมถือลงทุนในหุ้นตัวนี้ นอกจากจะได้มูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากราคาแล้ว ยังได้รับเงินปันผลสม่ำเสมอราว 5-6% ขณะเดียวกันผมสามารถใช้บริการร้านหนังสือซีเอ็ดได้ตลอดเวลา และจำนวนร้านน่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากวัดเป็นผลกำไรอาจจะไม่มากนัก เพราะสภาพคล่องของหุ้นไม่สูง"

ตอนนี้พอร์ตหุ้นของตุลประกอบด้วยหุ้น SSI, ATC, SE-ED, LH เป็นต้น แม้ว่าหุ้นบางตัวจะติดลบอยู่บ้าง แต่เขาบอกว่ายังได้รับเงินปันผลกลับคืน และถ้านับตั้งแต่การลงทุนวันแรก พอร์ตลงทุนหุ้นของเขาก็ยังให้ผล "กำไร"

ในส่วนของการจัดสรรเงินลงทุนส่วนตัว ตุลบอกว่า ปัจจุบันเขามีรายได้หลายอย่าง

รายได้หลักๆ จะมาจากการแสดงดนตรี ค่าลิขสิทธิ์การเขียนเพลง เขียนหนังสือ ตลอดจนเป็นอาจารย์สอนพิเศษและวิทยากรด้านดนตรีให้แก่สถาบันการศึกษาต่างๆ

เขาจะใช้วิธีการจัดสรรเงินไว้สำหรับการใช้จ่ายส่วนตัวราว 60% ส่วนที่เหลืออีก 40% จะนำไปจัดสรรลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทน

ในส่วนของเงินลงทุน 40% ตุลจะให้น้ำหนักนำเงินไปลงทุนใน "หุ้น" ด้วยตัวเองราว 40% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และซื้อคอนโดให้เช่า 40% กองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) 10% ส่วนที่เหลือเป็นเงินฝากและซื้อประกันชีวิต 10%

"ผมชอบการลงทุนหลักๆ 3 อย่างคือ การลงทุนในหุ้นด้วยตัวเอง ซื้อกองทุนรวม LTF และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนกองทุนแอลทีเอฟ จะเลือกลงทุนในกองทุนที่ไม่จ่ายเป็นปันผล และจะซื้อทุกๆ 3 เดือนในจำนวนเงินที่เท่ากัน ผลตอบแทนที่ได้เติบโตดีประมาณ 30% และยังเป็นการประหยัดภาษีอีกด้วย"

ตุลบอกว่า เขาไม่เชื่อเรื่องอำนาจของดอกเบี้ยเงินฝาก จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการฝากเงินมากนัก แต่จะเน้นนำเงินไปลงทุนในหุ้นเสียมากกว่า แต่หากอายุมากขึ้น อาจจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในตราสารหนี้เอาไว้บ้าง เพื่อกระจายความเสี่ยง

"ตั้งแต่ผมหันมาลงทุนได้ 4-5 ปี มานี้ ทำให้ผมใช้เงินประหยัดมากขึ้น ไม่ใช้ของสุรุ่ยสุร่าย รู้จักการกระจายความเสี่ยงการลงทุน จากที่ไม่เคยคิดลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็มาให้ความสนใจ ผมเพิ่งซื้อคอนโดมิเนียมให้เช่า เพราะมองว่าการให้เช่าเป็นรายได้ และยังซื้อกองทุนรวมต่อเนื่อง"

ไม่เพียงแต่การทำงานเพลงจะสร้างรายได้และความสุขเท่านั้น ในส่วนของการลงทุนยังเป็น "ส่วนเพิ่มเติม" ชีวิตให้แก่นักร้องนำวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า อีกด้วย

"ผมมองการลงทุนเป็นศิลปะที่มีความสุข ไม่ต่างจากการเล่นดนตรี ซึ่งเป็นทั้งการลงทุนทางทรัพย์สินทางปัญญา และทำให้ชีวิตผมมีความสุขในวันนี้" ตุล ไวฑูรเกียรติ นักร้องนำวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า ในวัย 30 ปี กล่าว

+++++