วันนี้หุ้น manrin จะเป็นไงบ้างน้า
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 05, 2007 9:37 am
จากเหตุไฟไหม้เมื่อคืนนี้
เพลิงไหม้โรงแรมแมนดารินกลางดึก เผาอาคาร 14 ชั้นนานร่วม 3 ชม. ชาวต่างชาติร่วมพันหนีตายอลม่าน ตำรวจ ประสานกทม. ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ติดในอาคาร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต เผยต้นเพลิงเกิดจากห้องฟิตเนสแต่สาเหตุของเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.จักรรินทร์ พันธ์ทอง พงส. (สบ.3) สน.บางรัก รับแจ้งเกิดเหตุ โรงแรมแมนดาริน เลขที่ 6 ถ.พระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. และมีผู้ติดอยู่ภายในโรงแรมเป็นจำนวนมาก จึงประสานรถดับเพลิงรุดสกัด ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเพื่อตัดกระแสไฟ และรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น พร้อมรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯกทม. ,พล.ต.ต.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ,พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น.,พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมขนาดใหญ่มีสองอาคารเชื่อมต่อกัน อาคารด้านหน้าสูง 7 ชั้น ส่วนอาคารด้านหลังลึกเข้าไปประมาณ 200 เมตร สูง 14 ชั้น ที่บริเวณจุดเชื่อมต่อของทั้งสองอาคารพบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจำนวนมาก และมีแสงเพลิงลุกไหม้ โดยเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจากชั้น 2 ขึ้นไปยังชั้นบนของอาคารด้านหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมรถน้ำและรถดับเพลิงกว่า 40 คัน เร่งฉีดน้ำดับเพลิง และช่วยเหลือลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ห่างแหล่งน้ำธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ต้องดูดน้ำจากท่อระบายน้ำ และสระว่ายน้ำของโรงแรมมาใช้ฉีดสกัดเพลิง พร้อมกับปิดการจราจรบนถนนพระราม 4 ตั้งแต่บริเวณ 4 แยกสามย่านถึงสะพานเหลืองเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่แขกของโรงแรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติกำลังนอนหลับพักผ่อนทำให้มีผู้ที่ติดอยู่ภายในอาคารจำนวนมาก ขณะที่การช่วยเหลือลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ภายในโรงแรมเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากภายในอาคารมีกลุ่มควันหนาแน่นมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถขึ้นไปถึงจุดที่มีคนติดอยู่บริเวณชั้น 10 และ 11 ของอาคารได้ ทำได้แค่เพียงใช้รถกระเช้าช่วยลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ในอาคารลงมาได้ครั้งละจำนวนไม่มาก ขณะที่ผู้ที่ติดอยู่หลายคนเกิดจากการสำลักควัน เจ้าหน้าที่จึงเรียกเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคารแต่เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดได้เนื่องจากที่เกิดเหตุมีกลุ่มควันหนาแน่นมาก ขณะเดียวกันเปลวเพลิงยังคงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วขึ้นไปจนถึงชั้น 10 ของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่องโดยใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ถูกช่วยเหลือ และหลบหนีออกมาจากโรงแรมได้ทัน จำนวนกว่า 600 คน ได้ถูกนำไปพักชั่วคราวที่คริสตจักรที่ 2 สามย่าน หรือโบสถ์สอง สามย่าน โดยเจ้าหน้าที่โรงแรมทำการตรวจสอบรายชื่อเพื่อหาจำนวนผู้ที่สูญหาย หรือติดอยู่ในตัวอาคาร
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณจุดเชื่อมต่อของทั้งสองอาคารส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ โดยตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงเร่งนำเครื่องช่วยหายใจเข้าช่วยเหลือผู้ที่ยังติดอยู่ภายในอาคารอย่างเร่งด่วนแต่การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากโครงสร้างอาคารดังกล่าวที่สูงถึง 14 ชั้น ถูกควันไฟได้กระจายไปตามท่อระบายอากาศปกคลุมอาคารจนทั่ว นอกจากนี้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากพื้นของโรงแรมปูด้วยพรม อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
หลังจากนี้คงต้องปิดอาคารดังกล่าวเป็นการชั่วคราวเพื่อทำการตรวจสอบโครงสร้างอีกครั้งว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากโครงสร้างของอาคารเป็นอาคารสูงที่ถูกเพลิงไหม้นานกว่า 2 ชั่วโมงอาจเกิดการทรุดตัวได้ นายวัลลภ กล่าว
ด้าน นายประสิทธิ์ ปั่นท่าเรื่อ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รูมบอยของโรงแรม ซึ่งเห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.00 น. ขณะที่ตนกำลังจะขึ้นไปดูแลแขกของโรงแรม พบกลุ่มควันสีดำลอยออกมาจากห้องฟิตเนส ด้านหลังห้องน้ำหญิง ที่ชั้นเอ็ม บริเวณจุดเชื่อมต่อของทั้งสองอาคาร ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีหัวสปริงเกอร์สำหรับดับเพลิงอัตโนมัติ ตนจึงรีบวิ่งไปเรียก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และช่างของโรงแรม ประมาณ 5 - 6 คน มาช่วยใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัด แต่เนื่องจากเพลิงไหม้พรม และลุกลามอย่างรวดเร็ว แม้ใช้ถังดับเพลิงถึง 10 ถัง แต่ก็เอาไม่สกัดเพลิงเอาไว้ได้ ก่อนที่เพลิงจะลุกลามขึ้นไปชั้นอื่น ๆอย่างรวดเร็วดังกล่าว ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ เนื่องจากในห้องฟิตเนสดังกล่าวไม่มีคนอยู่ เพราะปกติจะให้เปิดบริการเฉพาะเวลา ช่วงเช้า ถึง 10.00 น.ของทุกวันเท่านั้น
เบื้องต้นหลังเพลิงสงบมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการหลายราย ส่วนใหญ่มีอาการสำลักควันเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.จุฬาฯ และรพ.หัวเฉียว แต่ยังไม่มีรายงานผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต โดยจะมีการตรวจสอบภายในอาคารโดยละเอียดอีกครั้งในเช้าวันนี้
เพลิงไหม้โรงแรมแมนดารินกลางดึก เผาอาคาร 14 ชั้นนานร่วม 3 ชม. ชาวต่างชาติร่วมพันหนีตายอลม่าน ตำรวจ ประสานกทม. ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ติดในอาคาร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต เผยต้นเพลิงเกิดจากห้องฟิตเนสแต่สาเหตุของเพลิงไหม้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ
วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.จักรรินทร์ พันธ์ทอง พงส. (สบ.3) สน.บางรัก รับแจ้งเกิดเหตุ โรงแรมแมนดาริน เลขที่ 6 ถ.พระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. และมีผู้ติดอยู่ภายในโรงแรมเป็นจำนวนมาก จึงประสานรถดับเพลิงรุดสกัด ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเพื่อตัดกระแสไฟ และรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น พร้อมรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯกทม. ,พล.ต.ต.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ,พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น.,พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมขนาดใหญ่มีสองอาคารเชื่อมต่อกัน อาคารด้านหน้าสูง 7 ชั้น ส่วนอาคารด้านหลังลึกเข้าไปประมาณ 200 เมตร สูง 14 ชั้น ที่บริเวณจุดเชื่อมต่อของทั้งสองอาคารพบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจำนวนมาก และมีแสงเพลิงลุกไหม้ โดยเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจากชั้น 2 ขึ้นไปยังชั้นบนของอาคารด้านหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมรถน้ำและรถดับเพลิงกว่า 40 คัน เร่งฉีดน้ำดับเพลิง และช่วยเหลือลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่การดับเพลิงเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ห่างแหล่งน้ำธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ต้องดูดน้ำจากท่อระบายน้ำ และสระว่ายน้ำของโรงแรมมาใช้ฉีดสกัดเพลิง พร้อมกับปิดการจราจรบนถนนพระราม 4 ตั้งแต่บริเวณ 4 แยกสามย่านถึงสะพานเหลืองเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่แขกของโรงแรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติกำลังนอนหลับพักผ่อนทำให้มีผู้ที่ติดอยู่ภายในอาคารจำนวนมาก ขณะที่การช่วยเหลือลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ภายในโรงแรมเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากภายในอาคารมีกลุ่มควันหนาแน่นมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถขึ้นไปถึงจุดที่มีคนติดอยู่บริเวณชั้น 10 และ 11 ของอาคารได้ ทำได้แค่เพียงใช้รถกระเช้าช่วยลำเลียงผู้ที่ติดอยู่ในอาคารลงมาได้ครั้งละจำนวนไม่มาก ขณะที่ผู้ที่ติดอยู่หลายคนเกิดจากการสำลักควัน เจ้าหน้าที่จึงเรียกเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้าของอาคารแต่เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดได้เนื่องจากที่เกิดเหตุมีกลุ่มควันหนาแน่นมาก ขณะเดียวกันเปลวเพลิงยังคงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วขึ้นไปจนถึงชั้น 10 ของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่องโดยใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ถูกช่วยเหลือ และหลบหนีออกมาจากโรงแรมได้ทัน จำนวนกว่า 600 คน ได้ถูกนำไปพักชั่วคราวที่คริสตจักรที่ 2 สามย่าน หรือโบสถ์สอง สามย่าน โดยเจ้าหน้าที่โรงแรมทำการตรวจสอบรายชื่อเพื่อหาจำนวนผู้ที่สูญหาย หรือติดอยู่ในตัวอาคาร
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณจุดเชื่อมต่อของทั้งสองอาคารส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ โดยตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงเร่งนำเครื่องช่วยหายใจเข้าช่วยเหลือผู้ที่ยังติดอยู่ภายในอาคารอย่างเร่งด่วนแต่การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากโครงสร้างอาคารดังกล่าวที่สูงถึง 14 ชั้น ถูกควันไฟได้กระจายไปตามท่อระบายอากาศปกคลุมอาคารจนทั่ว นอกจากนี้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากพื้นของโรงแรมปูด้วยพรม อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
หลังจากนี้คงต้องปิดอาคารดังกล่าวเป็นการชั่วคราวเพื่อทำการตรวจสอบโครงสร้างอีกครั้งว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากโครงสร้างของอาคารเป็นอาคารสูงที่ถูกเพลิงไหม้นานกว่า 2 ชั่วโมงอาจเกิดการทรุดตัวได้ นายวัลลภ กล่าว
ด้าน นายประสิทธิ์ ปั่นท่าเรื่อ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รูมบอยของโรงแรม ซึ่งเห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.00 น. ขณะที่ตนกำลังจะขึ้นไปดูแลแขกของโรงแรม พบกลุ่มควันสีดำลอยออกมาจากห้องฟิตเนส ด้านหลังห้องน้ำหญิง ที่ชั้นเอ็ม บริเวณจุดเชื่อมต่อของทั้งสองอาคาร ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีหัวสปริงเกอร์สำหรับดับเพลิงอัตโนมัติ ตนจึงรีบวิ่งไปเรียก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และช่างของโรงแรม ประมาณ 5 - 6 คน มาช่วยใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัด แต่เนื่องจากเพลิงไหม้พรม และลุกลามอย่างรวดเร็ว แม้ใช้ถังดับเพลิงถึง 10 ถัง แต่ก็เอาไม่สกัดเพลิงเอาไว้ได้ ก่อนที่เพลิงจะลุกลามขึ้นไปชั้นอื่น ๆอย่างรวดเร็วดังกล่าว ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ เนื่องจากในห้องฟิตเนสดังกล่าวไม่มีคนอยู่ เพราะปกติจะให้เปิดบริการเฉพาะเวลา ช่วงเช้า ถึง 10.00 น.ของทุกวันเท่านั้น
เบื้องต้นหลังเพลิงสงบมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการหลายราย ส่วนใหญ่มีอาการสำลักควันเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.จุฬาฯ และรพ.หัวเฉียว แต่ยังไม่มีรายงานผู้สูญหายและผู้เสียชีวิต โดยจะมีการตรวจสอบภายในอาคารโดยละเอียดอีกครั้งในเช้าวันนี้
