หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 13, 2007 10:36 am
โดย ลูกอิสาน
ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า (Value Investment)กับความเห็นของผู้เขียน..




ความเชื่อ : นักลงทุน VI นิยมลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง

ความเห็น : เมื่อนักลงทุน VI จะลงทุนในหุ้น ต้องพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานต่างๆของกิจการ โดยที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น และที่จริงไม่ควรจะเป็นปัจจัยหลัก แม้ว่าโดยส่วนใหญ่หุ้นที่จ่ายปันผลสูงจะมีความเสี่ยงที่ราคาจะลดลงต่ำกว่าหุ้นที่จ่ายปันผลน้อย และเงินปันผลจะเป็นกับดัก หากเป็นเงินปันผลที่ไม่มีคุณภาพ เช่น จ่ายในระดับสูงเมื่อเทียบกับกำไรที่ทำได้ ในขณะที่กิจการยังต้องการเงินทุน เงินปันผลที่จ่ายจากกำไรที่ทำได้สูงกว่าปกติ หรือเงินปันผลจากกิจการที่ความสามารถในการทำกำไรในอนาคตลดลง   หากนักลงทุนสบายใจที่จะลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง สิ่งที่ต้องมองหาคือความยั่งยืนและคุณภาพของเงินปันผล





ความเชื่อ : นักลงทุน VI นิยมลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ

ความเห็น : นักลงทุน VI ลงทุนในหุ้นโดยตัดสินใจจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการ สภาพคล่องในการซื้อขายไม่ควรจะเป็นประเด็นหลัก แต่เนื่องจากหุ้นเหล่านี้มีคนซื้อ คนขายน้อย มีความเสี่ยงที่เมื่อนักลงทุนต้องการขายอาจจะไม่มีคนรับซื้อ หรือขายได้ในราคาต่ำๆ ดังนั้นหากนักลงทุนพิจารณาลงทุนในหุ้นเหล่านี้  ควรเป็นการลงทุนระยาว และต้องมั่นใจในพื้นฐานของกิจการ และซื้อในราคาที่มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย(Margin of safety) มากกว่าปกติ





ความเชื่อ : นักลงทุน VI ถือหุ้นระยะยาว ซื้อหุ้นแล้วไม่ขาย ถือไปตลอดชีวิต

ความเห็น : นักลงทุน VI จะซื้อหุ้นที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และจะขายเมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึงหรือเกินกว่าราคาที่ควรจะเป็น ดังนั้นการซื้อหรือขาย ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นในตลาดกับมูลค่าที่เหมาะสม  ระยะเวลาในการถือหุ้นไม่ควรมีหลักเกณฑ์ตายตัว   ในความเป็นจริงเมื่อนักลงทุนซื้อหุ้นและรอให้ตลาดรับรู้มูลค่า ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน เพราะพื้นฐานของกิจการต้องอาศัยระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้ดูเสมือนว่านักลงทุนมักถือหุ้นระยะยาว




ความเชื่อ : นักลงทุน VI ต้องเรียนสูง มีความฉลาดทางปัญญา(IQ) ระดับสูง

ความเห็น : เชื่อกันว่าระดับ IQ มีผลต่อการลงทุนบ้าง แต่สิ่งที่จำเป็นมากกว่าคือนักลงทุนต้องพัฒนาให้มีความฉลาดทางอารมณ์(EQ) สูง เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากความฉลาดของปัญญาหรือ IQ ได้เต็มที่ นักลงทุนที่โดดเด่นจะมีทั้ง IQ และ EQ สูง   ส่วนทักษะที่จำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อนำมาใช้ในการลงทุน ควรรู้คณิตศาสตร์เบื้องต้น รู้ภาษาธุรกิจซึ่งก็คือการบัญชีเบื้องต้น และควรจะสามารถวิเคราะห์โดยใช้เหตุและผลได้ดี โดยที่ความรู้เช่นนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนสูงๆหรือจบจากสถาบันดีๆ แล้วจะทำได้ดีกว่า




ความเชื่อ : นักลงทุน VI ไม่ลงทุนในวอร์แรนต์

ความเห็น : วอร์แรนต์คือตราสารแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้นในอนาคตตามเงื่อนไขบางประการ ดังนั้นวอร์แรนต์ควรจะได้รับการประเมินมูลค่าบนบรรทัดฐานเดียวกับการประเมินมูลค่าหุ้น หากวอร์แรนต์มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น ก็ไม่มีเหตุผลใดที่นักลงทุน VI จะไม่ลงทุน แต่สิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนลงทุนคือวอร์แรนต์เป็นตราสารอนุพันธ์ซึ่งอ้างอิงอยู่กับราคาหุ้นแม่ แต่จะมีความผันผวนมากกว่า เพราะคุณสมบัติของอัตราการทวีผล(Gearing)   กิจการที่มีการเพิ่มทุนโดยการออกวอร์แรนต์หรือเพิ่มทุนโดยตรง จะไม่ทำให้นักลงทุนเสียหาย หากกิจการสามารถที่จะสร้างกำไรเพิ่มชดเชยผลกระทบจากที่มีหุ้นเพิ่ม(Dilution Effect) หรือจะดียิ่งกว่าหากกิจการนำเงินไปลงทุนได้ผลกำไรสูงกว่าต้นทุนเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น





ความเชื่อ : หุ้น VI ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของผลกำไรต่ำแต่มั่นคง

ความเห็น : หลักการของการลงทุนแบบ VI คือการซื้อหุ้นที่มูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นไม่ว่าหุ้นนั้นจะเป็นหุ้นเติบโตสูง (Growth Stock) หุ้นวัฏจักร(Cyclical Sstock) หุ้นสินทรัพย์มาก (Asset play) หรือหุ้นมั่นคง (Defensive Stock) ควรจะได้รับการพิจารณาเหมือนๆกันในแง่ความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่นักลงทุนจะจ่าย  แต่สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนควรเข้าใจคือหุ้นที่แตกต่างกัน ไม่สามารถที่จะวัดความถูกหรือแพงโดยใช้อัตราส่วนทางการเงินตัวเดียวกัน เช่นการใช้อัตราส่วน ราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (PE Ratio) หุ้นทั่วๆไป ค่าพีอีที่ต่ำแสดงว่าหุ้นตัวนั้นราคาถูก แต่หากเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูง ค่าพีอีที่ไม่สูงกว่าการอัตราการเติบโตของผลกำไร ก็ถือว่าหุ้นราคาถูกเช่นกัน ในขณะที่การใช้ค่าพีอีกับหุ้นที่เป็นวัฏจักรจะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม คือค่าพีอีที่สูงแสดงว่าหุ้นอาจจะกำลังอยู่ในภาวะที่ควรลงทุน เป็นต้น





ความเชื่อ : การลงทุนในหุ้นสามัญเป็นการเสี่ยง แม้ลงทุนแบบ VI ก็มีความเสี่ยง


ความเห็น : เป็นความจริงที่ว่าการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงที่สุดคือการไม่ลงทุนอะไรเลย เพราะเงินเฟ้อจะลดอำนาจซื้อของเงินอยู่ตลอดเวลา หากเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป การลงทุนฝากเงินธนาคารที่มีความเสี่ยงการลดลงของเงินต้นต่ำ  อาจจะเพียงพอที่จะใช้ชีวิตแบบพอเพียง และอาจจะต้องกระเบียดกระเสียรในชีวิตหลังเกษียณ  หากต้องการแสวงหาคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ทุกคนควรแบ่งเงินลงทุนในหุ้นบ้างตามความสามารถในการรับความเสี่ยง  หากมีการกระจายการลงทุนในหุ้นที่เหมาะสม ความเสี่ยงที่เงินลงทุนจะกลายเป็นศูนย์จะเท่าๆกับความเสี่ยงที่เงินฝากในธนาคารจะกลายเป็นศูนย์เช่นกัน และหากถึงวันนั้นจริง เงินที่ฝั่งตุ่มไว้ก็คงมีค่าเพียงเศษกระดาษเท่านั้น

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 13, 2007 12:01 pm
โดย Raphin Phraiwal
:bow: :bow: :bow:
ขอบคุณมากครับพี่

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 13, 2007 12:30 pm
โดย humdrum
:P

   what's an idea.
 ผมอ่านแล้วรู้สึก "ได้คิด" ที่ว่าได้คิด แต่ไม่ใช่ "คิดได้" เพราะว่าอ่านเรื่องพี่ลูกอีสานแล้วสามารถต่อยอดและทำให้อยากค้นคว้าหาคำตอบใหม่ ๆ และเมื่อเราเริ่มค้น เราก็ได้ความสนุกที่จะคอยหล่อเลี้ยง "พลัง" แห่งการเรียนรู้การลงทุนเน้นคุณค่าต่อไป ส่อว่า.....การนำเสนอในแนวใหม่ๆ มันยังไม่ตายนะ
   ส่วน "คิดได้" ส่อว่า เราคิดออก เราเข้าใจแล้ว ไม่ต้องมาบอกฉันนะ ซึ่งนั้นเป็นเรื่องดี แต่มันต่อยอดไปไหนไม่ได้  และไม่สำคัญเท่ากับ "ได้คิด" เพราะ การได้คิด สะท้อนว่าจิตวิญญาณแห่งการลงทุนของเรายังไม่มอดสลาย เพราะวันใดวันหนึ่ง "พลัง" นั้นมันก็ต้องจากเราไปและไม่อยู่กับใครไปตลอดชีวิต  

   ขอบคุณคุณลูกอีสาน ที่มอบอิสระในความคิดใหม่ ๆ ใต้ฟ้าการลงทุนเน้นคุณค่านี้ จะหานักคิด นักสู้ และนักลงทุนคนไหนที่พิสูจน์ตัวเองมานานจนทุกคนยอมรับ นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย หรือเรื่องบังเอิญ

         :pray:

ขอบคุณครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 13, 2007 1:56 pm
โดย chartchai madman
ขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่แบ่งปันครับ

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 13, 2007 2:30 pm
โดย numyak
ขอบคุณมากครับ คุณลูกอิสาน นําประสพการณ์การลงทุนมาบอกเล่าให้ฟัง
อาหารสมองที่ดีๆเกี่ยวกับการลงทุนที่ถูกต้องจะไปหาที่ไหนได้ถ้า
ไม่ใช้ web thaivi

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 13, 2007 3:48 pm
โดย August
ขอบคุณครับ
  :bow:

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 13, 2007 9:28 pm
โดย nam
ขอบคุณมากครับ คุณลูกอีสาน

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 03, 2007 8:33 pm
โดย ลูกอิสาน
วันนี้ ดร.นิเวศน์ท่านเขียนบทความที่น่าจะเข้ากับกระทู้นี้ครับ ผมเลยขออนุญาตินำมารวมอยู่ด้วยกัน.. :D


หลายคำถามกับหุ้นคุณค่า
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 4 กันยายน 2550


                เมื่อเร็ว ๆ นี้  ผมได้รับเชิญให้ไปออกรายการทีวีทาง Money Channel ของตลาดหลักทรัพย์ หัวข้อสนทนาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าและเป็นการโปรโมตหนังสือเล่มล่าสุดของผมชื่อ รวยหุ้นอย่างพอเพียง ผมเห็นว่าคำถามที่พิธีกรตั้งให้นั้น เป็นคำถามที่คนมักจะสงสัยหรือถามผมอยู่เนือง ๆ   บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับหุ้นคุณค่า   ดังนั้นผมจึงคิดว่าคงจะมีประโยชน์ที่จะนำมาเขียนไว้ในที่นี้

              คำถาม:  หุ้นคุณค่าหมายถึงหุ้นแบบไหน มีหลักเกณฑ์ตายตัวไหมว่าหุ้นแบบไหนถึงเรียกว่าหุ้นคุณค่า

               คำตอบ:  หุ้นคุณค่าหมายถึงหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานของกิจการ  ซึ่งมูลค่าพื้นฐานนี้จะต้องมีการคิดคำนวณอย่างละเอียดรอบคอบ  นักลงทุนเน้นคุณค่าหรือ Value Investor ที่เชี่ยวชาญจะต้องคิดและคำนวณหามูลค่าพื้นฐานเป็น  โดยทางทฤษฎี  มูลค่าพื้นฐานของกิจการนั้นจะคิดมาจากกระแสเงินสดรับที่เราจะได้รับจากกิจการในอนาคต   แต่โดยทั่วไป  เวลาพูดถึงหุ้นคุณค่า  เรามักจะพิจารณาว่าหุ้นที่มีราคาถูกเป็นหุ้นคุณค่าโดยไม่ค่อยคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐาน   เช่น  ถ้าบริษัทมีกำไร  ก็ดูว่าหุ้นต้องมีค่า PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดมาก  ยิ่งต่ำมากก็ยิ่งดีเรียกว่าเป็นหุ้น Value มาก   นอกจากค่า PE  บางคนก็ดูค่า PB หรือราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีด้วยโดยเฉพาะในกรณีที่บริษัทขาดทุน   นั่นก็คือ  ยิ่งค่า PB ต่ำเทียบกับหุ้นในตลาดโดยเฉลี่ยก็ยิ่งถือว่าเป็นหุ้น Value มาก  สรุปง่าย ๆ  หุ้นที่มีค่า PE  และ/หรือ PB ต่ำมักจะถือว่าเป็นหุ้นคุณค่า

              คำถาม:  นักลงทุนในหุ้นคุณค่ามีลักษณะแบบไหน แตกต่างกับนักลงทุนที่เน้นหุ้นปันผลหรือไม่

               คำตอบ:  นักลงทุนหุ้นคุณค่ามักจะเน้นซื้อหุ้นที่มีราคาถูกเช่นซื้อหุ้นที่มีค่า PE  และ/หรือ PB ต่ำถึงต่ำมาก  ส่วนนักลงทุนที่เน้นหุ้นปันผลก็จะเน้นซื้อหุ้นที่ให้ปันผลสูงเมื่อเทียบกับราคาหุ้นหรือที่เรียกว่า Dividend Yield สูง   ในความเป็นจริง  หุ้นที่มีค่า PE ต่ำจำนวนมากมักจะมี Dividend Yield สูงด้วย  และนักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากก็ชอบหุ้นที่ให้ปันผลตอบแทนสูงเหมือนกัน   ดังนั้นอาจจะพูดได้ว่านักลงทุนหุ้นปันผลก็เป็นกลุ่มย่อยกลุ่มหนึ่งของนักลงทุนเน้นคุณค่า   แต่นักลงทุนเน้นคุณค่าจำนวนมากก็ไม่ได้เน้นหุ้นที่ให้ปันผลสูง

              คำถาม:  ทำไม ดร. ถึงเลือกที่จะใช้วิธีลงทุนแบบ Value Investment ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นคุณค่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร

               คำตอบ:  วิธีนี้เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่ดี ผลตอบแทนการลงทุนที่ผ่านมา 10 ปี สูงถึงประมาณ 38% ต่อปีโดยเฉลี่ยแบบทบต้น    แต่นั่นเป็นเพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้นเป็นช่วงที่โอกาสการลงทุนสำหรับหุ้นคุณค่ามีมหาศาลและพอร์ตการลงทุนของผมยังเล็ก   อนาคตต่อจากนี้ผมคิดว่าผมตั้งเป้าหมายผลตอบแทนได้อย่างมากก็ 15% ต่อปี

               คำถาม:  การลงทุนในหุ้นคุณค่าต้องเป็นการลงทุนระยะยาวเท่านั้นใช่หรือไม่ ซื้อ ๆ ขาย ๆ บ่อย ๆ ได้หรือไม่

              คำตอบ:  ส่วนใหญ่คงต้องเป็นระยะยาว เพราะว่าราคาหุ้นมักจะต้องใช้เวลาที่จะปรับตัวให้เข้าหามูลค่าที่แท้จริงซึ่งมักจะมาจากผลประกอบการที่จะประกาศมาทุก ๆ ไตรมาศ    ดังนั้น การซื้อ ๆ ขาย ๆ บ่อย ๆ จึงไม่น่าจะสอดคล้องกับหลักการของ Value Investment น่าจะเป็นเรื่องของการเก็งกำไรมากกว่า

               คำถาม:  กฎของการจะเป็นนักลงทุนหุ้นคุณค่ามีอะไรบ้าง

               คำตอบ:  เยอะมาก แต่หัวใจสำคัญก็คือ เราจะต้องวิเคราะห์การลงทุนทุกครั้งเป็นอย่างดีโดยดูที่ปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจและการเงินของบริษัท ไม่ใช่ดูจากการวิ่งขึ้นหรือลงของราคาหุ้น

              คำถาม:  ที่ผ่านมา ดร. นิเวศน์ เคยลงทุนแบบอื่นหรือไม่

               คำตอบ:  ก่อนลงทุนแบบ Value Investment ผมซื้อขายหุ้นแบบเก็งกำไร จะเรียกว่าเป็นการลงทุนคงไม่ได้เพราะไม่เคยคิดที่จะถือยาว   และใช้เงิน เสี่ยงโชค เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คำว่า การลงทุน ควรมีความหมายและจริงจังมากกว่านั้น

              คำถาม:  รวยหุ้นอย่างพอเพียง คืออะไร ใช่การลงทุนหุ้นคุณค่าหรือไม่

               คำตอบ:  หลักการของเศรษฐกิจพอเพียงมี 3 ห่วง คือ ความมีเหตุผล  ความพอประมาณ และมีภูมิคุ้มกัน และมี 2 เงื่อนไขคือ  ต้องมีความรู้และคุณธรรม ทั้ง 3 ห่วง 2 เงื่อนไขนั้นตรงกับเรื่องของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า  Value Investor  ที่ดีนั้นจะต้องมีความรู้และยึดหลักธรรมมาภิบาลในการลงทุน  เขาจะต้องใช้เหตุผลในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุน    มีความคาดหวังและใช้เงินลงทุนอย่างพอประมาณไม่โลภและไม่รับความเสี่ยงมากเกินไป เช่น ไม่ใช้เงินกู้ในการซื้อหุ้น   และสุดท้ายก็คือ  ต้องมีภูมิคุ้มกันหรือเรียกว่าต้องมี  Margin Of Safety  เวลาตัดสินใจลงทุน

               คำถาม:  ลงทุนแบบเศรษฐกิจพอเพียงจะทำให้รวยได้หรือ

               คำตอบ:  คนจะรวยหรือไม่นั้น  มีองค์ประกอบใหญ่ ๆ 4 เรื่อง  หนึ่ง  นิยามของความรวยของแต่ละคน  สอง  เงินเริ่มต้นและ/หรือเงินลงทุนที่ใส่เพิ่มลงไป   สาม  ระยะเวลาในการลงทุน  และ สี่   ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ทำได้   ผมคิดว่าถ้าคุณเป็น  Value Investor พันธุ์แท้ที่จริงจัง  คุณ  รวย ได้อย่างแน่นอน  เหตุผลก็เพราะว่า  คุณจะมีเงินเริ่มต้นและเพิ่มเติมมากกว่าเพราะคุณจะออมมากกว่า  คุณจะลงทุนยาวนานกว่าและไม่ถอนการลงทุนในยามที่ตลาดกำลังตกต่ำ   ผลตอบแทนต่อปีโดยเฉลี่ยของคุณจะสูงกว่า   และสุดท้ายก็คือ  คุณจะรู้สึกว่าจำนวนเงินที่เรียกว่า รวย ของคุณนั้นมันจะต่ำกว่าคนอื่น  ดังนั้น  โอกาสที่คุณจะรวยได้นั้นสูงมาก   แต่ถ้าคุณไม่รวย  คุณก็จะไม่จนหรอก      

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 04, 2007 12:47 am
โดย aor_vi
ขอขอบคุณน่ะค่ะสำหรับบทความดี ๆ  :D

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 27, 2007 12:53 am
โดย โมโมทาโร่
ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ  ครับ :roll:

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 23, 2007 12:05 pm
โดย มือกาว
ขอบคุณ คุณลูกอิสานมากครับ

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 5:11 pm
โดย หมีบึงกุ่ม
[quote="ลูกอิสาน"]  
ความเชื่อ : หุ้น VI ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของผลกำไรต่ำแต่มั่นคง

ความเห็น : หลักการของการลงทุนแบบ VI คือการซื้อหุ้นที่มูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นไม่ว่าหุ้นนั้นจะเป็นหุ้นเติบโตสูง (Growth Stock) หุ้นวัฏจักร(Cyclical Sstock) หุ้นสินทรัพย์มาก (Asset play) หรือหุ้นมั่นคง (Defensive Stock) ควรจะได้รับการพิจารณาเหมือนๆกันในแง่ความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับราคาที่นักลงทุนจะจ่าย

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 07, 2008 11:07 pm
โดย ลูกอิสาน
หมีบึงกุ่ม เขียน:เพิ่งมาได้อ่านน่ะครับ
เรียนถามคุณลูกอิสานว่า ข้อความที่เน้นสามารถอนุมานได้ว่า

"หุ้นที่เป็นวัฏจักร ที่มีค่า PE ต่ำ อาจจะกำลังอยู่ในภาวะที่ 'ไม่' ควรลงทุน"

หรือเปล่าครับ?
คุณหมีเข้าใจตรงตามที่ผมต้องการสื่อครับ

ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 08, 2008 4:02 pm
โดย หมีบึงกุ่ม
ขอบคุณ คุณลูกอิสานครับ

กับดัก PE นี่เกือบทำผมติดบ่วง ดีที่ได้อ่านก่อน
เกือบไปสอยพวกกลุ่มเรือ และปิโตรเคมีบางตัว
เห็น PE ต่ำดี  
ซึ่งตามมุมมองของคุณลูกอิสานนี่
คิดกลับกันเลย :lol:

ผมเข้าใจว่าคุณลูกอิสานน่าจะหมายถึง
จังหวะวัฏจักรขาลงที่ E ต่ำ ทำให้ PE สูง
มากกว่าที่จะเป็นจังหวะ E สูง แต่ P ขึ้นไปสูงมากกว่า (ยอดดอย)

ทุกวันนี้กองเรือ E สูง แต่ P ต่ำเหลือเกินครับ
คุณลูกอิสานเห็นว่าเขาเก็งอนาตคแย่เกินจริงหรือเปล่าครับ?
และหากคุณลูกอิสานจะประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของกองเรือ
จะต้องหาข้อมูลอะไรบ้างครับ?
เฉพาะ BDI   จน.เรือ    %การเช่าล่วงหน้า? เพียงพอไหม?

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 14, 2011 1:54 pm
โดย Liwana
ขอบคุณมากๆครับ
ผมมือใหม่ แบบใหม่จริงๆ
ได้รับความรู้ดีๆ ที่มีคุณค่ามากครับ

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 16, 2011 9:38 pm
โดย kanok891
thank you kab
kanok891

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 30, 2012 4:31 pm
โดย MaiFuen
ขอบคุณมากครับพี่โจ

ตอบได้ครอบคลุม และ กระจ่างมากๆครับ

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 08, 2012 11:26 pm
โดย roadtobillion
ขอบคุณครับพี่โจ ชอบประโยคนี้ครับ "การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงที่สุดคือการไม่ลงทุนอะไรเลย" จะว่าไปอัตราเงินเฟ้อน่าจะเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของ VI เลย ^_^

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 18, 2012 4:09 pm
โดย WABISABI
ขอบคุณมากๆครับ ติดตามอ่านนะครับ เป็นกำลังใจขอให้เขียนบทความคุณค่าเช่นนี้มาให้อ่านเรื่อยๆนะครับ

Re: ความเชื่อเกี่ยวกับการลงทุนในแนวทางเน้นคุณค่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2012 11:50 pm
โดย tang_tt
ขอขอบคุณพี่โจสำหรับข้อมูลและความรู้ดีๆที่ช่วยให้หนูได้รับความรู้เพิ่มอย่างมากค่ะ