ธปท.ต้อนนักเลงหุ้นเข้าเครดิตบูโร
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 16, 2007 1:31 pm
ธปท.ต้อนนักเลงหุ้นเข้าเครดิตบูโร [16 ต.ค. 50 - 04:23]
นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มาหารือเรื่องการนำส่งข้อมูลเครดิตการให้สินเชื่อของบริษัทประกันชีวิต ร่วมกับนายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตว่า ควรจะให้บริษัทประกันชีวิตส่งข้อมูลการให้สินเชื่อวงเงินไม่เกินมูลค่าเงินสดตามกรมธรรม์เข้าข้อมูลเครดิตบูโรหรือไม่ เพราะตามกฎหมายหากเข้าข่ายตามนิยามการให้สินเชื่อต้องส่งข้อมูลเข้าเครดิตบูโร แต่การให้สินเชื่อกรณีเช่นนี้เสมือนไม่ได้ให้สินเชื่อจริง เพราะเงินที่นำมาให้สินเชื่อเป็นเงินของลูกค้าเอง เพียงแต่ลูกค้ายังเอาเงินส่วนนี้ออกมาไม่ได้ เพราะยังไม่ไถ่ถอนกรมธรรม์ หาก ธปท.กำหนดให้ส่งข้อมูลสินเชื่อส่วนนี้จริง อาจเกิดผลกระทบทำให้ลูกค้าเสียประโยชน์
เรื่องนี้ทาง ธปท.ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้ส่งข้อมูลนี้หรือ ไม่ หรือจะให้ส่งเมื่อไร แต่ ธปท.ขอเวลาดูก่อน แต่ส่วนตัวคิดว่าข้อมูลการกู้แบบนี้ไม่จำเป็นต้องส่งเครดิตบูโรก็ได้ เพราะไม่ใช่การให้สินเชื่อจริง อีกอย่างถ้าข้อมูลนี้ไปปรากฏในเครดิตบูโรอาจจะเกิดผลเสียกับลูกค้าได้ ฉะนั้น ควรให้บริษัทประกันชีวิตส่งเฉพาะข้อมูลสินเชื่อปกติ ที่ให้กู้เพื่อการซื้อบ้านและเช่าซื้อก็น่าจะพอแล้ว
นายนิวัฒน์กล่าวว่า นอกจากการพิจารณานำส่งข้อมูลสินเชื่อบริษัทประกันชีวิตแล้ว เครดิตบูโรยังอยู่ระหว่างหารือให้มีการนำส่งข้อมูลลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทั้งระบบด้วย เพราะถือว่ามีความเสี่ยงในการซื้อขายหักกลบลบหนี้ (Settelment Risk) หรือการซื้อแบบ T+3 และหากดำเนินการได้จะช่วยตรวจสอบตัวตนของลูกค้าหลักทรัพย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในบัญชีเพื่อการกู้เงินหรือบัญชีเงินสด ซึ่งมีข้อดีทำให้ระบบมีข้อมูลที่ดีขึ้นเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม เพราะรู้สถานะของลูกค้ามากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไม่สามารถผลักดันเรื่องนี้สำเร็จ ทั้งที่ บล.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกว่า 70% มีเพียง 30% ที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก บล.มีการแข่งขันกันสูงไม่ต้องการเปิดเผยรายชื่อลูกค้าของตัวเอง และถ้าเปิดเผยโดยการส่งข้อมูลไปเครดิตบูโรแล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าไปเปิดดูข้อมูลอีกด้วย ทำให้ บล. หรือโบรกเกอร์บางส่วนไม่ยอมรับ แต่เครดิตบูโรก็คงต้องผลักดันและชี้แจงกันต่อไป.
:roll: http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=64749
นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มาหารือเรื่องการนำส่งข้อมูลเครดิตการให้สินเชื่อของบริษัทประกันชีวิต ร่วมกับนายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตว่า ควรจะให้บริษัทประกันชีวิตส่งข้อมูลการให้สินเชื่อวงเงินไม่เกินมูลค่าเงินสดตามกรมธรรม์เข้าข้อมูลเครดิตบูโรหรือไม่ เพราะตามกฎหมายหากเข้าข่ายตามนิยามการให้สินเชื่อต้องส่งข้อมูลเข้าเครดิตบูโร แต่การให้สินเชื่อกรณีเช่นนี้เสมือนไม่ได้ให้สินเชื่อจริง เพราะเงินที่นำมาให้สินเชื่อเป็นเงินของลูกค้าเอง เพียงแต่ลูกค้ายังเอาเงินส่วนนี้ออกมาไม่ได้ เพราะยังไม่ไถ่ถอนกรมธรรม์ หาก ธปท.กำหนดให้ส่งข้อมูลสินเชื่อส่วนนี้จริง อาจเกิดผลกระทบทำให้ลูกค้าเสียประโยชน์
เรื่องนี้ทาง ธปท.ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้ส่งข้อมูลนี้หรือ ไม่ หรือจะให้ส่งเมื่อไร แต่ ธปท.ขอเวลาดูก่อน แต่ส่วนตัวคิดว่าข้อมูลการกู้แบบนี้ไม่จำเป็นต้องส่งเครดิตบูโรก็ได้ เพราะไม่ใช่การให้สินเชื่อจริง อีกอย่างถ้าข้อมูลนี้ไปปรากฏในเครดิตบูโรอาจจะเกิดผลเสียกับลูกค้าได้ ฉะนั้น ควรให้บริษัทประกันชีวิตส่งเฉพาะข้อมูลสินเชื่อปกติ ที่ให้กู้เพื่อการซื้อบ้านและเช่าซื้อก็น่าจะพอแล้ว
นายนิวัฒน์กล่าวว่า นอกจากการพิจารณานำส่งข้อมูลสินเชื่อบริษัทประกันชีวิตแล้ว เครดิตบูโรยังอยู่ระหว่างหารือให้มีการนำส่งข้อมูลลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทั้งระบบด้วย เพราะถือว่ามีความเสี่ยงในการซื้อขายหักกลบลบหนี้ (Settelment Risk) หรือการซื้อแบบ T+3 และหากดำเนินการได้จะช่วยตรวจสอบตัวตนของลูกค้าหลักทรัพย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในบัญชีเพื่อการกู้เงินหรือบัญชีเงินสด ซึ่งมีข้อดีทำให้ระบบมีข้อมูลที่ดีขึ้นเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม เพราะรู้สถานะของลูกค้ามากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ไม่สามารถผลักดันเรื่องนี้สำเร็จ ทั้งที่ บล.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกว่า 70% มีเพียง 30% ที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก บล.มีการแข่งขันกันสูงไม่ต้องการเปิดเผยรายชื่อลูกค้าของตัวเอง และถ้าเปิดเผยโดยการส่งข้อมูลไปเครดิตบูโรแล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าไปเปิดดูข้อมูลอีกด้วย ทำให้ บล. หรือโบรกเกอร์บางส่วนไม่ยอมรับ แต่เครดิตบูโรก็คงต้องผลักดันและชี้แจงกันต่อไป.
