TDEX
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 06, 2007 9:49 am
สรุปข้อสนเทศ : TDEX04/09/2550 14:09
TDEX : สรุปข้อสนเทศ : TDEX
- สรุปข้อสนเทศ -
โครงการกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ
(Mutual Fund Project of ThaiDex SET50 Exchange Traded Fund)
สำนักงานของบริษัทจัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด
989 อาคารสยามทาวเวอร์ ชั้น 24
ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2659-8888 โทรสาร 02-659-8860-1
วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เมื่อวันที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2550
(เริ่มทำการซื้อขาย 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2550)
ประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน หน่วยลงทุน 880,281,690 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 5.68 บาท
รวม 5,000 ล้านบาท (ห้าพันล้านบาท)
ประวัติความเป็นมาโดยสรุป
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บริษัทจัดการ)ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ให้จัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ ตามหนังสือที่กลต.น. 1819/2550 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2550
โดยได้ดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่อผู้สนใจลงทุนทั่วไป ในระหว่างวันที่ 21 - 28 สิงหาคม 2550
และได้ดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนในระหว่างวันที่ 21 - 29 สิงหาคม 2550 และได้รับอนุมัติ
การจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อ
วันที่ 4 กันยายน 2550
ลักษณะโครงการ : กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ประเภทกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่ลงทุนในตราสารแห่งทุน
ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ
อายุโครงการ ไม่กำหนดอายุโครงการ
วัตถุประสงค์การลงทุน :
โครงการมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index)
โดยจะพยายามดำรงค่าความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง (tracking error)
ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อปี ทั้งนี้ บริษัทจัดการและผู้ดูแลผลประโยชน์ไม่ต้องรับผิดชอบหากค่าความผันผวนของผลตอบแทน
ของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง (tracking error) จะมีค่าเกินร้อยละ 1.0 ต่อปี อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีเหตุจำเป็น
หรือสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย หากกองทุนไม่สามารถดำรงส่วนต่างดังกล่าวนั้นได้ บริษัทจัดการจะแจ้งผ่านทางเว็ปไซด์
ของบริษัทจัดการในวันทำการถัดไป โดยไม่ถือว่าบริษัทจัดการหรือผู้ดูแลผลประโยชน์ดำเนินการขัดหรือแย้งต่อโครงการ
นโยบายการลงทุน
กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ จะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (passive management strategy)
โดยลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ จะเน้น
ลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออก
จากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน
หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของ
กองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้
ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
ดัชนีอ้างอิง หมายถึง ดัชนีเซ็ท 50 (SET50 Index) หรือดัชนีอื่นใดที่บริษัทจัดการกำหนด ในกรณีที่มีการยกเลิกการ
ใช้ดัชนีเซ็ท 50 โดยดัชนีอื่นใดที่จะใช้แทนดัชนีเซ็ท 50 จะมีลักษณะที่เหมาะสมหรือใกล้เคียงกับดัชนีเซ็ท 50 ทั้งนี้ บริษัทจัดการ
ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงดัชนีอ้างอิงเป็นดัชนีอื่นใด โดยจะขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
และให้ถือว่าได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้วโดยไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการ
การเลิกโครงการ
1. หากปรากฏว่ากองทุนเปิดใดมีมูลค่าหน่วยลงทุนหรือมีผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นจำนวนดังนี้
1.1) มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน
1.2) มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่
50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน
1.3) มีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้
ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด
1.4) จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่
กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
2. เมื่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สั่งให้บริษัทจัดการเลิกกองทุนเปิดในกรณีที่บริษัทจัดการกระทำการหรือ
งดเว้นกระทำการจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองทุนเปิด หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน
3. เมื่อได้รับความเห็นชอบตามมติเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้
เเล้วทั้งหมดของโครงการจัดการ
การดำเนินการเมื่อมีการเลิกกิจการ
บริษัทจัดการจะดำเนินการดังต่อไปนี้เพื่อเลิกกองทุนเปิดดังกล่าว
(ก) ยุติการรับคำสั่งซื้อและคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนตั้งแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้ว
ทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วย
ลงทุนติดต่อกันหรือตั้งแต่วันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ มีคำสั่งขายคืน
หน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการ
ถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
(ข) แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนทราบ โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนรวมทั้งแจ้งเป็น
หนังสือให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบ ทั้งนี้ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุน
ที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขาย
หน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือวันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ มีคำสั่งขายคืนหน่วย
ลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการ
ถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
(ค) จำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของกองทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า
มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็น
เวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือวันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตาม
มูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ
มีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูล
2000
ค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน
ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด
ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อรวบรวมเงินเท่าที่สามารถกระทำได้และชำระ
ค่าขายคืนหน่วย ลงทุน ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
(ง) ชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนจำนวนเงินที่รวบรวมได้ตาม (ค) ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
ภายใน 5วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือภายใน 10 วันทำการนับแต่วัน
ทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือมีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วย
ลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ
จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ
เมื่อได้ดำเนินการตาม (ก) ถึง (ง) แล้ว หากมีหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินคงเหลืออยู่จากการดำเนินการตาม (ค)
บริษัทจัดการจะดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และ
วิธีการชำระบัญชีของกองทุนรวม
ผู้ดูแลผลประโยชน์ ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพมหานคร
นายทะเบียน บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้ดูแลสภาพคล่อง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
323 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น 9, 23-25
ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2231-1111
ทั้งนี้ ผู้ดูแลสภาพคล่อง มีหน้าทีในการเสนอซื้อและเสนอขาย
หน่วยลงทุนในตลาดรอง เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้
ลงทุน
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
323 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น 9, 23-25
ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2231-1111
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
999/9 ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ชั้น 20 - 21 ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2658-6300
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
191 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์
ชั้น 29 ถนนสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2231-3777,0-2632-0777
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
444 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์
ชั้น 14, 18 โซนซีดี และชั้น 19 โซนเอ
ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2217-8888,0-2611-9222
บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด
82 อาคารแสงทองธานี ชั้น18 และ 29
ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2232-2200
หรือบุคคลอื่นที่บริษัทจัดการจะทำการแต่งตั้งให้เป็นผู้ร่วมค้า
หน่วยลงทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการจะแจ้งให้สำนักงาน
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบ
ทั้งนี้ ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน มีหน้าที่ในการส่งคำสั่งซื้อและคำสั่ง
ขายคืนหน่วยลงทุนเพิ่มเติมกับบริษัทจัดการ ดังนั้น หน่วยลงทุนจะ
เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการซื้อขายหน่วยลงทุนของผู้ร่วมค้า
หน่วยลงทุน
ที่ปรึกษากองทุน Samsung Investment Trust Management Co., Ltd
Samsung Life Bldg. 36-1,
Yeouido-Dong, Yeoungdeungpo-Gu,
Seoul, Korea 150-886
Telephone : 822-3774-7927 Fax : 822-3774-7876
หรือบุคคลอื่นที่บริษัทจัดการจะทำการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา
กองทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ
ก.ล.ต. ทราบ
ทั้งนี้ ที่ปรึกษากองทุนมีสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาแต่งตั้งที่
ปรึกษากองทุน (ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ ฯลฯ)อย่างไรก็ตาม ที่
ปรึกษากองทุนจะไม่มีอำนาจควบคุมการดำเนินการของบริษัท
จัดการแต่ประการใด โดยบริษัทจัดการมีอำนาจในการตัดสินใจแต่
เพียงผู้เดียวในการจัดการกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย
หลักทรัพย์หรือการจัดการด้านอื่นใดก็ตาม ทั้งนี้ที่ปรึกษากองทุน
ไม่มีสิทธิที่จะรับทราบถึงการตัดสินใจดังกล่าว
ผู้สอบบัญชี นายประวิทย์ วิวรรณธนานุตร์ หรือ นายอธิพงศ์ อธิพงศ์สกุล
บริษัท เอเอ็นเอส ออดิท จำกัด
100/72 ชั้น 22 100/2 อาคารว่องวานิช บี
ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง
กรุงเทพมหานคร 10320
โทรศัพท์ 0-2645-0107-9
รอบระยะเวลาบัญชี วันที่สิ้นสุดรอบบัญชี วันที่ 31 เดือนธันวาคม
วันที่สิ้นสุดรอบบัญชีครั้งแรกวันที่ 31 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2551
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
โครงการมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนจากกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิ เมื่อกองทุนมีกำไรสะสม
หรือกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผล และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นใน
งวดบัญชีที่มีการจ่ายเงินปันผลนั้น ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยจะพิจารณาจ่ายในอัตรา
ไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธินั้นๆ ทั้งนี้ ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นสมควร
อนึ่ง ในกรณีที่มีการจ่ายเงินปันผล บริษัทจัดการจะดำเนินการจ่ายเงินปันผลโดยปฏิบัติตาม
1) ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลต้องเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฏอยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
ณ วันปิดสมุดทะเบียนหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการจะกำหนดขึ้นภายใน 30 วันทำการนับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
2) บริษัทจัดการจะประกาศการจ่ายเงินปันผล วันปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อการจ่ายเงินปันผลและอัตราเงินปันผล
โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
(ก) ประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อย 1 ฉบับ
(ข) ปิดประกาศไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทำการทุกแห่งของบริษัทจัดการ และจัดให้มีประกาศดังกล่าวไว้ ณ สถานที่ติดต่อ
ทุกแห่งของตัวแทนขายหรือรับซื้อคืน ที่ใช้ในการซื้อขายหน่วยลงทุน
(ค) ส่งหนังสือแจ้งผู้ดูแลผลประโยชน์ และผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
3) บริษัทจัดการจะจ่ายเงินปันผลเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะสั่งจ่าย ในนามผู้ถือหน่วยลงทุนทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ผู้ถือหน่วย
ลงทุนระบุไว้ในแบบคำขอเปิดบัญชีกองทุนเปิด หรือจ่ายเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในแบบ
คำขอเปิดบัญชีกองทุนเปิดทั้งนี้ บริษัทจัดการจะดำเนินการให้มีการจ่ายเงินปันผลภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียน
พักการโอนหน่วยลงทุน
4) ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันปิดสมุดทะเบียนหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลซึ่งถือเป็น
เงินได้พึงประเมิน ซึ่งต้องนำไปคำนวณภาษี เงินปันผลที่จ่ายนี้ย่อมทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนลดลงเท่าจำนวน
เงินปันผล บริษัทจัดการอาจจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนด้วยวิธีการที่ต่างกันสำหรับหน่วยลงทุนที่ขายในช่วงระยะเวลา
ที่ต่างกันก็ได้โดยปฏิบัติเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในกรณีที่ผู้ถือหน่วย
ลงทุนไม่ใช้สิทธิขอรับเงินปันผลจำนวนใดภายในอายุความใช้สิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทจัดการ
จะไม่นำเงินปันผลจำนวนดังกล่าวไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากเพื่อประโยชน์ของกองทุน
วิธีการลดเงินกองทุน (ไม่มี)
การเสนอขายหน่วยลงทุน
1) การเสนอขาย (การแลก) หน่วยลงทุน สำหรับผู้สนใจลงทุนทั่วไป โดยสั่งซื้อ (แลก) หน่วยลงทุนของกองทุนโดยผ่าน
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ด้วยวิธีการส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ ตามขั้นตอนและวิธีการสั่งซื้อที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด ทั้งนี้
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการสั่งซื้อ (การแลก) หน่วยลงทุน ในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการสั่งซื้อ
(การแลก)ดังกล่าวมีผลกระทบต่อการลงทุนของกองทุนหรือต่อผู้ถือหน่วยลงทุนหรือต่อชื่อเสียงหรือต่อความรับผิดชอบทางกฎหมาย
ของผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้สนใจลงทุนทั่วไปทราบล่วงหน้า
2) การซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผู้สนใจลงท
2000
ุนทั่วไปและผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนสามารถ
ซื้อและขายหน่วยลงทุนของกองทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติของ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ
การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
1) การรับซื้อคืน (การแลก) หน่วยลงทุน สำหรับผู้สนใจลงทุนทั่วไป ด้วยวิธีการรับมอบตะกร้าหลักทรัพย์ตามขั้นตอน
และวิธีการรับซื้อคืนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด
2) การซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนทั่วไป
โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อและขายหน่วยลงทุนของกองทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และ
วิธีปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตะกร้าหลักทรัพย์ (Portfolio Depository File: PDF) หมายถึง
รายการของหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงทรัพย์สิน และหรือเงินสด ตามที่บริษัทจัดการกำหนด
ซึ่งบริษัทจัดการจะใช้สำหรับการรับมอบเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุน หรือส่งมอบเป็นค่าขายคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บริษัทจัดการ
จะประกาศตะกร้าหลักทรัพย์ก่อนเวลาทำการของวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนนั้นๆ
ระยะเวลาในการรับซื้อคืน ทุกวันทำการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
การออกและส่งมอบเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน
กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ จะใช้ระบบไร้ใบหน่วยลงทุน (Scripless) ดังนั้น ผู้ลงทุนที่สั่งซื้อหน่วยลงทุน
ในตลาดรอง จะมีชื่อเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนต่อเมื่อบริษัทจัดการได้ทำการปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ เงื่อนไขในการออกเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุนระยะเวลาการส่งมอบ และอื่นๆ จะเป็นไปตามกฎ ระเบียบ
และวิธีปฏิบัติของนายทะเบียนหน่วยลงทุน
การคำนวณและการประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
1) คำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิและมูลค่าหน่วยลงทุนทุกสิ้นวันทำการ
2) คำนวณราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนทุกสิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ในกรณีราคาขาย
หน่วยลงทุน จะใช้มูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันสิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนเป็นตัวคำนวณราคาขายหน่วยลงทุน ในกรณี
ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน จะใช้มูลค่าหน่วยลงทุน ณ สิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน นั้นเป็นตัวคำนวณราคารับซื้อคืน
หน่วยลงทุน
3) ประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน ราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของวันที่รับคำสั่ง
ซื้อขายหน่วยลงทุนล่าสุด ภายในวันทำการถัดไป โดยการประกาศราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะใช้
ตะกร้าหลักทรัพย์ที่กำหนดโดยบริษัทจัดการแทน
4) ประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และมูลค่าหน่วยลงทุนของวันปิดทะเบียนเพื่อการจ่ายเงินปันผล ภายในวันทำการถัดจาก
วันปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อการจ่ายเงินปันผล
มูลค่าหน่วยลงทุนอ้างอิง (INAV)
หมายถึง ราคาปัจจุบันของตะกร้าหลักทรัพย์ ณ ขณะที่คำนวณหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนของกองทุนที่เป็นส่วนประกอบ
ของหน่วยของการซื้อขาย ซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ณ ขณะนั้นๆ โดยเบื้องต้นบริษัทจัดการจะเป็นผู้คำนวณ
และเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ในเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ
หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการในกรณีที่มูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถูกต้อง
1) ในกรณีที่ราคาหน่วยลงทุนที่ไม่ถูกต้องต่างจากราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้องน้อยกว่าหนึ่งสตางค์ หรือต่างจากราคาหน่วย
ลงทุนที่ถูกต้องตั้งแต่หนึ่งสตางค์ขึ้นไป แต่ไม่ถึงร้อยละ 0.5 ของราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้อง บริษัทจัดการจะจัดทำและส่งรายงาน
ให้ผู้ดูแลผลประโยชน์ทราบถึงความผิดพลาดภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่พบว่าราคาหน่วยลงทุนไม่ถูกต้อง และจัดให้มี
สำเนารายงานดังกล่าวไว้ ณ ที่ทำการของบริษัทจัดการเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สามารถตรวจสอบได้
2) ในกรณีที่ราคาหน่วยลงทุนที่ไม่ถูกต้องต่างจากราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้องตั้งแต่หนึ่งสตางค์ขึ้นไป และคิดเป็นอัตรา
ตั้งแต่ร้อยละ 0.5 ของราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้อง บริษัทจัดการจะคำนวณราคาหน่วยลงทุนย้อนหลังนับแต่วันที่พบราคา
หน่วยลงทุนไม่ถูกต้องจนถึงวันที่ราคาหน่วยลงทุนถูกต้อง
สิทธิประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน
1) สิทธิในการขายคืนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการขายคืนหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
2) สิทธิในการรับเงินปันผล : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการได้รับเงินปันผลตามที่ระบุไว้ในโครงการ
3) สิทธิในการโอนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการโอนหน่วยลงทุนโดยไม่มีข้อจำกัด
4) สิทธิในการลงมติเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนหรือแก้ไขวิธีจัดการ : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิลงมติเพื่อ
ทำการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการหรือแก้ไขวิธีจัดการ โดยบริษัทจัดการจะทำการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมได้
ต่อเมื่อได้รับมติโดยเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งคิดตามจำนวนหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุน
ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทั้งนี้ เป็นไปตามหัวข้อ วิธีการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมหรือแก้ไขวิธีจัดการ
5) สิทธิในการได้รับเงินคืนเมื่อเลิกโครงการ : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิที่จะได้รับหลักทรัพย์หรือเงินคืนหากกองทุนรวม
ต้องเลิกไปโดยบริษัทจัดการจะจัดให้มีผู้ชำระบัญชีที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบเป็นผู้ชำระบัญชีโดยจะได้
ดำเนินการให้มีการจำหน่ายทรัพย์สินของโครงการ ชำระภาระหนี้สินของโครงการและแจกจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
เฉลี่ยตามจำนวนหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดในขณะที่เลิกกองทุนรวม
ความเสี่ยงในการลงทุนของกองทุนรวม
: กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ มีนโยบายที่ลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง
(SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของ
ดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจ
ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
ดังนั้น มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในช่วงเวลาต่างๆได้ตามดัชนีอ้างอิงซึ่งกองทุนได้ลงทุนไว้
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยความเสี่ยงในการลงทุนของกองทุนได้แก่
(1) ความเสี่ยงจากตลาด (Market Risk) คือ
ความเสี่ยงที่เกิดจากราคาหรือผลตอบแทนของหลักทรัพย์มีการปรับตัวขึ้นลง อันเนื่องมาจากการ
เปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง อุตสาหกรรม ตลาดทุน และตลาดเงิน เป็นต้น เนื่องจากกองทุนนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง จึงไม่สามารถลดความเสี่ยงของตลาดได้ เช่น ในกรณี
ที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวลดลง ก็จะส่งผลทำให้ราคาหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุนปรับตัวลดลงด้วย
(2) ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ (Company Risk) คือ
ความเสี่ยงอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์แต่ละตัวในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นผลมา
จากการดำเนินงานของบริษัทเอง โดยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนปัจจัยอื่นๆ
ที่มีผลต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือต่ออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะการกระจาย
การลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียน ประมาณ 50 ตัว เพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทน
ใกล้เคียงกับดัชนี SET 50 รวมทั้งดำเนินการติดตามและวิเคราะห์ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อระดับราคาของหลักทรัพย์
อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
(3) ความเสี่ยงด้านราคาซื้อขาย (Trading price) กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนต่อหน่วยลงทุน
(NAV per unit) แตกต่างกัน เนื่องจากกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟเป็นกองทุนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดังนั้น จึงทำให้กองทุนดังกล่าวมี 2 ราคา คือ ราคาซื้อขาย (Trading price) ของหน่วยลงทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนต่อหน่วยลงทุน (NAV per unit) แต่เนื่องจากกองทุนมี
ผู้ดูแลสภาพคล่องของตลาดที่มีหน้าที่จะช่วยสร้างดุลยภาพของราคา เพื่อให้ราคาอยู่ ณ ราคาดุลยภาพ (Equilibrium price) ซึ่งต้องพยายามไม่ให้ราคาหน่วยลงทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ แตกต่างจากมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV/หน่วย)เกินกว่า 1%
(4) ความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทนเนื่องจากกองทุนอาจเข้า
ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยมีวัตุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงดัชนีเซ็ท50 เช่น SET 50 INDEX FUTURE
หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอื่นใด เป็นต้น ความเสี่ยงจะแตกต่างตามประเภทของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแต่ละประเภทดังนี้
- สัญญาออปชั่น คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะของการให้สิทธิแก่ผู้ซื้อสัญญา (Long Position)
ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying) ในอนาคต โดยผู้ซื้อสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ โดยผู้ซื้อต้อง
จ่ายค่าธรรมเนียม(Premium) ในการได้มาซึ่งสิทธิดังกล่าวด้วย ซึ่งในกรณีที่สภาวะการณ์ลงทุนคาดการณ์ผิดไป ผู้ซื้ออาจ
ไม่ใช้สิทธิภายในเวลาที่กำหนด ทำให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมไปโดยไม่ได้รับผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดการจะ
วิเคราะห์สถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และลงทุนให้เหมาะสม
กับความเสี่ยงของกองทุน
- สัญญาฟิวเจอร์ส คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะของการเป็นภาระผูกพันที่คู่สัญญาต้องปฏิบัติตามสัญญาเมื่อถึง
ระยะเวลาที่กำหนดไว้ ดังนั้นหากความผันผวนของม
1990
ูลค่าทรัพย์สินอ้างอิงเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ทำให้มูลค่าของสัญญาฟิวเจอร์ส
มีผลขาดทุน กองทุนจะมีภาระผูกพันที่ต้องปฏิบัติตามตามสัญญาที่ตกลงไว้ แม้ว่ากองทุนจะขาดทุนก็ตาม เช่น กองทุนรวมเข้าไปทำ
สัญญาฟิวเจอร์ส ซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท ถ้าครบกำหนดสัญญาราคาหุ้นในวันนั้นอยู่ที่ 80 บาท กองทุนรวมจะขาดทุน 20 บาท
และกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญา (Counterparty Risk) ได้เช่นกัน โดยในกรณีมูลค่าของ
สัญญาฟิวเจอร์สมีผลทำให้กำไร เช่น เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท ถ้าราคาหุ้นในวันนั้นอยู่ที่ 125 บาท กองทุนรวมจะ
มีกำไร 25 บาท แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสัญญาฟิวเจอร์ส สามารถซื้อขายกันได้ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Future Market)
โดยมีสำนักหักบัญชี (Clearing House) ทำหน้าที่ในการเรียกหลักประกันเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงให้ทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติ
ตามสัญญา ซึ่งทำให้สามารถลดความเสี่ยงจากคู่สัญญาดังกล่าวได้
(5) ความเสี่ยงจากการขยายฐานเงินลงทุน (Leverage Risk) การลงทุนในสัญญาออปชั่นที่ซื้อขายในตลาด
(Organized Exchange) หรือสัญญาฟิวเจอร์ส ซึ่งกองทุนรวมสามารถลงทุนได้โดยการวางเงินประกัน (Margin)
เพื่อป้องกันการไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยการวางเงินประกันเพียงเล็กน้อยสามารถลงทุนในสัญญาที่มีมูลค่ามากได้
เช่น ตลาดอาจกำหนดให้วางเงินประกันเพียงแค่ 5% ของมูลค่าสัญญา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทน (กำไร/ ขาดทุน) เกิดขึ้น
ในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่ลงทุน ซึ่งในกรณีที่กองทุนคาดการณ์ถูกต้อง การวางเงินประกันเพียงเล็กน้อย กองทุนก็จะได้
กำไรเป็นจำนวนมาก แต่ในทางตรงกันข้ามถ้ากองทุนคาดการณ์ผิดการวางเงินประกันเพียงเล็กน้อย กองทุนก็อาจขาดทุนเป็น
จำนวนมากได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดการจะวิเคราะห์สถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ และพิจารณาโอกาสผลกำไร
ขาดทุนเพื่อไม่ให้เกินเพดานที่บริษัทกำหนด
(6) ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากกองทุนไม่สามารถซื้อหรือขายหลักทรัพย์
ได้ภายในระยะเวลาหรือราคาตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากโอกาสในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์มีจำกัด แต่เนื่องจากกองทุนนี้จะมี
ผู้ดูแล สภาพคล่องของกองทุนคอยทำหน้าที่เป็นผู้เสนอซื้อหรือเสนอขายหน่วยลงทุนในตลาดรอง จึงทำให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้
ตลอดเวลา ดังนั้น ความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่องจึงต่ำมาก
ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนหรือกองทุนรวม
1.ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน (unitholder?s expenses)
1.1 ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน เรียกเก็บจากผู้สนใจลงทุนทั่วไปสำหรับการเสนอขาย
ภายหลังการเสนอขายครั้งแรก (หลัง IPO) ด้วยวิธีการส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ - ไม่เกิน 0.05 ของมูลค่าหน่วยลงทุน
1.2 ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนเรียกเก็บจากผู้สนใจลงทุนทั่วไป ด้วยวิธีการ
รับมอบตะกร้าหลักทรัพย์ - ไม่เกิน 0.05 ของมูลค่าหน่วยลงทุน
1.3 ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ในกรณีที่ซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ) -ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด
2.ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน (unitholder?s expenses)
2.1 ค่าธรรมเนียมการโอนหน่วยลงทุน - ตามอัตราที่นายทะเบียนหน่วยลงทุนกำหนด
2.2 ค่าธรรมเนียมการออกเอกสารสิทธิในหน่วยลงทุน - ตามอัตราที่นายทะเบียนหน่วยลงทุนกำหนด
3. ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม (fund?s direct expenses)
3.1 ค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fee) ไม่เกิน 0.40 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
3.2 ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ (trustee fee) ไม่เกิน 0.025 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
3.3 ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน (registrar fee) ไม่เกิน 0.01ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
3.4 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ - ตามที่จ่ายจริง
4.ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวมภายหลังเสนอขาย
หน่วยลงทุนครั้งแรก - ไม่เกิน 0.30ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อปี
หมายเหตุ
1) ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นเป็นอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีอื่นใดในทำนองดียวกัน
2) บริษัทจัดการสามารถเพิ่มค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นได้ไม่เกินร้อยละ 25 จากที่ระบุไว้
ภายในรอบระยะเวลา1 ปี ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน
โดยประกาศผ่านทางหนังสือพิมพ์ ปิดประกาศ ณ สำนักงานของบริษัทจัดการ และ website ของบริษัทจัดการ
จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนและการกระจายการถือหน่วยลงทุน ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2550
จำนวนราย จำนวนหน่วย ร้อยละ
ลงทุน ของหน่วย
ที่ออกจำหน่าย
ผู้ถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด 9 147,933,800 83.11
ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกิน 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด 769 30,066,200 16.89
และไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย
ผู้ถือหน่วยลงทุนต่ำกว่าหนึ่งหน่วยการซื้อขาย - - -
รวม 778 178,000,000 100.00
ผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2550
จำนวนหน่วยที่ถือ ร้อยละ
1. ธนาคารออมสิน 52,763,900 29.64
2. บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 46,188,100 25.95
3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 17,587,900 9.88
4. สำนักงานประกันสังคม 17,587,900 9.88
5. บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด 4,133,100 2.32
6. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 3,517,500 1.98
7. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด 2,638,000 1.48
8. นายสัจจา ตรีวานิช 1,758,700 0.99
9. น.ส.พรเพ็ญ เดชวิไลศรี 1,758,700 0.99
10. บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) 879,300 0.49
สถิติ
วันที่ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ การกระจายการลงทุนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
(หน่วย : พันบาท)
ต่อ รวม เงินฝาก หลักทรัพย์ หนี้สินอื่น
หน่วย (พันบาท) ที่ลงทุน
(บาท)
29 สิงหาคม 2550 5.68 1,010,968.80 5,443.774 1,005,525.026 -
จัดทำโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด
TDEX : สรุปข้อสนเทศ : TDEX
- สรุปข้อสนเทศ -
โครงการกองทุนเปิด ไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ
(Mutual Fund Project of ThaiDex SET50 Exchange Traded Fund)
สำนักงานของบริษัทจัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด
989 อาคารสยามทาวเวอร์ ชั้น 24
ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2659-8888 โทรสาร 02-659-8860-1
วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เมื่อวันที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2550
(เริ่มทำการซื้อขาย 6 เดือน กันยายน พ.ศ.2550)
ประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน หน่วยลงทุน 880,281,690 หน่วย มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 5.68 บาท
รวม 5,000 ล้านบาท (ห้าพันล้านบาท)
ประวัติความเป็นมาโดยสรุป
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บริษัทจัดการ)ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ให้จัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ ตามหนังสือที่กลต.น. 1819/2550 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2550
โดยได้ดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่อผู้สนใจลงทุนทั่วไป ในระหว่างวันที่ 21 - 28 สิงหาคม 2550
และได้ดำเนินการเสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนในระหว่างวันที่ 21 - 29 สิงหาคม 2550 และได้รับอนุมัติ
การจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวมจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อ
วันที่ 4 กันยายน 2550
ลักษณะโครงการ : กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ประเภทกองทุนรวมอีทีเอฟ ที่ลงทุนในตราสารแห่งทุน
ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ
อายุโครงการ ไม่กำหนดอายุโครงการ
วัตถุประสงค์การลงทุน :
โครงการมีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (SET50 Index)
โดยจะพยายามดำรงค่าความผันผวนของผลตอบแทนของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง (tracking error)
ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อปี ทั้งนี้ บริษัทจัดการและผู้ดูแลผลประโยชน์ไม่ต้องรับผิดชอบหากค่าความผันผวนของผลตอบแทน
ของกองทุนเมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิง (tracking error) จะมีค่าเกินร้อยละ 1.0 ต่อปี อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีเหตุจำเป็น
หรือสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย หากกองทุนไม่สามารถดำรงส่วนต่างดังกล่าวนั้นได้ บริษัทจัดการจะแจ้งผ่านทางเว็ปไซด์
ของบริษัทจัดการในวันทำการถัดไป โดยไม่ถือว่าบริษัทจัดการหรือผู้ดูแลผลประโยชน์ดำเนินการขัดหรือแย้งต่อโครงการ
นโยบายการลงทุน
กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ จะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (passive management strategy)
โดยลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ จะเน้น
ลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง (SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออก
จากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน
หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของ
กองทุน และกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้
ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
ดัชนีอ้างอิง หมายถึง ดัชนีเซ็ท 50 (SET50 Index) หรือดัชนีอื่นใดที่บริษัทจัดการกำหนด ในกรณีที่มีการยกเลิกการ
ใช้ดัชนีเซ็ท 50 โดยดัชนีอื่นใดที่จะใช้แทนดัชนีเซ็ท 50 จะมีลักษณะที่เหมาะสมหรือใกล้เคียงกับดัชนีเซ็ท 50 ทั้งนี้ บริษัทจัดการ
ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงดัชนีอ้างอิงเป็นดัชนีอื่นใด โดยจะขอความเห็นชอบต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
และให้ถือว่าได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้วโดยไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการ
การเลิกโครงการ
1. หากปรากฏว่ากองทุนเปิดใดมีมูลค่าหน่วยลงทุนหรือมีผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นจำนวนดังนี้
1.1) มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน
1.2) มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่
50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน
1.3) มีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้
ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด
1.4) จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่
กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
2. เมื่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สั่งให้บริษัทจัดการเลิกกองทุนเปิดในกรณีที่บริษัทจัดการกระทำการหรือ
งดเว้นกระทำการจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่กองทุนเปิด หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน
3. เมื่อได้รับความเห็นชอบตามมติเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้
เเล้วทั้งหมดของโครงการจัดการ
การดำเนินการเมื่อมีการเลิกกิจการ
บริษัทจัดการจะดำเนินการดังต่อไปนี้เพื่อเลิกกองทุนเปิดดังกล่าว
(ก) ยุติการรับคำสั่งซื้อและคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนตั้งแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้ว
ทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วย
ลงทุนติดต่อกันหรือตั้งแต่วันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ มีคำสั่งขายคืน
หน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการ
ถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
(ข) แจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนทราบ โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนรวมทั้งแจ้งเป็น
หนังสือให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบ ทั้งนี้ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุน
ที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขาย
หน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือวันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ มีคำสั่งขายคืนหน่วย
ลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการ
ถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
(ค) จำหน่ายหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เหลืออยู่ของกองทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า
มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็น
เวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือวันทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตาม
มูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือ
มีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูล
2000
ค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน
ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด
ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อรวบรวมเงินเท่าที่สามารถกระทำได้และชำระ
ค่าขายคืนหน่วย ลงทุน ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
(ง) ชำระค่าขายคืนหน่วยลงทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนจำนวนเงินที่รวบรวมได้ตาม (ค) ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
ภายใน 5วันทำการนับแต่วันทำการที่ 5 ที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วย
ลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน หรือภายใน 10 วันทำการนับแต่วัน
ทำการที่ปรากฏว่า มูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมด โดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า
50 ล้านบาทในวันทำการใด และบริษัทจัดการประสงค์จะเลิกกองทุน หรือมีคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนจนเป็นเหตุให้มูลค่าหน่วย
ลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด หรือ
จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 35 รายในวันทำการใด ภายหลังจากวันทำการถัดจากวันที่กองทุนจดทะเบียนต่อ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ
เมื่อได้ดำเนินการตาม (ก) ถึง (ง) แล้ว หากมีหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินคงเหลืออยู่จากการดำเนินการตาม (ค)
บริษัทจัดการจะดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และ
วิธีการชำระบัญชีของกองทุนรวม
ผู้ดูแลผลประโยชน์ ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพมหานคร
นายทะเบียน บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ผู้ดูแลสภาพคล่อง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
323 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น 9, 23-25
ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2231-1111
ทั้งนี้ ผู้ดูแลสภาพคล่อง มีหน้าทีในการเสนอซื้อและเสนอขาย
หน่วยลงทุนในตลาดรอง เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ผู้
ลงทุน
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
323 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น 9, 23-25
ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2231-1111
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
999/9 ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ชั้น 20 - 21 ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2658-6300
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
191 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์
ชั้น 29 ถนนสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2231-3777,0-2632-0777
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
444 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์
ชั้น 14, 18 โซนซีดี และชั้น 19 โซนเอ
ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์ 0-2217-8888,0-2611-9222
บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด
82 อาคารแสงทองธานี ชั้น18 และ 29
ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร 10500
โทรศัพท์ 0-2232-2200
หรือบุคคลอื่นที่บริษัทจัดการจะทำการแต่งตั้งให้เป็นผู้ร่วมค้า
หน่วยลงทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการจะแจ้งให้สำนักงาน
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ทราบ
ทั้งนี้ ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน มีหน้าที่ในการส่งคำสั่งซื้อและคำสั่ง
ขายคืนหน่วยลงทุนเพิ่มเติมกับบริษัทจัดการ ดังนั้น หน่วยลงทุนจะ
เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากการซื้อขายหน่วยลงทุนของผู้ร่วมค้า
หน่วยลงทุน
ที่ปรึกษากองทุน Samsung Investment Trust Management Co., Ltd
Samsung Life Bldg. 36-1,
Yeouido-Dong, Yeoungdeungpo-Gu,
Seoul, Korea 150-886
Telephone : 822-3774-7927 Fax : 822-3774-7876
หรือบุคคลอื่นที่บริษัทจัดการจะทำการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา
กองทุนต่อไป โดยบริษัทจัดการจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ
ก.ล.ต. ทราบ
ทั้งนี้ ที่ปรึกษากองทุนมีสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาแต่งตั้งที่
ปรึกษากองทุน (ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ ฯลฯ)อย่างไรก็ตาม ที่
ปรึกษากองทุนจะไม่มีอำนาจควบคุมการดำเนินการของบริษัท
จัดการแต่ประการใด โดยบริษัทจัดการมีอำนาจในการตัดสินใจแต่
เพียงผู้เดียวในการจัดการกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย
หลักทรัพย์หรือการจัดการด้านอื่นใดก็ตาม ทั้งนี้ที่ปรึกษากองทุน
ไม่มีสิทธิที่จะรับทราบถึงการตัดสินใจดังกล่าว
ผู้สอบบัญชี นายประวิทย์ วิวรรณธนานุตร์ หรือ นายอธิพงศ์ อธิพงศ์สกุล
บริษัท เอเอ็นเอส ออดิท จำกัด
100/72 ชั้น 22 100/2 อาคารว่องวานิช บี
ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง
กรุงเทพมหานคร 10320
โทรศัพท์ 0-2645-0107-9
รอบระยะเวลาบัญชี วันที่สิ้นสุดรอบบัญชี วันที่ 31 เดือนธันวาคม
วันที่สิ้นสุดรอบบัญชีครั้งแรกวันที่ 31 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2551
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
โครงการมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนจากกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิ เมื่อกองทุนมีกำไรสะสม
หรือกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผล และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะไม่ทำให้กองทุนมีผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นใน
งวดบัญชีที่มีการจ่ายเงินปันผลนั้น ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยจะพิจารณาจ่ายในอัตรา
ไม่เกินร้อยละ 100 ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธินั้นๆ ทั้งนี้ ตามที่บริษัทจัดการพิจารณาเห็นสมควร
อนึ่ง ในกรณีที่มีการจ่ายเงินปันผล บริษัทจัดการจะดำเนินการจ่ายเงินปันผลโดยปฏิบัติตาม
1) ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลต้องเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฏอยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
ณ วันปิดสมุดทะเบียนหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการจะกำหนดขึ้นภายใน 30 วันทำการนับจากวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
2) บริษัทจัดการจะประกาศการจ่ายเงินปันผล วันปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อการจ่ายเงินปันผลและอัตราเงินปันผล
โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
(ก) ประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อย 1 ฉบับ
(ข) ปิดประกาศไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทำการทุกแห่งของบริษัทจัดการ และจัดให้มีประกาศดังกล่าวไว้ ณ สถานที่ติดต่อ
ทุกแห่งของตัวแทนขายหรือรับซื้อคืน ที่ใช้ในการซื้อขายหน่วยลงทุน
(ค) ส่งหนังสือแจ้งผู้ดูแลผลประโยชน์ และผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
3) บริษัทจัดการจะจ่ายเงินปันผลเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะสั่งจ่าย ในนามผู้ถือหน่วยลงทุนทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ผู้ถือหน่วย
ลงทุนระบุไว้ในแบบคำขอเปิดบัญชีกองทุนเปิด หรือจ่ายเป็นเงินโอนเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในแบบ
คำขอเปิดบัญชีกองทุนเปิดทั้งนี้ บริษัทจัดการจะดำเนินการให้มีการจ่ายเงินปันผลภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันปิดสมุดทะเบียน
พักการโอนหน่วยลงทุน
4) ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันปิดสมุดทะเบียนหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลซึ่งถือเป็น
เงินได้พึงประเมิน ซึ่งต้องนำไปคำนวณภาษี เงินปันผลที่จ่ายนี้ย่อมทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนลดลงเท่าจำนวน
เงินปันผล บริษัทจัดการอาจจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนด้วยวิธีการที่ต่างกันสำหรับหน่วยลงทุนที่ขายในช่วงระยะเวลา
ที่ต่างกันก็ได้โดยปฏิบัติเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดในกรณีที่ผู้ถือหน่วย
ลงทุนไม่ใช้สิทธิขอรับเงินปันผลจำนวนใดภายในอายุความใช้สิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทจัดการ
จะไม่นำเงินปันผลจำนวนดังกล่าวไปใช้เพื่อการอื่นใดนอกจากเพื่อประโยชน์ของกองทุน
วิธีการลดเงินกองทุน (ไม่มี)
การเสนอขายหน่วยลงทุน
1) การเสนอขาย (การแลก) หน่วยลงทุน สำหรับผู้สนใจลงทุนทั่วไป โดยสั่งซื้อ (แลก) หน่วยลงทุนของกองทุนโดยผ่าน
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ด้วยวิธีการส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ ตามขั้นตอนและวิธีการสั่งซื้อที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด ทั้งนี้
ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการสั่งซื้อ (การแลก) หน่วยลงทุน ในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการสั่งซื้อ
(การแลก)ดังกล่าวมีผลกระทบต่อการลงทุนของกองทุนหรือต่อผู้ถือหน่วยลงทุนหรือต่อชื่อเสียงหรือต่อความรับผิดชอบทางกฎหมาย
ของผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้สนใจลงทุนทั่วไปทราบล่วงหน้า
2) การซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยผู้สนใจลงท
2000
ุนทั่วไปและผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนสามารถ
ซื้อและขายหน่วยลงทุนของกองทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติของ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ
การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
1) การรับซื้อคืน (การแลก) หน่วยลงทุน สำหรับผู้สนใจลงทุนทั่วไป ด้วยวิธีการรับมอบตะกร้าหลักทรัพย์ตามขั้นตอน
และวิธีการรับซื้อคืนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนกำหนด
2) การซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนทั่วไป
โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อและขายหน่วยลงทุนของกองทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และ
วิธีปฏิบัติของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตะกร้าหลักทรัพย์ (Portfolio Depository File: PDF) หมายถึง
รายการของหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิงทรัพย์สิน และหรือเงินสด ตามที่บริษัทจัดการกำหนด
ซึ่งบริษัทจัดการจะใช้สำหรับการรับมอบเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุน หรือส่งมอบเป็นค่าขายคืนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บริษัทจัดการ
จะประกาศตะกร้าหลักทรัพย์ก่อนเวลาทำการของวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนนั้นๆ
ระยะเวลาในการรับซื้อคืน ทุกวันทำการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
การออกและส่งมอบเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน
กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ จะใช้ระบบไร้ใบหน่วยลงทุน (Scripless) ดังนั้น ผู้ลงทุนที่สั่งซื้อหน่วยลงทุน
ในตลาดรอง จะมีชื่อเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนต่อเมื่อบริษัทจัดการได้ทำการปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ เงื่อนไขในการออกเอกสารแสดงสิทธิในหน่วยลงทุนระยะเวลาการส่งมอบ และอื่นๆ จะเป็นไปตามกฎ ระเบียบ
และวิธีปฏิบัติของนายทะเบียนหน่วยลงทุน
การคำนวณและการประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
1) คำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิและมูลค่าหน่วยลงทุนทุกสิ้นวันทำการ
2) คำนวณราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนทุกสิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ในกรณีราคาขาย
หน่วยลงทุน จะใช้มูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันสิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนเป็นตัวคำนวณราคาขายหน่วยลงทุน ในกรณี
ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน จะใช้มูลค่าหน่วยลงทุน ณ สิ้นวันส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน นั้นเป็นตัวคำนวณราคารับซื้อคืน
หน่วยลงทุน
3) ประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ มูลค่าหน่วยลงทุน ราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของวันที่รับคำสั่ง
ซื้อขายหน่วยลงทุนล่าสุด ภายในวันทำการถัดไป โดยการประกาศราคาขายหน่วยลงทุนและราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะใช้
ตะกร้าหลักทรัพย์ที่กำหนดโดยบริษัทจัดการแทน
4) ประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และมูลค่าหน่วยลงทุนของวันปิดทะเบียนเพื่อการจ่ายเงินปันผล ภายในวันทำการถัดจาก
วันปิดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อการจ่ายเงินปันผล
มูลค่าหน่วยลงทุนอ้างอิง (INAV)
หมายถึง ราคาปัจจุบันของตะกร้าหลักทรัพย์ ณ ขณะที่คำนวณหารด้วยจำนวนหน่วยลงทุนของกองทุนที่เป็นส่วนประกอบ
ของหน่วยของการซื้อขาย ซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ณ ขณะนั้นๆ โดยเบื้องต้นบริษัทจัดการจะเป็นผู้คำนวณ
และเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ในเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ
หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการในกรณีที่มูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถูกต้อง
1) ในกรณีที่ราคาหน่วยลงทุนที่ไม่ถูกต้องต่างจากราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้องน้อยกว่าหนึ่งสตางค์ หรือต่างจากราคาหน่วย
ลงทุนที่ถูกต้องตั้งแต่หนึ่งสตางค์ขึ้นไป แต่ไม่ถึงร้อยละ 0.5 ของราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้อง บริษัทจัดการจะจัดทำและส่งรายงาน
ให้ผู้ดูแลผลประโยชน์ทราบถึงความผิดพลาดภายใน 7 วันทำการนับแต่วันที่พบว่าราคาหน่วยลงทุนไม่ถูกต้อง และจัดให้มี
สำเนารายงานดังกล่าวไว้ ณ ที่ทำการของบริษัทจัดการเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. สามารถตรวจสอบได้
2) ในกรณีที่ราคาหน่วยลงทุนที่ไม่ถูกต้องต่างจากราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้องตั้งแต่หนึ่งสตางค์ขึ้นไป และคิดเป็นอัตรา
ตั้งแต่ร้อยละ 0.5 ของราคาหน่วยลงทุนที่ถูกต้อง บริษัทจัดการจะคำนวณราคาหน่วยลงทุนย้อนหลังนับแต่วันที่พบราคา
หน่วยลงทุนไม่ถูกต้องจนถึงวันที่ราคาหน่วยลงทุนถูกต้อง
สิทธิประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน
1) สิทธิในการขายคืนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการขายคืนหน่วยลงทุนตามที่ระบุไว้ในโครงการ
2) สิทธิในการรับเงินปันผล : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการได้รับเงินปันผลตามที่ระบุไว้ในโครงการ
3) สิทธิในการโอนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิในการโอนหน่วยลงทุนโดยไม่มีข้อจำกัด
4) สิทธิในการลงมติเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนหรือแก้ไขวิธีจัดการ : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิลงมติเพื่อ
ทำการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการหรือแก้ไขวิธีจัดการ โดยบริษัทจัดการจะทำการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมได้
ต่อเมื่อได้รับมติโดยเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งคิดตามจำนวนหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุน
ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทั้งนี้ เป็นไปตามหัวข้อ วิธีการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนรวมหรือแก้ไขวิธีจัดการ
5) สิทธิในการได้รับเงินคืนเมื่อเลิกโครงการ : ผู้ถือหน่วยลงทุนมีสิทธิที่จะได้รับหลักทรัพย์หรือเงินคืนหากกองทุนรวม
ต้องเลิกไปโดยบริษัทจัดการจะจัดให้มีผู้ชำระบัญชีที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบเป็นผู้ชำระบัญชีโดยจะได้
ดำเนินการให้มีการจำหน่ายทรัพย์สินของโครงการ ชำระภาระหนี้สินของโครงการและแจกจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
เฉลี่ยตามจำนวนหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดในขณะที่เลิกกองทุนรวม
ความเสี่ยงในการลงทุนของกองทุนรวม
: กองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ มีนโยบายที่ลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีอ้างอิง
(SET50 Index) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการเข้าหรือออกจากการเป็นหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของ
ดัชนีอ้างอิงด้วย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน หรือเงินฝาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย
ในการดำเนินงาน เพื่อชำระราคาหลักทรัพย์ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อเป็นสภาพคล่องของกองทุน และกองทุนอาจ
ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
ดังนั้น มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในช่วงเวลาต่างๆได้ตามดัชนีอ้างอิงซึ่งกองทุนได้ลงทุนไว้
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยความเสี่ยงในการลงทุนของกองทุนได้แก่
(1) ความเสี่ยงจากตลาด (Market Risk) คือ
ความเสี่ยงที่เกิดจากราคาหรือผลตอบแทนของหลักทรัพย์มีการปรับตัวขึ้นลง อันเนื่องมาจากการ
เปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง อุตสาหกรรม ตลาดทุน และตลาดเงิน เป็นต้น เนื่องจากกองทุนนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง จึงไม่สามารถลดความเสี่ยงของตลาดได้ เช่น ในกรณี
ที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวลดลง ก็จะส่งผลทำให้ราคาหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุนปรับตัวลดลงด้วย
(2) ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ (Company Risk) คือ
ความเสี่ยงอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์แต่ละตัวในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นผลมา
จากการดำเนินงานของบริษัทเอง โดยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนปัจจัยอื่นๆ
ที่มีผลต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือต่ออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะการกระจาย
การลงทุนในหุ้นสามัญจดทะเบียน ประมาณ 50 ตัว เพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมเพื่อสร้างผลตอบแทน
ใกล้เคียงกับดัชนี SET 50 รวมทั้งดำเนินการติดตามและวิเคราะห์ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อระดับราคาของหลักทรัพย์
อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
(3) ความเสี่ยงด้านราคาซื้อขาย (Trading price) กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนต่อหน่วยลงทุน
(NAV per unit) แตกต่างกัน เนื่องจากกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟเป็นกองทุนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดังนั้น จึงทำให้กองทุนดังกล่าวมี 2 ราคา คือ ราคาซื้อขาย (Trading price) ของหน่วยลงทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนต่อหน่วยลงทุน (NAV per unit) แต่เนื่องจากกองทุนมี
ผู้ดูแลสภาพคล่องของตลาดที่มีหน้าที่จะช่วยสร้างดุลยภาพของราคา เพื่อให้ราคาอยู่ ณ ราคาดุลยภาพ (Equilibrium price) ซึ่งต้องพยายามไม่ให้ราคาหน่วยลงทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ แตกต่างจากมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV/หน่วย)เกินกว่า 1%
(4) ความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ตอบแทนเนื่องจากกองทุนอาจเข้า
ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยมีวัตุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงดัชนีเซ็ท50 เช่น SET 50 INDEX FUTURE
หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอื่นใด เป็นต้น ความเสี่ยงจะแตกต่างตามประเภทของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแต่ละประเภทดังนี้
- สัญญาออปชั่น คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะของการให้สิทธิแก่ผู้ซื้อสัญญา (Long Position)
ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying) ในอนาคต โดยผู้ซื้อสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้ โดยผู้ซื้อต้อง
จ่ายค่าธรรมเนียม(Premium) ในการได้มาซึ่งสิทธิดังกล่าวด้วย ซึ่งในกรณีที่สภาวะการณ์ลงทุนคาดการณ์ผิดไป ผู้ซื้ออาจ
ไม่ใช้สิทธิภายในเวลาที่กำหนด ทำให้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมไปโดยไม่ได้รับผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดการจะ
วิเคราะห์สถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และลงทุนให้เหมาะสม
กับความเสี่ยงของกองทุน
- สัญญาฟิวเจอร์ส คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีลักษณะของการเป็นภาระผูกพันที่คู่สัญญาต้องปฏิบัติตามสัญญาเมื่อถึง
ระยะเวลาที่กำหนดไว้ ดังนั้นหากความผันผวนของม
1990
ูลค่าทรัพย์สินอ้างอิงเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ทำให้มูลค่าของสัญญาฟิวเจอร์ส
มีผลขาดทุน กองทุนจะมีภาระผูกพันที่ต้องปฏิบัติตามตามสัญญาที่ตกลงไว้ แม้ว่ากองทุนจะขาดทุนก็ตาม เช่น กองทุนรวมเข้าไปทำ
สัญญาฟิวเจอร์ส ซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท ถ้าครบกำหนดสัญญาราคาหุ้นในวันนั้นอยู่ที่ 80 บาท กองทุนรวมจะขาดทุน 20 บาท
และกองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของคู่สัญญา (Counterparty Risk) ได้เช่นกัน โดยในกรณีมูลค่าของ
สัญญาฟิวเจอร์สมีผลทำให้กำไร เช่น เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท ถ้าราคาหุ้นในวันนั้นอยู่ที่ 125 บาท กองทุนรวมจะ
มีกำไร 25 บาท แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสัญญาฟิวเจอร์ส สามารถซื้อขายกันได้ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Future Market)
โดยมีสำนักหักบัญชี (Clearing House) ทำหน้าที่ในการเรียกหลักประกันเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงให้ทั้ง 2 ฝ่ายปฏิบัติ
ตามสัญญา ซึ่งทำให้สามารถลดความเสี่ยงจากคู่สัญญาดังกล่าวได้
(5) ความเสี่ยงจากการขยายฐานเงินลงทุน (Leverage Risk) การลงทุนในสัญญาออปชั่นที่ซื้อขายในตลาด
(Organized Exchange) หรือสัญญาฟิวเจอร์ส ซึ่งกองทุนรวมสามารถลงทุนได้โดยการวางเงินประกัน (Margin)
เพื่อป้องกันการไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยการวางเงินประกันเพียงเล็กน้อยสามารถลงทุนในสัญญาที่มีมูลค่ามากได้
เช่น ตลาดอาจกำหนดให้วางเงินประกันเพียงแค่ 5% ของมูลค่าสัญญา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทน (กำไร/ ขาดทุน) เกิดขึ้น
ในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่ลงทุน ซึ่งในกรณีที่กองทุนคาดการณ์ถูกต้อง การวางเงินประกันเพียงเล็กน้อย กองทุนก็จะได้
กำไรเป็นจำนวนมาก แต่ในทางตรงกันข้ามถ้ากองทุนคาดการณ์ผิดการวางเงินประกันเพียงเล็กน้อย กองทุนก็อาจขาดทุนเป็น
จำนวนมากได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดการจะวิเคราะห์สถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ และพิจารณาโอกาสผลกำไร
ขาดทุนเพื่อไม่ให้เกินเพดานที่บริษัทกำหนด
(6) ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากกองทุนไม่สามารถซื้อหรือขายหลักทรัพย์
ได้ภายในระยะเวลาหรือราคาตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากโอกาสในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์มีจำกัด แต่เนื่องจากกองทุนนี้จะมี
ผู้ดูแล สภาพคล่องของกองทุนคอยทำหน้าที่เป็นผู้เสนอซื้อหรือเสนอขายหน่วยลงทุนในตลาดรอง จึงทำให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้
ตลอดเวลา ดังนั้น ความเสี่ยงทางด้านสภาพคล่องจึงต่ำมาก
ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนหรือกองทุนรวม
1.ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน (unitholder?s expenses)
1.1 ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน เรียกเก็บจากผู้สนใจลงทุนทั่วไปสำหรับการเสนอขาย
ภายหลังการเสนอขายครั้งแรก (หลัง IPO) ด้วยวิธีการส่งมอบตะกร้าหลักทรัพย์ - ไม่เกิน 0.05 ของมูลค่าหน่วยลงทุน
1.2 ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนเรียกเก็บจากผู้สนใจลงทุนทั่วไป ด้วยวิธีการ
รับมอบตะกร้าหลักทรัพย์ - ไม่เกิน 0.05 ของมูลค่าหน่วยลงทุน
1.3 ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ในกรณีที่ซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ) -ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด
2.ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน (unitholder?s expenses)
2.1 ค่าธรรมเนียมการโอนหน่วยลงทุน - ตามอัตราที่นายทะเบียนหน่วยลงทุนกำหนด
2.2 ค่าธรรมเนียมการออกเอกสารสิทธิในหน่วยลงทุน - ตามอัตราที่นายทะเบียนหน่วยลงทุนกำหนด
3. ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม (fund?s direct expenses)
3.1 ค่าธรรมเนียมการจัดการ (management fee) ไม่เกิน 0.40 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
3.2 ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ (trustee fee) ไม่เกิน 0.025 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
3.3 ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน (registrar fee) ไม่เกิน 0.01ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ต่อปี
3.4 ค่าใช้จ่ายอื่นๆ - ตามที่จ่ายจริง
4.ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวมภายหลังเสนอขาย
หน่วยลงทุนครั้งแรก - ไม่เกิน 0.30ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อปี
หมายเหตุ
1) ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นเป็นอัตราที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีอื่นใดในทำนองดียวกัน
2) บริษัทจัดการสามารถเพิ่มค่าธรรมเนียม และ/หรือค่าใช้จ่ายดังกล่าวข้างต้นได้ไม่เกินร้อยละ 25 จากที่ระบุไว้
ภายในรอบระยะเวลา1 ปี ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน
โดยประกาศผ่านทางหนังสือพิมพ์ ปิดประกาศ ณ สำนักงานของบริษัทจัดการ และ website ของบริษัทจัดการ
จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนและการกระจายการถือหน่วยลงทุน ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2550
จำนวนราย จำนวนหน่วย ร้อยละ
ลงทุน ของหน่วย
ที่ออกจำหน่าย
ผู้ถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด 9 147,933,800 83.11
ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกิน 5/1000 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด 769 30,066,200 16.89
และไม่ต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย
ผู้ถือหน่วยลงทุนต่ำกว่าหนึ่งหน่วยการซื้อขาย - - -
รวม 778 178,000,000 100.00
ผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2550
จำนวนหน่วยที่ถือ ร้อยละ
1. ธนาคารออมสิน 52,763,900 29.64
2. บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 46,188,100 25.95
3. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 17,587,900 9.88
4. สำนักงานประกันสังคม 17,587,900 9.88
5. บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด 4,133,100 2.32
6. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 3,517,500 1.98
7. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด 2,638,000 1.48
8. นายสัจจา ตรีวานิช 1,758,700 0.99
9. น.ส.พรเพ็ญ เดชวิไลศรี 1,758,700 0.99
10. บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) 879,300 0.49
สถิติ
วันที่ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ การกระจายการลงทุนของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
(หน่วย : พันบาท)
ต่อ รวม เงินฝาก หลักทรัพย์ หนี้สินอื่น
หน่วย (พันบาท) ที่ลงทุน
(บาท)
29 สิงหาคม 2550 5.68 1,010,968.80 5,443.774 1,005,525.026 -
จัดทำโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด