Thai VI

ทุกบริษัท จำเป็นต้องตั้งเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ไว้มั้ยครับ
ตั้งหรือไม่ตั้งไว้ ขึ้นอยู่กับอะไรครับ

farmer เขียน:ทุกบริษัท จำเป็นต้องตั้งเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ไว้มั้ยครับ
ตั้งหรือไม่ตั้งไว้ ขึ้นอยู่กับอะไรครับ

ไม่จำเป็นครับ
ขึ้นอยู่กับ
- ระยะเวลาที่ค้างเกินเครดิตเทอมมากหรือเปล่า
- ความเสี่ยงในการได้รับชำระหนี้ มากน้อยแค่ไหน
- ในอดีต เคยมีหนี้สูญบ้างหรือเปล่า ถ้ามีคิดเป็นกี่%ของยอดขาย
- ความอนุรักษ์นิยมของผู้บริการ และผู้สอบบัญชี
- ฯลฯ

ลองอ่านใน นโยบายทางบัญชีได้ครับ จะบอกว่า บริษัททำการกันสำรองอย่างไรบ้าง

แล้วก็เวลาดูงบอย่าลืมดูอายุของลูกหนี้ด้วยนะครับ ว่า ลูกหนี้ค้างชำระแก่ๆเริ่มมากขึ้นๆหรือเปล่า เป็นสัญญาณว่าจะเกิดการชักดาปหรือไม่

บางบริษัทยึดระยะเวลาค้างชำระเกิน 3 เดือน บางบริษัทเกิน 1 ปี ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญขึ้นอยู่กับประสบการณ์การชำระหนี้ของลูกค้าค่ะ

ถ้าอนุรักษ์นิยมสุดๆ  เมื่อมีลูกหนี้การค้าก็จะตั้งสำรองแล้วครับ  ไม่จำเป็นต้องค้างชำระ  เพียงแต่อาจจะตั้งจำนวนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของยอดลูกหนี้

[quote="chatchai"]ถ้าอนุรักษ์นิยมสุดๆ

[quote="miracle"][quote="chatchai"]ถ้าอนุรักษ์นิยมสุดๆ

หลักเรื่องสำรองหนี้สูญของธนาคารเป็นเรื่องซับซ้อนมากครับ การจัดชั้นตามวันที่ลูกหนี้ค้างชำระเป็นวิธีหลัก แต่ยังมีหลักเกณฑ์ของธปท.อีกหลายข้อครับ เช่น ถ้าลูกหนี้ถูกฟ้องล้มละลาย แม้ว่ายังชำระหนี้ของธนาคารตามกำหนดอยู่ ก็จะต้องจัดชั้นเป็น NPL ทันที (ผมจำไม่ได้ว่าชั้นไหน)
และยังมีเรื่องหลักประกันของหนี้ที่ยังต้องนำมาประกอบการตั้งสำรองอีก

แค่ทำความเข้าใจก็ปวดหัวมากแล้วครับ ไม่รู้ว่าพนักงานธนาคารจะมีซักกี่คนที่จะเข้าใจเรื่องนี้จริงๆจังๆ

ผมเคยเป็น IR  Bank แห่งนึงครับ

ตอนต้องสรุปงบ พอทำได้หมด แต่ พอถึงการสำรองหนี้นี่ กรณีที่เค้าแทงหนี้ออกหมด มันจะเรียกตัวนึงว่า ครูสชั่น จำภาษาอังกฤษไม่ได้แล้วอ่ะ

ผมงงเลย ทำไม่ถูก ต้องให้ หัวหน้าอธิบายเป็นชั่วโมง เพราะงงมากกับการตั้งสำรอง แต่พอเข้าใจแล้วดูภาพรวมออกเหมือนกันครับ

สอบถามอีกข้อนะครับ
-ถ้าต้นงวดมียอดค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 2000 บาท
-ระหว่างงวดมี 2500 บาท
-หนี้สงสัยจะสูญจะเท่ากับ 500 (2500-2000) เป็นค่าใช้จ่าย เหรอครับ ดูแล้วงงๆ

ใช่ครับ

ถ้าจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ ต้องทราบวิธีการลงบัญชีเรื่องนี้ก่อน
ในงบดุล จะมีบัญชี "ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ" เป็นตัวปรับปรุงบัญชี "ลูกหนี้การค้า" ส่วนในงบกำไรขาดทุน จะมีบัญชี "ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ"เป็นค่าใช้จ่ายของแต่ละงวด (อยู่ใน SG&A Expense)
ทุกสิ้นงวด ฝ่ายจัดการจะพิจารณาตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ สมมติว่าตั้งเท่ากับ 500 บาท ก็จะบันทึกบัญชีดังนี้

Dr. ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (ในงบกำไรขาดทุน)     500
         Cr. ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (ในงบดุล)                500

ดังนั้น ในงบดุล บัญชีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจะมียอดเพิ่มขึ้น 500 บาท (ถ้าต้นงวดมี 2000 บาท สิ้นงวดจะเป็น 2500 บาท) ส่วนในงบกำไรขาดทุน จะมีค่าใช้จ่ายค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 500 บาท

เรื่องการตั้งสำรองหนี้สูญเป็นเรื่องที่น่างงสำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนบัญชีครับ


กระบวนการทั้งหมดมี 2 ขั้นตอน

ขอบคุณ พี่chatchai มากครับ พอจะเข้าใจมากขึ้น แล้วครับ

เห็นภาพเลย