Thai VI

1. TPIPL 44.00
2. Kbank 58.00
3. TT&T 5.85
4. ATC 71.50
5. PTTEP 288

อีก 6 เดือนข้างหน้า จะเป็นเช่นไร

PTTEP ยอดขายจะเพิ่มจากแหล่ง S1 จาก 25% เป็น 100%
ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องดูราคาน้ำมันในตลาดด้วยว่าเป็นไง
BV น่าจะเพิ่มขึ้นจากการเจาะสำรวจเพิ่ม แต่กว่าจะขึ้นมาขายได้ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่

ไม่มีความเห็นครับ แต่เป็นหุ้นช้างกะลูกช้างทั้งนั้นเลยนะครับ
ส่วนตัวแล้วชอบ PTTEP, KBank, TPIPL
ATC น่าจะดีตามอุตหกรรมเคมีขาขึ้น คุณส้มจุกก็นอนยันมาอย่างนั้น
TT&T งดออกเสียงครับ
แหม อาจารย์เจ๋ง พูดถึงตั้ง 5 ตัวคราวเดียวกัน
ผมคงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดครับ

อย่างที่พี่เจ๋งทราบว่าผมหลงรักแบงก์อยู่ อิอิ เลยมีข้อมูลมาฝาก สำหรับแบงก์

http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... nk_npl.pdf

ธนาคาร : สินเชื่อ, เงินฝาก และ NPL เดือนธันวาคม 2546

เปรียบเทียบเดือน พ.ย.2546 กับเดือน ธ.ค.2546

- ธนาคารที่มีปริมาณสินเชื่อเพิ่มขึ้น : BOA, KBANK, BBL, BAY, SCB, KTB, TMB
- ธนาคารที่มีปริมาณสินเชื่อลดลง : DTDB, BT, NBANK
- ธนาคารที่มีอัตราสินเชื่อต่อเงินฝาก (LTDR) เพิ่มขึ้น : BAY, BBL, KBANK, DTDB
- ธนาคารที่มีอัตราสินเชื่อต่อเงินฝาก (LTDR) ลดลง : TMB, BT, KTB, BOA, NBANK, SCB
- ธนาคารที่มีส่วนของผูถือหุ้นเพิ่มขึ้น : BBL, SCB, KBANK, NBANK, TMB, KTB, DTDB, BOA
- ธนาคารที่มีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง : BT, BAY
- ธนาคารที่แนะนํา ซื้อ : BAY, BBL, KBANK, KTB, SCB, SCIB

Jeng เขียน:1. TPIPL 44.00
2. Kbank 58.00
3. TT&T 5.85
4. ATC 71.50
5. PTTEP 288

อีก 6 เดือนข้างหน้า จะเป็นเช่นไร

อีกหกเดือนไม่รู้ครับ
รู้แต่ว่า
TPIPL เพิ่มทุนแล้ว ฐานะการเงินดีขึ้นผิดหูผิดตา
Kbank เป็นแบงค์ที่ประสิทธิภาพสูงที่สุดดูได้จาก ROE สูงมากหลายปีติด
TT&T ได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีโทรคมนาคม เช่น การยกเลิกค่าสัมปทาน
ATC ปิโตรเคมีกำลังของขึ้น ขึ้นทุกอย่างทั้งราคาสินค้า ทั้งกำลังการผลิต
PTTEP นอนมาอยู่แล้ว อิ อิ

แล้วพี่เจ๋งล่ะ เชียร์ตัวไหน

ผมมี KBANK ต้นทุน 56.5 ว่าจะถือหลายๆเดือนแต่ไม่แน่ใจว่าคิดถูกไม๊ เพราะมันวิ่งไป 65 มา 2 รอบแล้ว ไม่ขาย ตอนนี้มา 58 แล้ว ท่านๆมองว่าไงครับ

มอง KBANK เป็น double top ได้หรือเปล่าครับ
อย่างไรก็ตามผมเห็น SET เป็น Head&Shoulder แล้วอะ หุๆๆๆ

ผมมองไว้ 700 +/- ครับ ไม่รู้จะได้เห็นหรือเปล่าเหมือนกัน

ไอ้หยา!!! คุณคัดท้ายคิดว่ามันจะถอยกันไปตรงนั้นเลยเหรอครับเนี่ย อย่างนี้ ช่วงวันศุกร์เช้าที่ผ่านมานี้ ใครเข้าไปก็อาจผิดหวังเล็กน้อยได้เลย

เห็นด้วยครับคุณคัดท้าย ที่ผ่านมาลากหุ้นกันเป็น wave ใหญ่ๆ ปรับฐานครั้งนี้ลงไปซัก 700 ค่อยเด้งดูจะสมส่วนดีครับ



หุๆๆ หัดแปะรูป

มี KBANK ตัวเดียวเองครับ ในกลุ่มนี้

อีก 6 เดือนข้่างหน้า ประเมิน (เอาเอง) ว่า ราคาน่าจะขึ้นไปถึง 80 บาทได้นะครับ

รอลงต่ำอยู่เหมือนกันครับ จะซื้อเพิ่ม...

ผมสนใจJAS ใกล้เคียงกับTT&Tที่ซัดไปแล้ว

เมื่อคืนดูงบ9เดือนแล้ว ตัดกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว PEก็ยังต่ำในระดับ 3 - 4 เท่า PBVไม่สูงนักระดับ 2 กว่าๆ กระแสเงินสดเป็นบวกซะด้วย ต้องยอมรับว่าเป็นก้นบุหรี่ที่ผมสนใจตัวหนึ่ง

ที่คุยกันผมมีอยู่3ใน2ครับ

สวัสดีครับ พี่ๆทุกคน
ผมพึ่งได้ทดลองเข้ามาอ่านเวปบอร์ดนี้เป็นครั้งแรก แล้วก็พึ่งเริ่มศึกษาเกี่ยวกับเรื่องหุ้นต่างๆ ทั้งทางด้านเทคนิค และด้านพื้นฐาน แต่สังเกตุเห็นว่าพวกพี่ๆ ทุกท่านจะพูดถึงแต่ PTTEP แต่ไม่เห็นพูดถึง ตัว PTT เลย (ผมก็สนใจหุ้นที่มีพื้นฐานดีอยู่เหมือนกันครับ อยากได้ไว้นานๆ สัก 1-2 ตัว แต่งบน้อย) ผมจึงรู้สึกแปลก ๆ นะครับ ไม่ทราบว่า ถ้าผมมีปัญญาแค่เพียงเก็บสะสม PTT (ซึ่งเห็นวิเคราะห์ไม่มากเท่าไหร่ สู้ PTTEP ไม่ได้) ไม่ทราบว่าจะดีหรือเปล่า ฝากผู้รู้ทุกท่านช่วยตอยหน่อยครับ (เป็นไปได้อยากได้บทวิเคราะห์ด้วยครับ)
คำถามผมอาจจะงงๆ ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย สงสัยนะครับไม่ค่อยมีคนพูดถึง
ขอแสดงความนับถือทุกท่านครับ

ผมไม่มีเลยซักตัวครับ แต่ดูแล้ว OK ทุกตัว ยกเว้น TT&T ดูแล้วตะหงิดๆ แต่เห็นผู้รู้อย่างพี่วิบูลย์ พี่มน ดูเชื่อมั่นมาก ทำเอาผมเขวเหมือนกัน ทั้งๆที่ผมทำงานใน Industry นี้แท้ๆ ข้อมูลในมือก็มีเยอะพอควร
โดยเฉพาะเรื่องสัมปาทานเนี่ย TOT ไม่ยอมให้ทั้ง TA และ TT&T ง่ายๆหรอกครับ เพราะเป็นเรื่องทางกฎหมายของคู่สัญญากับ TOT 2 ฝ่ายเท่านั้น แม้กระทั่ง Gov. ก็มาบังคับยาก นอกจากจะสรรหา CEO ใหม่มาดำเนินการเพราะทั้งหมดขึ้นกับCEO เป็นคนลงนาม ตอนนี้ยังหา CEO ใหม่ไม่ได้เลยครับ คงกั๊กกันอยู่ ไหนจะสหภาพแรงงานก็หึ้มๆอยู่

ถ้าง่ายนะพี่ TOT เลิกสัมปาทานและ IPO ไปนาน 2 นานแล้วครับ
อีกอย่าง การมี กทช. ก็ไม่ใช้ว่า TA และ TT&T จะขึ้นอัตราค่าบริการได้ตามใจชอบ กทช. คงนำระบบ Price Cap มาใช้ โดยประเมินประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การลดต้นทุนต่างๆ ซึ่งบางทีอาจจะต้องลดค่าบริการด้วยซ้ำในบางปี ถ้าประสิทธิภาพในการดำเนินงานแย่ โดนในโมเดลก็จะมี factor ต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เงินเฟ้อ เป็นต้น

ที่สำคัญผลการศึกษาในต่างประเทศ Regulator (บ้านเราอนาคตก็คือ กทช.) จะทำ Price Cap เฉพาะกลุ่ม Fixed Line เท่านั้น ไม่ Cap กลุ่ม Mobile เพราะมองว่าตลาดมีการแข่งขันอยู่แล้ว ทำให้กลุ่ม Mobile มีอิสสระในการดำเนินธุรกิจที่คล่องตัวกว่า

ปตท ก้อดีนะครับ p/e ก้อไม่แพงมาก แต่ที่เค้าพูดเรื่อง พี่เทพกันเยอะเพราะว่าพี่เทพแกดีกว่าปตท. จริงๆ ในเรื่องธุรกิจนะครับ ไม่ใช่เรื่องราคาหุ้น ผมคงไม่กล้าบอกว่าตัวไหนถูกกว่าตอนนี้

ปตท แยกแยะกันจริงๆ มีธุรกิจอยู่ดังนี้ครับ

- โรงกลั่นน้ำมัน เช่น Thai Oil และ บางจาก เชื่อมั้ยว่าโรงกลั่นนี่ขาดทุนตลอดศกครับ ทำงัยๆ ก้อไม่ได้กำไร เฮ้อ เศร้า
- ปั้มน้ำมัน ปตท มีปั้มเยอะที่สุดประมาณ 1600 ปั้ม แต่ปั้มเนี่ย รายได้เป็นแสนเป็นล้าน margin แค่เศษสตางค์ครับ ต้องหากินกับพวกสะดวกซื้อ สะดวกซื้อของปตท ก้อกลายเป็น CP7-11 ไปซะแล้วได้แต่ค่าเช่าครับ ระยะเวลาคืนทุนของปั้มๆ นึงก้อหลายปีอยู่
- ธุรกิจแก็สและท่อแก็ส อันนี้สิ ขุมทองที่แท้จริงของปตท ราคาที่ขึ้นของแก็ส ทำให้รายได้จากแก็สที่ซื้อจาก พี่เทพ มีเป็นกอบเป็นกำทีเดียว
- อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เช่น TOC NPC ก้อดีสำหรับปตท เพราะราคาเคมีที่แพงหูดับตับไหม้

สรุปกันจริงๆ แล้ว ธุรกิจทำกำไรของปตท อยู่ที่แก็สธรรมชาติกับปิโตร ครับ น้ำมันจริงๆ กำไรไม่เยอะเท่าหรอกครับ

ปตท สผ คงไม่ต้องพูดถึงสรรพคุณ มียอดฝีมือหลายท่านกล่าวไปแล้ว

คุณ aye นี่เก่งจริงๆๆ ไว้มีอะไรงงมาขอถามบ้างดีกว่า

คุณ Aye ครับ ไทยออยล์กำไรถล่มทลายครับ ปีที่แล้วคาดว่ากำไรสุทธิ
เกือบ 8 พันล้านบาททีเดียวนะครับ

หลังปรับโครงสร้างหนี้เสร็จก็จะดันเข้าตลาดกันยาปีนี้ครับ

ธุรกิจของ Thai Oil เองนับว่าดีวันดีคืน เป็นการทำธุรกิจแบบ cost plus
ครับ คือรับจ้างปตท. และ Caltex กลั่นน้ำมัน ราคาน้ำมันขึ้นลง จะไม่มี
ผลกับผลการดำเนินงาน (มาก) นัก

Assets และจุดขายของ Thai Oil คือโรงกลั่นและพนักงานครับ เป็นธุรกิจ
เกือบผูกขาด เท่าที่ได้ยินก็มี Esso, Jet, และ Q8 ที่มีโรงกลั่นของตัวเอง

หุ้นที่เลือกมาแต่ละตัวมีปัจจัยพื้นฐานดีๆทั้งนั้นเลยครับ คุณพี่ Jeng
ถ้าให้เลือกสัก ๒ ตัว คงอยากได้ KBANK กับ PTTEP มาถือไว้บ้าง
แต่ราคาที่เข้าซื้อคงต้องเป็นช่วงตลาดปรับตัว (ก็ช่วงข่าวไข้หวัดนก
นี่แหละครับ พอจะซื้อเก็บสะสมได้)

อืมคงจะจริงครับถ้าเค้าคิดแบบ cost plus นะครับพี่ CK แต่ถ้าเค้าต้องบริหารเองแบบโรงกลั่นทั่วๆไป โดยมากจะขาดทุนแหละ อันนี้ผมได้ข้อมูลมาจากบริษัทต่างชาติที่เข้ามาขายน้ำมันในเมืองไทยครับ เอแล้วที่ว่ากำไร 8 พันล้านบาทนี่มาจากการปรับโครงสร้างหนี้เหรอเปล่าครับพี่

บางจากไม่มีโรงกลั่นเหรอครับ JET นี่ไม่มีแน่ๆ เท่าที่รู้นะ มี ESSO กับ CALTEX (ร่วมทุนกับ shell มั้ง ชื่อ Star Petroleum) Q8 มีโรงกลั่นด้วยเหรอไม่ทราบแฮะ

Refineries in Thailand:

Thai Oil
ESSO
Bangchak
TPI
SPRC by PTT+Caltex
RRC by PTT+Shell

Thai Oil is the biggest in term of capacity

SPRC & RRC has formed an alliance operation namely ARC (Alliance Refining Company)

Sorry one more:

RPC is having condensate splitter plant similar to TPI's first oil plant.