Thai VI

นาน ๆ ทีจะโพส สักครั้ง

พอดีวันนี้อ่าน นสพ แล้วเจอวิธีต่อสู้ค่าเงินบาทแข็งที่น่าจะ work

หุ้น กับ ค่าเงินก็เหมือน ๆ กัน
การเปลี่ยนแปลงของระดับราคาขึ้นกับปริมาณเงินไหลเข้ากับไหลออก
ถ้าสมดุลกัน ราคาก็ไม่เปลี่ยนแปลง

ปัญหาในขณะนี่ก็คือ เงินดอลล่าห์ไหลเข้าท่วมประเทศ โดนไม่มีรูระบาย
ดังนั้นจึงมีแนวคิดที่ว่า ระดมเงินฝากในประเทศในรูปของพันธบัตรโดยมีต้นทุนดอกเบี้ยประมาณ 2.5 แล้วนำไปฝากธนาคารในอเมริกา เพื่อเป็นการระบายดอลล่าห์กลับไป
ส่งคืนเจ้าของไปบ้าง เพราะดอกอเมริกาตอนนี้ 5.25 เป็นการกดให้เงินบาทอ่อนลงและทำให้ได้กำไรจากส่วนต่างดอกเบี้ย โดยระบบนี้กองทุนเก็งกำไร หรือนักลงทุนต่างชาติชอบมาก เพราะเหมือนจับเสือมือเปล่า คือได้ส่วนต่างของดอกเบี้ย
โดยส่วนตัวชอบแนวคิดนี้มาก เพราะ เป็นการต่อสู้โดยเกลือจิ้มเกลือ ไม่ใช่ตกเป็นฝ่ายตั้งรับตลอด

เพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ

ประเทศเราเนี่ยมีปัญหากับค่าเงินตลอดเลยนะครับ
ผู้ว่าการแห่งประเทศไทยแนวคิดไม่ทันสมัยเลย
ไม่รู้จักเลียนแบบประเทศที่ทำแล้วดี ดันไปเลียนแบบประเทศแถวอเมริกาใต้ ที่ทำแล้วไม่ดี ดันไปทำตาม ไม่เข้าใจ (นโยบาย 30%)
ไม่ทันเกมต่างชาติเลย

ตอนนี้หุ้นที่พอจะอยู่รอดได้ จึงเป็นหุ้นที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างชาติ มาแปรรูป แล้วมาขายในประเทศ จะได้กำไรมาก เป็นการตรงข้ามกับงวดก่อน ที่ค่าเงินบาทอ่อน ที่ส่งออกรุ่งเรือง

ใน set ก็พอมีบ้างไม่กี่บริษัท ตอนนี้ผมก็ถืออยู่บ้าง แต่ไม่สามารถบอกได้ เด๋วจะกลายเป็นการชี้นำ เนื่องจากตอนนี้ราคาก็ปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก
แต่ถ้าอยากคุยกันหลังไมค์ก็ได้นะครับ
[email protected]
พอดีศึกษาการเ่ล่นแนวนี้มานานค่อนข้างชอบ เลยอยากได้เพื่อนคุยบ้างเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ทำไมประเทศถึงมีการคอรัปชั่นมาก และ ผู้นำไม่ทันเกมเลย
ทำไปทำมาอาจจะเป็นกบเลยนาย

เชื่อเลยครับ ว่านานๆที่โพสที สมาชิกปี 2003 โพส 4 ครั้ง ตกปีละครั้ง (แซวเล่นครับ  :lol: )

เห็นด้วยเรื่องที่จะรวมเงินไปฝากที่ อเมริกา แทน ผมว่าผู้ส่งออกก็ต้องปรับตัวด้วยแหล่ะครับตอนนี้ แต่อยากให้ค่าเงินมันเสถียรมากกว่า จะ 30 หรือ 34 ก็ให้มันไม่ขยับมาก เวลา quote ราคาเมืองนอกแล้วปวดหัว ตั้งเผื่อเงินแข็งมาก ก็ขายไม่ได้ ตั้งเงินอ่อนก็ขาดทุนตอนส่ง