หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ah & ynp
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:13 pm
โดย 4704074
อยากขอข้อมูลกับ สองตัวนี้หน่อยครับ เกิดเหตุอะไรราคาถึงได้ไหลลงมาเยอะจังครับ
แล้วราคาตรงนี้น่าซื้อหรือเปล่า
ah & ynp
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:24 pm
โดย Khunchat
2 บริษัทนี้เป็นลูกค้าผมครับ ผมยังไม่ได้ดูเรื่องตัวเลขทางการเงินนะ ดูแต่แนวทางการบริหารของทั้ง 2 บริษัทแนวบริหารจัดการนะครับ ผมว่าผู้บริหารAH เก่งกว่าครับ และการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ ก็ใกล้เคียงกัน
ให้ผมเลือก ผมเลือกทำงานกับบริษัท AH ครับ
ah & ynp
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 27, 2007 9:46 pm
โดย tum_H
2 ตัวนี้มีเหมือนกันคือ
กำไรไหลลงเรื่อยๆ ลดลงทุกไตรมาสมาเกือบ 2 ปีแล้ว
โดยเฉาะ YNP ไตรมาสล่าสุดพลิกกลับมาขาดทุน เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น
ขณะที่ AH ก็มีภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น จากการซื้อกิจการ ที่สำคัญต้นทุน
ที่สูงขึ้นก็ไม่สามารถปรับราคาขายกับลูกค้าได้
ธุระกิจยานยนต์ที่อยู่ได้ต้องผลิตชิ้นส่วนที่มี margin สูงๆและต้นทุนที่ต่ำจึง
จะสามารถแข่งขันได้ ตัวหนึ่งที่แข็งแกร่งผมว่า SAT ลองศึกษาหาข้อมูลได้
ส่วนตัวผมไม่มีทั้ง 3 ตัวนี้ แต่บริษัทผมเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ที่ทั้ง 3 บริษัทส่งชิ้น
ส่วนขายให้ประจำ
ah & ynp
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 28, 2007 7:46 am
โดย terati20
tum_H เขียน:2 ตัวนี้มีเหมือนกันคือ
กำไรไหลลงเรื่อยๆ ลดลงทุกไตรมาสมาเกือบ 2 ปีแล้ว
โดยเฉาะ YNP ไตรมาสล่าสุดพลิกกลับมาขาดทุน เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น
ขณะที่ AH ก็มีภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น จากการซื้อกิจการ ที่สำคัญต้นทุน
ที่สูงขึ้นก็ไม่สามารถปรับราคาขายกับลูกค้าได้
ธุระกิจยานยนต์ที่อยู่ได้ต้องผลิตชิ้นส่วนที่มี margin สูงๆและต้นทุนที่ต่ำจึง
จะสามารถแข่งขันได้ ตัวหนึ่งที่แข็งแกร่งผมว่า SAT ลองศึกษาหาข้อมูลได้
ส่วนตัวผมไม่มีทั้ง 3 ตัวนี้ แต่บริษัทผมเป็นผู้ผลิตรถยนต์ ที่ทั้ง 3 บริษัทส่งชิ้น
ส่วนขายให้ประจำ
ผู้ผลิตรถ มีวิธีเลือก supplier อย่างไงคับ
ดู ราคา คุณภาพ ต้อง มีการ Bid เเข่งกันไหม?
คุณภาพของเเต่ละ supplier ต่างกันมากไหม ?
ah & ynp
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 28, 2007 11:29 pm
โดย tum_H
terati20 เขียน:
ผู้ผลิตรถ มีวิธีเลือก supplier อย่างไงคับ
ดู ราคา คุณภาพ ต้อง มีการ Bid เเข่งกันไหม?
คุณภาพของเเต่ละ supplier ต่างกันมากไหม ?
แน่นอนครับ การเสนอราคาทุกครั้งอย่างน้อยต้องมีผู้แข่งขัน 3 รายเพื่อเปรียบเทียบราคาและความเหมาะสม
สิ่งสำคัญสิ่งแรกในการพิจารณาคือ Q หากสินค้าไม่ได้คุณภาพต่อให้ราคา
ถูกขนาดไหนก็จะไม่ได้รับการพิจารณา เมื่อเปรียบเทียบ maker ไทยกับญี่ปุ่น
ในส่วนของไทยเรา ยังขาดเทคโนโลยีด้านการออกแบบ ทำให้แข่งขันได้ยาก
อีกทั้งผู้ผลิตหลายๆราย ยังให้ความสำคัญกับมาตรฐานในด้านคุณภาพน้อย
กว่าที่เป็น ทำให้แข่งขันได้ยาก
เคยผลักดัน maker ไทยหลายราย แต่พอได้รับงานไปกับทำผลงานไม่ค่อย
ดีเท่าที่ควร(น้อยรายมากที่ QCD ได้ตามเกณฐ์) หากเรายังไม่ปรับปรุงและพัฒนาให้มากกว่านี้ คงเป็นได้แค่การรับจ้างผลิตต่อไป
