หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ไดเมท (สยาม) เข้าเทรด mai ภายใน ธ.ค. นี้

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 23, 2007 5:58 pm
โดย vichit
ไดเมท (สยาม) เดินสายโรดโชว์ทั่วไทย 26 พ.ย. - 7 ธ.ค. นี้ ขายไอพีโอ 40 ล้านหุ้น คาด
เข้าเทรด mai ภายใน ธ.ค. นี้

บมจ.ไดเมท (สยาม) พร้อมเดินสายโรดโชว์ทั่วไทย 26 พ.ย.-7 ธ.ค.นี้ เพื่อให้นักลงทุน
ได้รับข้อมูลอย่างละเอียดและทั่วถึง เตรียมเปิดขายไอพีโอ 40 ล้านหุ้น หาทุนไปปรับปรุงและก่อ
สร้างอาคารคลังสินค้า เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงระบบการผลิต คลังสินค้า เพื่อ
เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมสินค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ด้าน APM  
ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินหวังเรื่องการระดมทุนและเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai  
ทันภายในปีนี้ตามแผน
นายสุรพล  รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ  เปิดเผยว่าบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการ
ข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2550  โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชน
ครั้งแรก(IPO)จำนวน 40 ล้านหุ้น  มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งจะทำให้ทุนชำระแล้วของ
บริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 90  ล้านบาท  จากปัจจุบันที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 70 ล้านบาท (การเสนอ
ขายหุ้นสามัญของบริษัท ไม่ได้มีการจัดสรรหุ้นให้แก่ประชาชนในวงกว้างเนื่องจากจำนวนหุ้นที่
เสนอขายมีจำนวนจำกัด)  คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.22 ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมด
ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้
วัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อลงทุนปรับปรุงและก่อสร้าง
อาคารคลังสินค้า ในโรงงานที่ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ เพื่อรองรับการ
ขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงระบบการผลิต คลังสินค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรม
สินค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
สำหรับโครงการในอนาคต บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) มีแผนที่จะลงทุน
เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต โดยการปรับปรุงสถานที่จัดเก็บวัตถุดิบและสินค้า
สำเร็จรูปของบริษัท และปรับปรุงระบบและกระบวนการผลิตพร้อมทั้งเพิ่มจำนวนพนักงานและ
เวลาของการทำงานล่วงเวลา (Overtime) ของเวลาการทำงานปกติให้มากขึ้น ซึ่งภาย
หลังการดำเนินการปรับปรุงดังกล่าว บริษัทคาดว่ากำลังการผลิตของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น
6,000,000 ลิตรต่อปี เพื่อรองรับการเติบโตของยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีตามที่บริษัทได้วางแผน
ธุรกิจไว้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนเพื่อปรับปรุงห้องทดลอง (Laboratory) สำหรับการ
วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สีของบริษัท และลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่เน้นกระบวนการ
ผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจ
เม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน -
7 ธันวาคม 2550  บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) มีแผนที่จะนำเสนอข้อมูลให้กับนักลง
ทุน(โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนทั่วไป อาทิ เชียงใหม่,พิษณุโลก,ขอนแก่น,ชลบุรี และ สงขลา เป็นต้น
และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งนี้หาก สำนักงาน ก.ล.ต.พิจารณาอนุมัติในเบื้องต้นคาดว่าจะ
สามารถเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก(IPO) ได้ตามแผน โดยคาดว่าจะสามารถ
ระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ทันภายในเดือน ธันวาคมนี้
วันนี้ (23 พ.ย.2550) จะนำเสนอข้อมูล บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) ห้อง
ประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  โดยนักลงทุนที่
เข้าฟังการนำเสนอข้อมูลการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด
(มหาชน) ในครั้งนี้จะได้รับแจกแบบฟอร์มยืนยันเพื่อประกอบการ
ใช้สิทธิและแบบฟอร์มการเปิดบัญชีด้วย
บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สี
คุณภาพสูงสำหรับใช้ทาในงานอุตสาหกรรม และงานโครงเหล็กที่ใช้ในงานก่อสร้างต่างๆ อาทิ
โรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน โรงผลิตไฟฟ้า แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าว
ไทย เพื่อป้องกันสนิมเหล็ก รวมไปถึงสีเคลือบไม้ สีทาเฟอร์นิเจอร์ และสีทาอาคาร ผลิตภัณฑ์สี
คุณภาพสูงที่บริษัทผลิตและจำหน่าย แบ่งออกเป็น 4  ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สีปองกัน
สนิม สีเคลือบไม้ สีทาอาคาร และสีอุตสาหกรรม โดยในงวดบัญชีปี 2550 (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
2549 ถึงเดือนมิถุนายน 2550) บริษัทมีสัดส่วนมูลค่าการจำหน่ายแยกตามประเภทผลิตภัณฑ์คิด
เป็นร้อยละ 43.95 ร้อยละ 32.10 ร้อยละ 11.27 และร้อยละ 3.97 ตามลำดับ โดยกลุ่มลูกค้าของ
บริษัท ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและการก่อสร้างงานโครง
เหล็กต่างๆ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมัน โรงผลิตไฟฟ้า แท่นขุดเจาะน้ำมัน
และก๊าซในอ่าวไทยเพื่อป้องกันสนิมเหล็ก อาทิ Chevron, PTT, ESSO, Shell, EGAT,
Ratchaburi Power Plant, BAFS และ Thai Airways เป็นต้น ส่วนลูกค้ากลุ่มรองลงมา
ได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโรงแรม อาทิ โรงแรมเพนนินซูล่า, โรงแรมโอเรียลตัล
เป็นต้น ธุรกิจส่งออกเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงาน อาทิ อาคาร
พหลโยธินเพลส และสถานทูตออสเตรเลีย เป็นต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันในปี 2550 บริษัทมีกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์สีทั้ง 4 กลุ่มหลักทั้งสิ้น
ประมาณ 4,320,000 ลิตรต่อปี และมีอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ประมาณ
ร้อยละ 69.44 ของกำลังการผลิต