กำไรเริ่มต้นตั้งแต่ตอนซื้อ 2 : แพงวันนี้ พรุ่งนี้ไม่แพง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 3:12 pm
กำไรเริ่มต้นตั้งแต่ตอนซื้อ 2 : แพงวันนี้ พรุ่งนี้ไม่แพง
สิ่งที่ผมจะเขียนในบทความนี้อาจดูค้านกับบทความแรกที่ผมเขียนไป เนื่องจากบทความแรกผมกล่าวถึงการซื้อให้ถูก (ทั้งราคาถูก และ สินค้าถูกชนิด) (พี่ปรัชญาแถมให้ด้วยว่าถูกใจ) แต่บทความนี้กลับมีชื่อบทความเกี่ยวกับความแพง แต่จริงๆแล้ว สองบทความนี้เกี่ยวข้องกับวลี กำไรเริ่มต้นตั้งแต่ตอนซื้อ ทั้งคู่
เมื่อประมาณปี 2541 ได้เกิดเหตุการณ์ทางการลงทุนเหตุการณ์หนึ่งที่ผมยังจำได้ถึงทุกวันนี้ สถานที่ที่ผมอยู่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยมีชายทะเลเป็นจุดขาย และหาดที่ผมอยู่ก็เป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุด และแน่นอน ย่อมเป็นหาดที่เหมาะแก่การค้าขายที่สุดด้วย ในปีนั้น มีการเปิดตัวโครงการอาคารพาณิชย์โครงการหนึ่ง ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด เป็นโครงการแรกที่มีการสร้างขาย ก่อนหน้านี้มีแต่เพียงโครงการที่สร้างให้เช่า ผมไม่ได้ลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากตอนนั้นผมกลัวการเป็นหนี้ แต่ผมได้ประสบการณ์อันมีค่าจากโครงการนี้ โดยเริ่มจากบทสนทนาของเพื่อนผมสองคน (หลังจากปรับให้เป็นคำสุภาพแล้ว)
เพื่อนคนแรก : คุณได้ลงทุนในโครงการนี้หรือเปล่า
เพื่อนคนที่สอง : ผมกำลังคิดดูอยู่ แต่ผมว่ามันแพงไปนิดนะ ผมอาจต่อราคาเขาดูสักหน่อย
เพื่อนคนแรก : จริงอยู่ มันอาจแพงไปหน่อย แต่ผมคิดว่า แพงวันนี้ พรุ่งนี้ไม่แพงนะ
สรุปแล้วเพื่อนผมคนที่สองไม่ได้ซื้อ เพราะเกี่ยงราคา ส่วนเพื่อนคนแรกซื้อไปสองยูนิต โดยใช้เงินกู้จากธนาคารเป็นส่วนใหญ่ ซื้อเสร็จได้ไม่นานก็มีคนมาขอเช่า และยังเช่ามาจนถึงปัจจุบันนี้ วันก่อนเพื่อนคนนี้เล่าให้ฟังว่า เขาผ่อนกับธนาคารเสร็จเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว (เท่าที่ผมทราบ ธนาคารมักกำหนดระยะเวลาของสินเชื่ออาคารพาณิชย์ไว้ที่ไม่เกิน 7 ปี) ราคา ณ วันนี้อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 5 เท่าของราคาที่เขาซื้อในวันนั้น ซ้ำดี (ตรงกันข้ามกับซ้ำร้าย) ค่าเช่าที่เขาได้มา พอๆกับราคาต้นทุนของเขา บวกดอกเบี้ยทั้งหมดที่เขาจ่ายไปให้ธนาคารด้วย ! อะไรจะโชคดีขนาดนั้น ! เขาบอกว่าเสียดายแทนเพื่อนคนที่สอง และแทนผมด้วย ผมก็ปากแข็งตอบไปว่าผมไม่เสียดายหรอกเพราะถือว่าผมไม่มีโชค (แต่จริงๆแล้วผมอยากเตะตัวเองมาก และผมก็รู้ดีว่า มันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับโชคเลย)
ผมมาคิดย้อนถึงคำพูดของเขา แพงวันนี้ พรุ่งนี้ไม่แพง ว่าเป็นจริงแค่ไหน และปัจจัยอะไรที่ทำให้คำพูดนี้เป็นจริง การลงทุนในสิ่งใดก็ตาม ไม่ได้รับรองว่าผู้ลงทุนจะได้กำไรเสมอไป มีคนขาดทุนจากอสังหาริมทรัพย์ถึงขั้นสาปส่งมากมาย และแน่นอน มีผู้ที่กำไรมหาศาลมากมายเช่นกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในอสังหาริมทรัพย์ก็คือทำเล ไม่ว่าทำเลในปัจจุบัน หรือโอกาสที่จะเป็นทำเลในอนาคต เพื่อนผมคนนั้นวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เขาซื้อให้ฟังว่า เขาถือว่าทำเลบนหาดนี้เป็นทำเลเกรดเอเกือบทั้งหมด (แน่นอนว่าไม่ใช่ทั้งหมด) มีแต่ผู้ที่ต้องการมาจับจองค้าขาย และเนื่องจากที่ดินมันไม่สามารถงอกได้ นับวันมันก็จะเหลือให้จับจองเป็นเจ้าของน้อยลง (นอกจากจะต้องจ่ายแพงขึ้นมากตอนหลัง) และประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าเขาไม่รู้ว่าในอนาคต(ของตอนนั้น)จะมีโครงการที่จะสร้างขายเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่มองออก เจ้าของที่ดินหรือตึกแถวก็ต้องมองออกถึงแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปมากในอนาคต ซึ่งจะทำให้เจ้าของเหล่านั้นต้องการที่จะให้เช่ามากกว่าขายขาดเป็นแน่แท้ เขาจึงตัดสินใจซื้อไว้โดยไม่ลังเล เพราะคิดว่า ราคาใดก็ไม่แพง สำหรับของดีที่มีน้อย
เมื่อผมผันตัวเองมาเป็นนักลงทุน มีบางสถานการณ์ที่ผมต้องงัดวลีเด็ดนี้ออกมาใช้ ในเมื่อผมยังไม่สามารถที่จะหาบริษัทดีก่อนคนอื่นได้(หุ้นยังราคาถูกถึงถูกมากอยู่เพราะยังไม่มีใครสนใจ) ผมก็ต้องยอมซื้อแพงหน่อย ดังนั้นเมื่อผมเจอหุ้นดีที่เริ่มเป็นที่สนใจและราคาขึ้นมาพอสมควรแล้ว (แพงวันนี้) แต่ผมมองว่าบริษัทยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมาก(ผมต้องศึกษาข้อมูลของบริษัทดีพอที่จะแน่ใจในจุดนี้) ผมก็จะเคาะซื้อทันที* เพราะผมมั่นใจว่าราคาที่ผมเข้าซื้อวันนี้จะถูกกว่าราคาที่มันมีโอกาสจะขึ้นไปในอนาคตอย่างมาก (ไม่แพงเมื่อเทียบกับพรุ่งนี้)
ผมจะไม่สรุปอะไร นอกจากจะขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณให้ดีเมื่ออ่านบทความนี้ เพราะกำไรจะเริ่มต้นตั้งแต่ตอนซื้อ[แพงในวันนี้]ได้เฉพาะต่อเมื่อคุณมองเห็นโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปอย่างมาก(ขอเน้นว่าราคาของหุ้นจะเติบโตตามกำไรของบริษัท) ดังนั้นถ้าคุณซื้อแพงในวันนี้โดยเป็นราคาที่แพงกว่าความเป็นไปได้ของวันพรุ่งนี้ คุณก็คงไม่ได้อะไรนอกจากขาดทุน
ป.ล. สิ่งที่สำคัญที่สุดของอสังหาริมทรัพย์คือทำเล สิ่งที่สำคัญที่สุดของหุ้นคือความสามารถที่ทำกำไร รักษากำไร และเพิ่มกำไรของบริษัท** (ผมว่าจะไม่สรุปแล้วนะ)
* ผมได้แนวคิดการเคาะซื้อจาก บทความ เคาะ ใน Blog ของคุณ yoyo ลองคลิกเข้าไปอ่านดูนะครับ http://thai-value-investor.blogspot.com/ (wednesday, september 27, 2006)
** บทความอีกบทความหนึ่งที่น่าอ่านคือ คุณภาพของกำไร โดยคุณ Invisible hand ครับ หาอ่านได้ที่ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=16119 ครับ
สิ่งที่ผมจะเขียนในบทความนี้อาจดูค้านกับบทความแรกที่ผมเขียนไป เนื่องจากบทความแรกผมกล่าวถึงการซื้อให้ถูก (ทั้งราคาถูก และ สินค้าถูกชนิด) (พี่ปรัชญาแถมให้ด้วยว่าถูกใจ) แต่บทความนี้กลับมีชื่อบทความเกี่ยวกับความแพง แต่จริงๆแล้ว สองบทความนี้เกี่ยวข้องกับวลี กำไรเริ่มต้นตั้งแต่ตอนซื้อ ทั้งคู่
เมื่อประมาณปี 2541 ได้เกิดเหตุการณ์ทางการลงทุนเหตุการณ์หนึ่งที่ผมยังจำได้ถึงทุกวันนี้ สถานที่ที่ผมอยู่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยมีชายทะเลเป็นจุดขาย และหาดที่ผมอยู่ก็เป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุด และแน่นอน ย่อมเป็นหาดที่เหมาะแก่การค้าขายที่สุดด้วย ในปีนั้น มีการเปิดตัวโครงการอาคารพาณิชย์โครงการหนึ่ง ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด เป็นโครงการแรกที่มีการสร้างขาย ก่อนหน้านี้มีแต่เพียงโครงการที่สร้างให้เช่า ผมไม่ได้ลงทุนในโครงการนี้ เนื่องจากตอนนั้นผมกลัวการเป็นหนี้ แต่ผมได้ประสบการณ์อันมีค่าจากโครงการนี้ โดยเริ่มจากบทสนทนาของเพื่อนผมสองคน (หลังจากปรับให้เป็นคำสุภาพแล้ว)
เพื่อนคนแรก : คุณได้ลงทุนในโครงการนี้หรือเปล่า
เพื่อนคนที่สอง : ผมกำลังคิดดูอยู่ แต่ผมว่ามันแพงไปนิดนะ ผมอาจต่อราคาเขาดูสักหน่อย
เพื่อนคนแรก : จริงอยู่ มันอาจแพงไปหน่อย แต่ผมคิดว่า แพงวันนี้ พรุ่งนี้ไม่แพงนะ
สรุปแล้วเพื่อนผมคนที่สองไม่ได้ซื้อ เพราะเกี่ยงราคา ส่วนเพื่อนคนแรกซื้อไปสองยูนิต โดยใช้เงินกู้จากธนาคารเป็นส่วนใหญ่ ซื้อเสร็จได้ไม่นานก็มีคนมาขอเช่า และยังเช่ามาจนถึงปัจจุบันนี้ วันก่อนเพื่อนคนนี้เล่าให้ฟังว่า เขาผ่อนกับธนาคารเสร็จเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว (เท่าที่ผมทราบ ธนาคารมักกำหนดระยะเวลาของสินเชื่ออาคารพาณิชย์ไว้ที่ไม่เกิน 7 ปี) ราคา ณ วันนี้อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 5 เท่าของราคาที่เขาซื้อในวันนั้น ซ้ำดี (ตรงกันข้ามกับซ้ำร้าย) ค่าเช่าที่เขาได้มา พอๆกับราคาต้นทุนของเขา บวกดอกเบี้ยทั้งหมดที่เขาจ่ายไปให้ธนาคารด้วย ! อะไรจะโชคดีขนาดนั้น ! เขาบอกว่าเสียดายแทนเพื่อนคนที่สอง และแทนผมด้วย ผมก็ปากแข็งตอบไปว่าผมไม่เสียดายหรอกเพราะถือว่าผมไม่มีโชค (แต่จริงๆแล้วผมอยากเตะตัวเองมาก และผมก็รู้ดีว่า มันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับโชคเลย)
ผมมาคิดย้อนถึงคำพูดของเขา แพงวันนี้ พรุ่งนี้ไม่แพง ว่าเป็นจริงแค่ไหน และปัจจัยอะไรที่ทำให้คำพูดนี้เป็นจริง การลงทุนในสิ่งใดก็ตาม ไม่ได้รับรองว่าผู้ลงทุนจะได้กำไรเสมอไป มีคนขาดทุนจากอสังหาริมทรัพย์ถึงขั้นสาปส่งมากมาย และแน่นอน มีผู้ที่กำไรมหาศาลมากมายเช่นกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในอสังหาริมทรัพย์ก็คือทำเล ไม่ว่าทำเลในปัจจุบัน หรือโอกาสที่จะเป็นทำเลในอนาคต เพื่อนผมคนนั้นวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เขาซื้อให้ฟังว่า เขาถือว่าทำเลบนหาดนี้เป็นทำเลเกรดเอเกือบทั้งหมด (แน่นอนว่าไม่ใช่ทั้งหมด) มีแต่ผู้ที่ต้องการมาจับจองค้าขาย และเนื่องจากที่ดินมันไม่สามารถงอกได้ นับวันมันก็จะเหลือให้จับจองเป็นเจ้าของน้อยลง (นอกจากจะต้องจ่ายแพงขึ้นมากตอนหลัง) และประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าเขาไม่รู้ว่าในอนาคต(ของตอนนั้น)จะมีโครงการที่จะสร้างขายเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า เพราะว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่มองออก เจ้าของที่ดินหรือตึกแถวก็ต้องมองออกถึงแนวโน้มที่ราคาจะขึ้นไปมากในอนาคต ซึ่งจะทำให้เจ้าของเหล่านั้นต้องการที่จะให้เช่ามากกว่าขายขาดเป็นแน่แท้ เขาจึงตัดสินใจซื้อไว้โดยไม่ลังเล เพราะคิดว่า ราคาใดก็ไม่แพง สำหรับของดีที่มีน้อย
เมื่อผมผันตัวเองมาเป็นนักลงทุน มีบางสถานการณ์ที่ผมต้องงัดวลีเด็ดนี้ออกมาใช้ ในเมื่อผมยังไม่สามารถที่จะหาบริษัทดีก่อนคนอื่นได้(หุ้นยังราคาถูกถึงถูกมากอยู่เพราะยังไม่มีใครสนใจ) ผมก็ต้องยอมซื้อแพงหน่อย ดังนั้นเมื่อผมเจอหุ้นดีที่เริ่มเป็นที่สนใจและราคาขึ้นมาพอสมควรแล้ว (แพงวันนี้) แต่ผมมองว่าบริษัทยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมาก(ผมต้องศึกษาข้อมูลของบริษัทดีพอที่จะแน่ใจในจุดนี้) ผมก็จะเคาะซื้อทันที* เพราะผมมั่นใจว่าราคาที่ผมเข้าซื้อวันนี้จะถูกกว่าราคาที่มันมีโอกาสจะขึ้นไปในอนาคตอย่างมาก (ไม่แพงเมื่อเทียบกับพรุ่งนี้)
ผมจะไม่สรุปอะไร นอกจากจะขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณให้ดีเมื่ออ่านบทความนี้ เพราะกำไรจะเริ่มต้นตั้งแต่ตอนซื้อ[แพงในวันนี้]ได้เฉพาะต่อเมื่อคุณมองเห็นโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปอย่างมาก(ขอเน้นว่าราคาของหุ้นจะเติบโตตามกำไรของบริษัท) ดังนั้นถ้าคุณซื้อแพงในวันนี้โดยเป็นราคาที่แพงกว่าความเป็นไปได้ของวันพรุ่งนี้ คุณก็คงไม่ได้อะไรนอกจากขาดทุน
ป.ล. สิ่งที่สำคัญที่สุดของอสังหาริมทรัพย์คือทำเล สิ่งที่สำคัญที่สุดของหุ้นคือความสามารถที่ทำกำไร รักษากำไร และเพิ่มกำไรของบริษัท** (ผมว่าจะไม่สรุปแล้วนะ)
* ผมได้แนวคิดการเคาะซื้อจาก บทความ เคาะ ใน Blog ของคุณ yoyo ลองคลิกเข้าไปอ่านดูนะครับ http://thai-value-investor.blogspot.com/ (wednesday, september 27, 2006)
** บทความอีกบทความหนึ่งที่น่าอ่านคือ คุณภาพของกำไร โดยคุณ Invisible hand ครับ หาอ่านได้ที่ http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=16119 ครับ