Thai VI

ไม่นับเงินทุน

ความเสี่ยงครับ
ทำกิจการเองเสี่ยงมากกว่าเยอะ
สมมติว่าคุณมีเงินซัก 4-5 ล้าน
แล้วเอาไปเปิดร้านอาหาร ถ้าเกิดเลือก โลเคชั่น ผิดขึ้นมา
ก็จะเจ๊งไม่เป็นท่า หมดตัว

ซื้อหุ้น S&P เสี่ยงน้อยกว่ากันเยอะผมว่า

ทำกิจการเอง กับลงทุนหุ้นต่างกันอย่างไร

ถ้เก่งทำกิจการเอง ก็ควรทำกิจการ แล้วเอากิจการมาเข้าตลาดหุ้น

ถ้าเก่งลงทุนในหุ้น ก็ไม่ควร ทำกิจการเอง ควรเปิดโอกาสให้กับคนที่บริหารเก่งๆ ได้มีโอกาสเข้ามาบริหาร

สรุป ว่าต่างกันตรงที่ อย่างหนึ่ง ต้องทำเอง อีกอย่าง ต้องให้โอกาสคนอื่นไปทำเพราะเราลงเงินอย่างเดียว

แต่มันมีจุดคล้ายกันมาก ตรงที่ถ้าเราเป็นหุ้นใหญ่มาก เช่น เรามีหุ้นมากที่สุดในบริษัทมหาชน ที่อยู่ในตลาดหุ้น

แบบนี้ไม่ค่อยต่าง เพราะ ในที่สุดเราก็ต้องเลือกคนมาบริหาร และต้องรู้เรื่องหุ้นให้มากที่สุดเหมือนกัน

สรุปของสรุป คือมีทั้งต่าง และมีทั้งเหมือน ขึ้นอยู่กับขนาดการลงทุน ว่ามากหรือน้อย

สรุป ปรัชญา+Zero+Jeng

ลงทุนหุ้น = ลงเงิน (อย่างเดียว) = เสี่ยงน้อย
ทำกิจการ = ลงเงิน + ลงแรง = เสี่ยงมาก

ขอเสริมพี่ๆนิดนึงครับ

เสี่ยงมากรวยมาก "เสี่ยง" ในมุมมองผมคือสิ่งที่ไม่รู้ แต่ถ้าคนบริหารเก่งเค้ารู้ว่าธุรกิจเค้าไปได้ มีเส้นสายที่เอื้อต่อการดำเนินงาน อย่างนี้ไม่เสี่ยงครับ แถมได้นำเงินคนอื่นมาลงทุนในธุรกิจที่เราอยากทำอีก (ใช้เงินคนอื่น มาทำเงิน ขาดทุนผู้ถือหุ้นก็โชคร้าย กำไรก็ได้ทั้งผุ้ประกอบการและผู้ถือหุ้น)

ผู้ประกอบการ = รวยหุ้น + รวยจากธุรกิจ + เสี่ยงมาก + มีอำนาจทางสังคม
นักลงทุน = รวยหู้น(ถ้าวิเคราะห์ได้ดีจริง) + เสี่ยงปานกลาง + ไม่มีอำนาจทางสังคม

คำถามคือมีต้นทุนต่างกันอย่างไร ไม่นับเงินทุน ผมเลยไม่เข้าใจคำถามชัดๆว่า คืออะไร?

ต้นทุนเวลาของเรามังครับ การทำกิจการเองต้องลงทุนด้วยเวลาเกือบทั้งหมดของเราเพื่อให้กิจการเติบโต เข้มแข็ง และอยู่รอด แต่การลงทุนในหุ้นใช้เวลาน้อยกว่านั้นมาก...