Thai VI

1.ยังอ่านงบการเงินไม่เป็นเลยคับต้องอ่านหนังสือของ อ.ภาพรใช่มั้ยคับ
      2.เราสามารถรู้ได้เลยหรอว่าความจิงแล้วหุ้นนั้นควรจะมีราคาเท่ารัย ดูยังงัยคับ
      3.สยาม แก็ซว่าจะ IPO ที่1 บาทอะคับ น่าสนใจมั้ยคับอยากได้ความคิดเห็น
     4.ตราสารหนี้, ตราสารทุน, ตราสารอนุพัน, หุ้น ต่างกันงัยคับ
     5. หุ้นบุริมสิทธ์ กะ หุ้นสามัญ ต่างกันงัยคับ
     6. ช่วยลบไอดีผมให้หน่อยคับเข้าวันที่ 9 สิงหา 2007 แต่มันมีสระอือ อยู่ด้านหน้าชื่อแล้วมัน log inไม่ได้อะคับ พอดีอันนั้นใช้เมลของผมจิงๆอะคับ  พอจะสมัครใหม่กลับใช้เมลของตัวเองไม่ได้อีก  กำ  งัยช่วยลบให้หน่อยน่ะคับ

1. อ่านงบการเงินให้เป็น ของ อ.ภาพร ดีแล้วครับ อ่านง่ายกว่าเล่มอื่นๆ

2. โห อันนี้ตอบยากสุดๆ ครับ มันขึ้นกับแต่ละวิธีการ ความคิดของแต่ละคน ผมว่าลองอ่านหนังสือการลงทุนที่พี่ๆ ในนี้เขาแนะนำดูครับ น่าจะได้ความรู้ไปประมาณราคาได้ แนะนำหนังสือที่พี่ WEB แปล

3. ลองนึกดูว่าบริการของบ. เนี่ยจำเป็นต่อชีวิต หรือมีโอกาสเติบโตมากน้อยแค่ไหนดูนะครับ ถ้าดีก้อน่าสน แต่ผมกลัวแก๊ส เห็นแล้วนึกถึง PICNI

4. หุ้นก้อคือตราสารทุนอ่ะครับ ตราสารหนี้ก้ออย่างพวกพันธบัตร อนุพันธ์นี่จำรายละเอียดไม่ได้อ่ะครับ

5. มันต่างกันที่สิทธิในการรับการชำระหนี้แล้วก้อสถานะต่อบริษัท อย่างหุ้นสามัญผู้ถือก้อมีฐานะเป็นหุ้นส่วน  หุ้นบุริมสิทธิก้อมีสิทธิในการรับชำระหนี้จากบ. ก่อนหุ้นสามัญ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุม

6. ต้องไปขอที่ MOD แล้วอ่ะครับ

ยังไงรอเช็คซ้ำกับพี่ๆ เซียนๆนนี้ก่อนนะครับ ผมก้อเขียนตามที่นึกออก

ที่จริงผมเห็น คำถามกระทู้นี้ตั้งแต่ตอนตั้งแล้วนะครับ แต่คิดว่าคงต้องอธิบายยาวมากแน่ๆ

พี่ Cryptonian ตอบไปอย่างย่อๆเป็นข้อๆไปแล้วด้วย ... ก็หวังว่าจะเข้าใจบ้างนะครับ

แต่ผมอยากแนะนำว่า การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยงอยู่ในตัวครับ ต้องมีความรู้ความเข้าใจ ความเสี่ยงจึงน้อยลง

หุ้นเอง ก็เป็นการลงทุนที่มีความผันผวนสูง ... หุ้น IPO เป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูงมากและคาดการณ์จากอดีตได้ยาก

ดังนั้น ถ้าถามผม .. ผมว่าใจเย็นๆเถอะครับ กำเงินไว้ในมือก่อน อย่าเพิ่งรีบลงทุนตอนนี้ เอาเงินที่มีไปซื้อหนังสืออ่านก่อนดีกว่า

แล้วไปศึกษาถึงสิ่งที่กำลังสงสัยอยู่ก่อนจะดีกว่าไหมครับ ???  ลองดูในเว็บนี้แหละครับ มีความรู้ท่วมท้นเลย

แล้วอีกอย่างทำไมถึงสนใจหุ้นตัวนี้เป็นพิเศษครับ??? หรือว่ามีข้อมูลอะไรจากใครมาเอ่ย

ลองทบทวนก่อนนะครับ ... เพราะอ่านจากคำถามแล้วเข้าใจว่ายังไม่มีพื้นฐานเท่าใด ใจเย็นๆดีกว่าครับผม  8)

ถ้ายังตีมูลค่ากิจการไม่ได้ ... ไม่รู้จักประเภทของตราสารและหุ้นเอง ก็เปรียบเสมือนไม่รู้จักท่าในการว่ายน้ำนั้นแหละครับ

ไม่รู้จักบริษัทดี ก็เปรียบเสมือนไม่รู้จักสถานที่ที่จะต้องลงว่าย .. รังแต่จะเกิดความหายนะ หากดื้อลงแข่งนะครับ

ฟังที่ คุณ Artsuro บอกเรื่อง IPO ผมก้อเลยนึกได้ครับ ผมเองก้อเพิ่งลงทุนไม่นาน เพิ่งประสบเหตุกะ IPO มาหมาดๆ เจ้า TYM ครับ ลองอ่านงบดูมันดูดีจัง แต่พอเทรดปุ๊บ เขาก้อกระหน่ำขายออกมาเพื่อให้รายใหญ่เก็บของกัน ตอนนั้นดันใจไม่นิ่งก้อตกใจขายไปเหมือนกัน (ดีที่ซื้อไว้นิดเดียว)

ฉะนั้น ถ้าเพิ่งลงทุนละก้อ น่าจะไปหาหุ้นที่มีประวัติความเป็นมานานๆ หน่อยจะดีกว่า เพราะเรามีข้อมูลมากกว่า

ผมว่าพวกเซียนๆเก๋าๆกัน เค้าก็ยังไม่อยากยุ่งกับหุ้นที่ตัวเองไม่รู้จักเลยครับ ยกเว้น MK สุกี้เข้าตลาดอะไรแบบนั้นก็อีกเรื่องเพราะมันเห็นชัด

ยิ่งถ้าเป็นน้องใหม่เนี่ย ... อาจจะกลายเป็นโดนรับน้องแบบกลุ่มเดนตายเลยก็ได้  :lol: มีแต่คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า กระหายกันทั้งนั้น

สำหรับผมเนี่ย มันไม่มีข้อมูลอะไรให้เปรียบเทียบอะครับ ว่าบริษัทเค้าเติบโตดียังไง ??

มีความได้เปรียบยั่งยืนแค่ไหน ?? ROE ROE PE PB เป็นเช่นไร ?? แล้วจะหาค่าเฉลี่ยจากไหนอีก ??

โอ้ยยย สารพัดครับผม ... ผมจะไม่ออกนอกกรอบความรู้ของผมครับ ไม่รู้ไม่เสี่ยงดีกว่านะ

แล้วเรื่องบัญชีอะ มันแต่งกันได้ทั้งนั้นแหละ ... เป็นผมเป็นคุณเป็นใครก็อยากขายของให้ได้ราคาแพงที่สุดจริงไหมจ้ะ ??

ระวังเถอะครับ ... อย่าโลภเลย อันนี้จริงแท้แน่นอนมากๆๆๆๆๆ ... พี่โอ๊ตสอนมา ฮ่ะๆๆๆ ...  :P

สยามแก๊ซ นี่กิจการเหมือน ปิคนิคเปล่าครับ

ผมว่าเริ่มแบบนี้ก็ได้นะครับ

ศึกษาเรื่องการแบ่งเงินที่หามาได้ก่อน

เริ่มแรก ถ้าเป็นได้คุณควรจดบัญชีรายรับ จ่าย ของคุณก่อนดีไหมเอ่ย
จดเปแนรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน

เพราะถ้าไม่ทราบรายการค่าใช้จ่ายที่คุณใช้ เวลาที่จะตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก คุณก็คำนวณไม่ถูก

หลักจากนั้นก็ศึกษาทฤษฏีการเงินต่างๆเช่น ใน  the richest man in babylon บอกว่า

อย่างน้อย 10 %ของรายได้ เก็บแบบว่าลืมไปเลยว่าเคยมี เก็บไว้ในบัญชีที่ไม่คิดจะถอนออกมา เพราะเงินจำนวนนี้มันเป็นหลักประกันหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมา

อีก 20 % ของรายได้ ใช้หนี้(ถ้ามีนะครับ)

อีก 70 % ใช้จ่าย และลงทุน

ส่วนจะลงทุนอย่างไร

ทรัพย์สินมีค่าที่สุดคือ สมอง(ความคิด)ของเราครับ
ค่อยๆศึกษา ลงทุนอย่างพอเพียง

ต่อมาก็พิจารณาทรัพย์สิน 3 อย่าง(จาก richdad poordad เล่ม 1)

1.ลงทุนในตราสารต่างๆ(เช่น หุ้น)
2.อสังหาริมทรัพย์
3.ทำธุรกิจ

ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าชอบแบบไหน แล้วเลือกเอง

ซึ่งก่อนจะเลือก ก็ต้องศึกษาก่อนนะครับ

มันเหมือนคุณจะแต่งงานกับใครสักคน

ถ้าตอบตัวเองไม่ได้ว่า ที่คุณ A (นามสมมติ) บอกว่า คุณ B น่าจะเหมาะกับคุณ แต่คุณไม่รู้จักคุณ B ดีพอ

มันก็ยังไม่ถึงเวลาแต่งงานกันจริงไหมครับ

เอาแค่นี้ก่อนล่ะกันนะครับ

ข้อสำคัญ รักษาสุขภาพทางกาย และใจด้วย และบริหาร"ความโลภ"ให้พอเพียงกับ"ความรู้ที่คุณมี"ครับผม

ส่วนกระทู้ใน thaivi ทุกๆกระทู้ มีประโยชน์มากๆ ถ้าคุณมองเห็นประโยชน์ของกระทู้เหล่านั้นครับผม  :D

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

โชคดีในการลงทุนครับผม

แนะนำกระทู้เบื้องต้นที่ผมศึกษานะครับ  :lol:

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=1250

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=24502

และนอกจาก web นี้ ก็ที่ www.richdadthai.com ครับผม

ขอบคุณทุกข้อความมากคับ