Thai VI

เทมาเส็ก'-แบงก์จีนช่วยถือหุ้น หนุน'บาร์เคลย์'ขึ้นราคาซื้อABN

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2550 22:55 น.


      เอเจนซี/เอเอฟพี - บาร์เคลย์แบงก์ ธนาคารใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ เพิ่มราคาเสนอซื้อกิจการกลุ่มธนาคาร เอบีเอ็นแอมโร ของเนเธอร์แลนด์ ขึ้นเป็น 67,500 ล้านยูโร (93,000 ล้านดอลลาร์) โดยระบุว่าได้รับแรงสนับสนุนทางการเงินก้อนบิ๊กจากธนาคารจีน และเทมาเส็กแห่งสิงคโปร์
     
      ตามคำแถลงวันนี้(23)ของบาร์เคลย์ ข้อเสนอซื้อใหม่จะอยู่ในรูปการแลกเปลี่ยนหุ้นคิดเป็นมูลค่า 42,700 ล้านยูโร บวกกับการจ่ายเป็นเงินสดให้ผู้ถือหุ้นเอบีเอ็นอีก 24,800 ล้านยูโร สูงขึ้นจากข้อเสนอคราวก่อนของตนที่จะใช้วิธีแลกเปลี่ยนหุ้นอย่างเดียวรวมเป็นมูลค่า 65,000 ล้านยูโร
     
      ทว่าแม้กระทั่งข้อเสนอใหม่ของบาร์เคลย์ ก็ยังคงต่ำกว่าของคู่แข่งที่เป็นกลุ่มร่วมค้าของหลายธนาคารในยุโรป นำโดย รอยัลแบงก์ออฟสกอตแลนด์ (อาร์บีซี) ซึ่งในวันศุกร์(20)ที่ผ่านมา ได้ยื่นเสนอซื้อต่อเอบีเอ็นอย่างเป็นทางการ โดยให้ราคาที่ 71,100 ล้านยูโร แถมอยู่ในรูปการจ่ายเงินสดถึงราว 93%
     
      ทั้งนี้ ไม่ว่าข้อเสนอของฝ่ายใด หากประสบผลสำเร็จ ก็จะกลายเป็นการเทคโอเวอร์กิจการธนาคารที่มีมูลค่าสูงสุดทั้งสิ้น
     
      อันที่จริง คณะกรรมการบริหารของเอบีเอ็นได้ลงมติเห็นชอบกับข้อเสนอเดิมของบาร์เคลย์ไปแล้ว แต่แล้วบอร์ดบริหารของกลุ่มธนาคารเนเธอร์แลนด์ ก็ถูกกดดันหนักจนต้องออกแถลงวานนี้ว่า เวลานี้กำลังประเมินค่าชั่งน้ำหนักระหว่างข้อเสนอทั้ง 2 อยู่
     
      ระหว่างการแถลงข่าวในวันจันทร์ บาร์เคลย์แจ้งด้วยว่า ได้ทำความตกลงขายหุ้นที่จะมีมูลค่า 9,800 ล้านยูโร ให้แก่ ไชน่าดีเวลอปเมนต์แบงก์ รัฐวิสาหกิจด้านธนาคารของจีน และขายหุ้นที่จะมีมูลค่า 3,600 ล้านยูโร ให้แก่ เทมาเส็ก กลุ่มกิจการการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์
     
      การเข้าซื้อหุ้นของ 2 ยักษ์ใหญ่เงินหนาจากเอเชียนี้ ตกลงกันไว้ว่า ไชน่าดีเวลอปเมนต์แบงก์ จะซื้อหุ้นบาร์เคลย์เอาไว้ 3.1% โดยอาจจะขยับซื้อเพิ่มเป็น 8% ของกิจการใหม่ภายหลังบาร์เคลย์เทคโอเวอร์เอบีเอ็นสำเร็จ ส่วนเทมาเส็กก็จะซื้อหุ้นบาร์เคลย์ไว้ 2.1% และอาจขยับเพิ่มเป็นเกือบๆ 3% ต่อไป
     
      บาร์เคลย์บอกว่า จากดีลที่ทำไว้กับทางเอเชียเช่นนี้เอง ทำให้ทางแบงก์เพิ่มราคาเสนอซื้อเอบีเอ็นได้ ขณะที่พวกนักวิเคราะห์มองว่า เงินลงทุนขั้นต้นจากไชน่าดีเวลอปเมนต์แบงก์กับเทมาเส็ก อันจะมีมูลค่าราว 3,600 ล้านยูโร จะถูกบาร์เคลย์ใช้ไปในการซื้อคืนหุ้นระหว่างกระบวนการเทคโอเวอร์ ซึ่งจะส่งผลเพิ่มน้ำหนักในข้อเสนอของฝ่ายนี้
     
      "เรื่องนี้ในที่สุดก็อธิบายได้ว่า ทำไมฝ่ายบริหารของบาร์เคลย์จึงมั่นอกมั่นใจขนาดนี้มาเป็นเวลายาวนานเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ข้อเสนอซึ่งวางแบอยู่บนโต๊ะนั้นดูเหมือนจะด้อยกว่า" บรูซ แพคการ์ด นักวิเคราะห์แห่ง ปาลีอินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความเห็น
     
      ทางด้านจอห์น วาร์ลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบาร์เคลย์ แถลงว่า การเข้าถือหุ้นบาร์เคลย์ของไชน่าดีเวลอปเมนต์แบงก์คราวนี้ จะเป็นการลงทุนในต่างแดนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่จีนเคยกระทำมา ในเวลาเดียวกัน รัฐวิสาหกิจธนาคารจีนแห่งนี้ก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบาร์เคลย์ไปด้วย ซึ่งเขา "รู้สึกสบายใจ" และเห็น "เป็นเรื่องดีมากสำหรับบาร์เคลย์"
     
      ส่วนทางเทมาเส็กนั้น ได้แสดงความสนใจถือครองหุ้นกิจการทางการเงินมานานแล้ว โดยในพอร์ตลงทุนมูลค่า 85,000 ล้านดอลลาร์ของเทมาเส็ก เป็นการเข้าถือหุ้นกิจการด้านนี้ราว 1 ใน 3 และปีที่แล้ว กิจการเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์แห่งนี้ ก็ได้เข้าซื้อหุ้น 11.6% ของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด แบงก์ยักษ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่งของอังกฤษ