Thai VI

...และมองข้ามผู้แพ้จนไม่ทันสังเกตุเห็นสถานการณ์ที่ดีขึ้น...
...วันนี้อ่าน value investing ของพี่ WEB ไปหน่อยนึง ประโยคนี้โดนใจจริงๆ...

กรุณาขยายความอีกสักนิดได้ไหมคับ

เค้าบอกว่าความแตกต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาตลาดส่วนหนึ่งเกิด
จากมนุษย์มักมีอคติครับ หุ้นที่มีราคาลดลงถือเป็นของมีตำหนิ แม้ว่า
ราคาที่ตำลงของพวกมันได้สะท้อนความยำแย่ในอดีตไปจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม
พวกเราปล่อยให้การวิเคราะห์ของตัวเองถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์
ซึ่งมันส่งผลทำให้เราไม่สามารถประเมินอนาคตของบริษัทและมูลค่า
ของหุ้นโดยปราศจากอคติได้

Rataohm เขียน:เค้าบอกว่าความแตกต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาตลาดส่วนหนึ่งเกิด
จากมนุษย์มักมีอคติครับ หุ้นที่มีราคาลดลงถือเป็นของมีตำหนิ แม้ว่า
ราคาที่ตำลงของพวกมันได้สะท้อนความยำแย่ในอดีตไปจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม
พวกเราปล่อยให้การวิเคราะห์ของตัวเองถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์
ซึ่งมันส่งผลทำให้เราไม่สามารถประเมินอนาคตของบริษัทและมูลค่า
ของหุ้นโดยปราศจากอคติได้

Rataohm เขียน:เค้าบอกว่าความแตกต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาตลาดส่วนหนึ่งเกิด
จากมนุษย์มักมีอคติครับ หุ้นที่มีราคาลดลงถือเป็นของมีตำหนิ แม้ว่า
ราคาที่ตำลงของพวกมันได้สะท้อนความยำแย่ในอดีตไปจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม
พวกเราปล่อยให้การวิเคราะห์ของตัวเองถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์
ซึ่งมันส่งผลทำให้เราไม่สามารถประเมินอนาคตของบริษัทและมูลค่า
ของหุ้นโดยปราศจากอคติได้

ชอบจังครับ

ขออนุญาตดัดแปลงนะครับ เหรีียญอีกด้าน

เค้าบอกว่าความแตกต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาตลาดส่วนหนึ่งเกิด
จากมนุษย์มักมีความเพ้อฝันครับ หุ้นที่มีราคาเพิ่มขึ้นมากถือเป็นของดีน่าใ
ติดรถไปด้วย "ตามกระแส"
แม้ว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นมาของพวกมันได้สะท้อนข่าวดี +สิ่งที่คาดหวังในอนาคตไปมากจนอิ่มตัวแล้วก็ตาม
พวกเราปล่อยให้การวิเคราะห์ของตัวเองถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์
ซึ่งมันส่งผลทำให้เราไม่สามารถประเมินอนาคตของบริษัทและมูลค่า
ของหุ้นโดยปราศจากความเพ้อฝันได้

โทษที ข้างบนพิมผิดครับ อิอิ

เค้าบอกว่าความแตกต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาตลาดส่วนหนึ่งเกิด
จากมนุษย์มักมีความฝันหวานครับ หุ้นที่มีราคาเพิ่มขึ้นมากให้เห็นจะต้องเป็นของดี น่าจะขึ้นไปอีก เกิดความอยากติดรถไปด้วย "ตามกระแส"
แม้ว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นมาของพวกมัน
ได้สะท้อนข่าวดี +สิ่งที่คาดหวังในอนาคตไปมากจนอิ่มตัวแล้วก็ตาม
พวกเราปล่อยให้การวิเคราะห์ของตัวเองถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์
ซึ่งมันส่งผลทำให้เราไม่สามารถประเมินอนาคตของบริษัทและมูลค่า
ของหุ้นโดยปราศจากความฝันหวานได้  :D

ถ้าชอบแนะนำให้อ่านฉบับเต็มครับ ขอบคุณพี่ WEB จริงๆที่ทำให้เราได้อ่านหนังสือดีๆ