TNDT กล้าซื้อหรือเปล่า
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 16, 2007 12:52 pm
TNDTร้อนไม่เลิก
--------------------------------------------------------------------------------
TNDT ได้งานจากไทยออยล์ เพิ่มอีกกว่า 6 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ไตรมาส4/2550 พร้อมทั้งยังมีลุ้นงานใหม่มูลค่าอีกกว่า 10 ล้านบาทภายในเดือนนี้ และล่าสุดซื้อที่ดินที่ระยองเพิ่ม เพื่อเร่งขยายการให้บริการ หวังรองรับลูกค้าใหม่ที่ทยอยเข้ามา ด้านผู้บริหารชมเดือน ศตวุฒิ มั่นใจศักยภาพบริษัทขยายตัวเพิ่ม ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่โบรกประเมินหุ้น TNDT เข้าซื้อขายmai ได้ไม่ถึงเดือนจากราคาไอพีโอ3.10 บาท แต่ราคาวิ่งยืนเหนือ 7 บาท ได้อย่างแข็งแกร่งหรือปรับเพิ่มขึ้นกว่า 400% แนะเก็งกำไรตามกรอบ 6.90-8.20 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นTNDT(15 ต.ค.50) เปิดที่ระดับ 6.80 บาทระหว่างวันปรับขึ้นสูงสุดที่ระดับ 8.10 บาท และปิดที่ระดับ 7.75 บาท เปลี่ยนแปลง 0.85 บาท หรือ 12.32 % มีมูลค่าการซื้อขาย 308.34 ล้านบาท
นางชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทย เอ็น ดี ที จำกัด(มหาชน)TNDT ดำเนินธุรกิจตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย เปิดเผยว่าในช่วงระหว่างวันของวานนี้(15 ต.ค.2550)สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นว่าเกิดจากสาเหตุใด
แต่หากพิจารณาด้านปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแล้ว มั่นใจว่า TNDT ยังมีศักยภาพที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงาน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการกำไรติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลอด 3 ปีที่ผ่านมาสามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้ 18-20% โดยตลอด ซึ่งในปี 2550 นี้ ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษากำไรสุทธิได้ในอัตรา 20% เช่นกัน ส่วนปีที่แล้วบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่เกือบ 30 ล้านบาท
ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว อาจจะเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้นักลงทุนทยอยเข้ามาลงทุนต่อเนื่องขณะเดียวกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานในการเข้าไปตรวจสอบของบริษัทโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์
ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะทยอยเข้ามาในไตรมาส4/2550 เนื่องจากกำหนดระยะเวลาในการส่งมอบงาน 2 เดือน
นอกจากนี้ยังมีงานที่อยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาในการรับงานอีกประมาณ 3-4 โครงการ ซึ่งในเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะทราบผลได้ภายในเดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะที่มูลค่างานในมือ(back log)อยู่ที่ 100 ล้านบาท ส่วนอัตราการเติบโตของรายในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 200 ล้านบาท
เราในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และกรรมการบริหาร เรามีหน้าที่ในการบริการงานให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงการขยายศักยภาพของบริษัทให้ดีขึ้นและเป็นที่มั่นใจของลูกค้า ดังนั้นราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น โดยส่วนตัวไม่สามารถสาเหตุ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน นางชมเดือน กล่าว
สำหรับกรณีที่บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP เป็นผู้ชนะการประมูล จาก The National Oil and Gas Authority(NOGA) ของประเทศบาห์เรน ในการดำเนินการสำรวจแปลงสำรวจหมายเลข 2 นั้น นางชมเดือน กล่าวว่า การที่PTTEP ได้รับงานจากประเทศดังกล่าว ก็อาจเป็นผลดีต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการตรวจสอบความปลอดภัยอยู่แล้ว ส่วนจะได้รับมาในสัดส่วนเท่าไรนั้นยังไม่สามารถระบุได้
นอกจากนี้ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา บริษัทได้มีการโอนซื้อที่ดิน ที่จ.ระยอง ในการขยายการให้บริการ
เพื่อที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสำหรับแผนในการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 แห่งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนการศึกษาเพื่อการดำเนินการ จากปัจจุบันบริษัทมีสาขาอยู่ 6 แห่ง
ส่วนแผนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศบาห์เรน นั้น นางสาวชมเดือน กล่าวว่า แผนดังกล่าวคงต้องมีการชะลอออกไปก่อน เนื่องจากผลจากการเข้าไปศึกษาการลงทุนในประเทศดังกล่าวแล้วไม่คุ้มต่อการลงทุน เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้นจึงมองว่าในช่วงนี้อาจจะทยอยรับงานในประเทศไปก่อน จากปัจจุบันสัดส่วนการรับงานในต่างประเทศยังไม่ถึง 5 %
นักวิเคราะห์ ทางด้านเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์บีที จำกัด กล่าวว่า จากกราฟสัญญาณทางเทคนิคในหุ้นTNDT มองว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากระดับเสนอขายที่ 3.10 บาท และเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai)เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2550 ขณะที่ราคาหุ้นในระดับปัจจุบันสามารถยืนเหนือระดับราคา 7.00 บาทได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 400% ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ต้องการจะเข้าไปเก็งกำไรในหุนดังกล่าวแนะนำให้ระวังความเสี่ยง โดยให้กรอบแนวรับ 6.90 บาท และแนวต้านที่ 8.20 บาท
--------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------
TNDT ได้งานจากไทยออยล์ เพิ่มอีกกว่า 6 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ไตรมาส4/2550 พร้อมทั้งยังมีลุ้นงานใหม่มูลค่าอีกกว่า 10 ล้านบาทภายในเดือนนี้ และล่าสุดซื้อที่ดินที่ระยองเพิ่ม เพื่อเร่งขยายการให้บริการ หวังรองรับลูกค้าใหม่ที่ทยอยเข้ามา ด้านผู้บริหารชมเดือน ศตวุฒิ มั่นใจศักยภาพบริษัทขยายตัวเพิ่ม ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่โบรกประเมินหุ้น TNDT เข้าซื้อขายmai ได้ไม่ถึงเดือนจากราคาไอพีโอ3.10 บาท แต่ราคาวิ่งยืนเหนือ 7 บาท ได้อย่างแข็งแกร่งหรือปรับเพิ่มขึ้นกว่า 400% แนะเก็งกำไรตามกรอบ 6.90-8.20 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นTNDT(15 ต.ค.50) เปิดที่ระดับ 6.80 บาทระหว่างวันปรับขึ้นสูงสุดที่ระดับ 8.10 บาท และปิดที่ระดับ 7.75 บาท เปลี่ยนแปลง 0.85 บาท หรือ 12.32 % มีมูลค่าการซื้อขาย 308.34 ล้านบาท
นางชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทย เอ็น ดี ที จำกัด(มหาชน)TNDT ดำเนินธุรกิจตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย เปิดเผยว่าในช่วงระหว่างวันของวานนี้(15 ต.ค.2550)สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นว่าเกิดจากสาเหตุใด
แต่หากพิจารณาด้านปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแล้ว มั่นใจว่า TNDT ยังมีศักยภาพที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากความแข็งแกร่งด้านผลการดำเนินงาน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการกำไรติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลอด 3 ปีที่ผ่านมาสามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้ 18-20% โดยตลอด ซึ่งในปี 2550 นี้ ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษากำไรสุทธิได้ในอัตรา 20% เช่นกัน ส่วนปีที่แล้วบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่เกือบ 30 ล้านบาท
ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าว อาจจะเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้นักลงทุนทยอยเข้ามาลงทุนต่อเนื่องขณะเดียวกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานในการเข้าไปตรวจสอบของบริษัทโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์
ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะทยอยเข้ามาในไตรมาส4/2550 เนื่องจากกำหนดระยะเวลาในการส่งมอบงาน 2 เดือน
นอกจากนี้ยังมีงานที่อยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาในการรับงานอีกประมาณ 3-4 โครงการ ซึ่งในเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะทราบผลได้ภายในเดือนต.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะที่มูลค่างานในมือ(back log)อยู่ที่ 100 ล้านบาท ส่วนอัตราการเติบโตของรายในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 200 ล้านบาท
เราในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และกรรมการบริหาร เรามีหน้าที่ในการบริการงานให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงการขยายศักยภาพของบริษัทให้ดีขึ้นและเป็นที่มั่นใจของลูกค้า ดังนั้นราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น โดยส่วนตัวไม่สามารถสาเหตุ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน นางชมเดือน กล่าว
สำหรับกรณีที่บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP เป็นผู้ชนะการประมูล จาก The National Oil and Gas Authority(NOGA) ของประเทศบาห์เรน ในการดำเนินการสำรวจแปลงสำรวจหมายเลข 2 นั้น นางชมเดือน กล่าวว่า การที่PTTEP ได้รับงานจากประเทศดังกล่าว ก็อาจเป็นผลดีต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการตรวจสอบความปลอดภัยอยู่แล้ว ส่วนจะได้รับมาในสัดส่วนเท่าไรนั้นยังไม่สามารถระบุได้
นอกจากนี้ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา บริษัทได้มีการโอนซื้อที่ดิน ที่จ.ระยอง ในการขยายการให้บริการ
เพื่อที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสำหรับแผนในการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 4 แห่งนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนการศึกษาเพื่อการดำเนินการ จากปัจจุบันบริษัทมีสาขาอยู่ 6 แห่ง
ส่วนแผนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศบาห์เรน นั้น นางสาวชมเดือน กล่าวว่า แผนดังกล่าวคงต้องมีการชะลอออกไปก่อน เนื่องจากผลจากการเข้าไปศึกษาการลงทุนในประเทศดังกล่าวแล้วไม่คุ้มต่อการลงทุน เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้นจึงมองว่าในช่วงนี้อาจจะทยอยรับงานในประเทศไปก่อน จากปัจจุบันสัดส่วนการรับงานในต่างประเทศยังไม่ถึง 5 %
นักวิเคราะห์ ทางด้านเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์บีที จำกัด กล่าวว่า จากกราฟสัญญาณทางเทคนิคในหุ้นTNDT มองว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากระดับเสนอขายที่ 3.10 บาท และเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ(mai)เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2550 ขณะที่ราคาหุ้นในระดับปัจจุบันสามารถยืนเหนือระดับราคา 7.00 บาทได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 400% ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ต้องการจะเข้าไปเก็งกำไรในหุนดังกล่าวแนะนำให้ระวังความเสี่ยง โดยให้กรอบแนวรับ 6.90 บาท และแนวต้านที่ 8.20 บาท
--------------------------------------------------------------------------------