หน้า 1 จากทั้งหมด 1

7 พรรคชูธงบอกเลิกกันสำรอง เอาใจนักลงทุน-ปั๊มเงินต่างชาติ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 06, 2007 8:26 am
โดย vichit
7 พรรคชูธงบอกเลิกกันสำรอง เอาใจนักลงทุน-ปั๊มเงินต่างชาติ

7 พรรคการเมืองใหญ่ ประสานเสียงบอกเลิกมาตรการกันสำรอง 30%- หลังนั่งแท่น
รัฐบาลชุดใหม่ หวังเรียกคะแนนเสียงนักลงทุนไทย-เปิดประตูรับเม็ดเงินต่างชาติจริงจัง ประชาธิ
ปัตย์-พลังประชาชน ย้ำแนวคิดเดียวกันเพิ่มมูลค่า-สร้างประสิทธิผลรัฐวิสาหกิจไทย
นาย กรณ์ จาติกวณิช รองเลขาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายในงานแสดงวิสัย
ทัศน์พรรคการเมือง นโยบายพรรคในการบริหารตลาดทุนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบ
เศรษฐกิจไทย ว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลชุดใหม่จะมีการยกเลิกเกณฑ์กันสำรอง
30% และจะไม่มีการแก้ไข พ.ร.บ.ต่างด้าว เพื่อเป็นการสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลง
ทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ในขณะเดียวกันยังมองว่าในช่วงนี้บรรยากาศการลงทุน รวมทั้งบัญชี
การซื้อขายยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
    สำหรับกรณีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การแปรรูปของรัฐวิสาหกิจจะ
ต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับรัฐวิสาหกิจนั้นๆด้วย ส่วนแนวทางในการ
แปรรูปรัฐวิสาหกิจไม่จำเป็นต้องเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ซึ่งมีหลายแนวทางให้
เลือกปฎิบัติ เช่น การดึงภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการถือหุ้นเพื่อร่วมพัฒนารัฐวิสาหกิจให้เติบโต
อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอนที่เข้ามาอยู่ในวงการใหม่ๆ บัญชีการซื้อขายอยู่ที่ 350,000 บัญชี ซึ่งในช่วงนี้ก็
ไม่ได้แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา ส่วนดัชนีก็ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 850 จุด ซึ่งไม่ถึง 50% ของการซื้อ
ขายในตลาด ส่วนการออกตราสารหนี้และการออกหุ้นกู้ส่วนใหญ่ก็ยังถือว่ายังน้อยอยู่ ดังนั้นควรมี
ความหลากหลายในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในตลาด นายกรณ์ กล่าว
    ด้านนาย เสถียร สุรัตนกวีกุล ทีมนโยบายเศรษฐกิจ กรรมการในฝ่ายวิชาการและ
นโยบาย พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า หากพรรคได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกมาตรการกันสำรอง
30% ทันที เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นการกีดกันเงินทุนให้ไหลเข้าออกอย่างเสรี และเป็นผล
ให้เงินทุนในไทยไหลออกไปนอกประเทศ อีกทั้งยังไม่สามารถแก้ไขเสถียรภาพค่าบาทได้ ดังนั้น
จึงจะยกเลิกมาตรการดังกล่าวรวมทั้งในระยะสั้นจะปล่อยค่าเงินบาทให้ลอยตัวอย่างเสรีไปสู่จุด
ดุลยภาพอีกด้วย
อย่างไรก็ตามกรณีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น ทางพรรคฯจะไม่นำรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยว
ข้องกับสาธารณูปโภคมาแปรรูป เนื่องจากการสาธารณูปโภคนั้นเป็นสมบัติของประชาชน จึงไม่
ต้องการนำมาแปรรูปเพื่อให้เอกชนเป็นเจ้าของอย่างไรก็ดี พรรคฯ อาจจะหันไปพัฒนาสายธุรกิจ
อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องโทรคมนาคม โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มากขึ้น เพื่อให้
ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการได้ตามความสะดวก
ส่วนนาย อุตตม สาวนายน ที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
กล่าวว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะมีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ทันที เพื่อเป็นการดึงดูดนัก
ลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้จะให้มีการประสานงานระหว่างธนาคาร
แห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่ดูแลค่าเงินบาท มาหารือร่วมกันว่าจะมี
มาตรการใดที่จะมาดูแลระบบตลาดเงิน นอกจากนี้ จะเชิญให้หน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งก็คือ
หน่วยงานตลาดทุนมาร่วมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการไหลเข้าของเงินทุนด้วย
สำหรับนาย จิรายุ วสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวเห็นด้วยกับการยกเลิก
มาตรการกันสำรอง 30% เพื่อให้เงินทุนต่างชาติเข้ามาในไทยเหมือนเดิม และควรหามาตรการ
อื่นมารองรับเมื่อมีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ไป
ด้านนาย พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ ตัวแทนหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย เห็นพ้องว่า
ควรยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นตัวกีดกันการลงทุนจากนัก
ลงทุนต่างชาติ และเห็นว่าควรมีมาตรการอื่นมารองรับภายหลังการยกเลิกด้วย เพื่อสร้างความ
สมดุลให้กับค่าเงินบาท
ขณะที่ นาย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า พรรคฯ เห็นด้วยกับ
การยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% เนื่องจากมาตรการดังกล่าวกีดกันการลงทุนจากนักลงทุน
ต่างชาติที่จะเข้ามายังไทย ซึ่งเมื่อยกเลิกมาตรการดังกล่าวแล้วก็ควรที่จะมีมาตรการอื่นๆ ที่เข้า
มาดูแลเพื่อพยุงให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพด้วย
และนาย มานะ มหาสุวีระชัย แกนนำพรรคประชาราช ยังไม่ขอระบุว่านโยบายพรรคจะ
ให้มีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% หรือไม่ เนื่องจากตอนนี้ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดัง
กล่าว ดังนั้นจึงยังไม่ขอกล่าวให้ความเห็น

ที่มา : น.ส.พ. กระแสหุ้น