Thai VI

ผมเห็นหลายๆคน มีเป้าหมายชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นอิสระ ทางการเงิน
ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จก้าวหน้าของชีวิต
หรือครอบครัวที่สมบูรณ์

อย่างนึงที่หลายๆคนไม่ได้พูดถึง คือ จะไปให้ถึงตรงนั้นอย่างไร
ผมอยากแนะนำหัวข้อที่คนในเว๊ปนี้สนใจ

ว่าจะไปให้ถึงอิสระทางการเงิน ได้อย่างไร

วันนี้ขอเสนอหัวข้อ สร้างเนื้อสร้างตัว ผ่านหลายๆทาง

ต้องแต่เราเรียนจบมา จากคนบ้านๆ ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทอง คนส่วนใหญ่ก็เพิ่งได้รับรายได้จริงๆ จากการเป็นลูกจ้างเป็นหลักแต่ การเป็นลูกจ้าง
และการเป็นพนักงานนี่แหละ มีน้อยคนมาก ที่จะประสบความสำเร็จในระดับที่เรียกว่ารวยได้ ต้องเป็นระดับ ผู้จัดการขึ้นไป ถึงจะเรียกได้ว่ามีอยู่มีกินในระดับที่ดี และน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะไปถึงระดับบริหาร ซึงน่าจะเรียกได้ว่า มีอันจะกิน
ลองคิดดูว่าเดี๋ยวนี้บ้านหลังละ 5 ล้านบาท ดูจะเป็นเรืองธรรมดาๆ
แต่คนเงินเดือนซัก 6 หมืนบาทนี่ซื้อไม่ได้นะ
คนเงินเดือน 6 หมืนบาทนี่ ผมว่า ถ้าไม่ได้ทำงานบริษัทฝรั่ง ระดับสุงๆหน่อย ก็น่าจะหายากพอดู ดังนั้นอาจจะเป็นอะไรที่ลำบากพอควรก่อนที่จะไปถึงระดับนั้น

แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เป็นลูกจ้างเลยนะ
เพราะลูกจ้างเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในชีวิต ไม่เคยเป็นลูกจ้างเลย เราก็ไม่รู้ว่าพนักงานคนอื่นๆคิดอย่างไร

จะเห็นได้ว่าจากภาพด้านบน คนส่วนใหญ่คงเป็นลูกจ้างอย่างเดียวไม่พอทีจะสามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้

ดังนั้น เราต้อง สร้างเนื้อสร้างตัวผ่านหลายๆทาง
นอกจากเป็นลูกจ้างแล้ว เราคงต้องหารายได้อย่างอื่นๆ เข้ามาไม่งั้นเป้าหมายของเราคงไปถึงได้ยาก
ทางเลือกมีมากมายหลายแบบ
1. ทำงานอิสระ เป็น freelance
2. มีกิจการเป็นของตัวเอง
3. ลงทุนในหุ้น
4. ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
5. อย่างอื่นที่ผมไม่ได้คิดถึง

ผมไม่ได้ใสการลงทุนใน bond เพราะผมคิดว่า bond ไม่ได้ทำให้รวยแต่ทำให้เรารักษาเงินต้นไม่ได้ เงินเฟ้อมันทำลายมูลค่าของเงินที่มีอยู่เท่านั้น ไม่ได้เพิ่มค่าเงินของเราอย่างมีนัยยะสำคัญ

รายได้ทางเดียวไม่พอ เพราะอยู่มันอาจหายไป แล้ว เราจะไม่สามารถกลับตัวได้ เช่นบริษัท lay off พนักงาน
เมื่อวานพี่คนหนึ่งมา  interview กับผม ทำงานมาแล้ว 3 ปี เป็น super visor แต่ก็โดน lay off เพราะบริษัทขาดทุน ทั้งที่ตัวเองเป็นคนที่ดูแลงานเยอะมากในบริษัท แต่เมือแผนกโดนปิด ก็โดนทั้งแผนก

ดังนั้นเราต้องรู้ว่าเราเหมาะกับอะไร โดยดูตัวเองเป็นหลักว่าเหมาะกับอะไร แต่อย่าพยายามจำกัดตัวเองให้อยู่แค่ สิ่งที่เห็นเฉพาะหน้า รายได้ที่ได้รับอยุ่ แต่คงต้องมองด้วยว่า ตอนนี้ เราคงต้องบริหารความเสี่ยง โดยที่หารายได้หลายๆทาง

เดี๋ยววันหลังมาเขียนต่อว่า รายได้แต่ละแบบ มีข้อดีข้อด้อยอย่างไร

มารออ่านครับ      

8) แหะ แหะ คิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ก็จะมีชีวิตแบบเดิมๆ
คิดแตกต่าง ทำแตกต่าง ชีวิตก็จะแตกต่างครับ

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

ทุกสิ่งที่เราคิดว่ามั่นคงแน่แท้ ที่จริงเป็นอย่างนั้นหรือ
ลองคิดแตกต่างบ้าง ชีวิตอาจจะพลิกดีขึ้นครั้งยิ่งใหญ่ก็ได้
แต่ถ้าไม่ใช่ ปีสองปีก็ยังไม่สายที่จะกลับมาเหมือนเดิมๆ

รอฟังอยู่ครับพี่สุริยัน

เป้าหมายในชีวิต - เป็นอิสระภาพทางการเงิน
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ  :lol:  
เข้ามาป่วน

[quote="yoyo"]เป้าหมายในชีวิต - เป็นอิสระภาพทางการเงิน
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ

ทำไมต้องหลีกเลี่ยงยอดหุ้นที่คุณซันไลส์ถือครับ  :lol:


อิสรภาพต่อการมีอิสรภาพทางการเงิน

รายได้แรก เงินเดือน

นายผมเรียกมันว่า constant paycheck
คือรายได้ทีมาประจำ ไม่ทำให้รวย แต่ได้ค่อนข้างมั่นคง
บริษัทจะเป็นยังไงไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมากนัก เพราะยังไงๆ เดี๋ยวสิ้นเดือนก็เข้ากระเป๋าเรา
งานมักจะเหนื่อยมาก ผลตอบแทนไม่ได้เป็นเส้นตรง คือ เหนือยมาก ก็ได้เงินมากไม่เท่าที่เราเหนื่อย แต่อาจจะมาในรูปแบบอื่นในอนาคต
แต่ถ้าเหนือยน้อย ก็ได้ค่าตอบแทนที่คงที่อยู่แล้ว
ทำงานแล้วมักจะได้ความสบายใจ ว่ามีรายได้แน่ๆตอนปลายเดือน เดี๋ยวไปกู้บัตรเครดิตต่อได้

แล้วจุดด้อยของมันล่ะ
ไม่รวย, รวยยาก, เพราะต้องเป็นระดับผู้บริหาร ถึงจะมีรายได้ในระดับทีเรียกว่ารวย
เดี๋ยวนี้บริษัทไม่ได้เลี้ยงคนจนเกษียณแล้ว ถ้าโชคร้ายเจอ lay off ตอนอายุมากจะลำบาก

แต่อย่างไรก็ตาม มีลักษณะที่ดีอยู่อย่างนึงคือ เรามีรายได้ที่แน่นอน คำนวณได้ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ ทำให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย และมีเงินเก็บ

สำหรับพนักงานส่วนใหญ่ เวลาทำงานอยากก้าวหน้า ลองดูเคล็ดไม่ลับข้างล่าง
1. เจ้านายไม่ใช่พ่อ แต่เป็นคนขึ้นเงินเดือน ดังนั้นเชื่อฟังพอประมาณ เถียงได้นิดหน่อย แต่ห้ามทะเลาะกัน
2. ทำงานให้ดี ตั้งใจทำงาน, ถ้าบริษัทไม่ได้เลยร้ายนัก การตั้งใจทำงานจะทำให้ผู้บริหาร เจ้านายเห็นคุณค่า และทำให้รายได้เราเพิ่ม
3. ทำงานได้ดี อย่าเก็บเงียบไว้คนเดียว, พนักงานหลายๆคน ทำงานได้ดี แต่เจ้านาย หรือ ผู้บริหารไม่เคยรู้เลย ดังนั้น ถ้าทำงานดี มี ไอเดียใหม่ ต้องขาย เหมือนการโฆษณาหุ้น
แต่ไม่ใช่ขายอย่างเดียวไม่ทำงาน เรายังไม่ใช่ผู้บริหาร ที่มีหน้าที่คิด และ ขายนโยบายและ idea
4. เพือนร่วมงานสำคัญ ถ้าไม่ได้เค้าช่วย งานเราก็เดินลำบาก
5. รับผิดชอบงาน ทำงานให้เสร็จ ถ้ามีงานอะไรมาให้เรา เราทำงานเสร็จเสมอ จะสร้างความไว้เนื้อเชือใจในตัวเราเอง
6. อย่ากลัวงานหนัก ทำงานให้ได้ผลงานมากกว่าคนอื่น ไม่ใช้ใช้เวลามากกว่าคนอื่น
7. หาความรู้ในงานให้มาก เป็นคนที่รู้ทุกเรื่องที่จำเป็นในงาน
8. ภาษาสำคัญมากในปัจจุบัน ความรู้เท่ากัน แต่ภาษาดีกว่า ภาษาดีกว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง อังกฤษต้องได้ ถ้าได้ภาษาที่ 3 อีก มีค่ามหาศาล
9. ประเมินสภานะการณ์ ถ้าเห็นว่าอยู่บริษัทนี้ เจ้านายคนนี้ไปก็ไม่รุ่งแน่ๆ

[quote="dino"][quote="yoyo"]เป้าหมายในชีวิต - เป็นอิสระภาพทางการเงิน
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ

มานั่งรอ รับความรู้ครับ

[quote="sunrise"][quote="dino"][quote="yoyo"]เป้าหมายในชีวิต - เป็นอิสระภาพทางการเงิน
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ

8. ภาษาสำคัญมากในปัจจุบัน ความรู้เท่ากัน แต่ภาษาดีกว่า ภาษาดีกว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง อังกฤษต้องได้ ถ้าได้ภาษาที่ 3 อีก มีค่ามหาศาล

รบกวนขยายความข้อนี้หน่อยครับ พี่ Sunrise เหตุผลว่าทำไมภาษาที่สามถึงมีค่ามหาศาล

เพิ่มให้

เปลี่ยนงานบ้าง จะได้ปรับฐานเงินเดือนให้สูงขึ้น และปรับตำแหน่งความรับผิดชอบด้วย

เลือกบริษัทที่ทำเหมือนเลือกหุ้น มี growth มี competitive advanatge มี innovation อย่าไปทำงานพวกบริษัทตายซาก เสียเวลาเราเปล่าๆ

หางานต่างประเทศ รายได้จะเพิ่มด้วยความรวดเร็ว ประสบการณ์ก็กว้างขึ้น

หนังสือ เรื่อง เงินสี่ด้าน ก็เขียนถึงเรื่องนี้ได้ดีครับ

Blue planet เขียน: รบกวนขยายความข้อนี้หน่อยครับ พี่ Sunrise เหตุผลว่าทำไมภาษาที่สามถึงมีค่ามหาศาล

ลองทำงานบริษัทต่างชาติซึ่งต้องให้ได้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว
แต่สมมุติว่า พูดญี่ปุ่นได้ หรือ จีนได้
เวลาคุยกับลูกค้า เป็นภาษาของเค้านี้ บางที เค้าถามหาเลยเพราะเค้าจำได้
ลองนึกดูว่า ถ้าเราทำงานต่างประเทศ แล้วมีชาวต่างชาติ คุย ไทยกับเรา
เราจะจำเค้าได้ตลอด เป็น first impression ที่ดีมาก

10-20ปีก่อน ใครพูดอังกฤษได้ก็ต้องถือว่าเยี่ยม
เดี๋ยวนี้ก็ถือว่าแค่ดี แต่กลายเป็นพื้นฐานซะแล้ว

ในอนาคต 10-20 ปี จากนี้ ผมเชื่อว่า 2 ภาษาไม่พอที่จะเป็นจุดขายได้แล้วนะ เวลาสมัครงาน แบบ high profile หน่อย

นอกจากนี้ลองดูว่าคนที่พูดภาษาที่ 3 ได้นะฐานะพนักงาน พวกนี้มักจะได้รายได้สูงกว่า เพราะตรงนี้แหละครับ  

[quote="yoyo"]
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ

[quote="yoyo"]เป้าหมายในชีวิต - เป็นอิสระภาพทางการเงิน
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ

เท่าที่รู้ ถือเหมือนซันไรท์อยู่ 2 ตัว เสียวตะหงิดๆ (เข้ามาป่วน)

[quote="yoyo"]เป้าหมายในชีวิต - เป็นอิสระภาพทางการเงิน
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ

มีแต่คนมีแต่คนแซว

รออ่านครับ  อย่าพึ่งใจน้อย   :lol:

เป็นกระทู้ที่ดีครับ  คำว่าอิสรภาพทางการเงิน  นี่แต่ละคนต้องการไม่เท่ากันอยู่แร้ว

คนพอร์ตสิบล้าน  อยากได้ร้อยล้าน  คนพอร์ตจ้อยอย่างผม  ไม่ได้หวังมาก  ขอแค่ได้อยู่ในตลาดโดยไม่ขาดทุน

ตั้งแต่เล่นหุ้น  ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมียนกัน  มีอะไรสนุกกว่าเดิม

อิสรภาพ  แต่ละคนให้คำจำกัดความไม่เท่ากัน

มีเงินมากแต่หัวหมุน  ไม่มีความสุข  แล้วจะมีไปทำไม  ผมเห็นมาเยอะแล้ว

อยู่ในกรุงเทพเงินเดือนหกหมื่น  สู้คนเงินเดือนหมื่นกว่าในบ้านนอกแถวบ้านผมไม่ได้

มันอยู่ที่ว่าคุIสร้างกล่องใบใหญ่เกินไป  สำหรับชีวิตตนเองหรือปล่าว

ถ้าสร้างใบเล็ก ๆ  ชีวิตก้อจะเติมเต็มเร็ว  มีความสุขมากกว่าคนสร้างกล่องใบใหญ่

จำมาจากหนูดีครับ

[quote="poppo"][quote="yoyo"]เป้าหมายในชีวิต - เป็นอิสระภาพทางการเงิน
วิธีการ - ลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ ราคาไม่แพง และที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่เจ้าของกระทู้ถือ

เจ้ากบ

เมื่อก่อนใครบอกให้ระวังหุ้นที่กบซื้อพี่ไม่เชื่อ แต่พี่เจอ snc เข้าไป พี่เชื่อแล้ว ถ้ากบซื้อหุ้นตัวไหน pm บอกพี่ด้วยนะ ถ้าพี่มีพี่จะรีบขาย ถ้าไม่มีก็จะเข้า black list








ฮ่าๆๆๆ :lol:

พี่กบมี kcar ptl ใช่ไหมครับ

ผมกะจะซื้ออยู่แล้น  เห็นว่าพี่กบมีเลยถอยกรูด  :lol:

แปลกแต่จริงนะครับ

ปีที่แล้วรายได้หลักของผมมาจากการลงทุนในหุ้น
ปีนี้รายได้หลักของผมมาจาการ ลงทุนในกิจกรรมอื่น และ รับจ้างทำ project เป็นที่ปรึกษาแหะ

ผมว่าการที่เราตั้งใจทำงานมากๆ เอาจริงเอาจังนี่ pay off จริงๆ ก็จะมีคนมาชวน มาติดต่อให้ทำงานให้เรื่อยๆ โอกาสก็วิ่งเข้ามาจริงๆ

เป็นข้อความที่ดีครับ    รอฟังอ่านต่อ

ผมมีรายได้ 2 ทาง จากงานประจำ  และ งานอดิเรก
ส่วนรายจ่ายหลายทางเหลือเกิน  ทั้งครอบครัวตัวเอง  บุพการี
และ(ค่าเรียน)ตลาดหุ้นครับ

sunrise เขียน:มีแต่คนมีแต่คนแซว

ใครจะป่วน หรือ แซว เรื่องเพิ่มทุน-หุ้นซัน เชิญทู้นี้ครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=28088

ผมเห็นด้วยกับ  คนเรือ VI ถ้าเรารับงาน และขยันทำงาน
เดี๋ยวจะมีการบอกต่อๆกัน งานต่างๆจะไหลเข้ามาทำไม่ไหว
เลยทีเดียว  บางทีรายได้อาจจะมากกว่างานประจำเสียอีก
( เดิมทีผมรับงานพิเศษอยู่หนึ่งบริษัท ทำไปทำมาตอนนี้รับมา
3 บริษัทแล้ว) เพื่อนผมคนหนึ่ง เมื่อ 5 ปีที่แล้วสอนพิเศษเล่นๆ
ปัจจุบัน รายได้จากการสอนพิเศษ 5-10 ล้านบาทต่อปี

[quote="Radio"]ผมเห็นด้วยกับ

บทความดีมากเรยครับ ผมอยู่ในตลาดมา 4-5ปี ส่วนใหญ่จะเสีย เพิ่งจะเริ่มมาหาความรู้ทาง VI กับเค้าบ้าง หวังว่าอนาคต จะมีอิสรภาพการเงิน  :D ทำงานออกแบบเล็กๆน้อยแต่สนุกกะเขาบ้าง

หางานอดิเรกที่ใจรัก แล้วบ้ากับมัน ให้สุดๆ สุดท้าย จะกลายเป็นเงินมหาศาล เพราะคุณจะมีความรู้พิเศษ ในเรื่องนั้นๆ จนกระทั่งลูกค้ากล้าจ่ายให้คุณมีกำไร เกินจากธรรมดา

แล้วเอากำไร มาลงทุนในหุ้น

ได้ทำงานที่ใจรัก และ ได้ต่อเงิน

ก็น่าจะมีอิสรภาพทางการเงิน ในระดับที่มีความสุขใจครับ

เช่น ใครชอบสอน ชอบพูด ก็ไปเปิดสอนพิเศษ เหลือเงินก็มาเล่นหุ้น

ใครชอบคิด ชอบเสนอแนะ ก็ไปเป็นที่ปรึกษา เหลือเงินก็มาเล่นหุ้น

เป็นต้น

เป็นกระทู้สาระดีครับผม อย่าลืมมาต่อให้จบด้วยนะครับท่านพี่ sunrise