มี 2 ปัจจัยเท่านั้นที่ผลักดันราคาหุ้น?
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 13, 2004 11:50 am
บางครั้งผมก็แปลกใจที่เห็นหุ้นเกร็งกำไรบางตัว
ซื้อขายกันที่พีอี 30>>50>>100 เท่า
ในขณะที่หุ้น VI บางตัวเทรดที่พีอี 5>>7>>10
ราคากลับไม่ไปไหน
คิดๆดูแล้วดูเหมือนจะมี 2 ปัจจัยเท่านั้นที่กำหนดราคาหุ้น
1.ผลประกอบการ อันนี้ของแท้แน่นอน หุ้นทุกตัวในระยะยาวจะขึ้นลงตามผลประกอบการแน่แท้
2.แรงกรรมความโลภความกลัว (อันนี้ยืมมาจากเฮียคลายเครียด) อันนี้เป็นจับต้องไม่ได้ เป็นอารมณ์ของตลาด มีสองตัวคือโลภเมื่อหุ้นขึ้น กลัวเมื่อหุ้นลง
แต่เป็นโชคไม่ดีที่หุ้น VI มักมีแรงเดียวเท่านั้นที่ผลักดันราคาหุ้นคือผลประกอบการ ส่วนหุ้นเกร็งกำไรมีทั้ง 2 แรง แต่คงเป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน เพราะแรงทั้งสองแรง อาจจะผลักให้ขึ้นหรือลงก็ได้
สรุปได้ว่า
1.นักลงทุน VI ที่น่าจะประสบความสำเร็จต้องเข้าใจปัจจัยพื้นฐานที่จะส่งผลต่อผลประกอบการอย่างถ่องแท้ และจะดีมาก หากเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะโดนเกร็งกำไร
2.นักลงทุน VI ต้องทำเข้าใจ หากราคาหุ้นที่ซื้อไว้ ไม่ขยับไปไหน หากลงก็อาจจะซื้อเพิ่ม ไม่ cut loss เพราะนั่นเป็นวิธีของนักเกร็งกำไร อย่าเล่นผิดเกมส์
และต้องมีความอดทน เพราะอ้อมไปอ้อมมา ก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน แม้อาจจะเสียเวลาไปบ้าง แต่พวกที่ชอบทางลัด(นักเกร็งกำไร) หากไม่เก่งจริงๆ น้อยคนครับ ที่จะไปถึงจุดหมาย
เขียนแล้วคนเขียนก็งงๆนะครับ :lol: :lol:
ไม่ได้เข้ามาหลายวัน เพราะเครื่องคอมส์เสีย
เพิ่งเข้ามาได้ครับ
ซื้อขายกันที่พีอี 30>>50>>100 เท่าในขณะที่หุ้น VI บางตัวเทรดที่พีอี 5>>7>>10
ราคากลับไม่ไปไหน
คิดๆดูแล้วดูเหมือนจะมี 2 ปัจจัยเท่านั้นที่กำหนดราคาหุ้น
1.ผลประกอบการ อันนี้ของแท้แน่นอน หุ้นทุกตัวในระยะยาวจะขึ้นลงตามผลประกอบการแน่แท้
2.แรงกรรมความโลภความกลัว (อันนี้ยืมมาจากเฮียคลายเครียด) อันนี้เป็นจับต้องไม่ได้ เป็นอารมณ์ของตลาด มีสองตัวคือโลภเมื่อหุ้นขึ้น กลัวเมื่อหุ้นลง
แต่เป็นโชคไม่ดีที่หุ้น VI มักมีแรงเดียวเท่านั้นที่ผลักดันราคาหุ้นคือผลประกอบการ ส่วนหุ้นเกร็งกำไรมีทั้ง 2 แรง แต่คงเป็นสิ่งที่ไม่ดีเช่นกัน เพราะแรงทั้งสองแรง อาจจะผลักให้ขึ้นหรือลงก็ได้
สรุปได้ว่า
1.นักลงทุน VI ที่น่าจะประสบความสำเร็จต้องเข้าใจปัจจัยพื้นฐานที่จะส่งผลต่อผลประกอบการอย่างถ่องแท้ และจะดีมาก หากเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะโดนเกร็งกำไร
2.นักลงทุน VI ต้องทำเข้าใจ หากราคาหุ้นที่ซื้อไว้ ไม่ขยับไปไหน หากลงก็อาจจะซื้อเพิ่ม ไม่ cut loss เพราะนั่นเป็นวิธีของนักเกร็งกำไร อย่าเล่นผิดเกมส์
และต้องมีความอดทน เพราะอ้อมไปอ้อมมา ก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน แม้อาจจะเสียเวลาไปบ้าง แต่พวกที่ชอบทางลัด(นักเกร็งกำไร) หากไม่เก่งจริงๆ น้อยคนครับ ที่จะไปถึงจุดหมาย
เขียนแล้วคนเขียนก็งงๆนะครับ :lol: :lol:
ไม่ได้เข้ามาหลายวัน เพราะเครื่องคอมส์เสีย
เพิ่งเข้ามาได้ครับ
