Thai VI

ขอทราบแนวคิดพี่ๆ VI ครับ

หลัง พรบ.ประกันเงินฝากมีผลบังคับใช้

หากพี่ๆ น้องๆ VI ในปัจจุบัน และจะมีในอนาคตมีเงินฝากเป็นเงินออมอยู่มากพอสมควร ในระดับที่ไม่มีการรับประกัน คือ เกิน 1.0 ลบ. ขึ้นไป

โดยผมสมมติให้มีที่ 30.0 ลบ. ซึ่งคิดว่าเป็นตัวเลขที่ทำให้ไม่ต้องทำงานแล้ว

ผมอยากทราบว่า แต่ละท่านจะ มีวิธีบริหารเงินก้อนนี้อย่างไรกันบ้างครับ เพื่อให้เงินก้อนนี้สามารถสร้างผลตอบแทนโดยที่ไม่ต้องทำงานแล้ว  :?:  :?:  :?:

เงินเก็บซื้อหุ้นบริษัทดีดี

เงินลงทุนกู้แบงค์อย่างเดียว

งานนี้เงินฝากธนาคาร มีความเสียงเพิ่มขึ้น
จากเมื่อก่อนความเสี่ยงเท่ากับพันธบัตรรัฐบาล

ทำให้คนที่มีเงินที่มากกว่า 1 ล้านบาท ต้องรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าว ก็แลกกับผลตอบแทนที่คุ้มค่าด้วย

ไม่ทราบว่า 1 ล้านนี้ รวมถึงเงินที่อยู่กับ โบรก หรือไม่

เพราะของผมเป็นแบบ Cash Balance แล้วก็ได้ดอกเบี้ยด้วย

หรือว่าไม่เกี่ยวกันแต่แรกแล้ว

ขอบคุณครับ

บัญชีเงินฝากสถาบันการเงิน

อันนี้ต้องให้ศรีธนชัยมาตีความครับ


สิ่งที่เทียบเคียงแทนกันได้คือ
ตั๋วแลกเงิน พันธบัตรรัฐบาล ประกันชีวิต
พวกนี้ เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นทางออก
รวมไปถึงพวกกองทุนตราสารหนี้ ตราสารทุน
และหุ้นด้วย

แล้วแต่คนที่ชอบความเสี่ยงเท่าไร

miracle เขียน:บัญชีเงินฝากสถาบันการเงิน

อันนี้ต้องให้ศรีธนชัยมาตีความครับ


สิ่งที่เทียบเคียงแทนกันได้คือ
ตั๋วแลกเงิน พันธบัตรรัฐบาล ประกันชีวิต
พวกนี้ เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นทางออก
รวมไปถึงพวกกองทุนตราสารหนี้ ตราสารทุน
และหุ้นด้วย

แล้วแต่คนที่ชอบความเสี่ยงเท่าไร

เคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์บอกว่า สถาบันการเงินที่คุ้มครอง มี 43 แห่ง

และจากการถามเพื่อนที่ ธปท. บอกว่ากระจายฝากได้ 43 ล้านบาท (43 บัญชี 43 สถาบันการเงิน คงปวดหัวน่าดู  :twisted:  :evil: )  แต่ก็จะกลายเป็นรายเล็ก ดอกเบี้ยก็จะได้น้อยถึงน้อยที่สุด เช่น
ฝาก 2 ลบ. ขึ้นไป อาจ ได้ดอกเบี้ย 2.0 - 3.0% แต่ฝาก 1.0 ลบ. อาจเหลือแค่ 1.0% - 1.5% แล้วแต่ธนาคาร เพราะยอด 1.0 ลบ. เป็นยอดบังคับ(ไม่มีความเสี่ยง)  
(แต่วิ่งถอนดอกเบี้ย 43 แห่งนี่จะคุ้มไหมนี่กับดอกเบี้ย  :twisted:  :evil:  :twisted:  :evil: )

งานนี่กรรมของคนรวย  :twisted:  :evil:  :twisted:  :evil:

ตอนข่าวนี้ออกมาแรกๆ ผมตื่นเต้นตกใจใหญ่เลยครับ  :!:  กังวลว่าจะทำยังไงดี  :?:  แต่พอตั้งสติได้ เออ.... เงินในบัญชีตูมีอยู่แค่.....  ต่อให้ประกันแค่บัญชีละ2แสน ยังไม่กระทบกระเทือนเลย กว่าจะได้กังวลเรื่องนี้สงสัยจะอีกนานแบบไม่มีกำหนด

ดี เงินจะได้ย้ายมาสู่ตลาดหุ้น

ส่วนตัวผมถือหุ้นเกือบ 100% เลยไม่ค่อยเดือนร้อน

ผมว่าถ้าเลือกสถาบันการเงินที่มีความมั่นคง ไม่ล้มง่าย ๆ ก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาไม่ใช่เหรอครับ วิเคราะห์ความมั่นคงทางการเงินของธนาคาร และแนวทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่หนักหนาขนาดทำไม่ได้เลย ผมก็เลยไม่ค่อยเข้าใจว่าจะกลัวทำไม