Thai VI

ผมเคยสงสัยตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วเลยมาตั้งคำถามในนี้ว่า SCC เป็น ณ ปัจจุบัน เป็น cyclical stock หรือไม่ คราวที่แล้วมีคนตอบผมว่า SCC กลายเป็น holding company และมี อุตสาหกรรมหลัก 3-4 อัน ไม่ใช่ บริษัทปูนล้วนๆ แล้ว

แต่เมื่อวานพอดีได้เห็น graph ราคา SCC ที่ปรับตามราคาแตก par แล้วพบว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา SCC ราคาแต่ละรอบกว้างสุดเกือบ 8 ปี พอมาดูราคาปัจจุบัน ก็สูงที่สุดในรอบนี้

ผมเลยขอสงสัยอีกรอบว่า SCC ที่มีอุตสาหกรรมเคมี + ปูน + กระดาษ อยู่ในปัจจุบัน จะลดความเป็น cyclical stock ลงหรือไม่ คือราคาน่าจะแกว่งบ้างตามสมควร หรือรอบนี้ขึ้นมาสุดตามวัฐจักร แล้วก็น่าจะลง กินเวลา 4-7 ปี

ขอบคุณครับ
=========

ถ้าให้เวลาไม่จำกัด หุ้นทุกตัวน่าจะเป็น cyclical หมด แต่ถ้า cycle มันนานมาก และ amplitude มันไม่มาก คนทั่วไปยอมรับให้เป็น defensive มากกว่า เช่น กิจการโรงไฟฟ้าในระยะที่ไม่มีการขยายงานแล้ว เป็นต้น

Holding company ก็เป็น cyclical ได้ แต่รอบเป็นไปตามกิจการหลักที่ถือ ถ้ากิจการที่ถือกระจายออกไปมาก (เช่น Berkshire) รอบจะเป็นรอบของเศรษฐกิจของประเทศ หรือรอบอุปสงค์/อุปทานของตลาดหุ้นเอง (กระทิง/หมี) ซึ่งรอบอันหลังนี่มีแทบทุกหุ้น (จะยกเว้นก็หุ้นที่แทบไม่มีการซื้อขายในตลาดเลย) และคาดเดาการมาและการไปของระยะต่าง ๆ ได้ยาก

ถ้าอย่างนั้นแล้ว SCC ซึ่งเป็น holding company ไปแล้ว จะยังมี effect ของ cyclical จาก อุตสาหกรรมเคมี หรือปูน หรือเปล่าครับ
_________________

แม้จะเป็น Holding company แต่รายได้และกำไรส่วนใหญ่ก็ยังมาจากอุตสาหกรรมเพียงไม่กี่อย่าง กรณีอย่างนี้ SCC ก็ยังมีรายได้และกำไรขึ้นลงผูกพันกับรอบของปิโตรเคมีและปูนอยู่ดีครับ

ตัวอย่าง Conglomerate ที่ใหญ่จริง ๆ (และไม่ใช่ Holding company แทบจะสมบูรณ์อย่าง Berkshire) และอาจจะไม่ขึ้นกับอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมากนัก (แต่ยังขึ้นกับรอบเศรษฐกิจ) น่าจะเป็น General Electric ครับ

ขอบคุณครับ

ผมว่าดู ที่ราคา แล้วบอกว่ามันเป็น cyclical ไม่ได้หรอกนะครับ น่าจะต้องดูที่ผลประกอบการเป็นหลักครับ เพราะ สมมติ ผลประกอบการดี แต่คนมองไม่ดีให้ PE ต่ำ ราคาก็ไม่ไปไหนทั้งๆที่ตัว ธุรกิจอาจจะขาขึ้นก็ตามครับ

kit556 เขียน:ถ้าอย่างนั้นแล้ว SCC ซึ่งเป็น holding company ไปแล้ว จะยังมี effect ของ cyclical จาก อุตสาหกรรมเคมี หรือปูน หรือเปล่าครับ
_________________

คือ SCC ถูก effect ของ cyclical ในอตุสาหกรรมที่ทำอยู่ เพราะอุตสาหกรรมปูน เคมี และกระดาษ อยู่ในตลาดแข่งขันเกือบสมบูรณ์ (ราคาคือปัจจัยหลัก สินค้าไม่มีความแตกต่าง)

การดูธุรกิจแบบนี้ดูที่ต้นทุน และทิศทางการบริหาร  :o  :o

เพราะ สมมติ ผลประกอบการดี แต่คนมองไม่ดี

ทำไมอย่างนั้นละครับ แสดงว่าไม่ดีจริงละมัง

chansaiw เขียน: ทำไมอย่างนั้นละครับ แสดงว่าไม่ดีจริงละมัง

หมายถึงในบางช่วงเวลา อะครับ แบบเกิด เหตุการณ์ต่างๆ เช่น สงคราม, ศก.ตกต่ำ หรือ อื่นๆ ที่มีผลทางด้านจิตวิทยา ทำให้ราคาลงไปโดยผลประกอบการก็ไม่ได้แย่ลงไงครับ เอาง่าย ช่วงปลายปีก่อนถึงต้นปีนี้ก็น่าจะเห็นได้ชัดแล้วนะครับ

ที่ผมหมายถึงคือ ไม่ควรดูราคาอย่างเดียวมาบอกหนะครับ น่าจะดูที่ผลประกอบการของ ธุรกิจ เป็นหลัก จะได้เห็น วัฎจักรของมันนะครับ

ชอบฟังครับ  

เอาอีก  ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ