ไม่เห็นมีใครพูดถึงข่าวนี้เลย
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 17, 2007 10:44 pm
เห็นเคยบ่นๆอยากลงทุนนอกกันหลายคน น่าจะเป็นข่าวดีนะครับ อนาคตเราคงมีทางเลือกมากขึ้น
ไฟเขียวลงทุนนอกคนละ 5 ล.ดอลล์
กระจายความเสี่ยง-รับผลกำไร
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขา ธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ออกเกณฑ์ใหม่โดยอนุญาตให้บุคคลธรรมดาไปลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศได้ รายละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และให้สถาบัน คือ กองทุนรวม มูลนิธิ สหกรณ์ และประกันชีวิต ลงทุนได้ไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยคาดว่า เกณฑ์ใหม่ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ในต้นเดือน ก.ย.นี้ เพราะในปัจจุบัน ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ระหว่างร่างประกาศใหม่ จากเดิมที่ไม่เคยอนุญาตให้บุคคลธรรมดาลงทุนในต่างประเทศ โดยวงเงินที่ ธปท.อนุมัติให้ไปลงทุนต่างประเทศ มีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การลงทุนต่างประเทศจะส่งผลดีต่อนักลงทุนไทย ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงใน การลงทุน และเพิ่มผลตอบแทนมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้ลงทุนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศสูงถึง 120,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5% ของเงินฝากทั้งระบบ ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มียอดเงินฝากในธนาคาร 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อมูลนิธิและสหกรณ์ทั่วประเทศ ประกันชีวิตที่มียอดเงินออมในระบบ 700,000 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ จะต้องเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีการกำกับดูแลโดยหน่วยในต่างประเทศ พันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาล ใบรับ ฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ กองทุนรวมดัชนี อีทีเอฟ และต้องไม่เป็นตราสารที่มีความซับซ้อนมากเกินไป โดยให้ลงทุนผ่าน บล.ไทยสั่งคำซื้อหลักทรัพย์ไปยัง บล.ต่างประเทศ และอนุญาตให้นำหลักทรัพย์ต่างประเทศมาซื้อขายในตลาด หุ้นไทยได้ แต่ต้องขายให้เฉพาะกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มสินค้าในตลาดทุนไทย และส่งผลดีต่อธุรกิจของ บล. มากขึ้น
บุคคลไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะไปลงทุนต่างประเทศได้ และไม่มีความเสี่ยงสูงแต่อย่างใด เพราะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลก่อนลงทุนได้ทุกครั้ง แต่หากไม่มีความมั่นใจก็ควรเข้าไปลงทุนผ่านกองทุนรวมส่วนบุคคลที่จะมีคำแนะนำให้แก่ผู้ลงทุน ส่วนหลักทรัพย์ที่มีความซับซ้อนมาก ก.ล.ต. ก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปลงทุน
นอกจากนี้ ก.ล.ต. เห็นว่าการออกไปลงทุนต่างประเทศ จะไม่เป็นช่องทางเก็งกำไรค่าเงินบาท เพราะ บล.ต้องรายงานธุรกรรมการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดให้แก่ ธปท.และต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ใหม่ที่ ธปท.จะออกมาบังคับใช้ด้วย แต่หากพบการเข้าไปเก็งกำไรค่าเงินบาท ก.ล.ต. พร้อมลงโทษนักลงทุนทันที
นายธีระชัย กล่าวถึง ปัญหาหนี้เสีย ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา หลังจากธนาคารพาณิชย์ไทยเข้าไปลงทุนในตราสารซีดีโอว่า ก.ล.ต.จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่บัญชีให้เข้าไปตรวจสอบงบการเงิน ของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีรายได้เข้าไปลงทุนยังตราสารดังกล่าว เพื่อให้บันทึกงบการเงินตามราคาตลาด โดยคาดว่า งบการเงินในไตรมาสที่ 3 จะพบว่า ธนาคารพาณิชย์ใดมีผลขาดทุนบ้าง ส่วนกองทุนรวมของไทยไม่มีรายใดเข้าไปลงทุนในตราสารซีดีโอ.
ไฟเขียวลงทุนนอกคนละ 5 ล.ดอลล์
กระจายความเสี่ยง-รับผลกำไร
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขา ธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้ออกเกณฑ์ใหม่โดยอนุญาตให้บุคคลธรรมดาไปลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศได้ รายละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และให้สถาบัน คือ กองทุนรวม มูลนิธิ สหกรณ์ และประกันชีวิต ลงทุนได้ไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยคาดว่า เกณฑ์ใหม่ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ในต้นเดือน ก.ย.นี้ เพราะในปัจจุบัน ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่ระหว่างร่างประกาศใหม่ จากเดิมที่ไม่เคยอนุญาตให้บุคคลธรรมดาลงทุนในต่างประเทศ โดยวงเงินที่ ธปท.อนุมัติให้ไปลงทุนต่างประเทศ มีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ การลงทุนต่างประเทศจะส่งผลดีต่อนักลงทุนไทย ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงใน การลงทุน และเพิ่มผลตอบแทนมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้ลงทุนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศสูงถึง 120,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5% ของเงินฝากทั้งระบบ ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มียอดเงินฝากในธนาคาร 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อมูลนิธิและสหกรณ์ทั่วประเทศ ประกันชีวิตที่มียอดเงินออมในระบบ 700,000 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ จะต้องเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีการกำกับดูแลโดยหน่วยในต่างประเทศ พันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาล ใบรับ ฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ กองทุนรวมดัชนี อีทีเอฟ และต้องไม่เป็นตราสารที่มีความซับซ้อนมากเกินไป โดยให้ลงทุนผ่าน บล.ไทยสั่งคำซื้อหลักทรัพย์ไปยัง บล.ต่างประเทศ และอนุญาตให้นำหลักทรัพย์ต่างประเทศมาซื้อขายในตลาด หุ้นไทยได้ แต่ต้องขายให้เฉพาะกองทุนรวม และกองทุนส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มสินค้าในตลาดทุนไทย และส่งผลดีต่อธุรกิจของ บล. มากขึ้น
บุคคลไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะไปลงทุนต่างประเทศได้ และไม่มีความเสี่ยงสูงแต่อย่างใด เพราะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลก่อนลงทุนได้ทุกครั้ง แต่หากไม่มีความมั่นใจก็ควรเข้าไปลงทุนผ่านกองทุนรวมส่วนบุคคลที่จะมีคำแนะนำให้แก่ผู้ลงทุน ส่วนหลักทรัพย์ที่มีความซับซ้อนมาก ก.ล.ต. ก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปลงทุน
นอกจากนี้ ก.ล.ต. เห็นว่าการออกไปลงทุนต่างประเทศ จะไม่เป็นช่องทางเก็งกำไรค่าเงินบาท เพราะ บล.ต้องรายงานธุรกรรมการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศของลูกค้าที่มีอยู่ทั้งหมดให้แก่ ธปท.และต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ใหม่ที่ ธปท.จะออกมาบังคับใช้ด้วย แต่หากพบการเข้าไปเก็งกำไรค่าเงินบาท ก.ล.ต. พร้อมลงโทษนักลงทุนทันที
นายธีระชัย กล่าวถึง ปัญหาหนี้เสีย ภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา หลังจากธนาคารพาณิชย์ไทยเข้าไปลงทุนในตราสารซีดีโอว่า ก.ล.ต.จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่บัญชีให้เข้าไปตรวจสอบงบการเงิน ของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีรายได้เข้าไปลงทุนยังตราสารดังกล่าว เพื่อให้บันทึกงบการเงินตามราคาตลาด โดยคาดว่า งบการเงินในไตรมาสที่ 3 จะพบว่า ธนาคารพาณิชย์ใดมีผลขาดทุนบ้าง ส่วนกองทุนรวมของไทยไม่มีรายใดเข้าไปลงทุนในตราสารซีดีโอ.