Thai VI

เพิ่งลงทุนได้เดือนเดียวเองครับ อาศัยว่าอยากลงทุนในหุ้นที่มีประวัติที่ดี มีการเติบโตเรื่อยๆไม่ค่อยมีคนสนใจมาก มี ROIC ที่สม่ำเสมอ มีรายได้โตต่อเนื่อง ราคา P/E ไม่สูง เพราะผมกลัวขาดทุน และมีเวลาจำกัดในการหาข้อมูล (ความอดทนด้วย  :P )

ตอนนี้ถือ IRC, PG, TR, S&J ไว้ได้ซักพักแล้วครับ ลงเฉลี่ยไว้พอๆกัน แต่ TR กะ PG จะหนักหน่อย

[quote="doodeemak"]เพิ่งลงทุนได้เดือนเดียวเองครับ อาศัยว่าอยากลงทุนในหุ้นที่มีประวัติที่ดี มีการเติบโตเรื่อยๆไม่ค่อยมีคนสนใจมาก มี ROIC ที่สม่ำเสมอ มีรายได้โตต่อเนื่อง ราคา P/E ไม่สูง เพราะผมกลัวขาดทุน และมีเวลาจำกัดในการหาข้อมูล (ความอดทนด้วย

   

ขอบคุณสำหรับบทความดีดีๆที่แนะนำมาครับ  

doodeemak เขียน:เพิ่งลงทุนได้เดือนเดียวเองครับ อาศัยว่าอยากลงทุนในหุ้นที่มีประวัติที่ดี มีการเติบโตเรื่อยๆไม่ค่อยมีคนสนใจมาก มี ROIC ที่สม่ำเสมอ มีรายได้โตต่อเนื่อง ราคา P/E ไม่สูง เพราะผมกลัวขาดทุน และมีเวลาจำกัดในการหาข้อมูล (ความอดทนด้วย  :P )

ตอนนี้ถือ IRC, PG, TR, S&J ไว้ได้ซักพักแล้วครับ ลงเฉลี่ยไว้พอๆกัน แต่ TR กะ PG จะหนักหน่อย

ยิ่งต้องระวังครับ ซื้อตอนนี้บางตัวอาจดูไม่แพงทั้งราคาและ PE แต่ต้องคิดด้วยว่าถ้าหุ้นของเราราคาลดลงกว่าที่เราซื้อมาจะเป็นไง อดทนถือไว้ได้ไหม มีทุนทยอยซื้อต่อไหม หรืออย่างไร

เพราะผมก้อมือใหม่ พอราคามันลดลงกว่าทุนปุ๊บ บางทีก้อใจไม่ดีรีบขายเกินไป แทนที่จะเฉลี่ยซื้อเพิ่มหรือหาทางอื่น

ตอนนี้เลยระมัดระวังมากขึ้น ไม่ยอมซื้อง่ายๆ ถ้าไม่มี margin of safety มากพอ ทนรอดีกว่าเสียตังอ่ะครับ

ดูแล้ว ok นะในความเห็นของกระผม

ต้องถามว่ามูลค่าในใจตอนนี้เป็นเท่าไหร ยังเหลืออะไรให้เป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่

ตัวหุ้น ผมเคยสนใจ 3จาก 4 แต่ไม่บอกว่าตัวไหน
เดี๋ยวคนตกใจ  :lovl:

[quote="sunrise"]ดูแล้ว ok นะในความเห็นของกระผม

ต้องถามว่ามูลค่าในใจตอนนี้เป็นเท่าไหร ยังเหลืออะไรให้เป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าหรือไม่

ตัวหุ้น ผมเคยสนใจ 3จาก 4 แต่ไม่บอกว่าตัวไหน
เดี๋ยวคนตกใจ

เลือกหุ้นได้ดีแล้วครับ ทั้ง 4 ปี

4 ตัวนี้ อีก 10 ปีก็ม่ายเจ๊งครับ

พอร์ตแบบนี้เป็นไงบ้างครับ รบกวนวิจารณ์หน่อยครับ

ผมอ่านชื่อกระทู้แล้วนั่งยิ้มคนเดียวจนเมียหาว่าบ้าเลย
อ่านแล้วนึกถึงความหลังเมื่อครั้งยังอ่านซอคเกอร์(รายสัปดาห์)ครับ
คอลัมภ์พี่โย่งต้องมีคนเขียนจัดทีมบอลมาให้ช่วยวิจารณ์ทุกอาทิตย์เลย

เข้ามาแซว  :D

atsu เขียน: อ่านแล้วนึกถึงความหลังเมื่อครั้งยังอ่านซอคเกอร์(รายสัปดาห์)ครับ
คอลัมภ์พี่โย่งต้องมีคนเขียนจัดทีมบอลมาให้ช่วยวิจารณ์ทุกอาทิตย์เลย

คิดถึงพี่โย่งครับ

 :'O  :'O  :'O  :'O

ตอนเด็กๆผมก็เคยจัดนะครับ
คงเป็นความสุขของเด็กๆที่รักฟุตบอลมั๊งครับ

งั้นเรามาจัดทีมหุ้นเรากันไหมครับ อิอิ

เมื่อก่อนผมก้อชอบจัดเอามาแข่งกะเพื่อน จัดไปก้อถากถางอีกฝ่ายไป ว่าเลือกตัวนั้นตัวนี้มาได้ไง

doodeemak เขียน:เพิ่งลงทุนได้เดือนเดียวเองครับ อาศัยว่าอยากลงทุนในหุ้นที่มีประวัติที่ดี มีการเติบโตเรื่อยๆไม่ค่อยมีคนสนใจมาก มี ROIC ที่สม่ำเสมอ มีรายได้โตต่อเนื่อง ราคา P/E ไม่สูง เพราะผมกลัวขาดทุน และมีเวลาจำกัดในการหาข้อมูล (ความอดทนด้วย  :P )

ตอนนี้ถือ IRC, PG, TR, S&J ไว้ได้ซักพักแล้วครับ ลงเฉลี่ยไว้พอๆกัน แต่ TR กะ PG จะหนักหน่อย

พี่ดูดีมาก ตั้งชื่อได้ดีนะครับ เวลาโดนเรียกก็เท่ากับโดนชมไปด้วยเลย  :D

แนวคิดการลงทุนพี่ คล้ายผมมากเลยครับ

ป.ล.ผมก็เพิ่งตาสว่างและหันมาลงทุนแนวนี้หละครับ โดยใช้อุปกรณ์หลักคือไฟล์ eps12year พี่ครรชิต แล้วก็ข้อมูลพื้นๆจากร้อยคนร้อยหุ้น  

ผลคือใช้เวลาดูหุ้นน้อยลงมาก เกือบๆจะปลงๆ ปล่อยๆ  ได้็ย้อนกลับมาดูแลงานประจำ (วางแผนเติบโตในองค์กร ยกขาเก้าอี้หัวหน้า ส่งแกไปอยู่ตำแหน่งสูงขึ้น  55+ )

แต่ว่าผมลงทุนมั่วซั่วกว่าพี่อะครับ
ผมถือหุ้นด้วยเงินเกือบเท่าๆกัน เป็นสิบตัวเลยครับที่ราคาทุนราวๆ เดือน 2-6 ปีนี้
PTT,PTTEP  , TR,TCB  , AYUD , APRINT , SE-ED , PL , CP7-11
watch list : TNH , IT , SNC

คอนเซปคือซื้อแล้วไม่มีขาย เพราะว่าผมขายหุ้นทีไรหมูทุกที  รอหาเงินใหม่ซื้อไปเรื่อยๆ และมองหาหุ้นตัวใหม่ๆ มาเพิ่มอีก

 :D  :D

ดีจังครับ มีเพื่อนแล้ว เห็นเพื่อนๆพี่ๆในเว็บนี้แต่ละคนหาข้อมูลกันสุดยอดจริงๆ ส่วนผมก้ได้แต่ทำงานประจำตั้งแต่เช้าถึงเย็น วันหยุดก้ต้องเรียนอีก แต่ใจก้อยากเริ่มลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้มีความกระตือรือร้นมากขึ้น

แล้วก้ได้ผลจริงๆนะครับ จากเดิมที่เคยๆได้แต่อ่านหนังสือไปวันๆ แต่ไม่ได้เปิดพอร์ต ความกระตือรือร้นก้จะไม่ค่อยมี แต่หลังจากเปิดพอร์ตแล้ว ความรู้สึกที่อยากจะศึกษาหาข้อมูลแนว VI ก็เพิ่มขึ้น

ต้องขอบคุณพี่ครรชิตมากๆเลยครับ ที่ช่วยให้น้องๆ VI มือใหม่เบาแรงไปได้เยอะมากๆ

โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าการดู ROIC, Sales growth กับ trend ของ Profit margin ย้อนหลัง 8 ปี น่าจะเหมาะในการกรองหุ้นสำหรับมือใหม่อย่างผมน่ะครับ (ในกรณีที่ไม่มีเวลาติดตามข้อมูลเชิงคุณภาพอย่างใกล้ชิด)

โดย ROIC  คือ NOPAT/Investing Capital

โดยที่ Investing Capital ซึ่งมีสูตรที่เข้าใจง่ายๆก็คือ

เงินลงทุนทั้งหมดของกิจการ = เงินทุนหมุนเวียน + สินทรัพย์ระยะยาว

- หากบริษัทมีปัญหาเรื่องการเก็บหนี้ จะทำให้ ROIC ลดลงจากการเพิ่มขึ้นของเงินทุนหมุนเวียน

- หรือหากบริษัทเพิ่มหนี้มากขึ้น แต่ return กลับไม่เพิ่มในสัดส่วนเดียวกัน ROIC ก็จะลดลงเช่นกัน (แต่ ROE อาจจะเพิ่มขึ้น)

อีกสูตรหนึ่งที่สนับสนุน ROIC ก็คือการหา EVA ซึ่งมีค่าเท่ากับ Spread ของ ROIC กับ WACC คูณด้วย Investing Capital

ส่วนการกรองด้วย trend ของ Profit margin นั้นก้ช่วยกรองในส่วนของประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนหรือการขึ้นราคากับลูกค้า

ส่วนการกรองด้วย Sales growth ก็จะช่วยดูในส่วนของการเติบโตของบริษัท

แต่ข้อเสียของการมองย้อนหลัง 8 ปี รวมทั้ง Criteria ต่างๆข้างต้น อาจจจะทำให้พลาดการลงทุนในหุ้นโตเร็ว หรือหุ้นเกิดใหม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับสำหรับนักลงทุนที่มีเวลาไม่มากและไม่อยากเสี่ยงแบบผม

แต่ในอนาคต ผมอาจจะต้องเปลี่ยนสไตล์เป็นแนวท่าน Buffet กับ Fisher มากขึ้นนะครับ