ตุล แห่ง วงอพาร์ตเมนต์คุณป้า
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 04, 2007 8:44 pm
สัมมนาลงทุนหุ้นไทยสไตล์ วอร์เรน บัฟเฟตต์
ศ. 7 ธ.ค. 50 เวลา 13.30 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 26, 2007
คุณรู้หรือไม่ว่า......
ความร่ำรวยระดับอภิมหาเศรษฐีของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มาจากการ ลงทุนในตลาดหุ้นมาเรียนรู้วิธีการลงทุนสไตล์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ทั้งตลาด ขาขึ้น ขาลง หรือตลาด ทรง ๆ ทรุด ๆ
ในสัมมนาส่งท้ายปีของนิตยสาร M&W "ลงทุนหุ้นไทยสไตล์ วอร์เรน บัฟเฟตต์" พบกับ
- "วรวรรณ ธาราภูมิ" กรรมการผู้จัดการ บลจ. บัวหลวง ผู้บริหารพอร์ตมือทอง
ร่วมด้วยนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นเดินหน้าตามแนวทางวอร์เรน บัฟเฟตต์
- "ตุล ไวฑูรเกียรติ" นักร้องนำวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า และ
- ดีเจโด๋ว "มรกต โกมลบุตร" แห่งคลื่น 104.5 MHz FAT Radio
ดำเนินรายการโดย
ปฏิพร สิทธิพงศ์ พิธีกรสถานีโทรทัศน์เพื่อเศรษฐกิจและการลงทุน Money Channel
ศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2550 เวลา 13.30 - 16.30 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำรองที่นั่งโทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222 หรือ ลงทะเบียนที่นี่ ฟรี !!!!!
http://www.moneychannel.co.th/Menu3/ByF ... fault.aspx
ตุล แห่ง วงอพาร์ตเมนต์คุณป้า สูตรลงทุนคนดนตรี เสรีแต่มีวินัย
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 12, 2007
ก่อนหน้านั้นวงดนตรี อพาร์ตเม้นคุณป้า อาจจะโด่งดังในกลุ่มแฟนเพลงที่มีแนวคิดความเป็นอิสระค่อนข้างสูง แต่ภาพความเป็นคนดนตรีตัวจริงเสียงจริงที่ชัดเจน หลายงานเพลงได้รับการยอมรับและกวาดรางวัลไปหลายเวที รวมถึงมีเพลงฮิตติดหู ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ เพลงประกอบภาพยนตร์สายลับจับบ้านเล็ก
งานเพลงของวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า ไม่ได้พูดถึงเรื่องรักๆใคร่ๆเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองอย่างถึงพริกถึงขิง โดยเนื้อร้องทั้งหมดเป็นผลงานของ ตุล ไวฑูรเกียรติ นักร้องนำและกวีฝีมือเยี่ยม พกด้วย ดีกรีปริญญาตรี Business Management and Audio Recording Technology นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ความหลากหลายของงานเพลงสะท้อนความสนใจในหลายๆ ด้านของเขา รวมถึงมุมของนักลงทุนที่เขายืนอยู่ ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่าทำด้วยความชอบและมีความสุขไม่แพ้งานดนตรี เชี่ยวชาญขนาดไหนไม่รู้ แต่ก็ถึงขั้นกลั่นออกมาเป็นเพลงได้ในทุกอัลบั้ม ซึ่งหากลองทำตาม เชื่อว่าคุณก็ย่อมพึงพอใจในผลลัพธ์
รู้จักการลงทุนมานานแล้ว แต่เพิ่งจริงจังช่วงปี 2546 ตอนนั้นเป็นตลาดกระทิงที่ร้อนแรงและเร้าใจ ได้มาเยอะทั้งผลตอบแทนและบทเรียน ตุล บอกเล่าถึงที่มาที่ไป
เขาเล่าว่าก่อนหน้านี้ตั้งใจไปตะลุยอเมริกา แต่ขอวีซ่าไม่ผ่าน ซึ่งเป็นจังหวะที่ได้อ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูกรวยของ Robert T. Kiyosaki และ Sharon L. Lechter จึงตัดสินใจผันเงินก้อนที่ว่าจะเก็บไปอเมริกานำไปลงทุนครั้งแรกในชีวิต
หุ้นไม่ได้ทำกำไรตลอดเวลา
SSI (บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี) เป็นหุ้นตัวแรกที่เปิดโลกการลงทุนให้กับตุล เป็นหุ้นที่ตุลทั้งรัก ทั้งเกลียด เพราะให้บทเรียนอะไรหลายๆ อย่างในเชิงบวกและลบ เล่น SSI สนุกมาก สอนทุกอย่างในชีวิตนักลงทุน ซื้อตั้งแต่ 6 บาท และราคาไต่ระดับไปสูงถึง 42 บาท ตอนนั้นมั่นใจมาก แต่แล้วราคาร่วงลง จนแตกพาร์ราคาเหลือไม่ถึงบาท ตุล เล่า
ทุกวันนี้ตุลยังถือ SSI ไว้ เขามองว่าแม้จะไม่ประสบความสำเร็จกับหุ้นตัวนี้แต่ถือเป็นหุ้นแบบเรียนที่ทำให้เห็นความไม่จีรัง และมองอารมณ์ตัวเองออก ผ่านจุดมั่นใจที่สุด กลัวที่สุด วันที่หุ้นตกหนักๆ ทำอะไรไม่ถูกเลย
บางคืนเครียดจนนอนไม่หลับ คิดว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งการลงทุนทำให้เห็นตัวเองว่าเป็นคนที่โลภมากขนาดไหน ขี้ขลาด ตื่นตระหนก และหูเบาแค่ไหน
ในที่สุด ตุลเริ่มปรับแนวคิดการลงทุนด้วยการเปลี่ยนความคิด เขาหยุดพูดถึงมูลค่าและราคา แล้วหันมามองที่คุณค่าแทน โดยเขาได้แนวคิดมาจากการที่ได้อ่านหนังสือการลงทุนสไตล์วอร์เรน บัฟเฟตต์
เขาบอกว่าอ่านแล้วประทับใจเพราะสิ่งที่บัฟเฟตต์คิดทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการลงทุนเน้นคุณค่า แม้ว่าเขาเป็นเศรษฐีแต่การใช้ชีวิตสมถะ เรียบง่าย เช่นเดียวกับแนวคิดการลงทุนที่เขาจะซื้อหุ้นที่เข้าใจได้ ไม่ตามกระแสโลก กิจการไหนที่มองไม่เห็น อธิบายไม่ได้ ต่อให้ดูดีเขาจะไม่สนใจ
หุ้นที่เขาภูมิใจนำเสนอ คือ SE-ED (บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น) เขาซื้อเพราะรักการอ่าน และเขา ถือมา 4 ปีแล้ว ได้รับเงินปันผลต่อเนื่องทุกปี แม้มูลค่าไม่ได้เพิ่มมากแต่เขารู้สึกประทับใจกับหุ้นตัวนี้มาก
ปัจจุบันนอกจากตุลจะมี SSI และ SE-ED แล้วเขายังมี RRC (บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง), ATC (บมจ.อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย), QH (บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์), SPALI (บมจ.ศุภาลัย) ซึ่งทุกตัวเขาซื้อระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล
ลงทุนเท่าที่ทำได้ ไม่ฝืนตัวเอง โดยจะแบ่งเงิน 30% จากรายได้ไว้ลงทุน มองว่าการลงทุนจุดๆ หนึ่งเหมือนนักบวช คือ ต้องมีวินัย
กระจายการลงทุนนสินทรัพย์อื่นๆด้วย
ไม่ใช่แค่ซื้อหุ้นเท่านั้น ตุลยังแบ่งเงินไปลงทุนใน LTF โดยซื้อทุกๆ 3 เดือน และยังเก็บออมไว้ในรูปแบบประกันชีวิต และล่าสุดเขาซื้อคอนโดใน RCA ไว้ให้เช่า อาชีพนักดนตรีไม่มีอะไรการันตีว่าแก่ตัวไปแล้วจะดีขึ้น จึงมองว่าการลงทุนว่าเป็นทางออกในการใช้ชีวิตบั้นปลาย ทุกวันนี้เงินสดมีน้อยมาก เพราะเก็บออมไว้ในลักษณะการลงทุน
... เข้าออฟฟิศดู New York Times เพื่อตามความเคลื่อนไหว Nikkei Nasdaq Dow jones ฮั่งเส็ง ทำคุณบรรลัย อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอาจจะทำให้เกิดความดัน แต่เมื่อดอลล่าร์อ่อนตัวมันอาจจะทำให้เกิดความฝัน หาช่องทางในการลงทุนกับเงินลอยตัวในบางสกุล หากตลาดมีสภาพคล่อง ก็ควรจะลองช้อนหุ้นที่มีอนาคตตามการคาดคะเนทางเศรษฐศาสตร์ ...
เป็นบางตอนในเพลง Let it go ที่ตุลพยายามสะท้อนออกมาให้เห็นว่านักลงทุนมักจะแสวงหาข้อมูลจนบางครั้งข้อมูลท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด ตรงกันข้ามเขาไม่พยายามอัพเดท อ่านข่าวเยอะๆ จะเป็นบ้า ฟุ้งซ่าน แต่ลงทุนต่อเนื่องไปทั้งชีวิตเลยดีกว่า
เขามองว่าเงินที่นำไปลงทุนถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆ จะไม่ถอนออกมาเลย ตรงกันข้ามถ้าได้เงินปันผลจะนำไปซื้อหุ้นเพิ่มมากขึ้น เป็นการต่อยอดไปเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าหุ้นนั้นได้มาฟรีๆ
ลงทุนด้วยความระมัดระวัง
ต่อข้อถามที่ว่าถ้ามองไกลถึงปั้นปลายชีวิต ตุลไม่สามารถตอบได้ แต่สำหรับการลงทุนเขาบอกว่าไม่ได้วัดกันแค่ 5 ปี 10 ปี ต้องดูกันไปยาวๆ อาจจะดูทั้งชีวิต เพียงแต่เท่าที่ทำมาทุกวันนี้เชื่อว่าแก่ตัวไปแล้ว หรือเลิกเล่นดนตรี หรือต้องการเกษียณก่อนเวลา ดอกผลของการลงทุนน่าจะทำให้อยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน
เชื่อว่าผลจากการลงทุนในวันนี้ทำให้ผมได้ทำในสิ่งที่รัก คือ การเล่นดนตรี การทำเพลงโดยไม่ต้องกังวลว่าจะขายได้หรือไม่ อิสระภาพทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ช่วยให้มีเวลาไปทำสิ่งที่รักได้มากขึ้น
เขาฝากบอกไปถึงคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเขาเห็นว่ายังรู้จักการลงทุนน้อยเกินไป จึงต้องการให้คนรุ่นใหม่เริ่มคิดและวางแผนเข้ามาลงทุนเพราะดีกว่าการฝากเงิน อาจเคยชินกับการสอนให้ออม มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท แต่ไม่ได้บอกต่อว่ามีบาทแล้วนำไปลงทุนให้งอกเงยต่อได้อย่างไรบ้าง เน้นให้เก็บอย่างเดียวเพื่อความมั่นคง ตุล เล่า
ทว่า ตุลไม่ได้มองการฝากเงินสดในแบงก์เป็นเรื่องเลวร้าย เพียงแค่มีคำถามว่ายอมรับหรือไม่ว่าดอกเบี้ยต่ำติดดิน ขณะที่ยังมีช่องทางอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทำไมไม่ลองค้นหาและเริ่มวางแผนทางการเงิน
หลายคนเข้าใจว่าหุ้นเป็นการพนันหรือเป็นตลาดสำหรับคนรวยเท่านั้น ผมขอค้านหัวชนฝา เพราะผมเองไม่ได้รวย เป็นนักดนตรีมีงานบ้างไม่มีบ้างแต่ต้องมีระเบียบกับการออม การลงทุน จึงอยากให้คนไทยหันมาลงทุนมากขึ้น อาจจะเริ่มต้นกับซื้อกองทุนรวมก็ได้แล้วค่อยไปตลาดหุ้น
...เครียดกับผลผลิต เพื่อพิชิตกำไร จนเกือบไร้สมรรถภาพทาง SEX มันต้องแลกเปลี่ยนไปกับทุกๆ สิ่งที่ได้มา มีเงินทองมากมายแต่สิ่งที่หายไปคือเวลา...ทำงานโอทีมา 40 ปี จนเก็บเงินได้เป็นสิบๆ ล้าน พอเกษียนออกมาเราก็ผลาญมันไปกับค่ารักษาพยาบาล...
บางตอนในเพลงทรัพย์สินออกไป โดยตุลกำลังจะบอกว่าถ้าวางแผนทางการเงินให้ดีจะทำให้มีเวลาไปทำในสิ่งที่ตนเองรักได้มากขึ้น เขามองว่าสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต คือ เวลา ไม่ใช่เงินทอง
ผมเชื่อว่าการลงทุนจะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้มีเวลาทำสิ่งที่อยากทำได้มากขึ้น ถ้าเราไม่รู้จักการลงทุนเลย การที่จะหาเงินได้มาจะต้องเกิดจากการทำงานตลอดเวลา เป็นทางออกที่ดีที่สุดจริงหรือ มีบางคนบอกว่าทำงานเพื่อเก็บเงินมาทำในสิ่งที่ชอบ แต่พอแก่ตัวมากลับต้องนำเงินที่เก็บไว้ไปรักษาสุขภาพ ผมว่าไม่ยุติธรรม
ด้วยเหตุนี้ทำให้ตุลวางแผนทางการเงินให้กับตัวเองอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สาเหตุหลักๆ มาจากความเป็นอาชีพนักดนตรีที่รายได้ไม่มีความแน่นอน ตรงกันข้ามอาชีพนี้มีแต่จะร่วงโรยลง และเมื่อถึงตรงนั้นความเสี่ยงจะเกิดขึ้นและสายเกินไปที่จะแก้
ผมจึงลงทุนเพื่อประกันความเสี่ยง ตุล กล่าวทิ้งท้าย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Tra ... fault.aspx
ไม่รู้ว่าคุณตุล เข้าเวป tvi หรือเปล่า :lol:
ศ. 7 ธ.ค. 50 เวลา 13.30 น.
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 26, 2007
คุณรู้หรือไม่ว่า......
ความร่ำรวยระดับอภิมหาเศรษฐีของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ มาจากการ ลงทุนในตลาดหุ้นมาเรียนรู้วิธีการลงทุนสไตล์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ทั้งตลาด ขาขึ้น ขาลง หรือตลาด ทรง ๆ ทรุด ๆ
ในสัมมนาส่งท้ายปีของนิตยสาร M&W "ลงทุนหุ้นไทยสไตล์ วอร์เรน บัฟเฟตต์" พบกับ
- "วรวรรณ ธาราภูมิ" กรรมการผู้จัดการ บลจ. บัวหลวง ผู้บริหารพอร์ตมือทอง
ร่วมด้วยนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นเดินหน้าตามแนวทางวอร์เรน บัฟเฟตต์
- "ตุล ไวฑูรเกียรติ" นักร้องนำวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า และ
- ดีเจโด๋ว "มรกต โกมลบุตร" แห่งคลื่น 104.5 MHz FAT Radio
ดำเนินรายการโดย
ปฏิพร สิทธิพงศ์ พิธีกรสถานีโทรทัศน์เพื่อเศรษฐกิจและการลงทุน Money Channel
ศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2550 เวลา 13.30 - 16.30 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำรองที่นั่งโทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222 หรือ ลงทะเบียนที่นี่ ฟรี !!!!!
http://www.moneychannel.co.th/Menu3/ByF ... fault.aspx
ตุล แห่ง วงอพาร์ตเมนต์คุณป้า สูตรลงทุนคนดนตรี เสรีแต่มีวินัย
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Monday, November 12, 2007
ก่อนหน้านั้นวงดนตรี อพาร์ตเม้นคุณป้า อาจจะโด่งดังในกลุ่มแฟนเพลงที่มีแนวคิดความเป็นอิสระค่อนข้างสูง แต่ภาพความเป็นคนดนตรีตัวจริงเสียงจริงที่ชัดเจน หลายงานเพลงได้รับการยอมรับและกวาดรางวัลไปหลายเวที รวมถึงมีเพลงฮิตติดหู ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ เพลงประกอบภาพยนตร์สายลับจับบ้านเล็ก
งานเพลงของวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า ไม่ได้พูดถึงเรื่องรักๆใคร่ๆเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองอย่างถึงพริกถึงขิง โดยเนื้อร้องทั้งหมดเป็นผลงานของ ตุล ไวฑูรเกียรติ นักร้องนำและกวีฝีมือเยี่ยม พกด้วย ดีกรีปริญญาตรี Business Management and Audio Recording Technology นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ความหลากหลายของงานเพลงสะท้อนความสนใจในหลายๆ ด้านของเขา รวมถึงมุมของนักลงทุนที่เขายืนอยู่ ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่าทำด้วยความชอบและมีความสุขไม่แพ้งานดนตรี เชี่ยวชาญขนาดไหนไม่รู้ แต่ก็ถึงขั้นกลั่นออกมาเป็นเพลงได้ในทุกอัลบั้ม ซึ่งหากลองทำตาม เชื่อว่าคุณก็ย่อมพึงพอใจในผลลัพธ์
รู้จักการลงทุนมานานแล้ว แต่เพิ่งจริงจังช่วงปี 2546 ตอนนั้นเป็นตลาดกระทิงที่ร้อนแรงและเร้าใจ ได้มาเยอะทั้งผลตอบแทนและบทเรียน ตุล บอกเล่าถึงที่มาที่ไป
เขาเล่าว่าก่อนหน้านี้ตั้งใจไปตะลุยอเมริกา แต่ขอวีซ่าไม่ผ่าน ซึ่งเป็นจังหวะที่ได้อ่านหนังสือพ่อรวยสอนลูกรวยของ Robert T. Kiyosaki และ Sharon L. Lechter จึงตัดสินใจผันเงินก้อนที่ว่าจะเก็บไปอเมริกานำไปลงทุนครั้งแรกในชีวิต
หุ้นไม่ได้ทำกำไรตลอดเวลา
SSI (บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี) เป็นหุ้นตัวแรกที่เปิดโลกการลงทุนให้กับตุล เป็นหุ้นที่ตุลทั้งรัก ทั้งเกลียด เพราะให้บทเรียนอะไรหลายๆ อย่างในเชิงบวกและลบ เล่น SSI สนุกมาก สอนทุกอย่างในชีวิตนักลงทุน ซื้อตั้งแต่ 6 บาท และราคาไต่ระดับไปสูงถึง 42 บาท ตอนนั้นมั่นใจมาก แต่แล้วราคาร่วงลง จนแตกพาร์ราคาเหลือไม่ถึงบาท ตุล เล่า
ทุกวันนี้ตุลยังถือ SSI ไว้ เขามองว่าแม้จะไม่ประสบความสำเร็จกับหุ้นตัวนี้แต่ถือเป็นหุ้นแบบเรียนที่ทำให้เห็นความไม่จีรัง และมองอารมณ์ตัวเองออก ผ่านจุดมั่นใจที่สุด กลัวที่สุด วันที่หุ้นตกหนักๆ ทำอะไรไม่ถูกเลย
บางคืนเครียดจนนอนไม่หลับ คิดว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งการลงทุนทำให้เห็นตัวเองว่าเป็นคนที่โลภมากขนาดไหน ขี้ขลาด ตื่นตระหนก และหูเบาแค่ไหน
ในที่สุด ตุลเริ่มปรับแนวคิดการลงทุนด้วยการเปลี่ยนความคิด เขาหยุดพูดถึงมูลค่าและราคา แล้วหันมามองที่คุณค่าแทน โดยเขาได้แนวคิดมาจากการที่ได้อ่านหนังสือการลงทุนสไตล์วอร์เรน บัฟเฟตต์
เขาบอกว่าอ่านแล้วประทับใจเพราะสิ่งที่บัฟเฟตต์คิดทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการลงทุนเน้นคุณค่า แม้ว่าเขาเป็นเศรษฐีแต่การใช้ชีวิตสมถะ เรียบง่าย เช่นเดียวกับแนวคิดการลงทุนที่เขาจะซื้อหุ้นที่เข้าใจได้ ไม่ตามกระแสโลก กิจการไหนที่มองไม่เห็น อธิบายไม่ได้ ต่อให้ดูดีเขาจะไม่สนใจ
หุ้นที่เขาภูมิใจนำเสนอ คือ SE-ED (บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น) เขาซื้อเพราะรักการอ่าน และเขา ถือมา 4 ปีแล้ว ได้รับเงินปันผลต่อเนื่องทุกปี แม้มูลค่าไม่ได้เพิ่มมากแต่เขารู้สึกประทับใจกับหุ้นตัวนี้มาก
ปัจจุบันนอกจากตุลจะมี SSI และ SE-ED แล้วเขายังมี RRC (บมจ.โรงกลั่นน้ำมันระยอง), ATC (บมจ.อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย), QH (บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์), SPALI (บมจ.ศุภาลัย) ซึ่งทุกตัวเขาซื้อระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล
ลงทุนเท่าที่ทำได้ ไม่ฝืนตัวเอง โดยจะแบ่งเงิน 30% จากรายได้ไว้ลงทุน มองว่าการลงทุนจุดๆ หนึ่งเหมือนนักบวช คือ ต้องมีวินัย
กระจายการลงทุนนสินทรัพย์อื่นๆด้วย
ไม่ใช่แค่ซื้อหุ้นเท่านั้น ตุลยังแบ่งเงินไปลงทุนใน LTF โดยซื้อทุกๆ 3 เดือน และยังเก็บออมไว้ในรูปแบบประกันชีวิต และล่าสุดเขาซื้อคอนโดใน RCA ไว้ให้เช่า อาชีพนักดนตรีไม่มีอะไรการันตีว่าแก่ตัวไปแล้วจะดีขึ้น จึงมองว่าการลงทุนว่าเป็นทางออกในการใช้ชีวิตบั้นปลาย ทุกวันนี้เงินสดมีน้อยมาก เพราะเก็บออมไว้ในลักษณะการลงทุน
... เข้าออฟฟิศดู New York Times เพื่อตามความเคลื่อนไหว Nikkei Nasdaq Dow jones ฮั่งเส็ง ทำคุณบรรลัย อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอาจจะทำให้เกิดความดัน แต่เมื่อดอลล่าร์อ่อนตัวมันอาจจะทำให้เกิดความฝัน หาช่องทางในการลงทุนกับเงินลอยตัวในบางสกุล หากตลาดมีสภาพคล่อง ก็ควรจะลองช้อนหุ้นที่มีอนาคตตามการคาดคะเนทางเศรษฐศาสตร์ ...
เป็นบางตอนในเพลง Let it go ที่ตุลพยายามสะท้อนออกมาให้เห็นว่านักลงทุนมักจะแสวงหาข้อมูลจนบางครั้งข้อมูลท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด ตรงกันข้ามเขาไม่พยายามอัพเดท อ่านข่าวเยอะๆ จะเป็นบ้า ฟุ้งซ่าน แต่ลงทุนต่อเนื่องไปทั้งชีวิตเลยดีกว่า
เขามองว่าเงินที่นำไปลงทุนถ้าไม่ฉุกเฉินจริงๆ จะไม่ถอนออกมาเลย ตรงกันข้ามถ้าได้เงินปันผลจะนำไปซื้อหุ้นเพิ่มมากขึ้น เป็นการต่อยอดไปเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าหุ้นนั้นได้มาฟรีๆ
ลงทุนด้วยความระมัดระวัง
ต่อข้อถามที่ว่าถ้ามองไกลถึงปั้นปลายชีวิต ตุลไม่สามารถตอบได้ แต่สำหรับการลงทุนเขาบอกว่าไม่ได้วัดกันแค่ 5 ปี 10 ปี ต้องดูกันไปยาวๆ อาจจะดูทั้งชีวิต เพียงแต่เท่าที่ทำมาทุกวันนี้เชื่อว่าแก่ตัวไปแล้ว หรือเลิกเล่นดนตรี หรือต้องการเกษียณก่อนเวลา ดอกผลของการลงทุนน่าจะทำให้อยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน
เชื่อว่าผลจากการลงทุนในวันนี้ทำให้ผมได้ทำในสิ่งที่รัก คือ การเล่นดนตรี การทำเพลงโดยไม่ต้องกังวลว่าจะขายได้หรือไม่ อิสระภาพทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญ ช่วยให้มีเวลาไปทำสิ่งที่รักได้มากขึ้น
เขาฝากบอกไปถึงคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเขาเห็นว่ายังรู้จักการลงทุนน้อยเกินไป จึงต้องการให้คนรุ่นใหม่เริ่มคิดและวางแผนเข้ามาลงทุนเพราะดีกว่าการฝากเงิน อาจเคยชินกับการสอนให้ออม มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท แต่ไม่ได้บอกต่อว่ามีบาทแล้วนำไปลงทุนให้งอกเงยต่อได้อย่างไรบ้าง เน้นให้เก็บอย่างเดียวเพื่อความมั่นคง ตุล เล่า
ทว่า ตุลไม่ได้มองการฝากเงินสดในแบงก์เป็นเรื่องเลวร้าย เพียงแค่มีคำถามว่ายอมรับหรือไม่ว่าดอกเบี้ยต่ำติดดิน ขณะที่ยังมีช่องทางอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทำไมไม่ลองค้นหาและเริ่มวางแผนทางการเงิน
หลายคนเข้าใจว่าหุ้นเป็นการพนันหรือเป็นตลาดสำหรับคนรวยเท่านั้น ผมขอค้านหัวชนฝา เพราะผมเองไม่ได้รวย เป็นนักดนตรีมีงานบ้างไม่มีบ้างแต่ต้องมีระเบียบกับการออม การลงทุน จึงอยากให้คนไทยหันมาลงทุนมากขึ้น อาจจะเริ่มต้นกับซื้อกองทุนรวมก็ได้แล้วค่อยไปตลาดหุ้น
...เครียดกับผลผลิต เพื่อพิชิตกำไร จนเกือบไร้สมรรถภาพทาง SEX มันต้องแลกเปลี่ยนไปกับทุกๆ สิ่งที่ได้มา มีเงินทองมากมายแต่สิ่งที่หายไปคือเวลา...ทำงานโอทีมา 40 ปี จนเก็บเงินได้เป็นสิบๆ ล้าน พอเกษียนออกมาเราก็ผลาญมันไปกับค่ารักษาพยาบาล...
บางตอนในเพลงทรัพย์สินออกไป โดยตุลกำลังจะบอกว่าถ้าวางแผนทางการเงินให้ดีจะทำให้มีเวลาไปทำในสิ่งที่ตนเองรักได้มากขึ้น เขามองว่าสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต คือ เวลา ไม่ใช่เงินทอง
ผมเชื่อว่าการลงทุนจะเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยให้มีเวลาทำสิ่งที่อยากทำได้มากขึ้น ถ้าเราไม่รู้จักการลงทุนเลย การที่จะหาเงินได้มาจะต้องเกิดจากการทำงานตลอดเวลา เป็นทางออกที่ดีที่สุดจริงหรือ มีบางคนบอกว่าทำงานเพื่อเก็บเงินมาทำในสิ่งที่ชอบ แต่พอแก่ตัวมากลับต้องนำเงินที่เก็บไว้ไปรักษาสุขภาพ ผมว่าไม่ยุติธรรม
ด้วยเหตุนี้ทำให้ตุลวางแผนทางการเงินให้กับตัวเองอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สาเหตุหลักๆ มาจากความเป็นอาชีพนักดนตรีที่รายได้ไม่มีความแน่นอน ตรงกันข้ามอาชีพนี้มีแต่จะร่วงโรยลง และเมื่อถึงตรงนั้นความเสี่ยงจะเกิดขึ้นและสายเกินไปที่จะแก้
ผมจึงลงทุนเพื่อประกันความเสี่ยง ตุล กล่าวทิ้งท้าย
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Tra ... fault.aspx
ไม่รู้ว่าคุณตุล เข้าเวป tvi หรือเปล่า :lol: