หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 9:56 pm
โดย ลูกอิสาน
เท่าที่ดูข้อมูลน่าจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจให้ติดตามศึกษา

ราคาก็เพิ่มขึ้นมาเกือบ 100% ไม่ถึงปีที่ผ่านมา
แต่ราคาคงไม่ใช่เหตุผลที่เราจะสนใน พื้นฐานสำคัญกว่า


ตัว tpac เคยดูคลิ๊ปแนะนำลงทุนในตลาดใหม่ มี ดร.นิเวศน์ไปร่วมงานด้วย มีนักวิเคราะห์สุภาพสตรีท่านนึง แนะนำตัวนี้ไว้ ดร.ให้ความเห็นในทำนองว่าไม่น่าจะเป็นหุ้นที่ดีเพราะธุรกิจไม่มีอะไรที่โดดเด่น แต่ถ้าใครซื้อตอนนั้นน่าจะทำกำไรได้ดีทีเดียว เพราะกำไรเพิ่มขึ้นมาก และราคาหุ้นก็เช่นกัน

ถึงคำถามว่า tpac มีอะไรน่าสนใจอย่างโดดเด่น

ผมก็ยังหาไม่เจอนะ :lol:

แต่ดูโดยรวมๆก็น่าสนใจระดับหนึ่ง มีท่านใดถือพอจะแนะนำได้บ้างครับ :o

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 10:25 pm
โดย Muffin
รายละเอียดมีเยอะมากพอสมควรในร้อยคนร้อยห้นครับพี่ลูกอีสาน
แฟนประจำ TPAC ในนี้มีอยู่พอสมควร

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 10:38 pm
โดย Frodo
เคยซื้อ และขายหมูเล้าใหญ่ออกไปหมดเลยครับ
เสียดายมาก ถ้าถือไว้ก็ได้เกือบหนึ่งเด้งแล้ว
ตอนนั้นซื้อเพราะคิดว่าธุรกิจมันน่าเบื่อดี มีลูกค้าประจำ
แต่นิสัยไม่ดี ที่ทนความเบื่อไม่ไหว
เลยต้องเศร้าไปครับ

:wall:   :wall:   :wall:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 10:53 pm
โดย ลุงทีม
ผมมีอยู่นิดหน่อย:

-เป็นหุ้นที่นิสัยดีตัวหนึ่ง
-เป็นธุรกิจที่น่าเบื่อจิงอย่างว่า
-เจ้าของเดียวกับ MODERN อันนี้เป็นเหตุผลหลักที่เลือก  :shock:  :shock:  :shock:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 10:53 pm
โดย tanapol
พี่ลูกอีสานลองถามพี่ vi.jr.ดูคับ

พี่เค้ามีข้อมูลเยอะเหมือนกัน

แต่เห็นพี่เค้าบ่นว่า offer ไม่พอให้ซื้อ

8)

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 10:56 pm
โดย ลูกอิสาน
ขอบคุณครับคุณมัฟฟิน :D

ผมลืมไปจริงๆ มีถือกันหลายๆท่านเลยนะครับ พี่ bmw patty serioj กุหลาบงาม juntuma oatty น่าจะได้กำไรกันทุกท่าน :lol:


ตัวนี้พูดถึงธุรกิจ พื้นฐาน ผลิตฝาขวด ขวด ชิ้นส่วนพลาสติกให้กับอุตสาหกรรมอาหาร น้ำยาทำความสะอาด ยาเครื่องสำอาง เป็นบริษัทในเครือของ modern (อีกตัวของโมเดินคือmfec) ลูกค้าก็เช่น ดัชมิลล์ โอวัลติน เนสเลย์ ไฮซ์ ง่วนเชียง โดล นวศรี(ในเครื่อไมเนอร์) โอสถสภา s&j ซาร่าลี

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 11:11 pm
โดย ลูกอิสาน
โห.. :shock:  มีกันหลายคนเลย น้องตึกก็ด้วย
มะเห็นสะกิดกันบ้าง :D  


แล้วที่ซื้อและถือกันพอจะแนะนำได้ไหมครับ ว่าไปเจอได้อย่างไร
เพราะผมมองข้ามไป คิดว่าธุรกิจน่าเบื่อและไม่น่าจะมีความสามารถในการแข่งขันที่เด่นชัด

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 12:44 am
โดย bmw2681
ผมเก็บมาตั้งแต่ 3.6 แล้วเพิ่งออกของไปแล้วเร็วๆนี้ครับ ตอนที่เจอ สะดุดตาตรงที่ความแข็งแกร่งของราคา แล้วพอเข้าไปดูกิจการ ก็เป็นธุรกิจที่มียอดการผลิตบรรจุภัณฑ์ อิงกับยอดขายผลิตภัณฑ์ดังๆแข็งๆหลายตัวครับ ได้แก่ dutchmill ovaltine vixol ... ปันผลก้อดีมาก ครั้งล่าสุดจ่าย 0.30 บาท/หุ้น อย่างที่บอกว่าตอนต้นว่า ขายไปแล้ว เหตุผลที่ขายไป เพราะความผิดพลาดในการบริหารพอร์ต ไม่ได้เกี่ยวกับตัวธุรกิจแต่อย่างใด ก้อถือเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่แอบภูมิใจไม่น้อยเพราะเจอเอง ตัดสินใจเอง ไม่ลอกใคร อิอิ และเพราะ TPAC จึงทำให้ผมรู้จักกะหุ้นคล้ายๆกันคือ SPACK ตอนนั้นเทรดอยู่ 2.90 ตอนนี้ 3.3 แล้ว ตัวนี้ผมก็ออกไปแล้ว เพราะความผิดพลาดเหมือนกัน ตอนนี้ ก็ได้แต่อธิษฐานให้เจอหุ้นแบบนี้อีก... :oops:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 10:53 am
โดย ลูกอิสาน
อ้าว.. พี่bmwก็ทิ้งกันไปซะแล้ว :D  สงสัยเป็นหุ้นน่าเบื่อจริงๆผลิตจุกผลิตขวด

สนใจหุ้นตัวไหน ก็ต้องไปดูงบการเงินก่อนครับ
เท่าที่ดูก็โอเคทุกอย่าง หนี้ไม่สูงเกินไป สินค้าคงเหลือ ลูกหนี้การค้าก็ไม่มากไม่น้อย อัตราการทำกำไรก็สมเหตุสมผล กระแสเงินสดก็ค่อนข้างดี ปันผลปีนี้น่าจะสูงกว่าปีที่แล้วที่ 30 ตังค์ (ราคาหุ้นปัจจุบัน 5 บ.ถ้วน) เครดิตภาษีได้

งบไตรมาส 1 ยอดขายเพิ่มจาก 150 ล้าน เป็น 200 ล้าน แต่กำไรเพิ่มจาก 8.7 เป็น 17.3 หรือ 100% :shock:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 11:11 am
โดย เสรี โอ
มาแสดงความเห็นเพราะคุณลูกอีสานกล่าวพาดพิงผมว่ามีอยู่ในปอดกับเขาด้วย
ตัวนี้สภาพคล่องค่อนข้างน้อย  Bid - offer ทิ้งช่วงห่างกันมากๆ   ถ้าอยากได้ของมากต้องเคาะขวาๆๆๆๆจึงจะได้ของ
แล้วคนที่ถืออยู่ก็กอดค่อนข้างแน่น   แต่ก็มีคนเข้ามากวาดเป็นพักๆ
ผมเคยตั้งใจจะเก็บให้ได้มากๆแต่ราคาขึ้นไปเสียก่อนครับ่

ผมว่าการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งนี่จะค่อยๆโตไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุดตราบเท่าที่คนเรา
ไม่ยอมเอามือสองข้างไปตวงซื้อแชมพู หรือ นมสด

เขาผลิตให้หลายเจ้ามากๆเพื่อกระจายความเสี่ยง
ROA ROE %Earning 3 ปีหลังนี้ขยับดีขึ้นมาตลอด

เคยอ่านเจอว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งก็คีอ MODERN ต้องการเอาเข้ามาMAI เพราะเสียภาษีนิติบุคคลแค่ 20% ทั้งๆที่ไม่ได้ต้องการมาระดมทุนใดๆ

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 2:24 pm
โดย ลูกอิสาน
serioj เขียน: ผมว่าการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งนี่จะค่อยๆโตไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุดตราบเท่าที่คนเราไม่ยอมเอามือสองข้างไปตวงนมสด
เห็นด้วยครับ ฟังแล้วหวาดเสียวดีจัง :lol:

tpac ผลิตสินค้าที่บริโภค ใช้แล้วหมดไป ต้องผลิตอีก นอกจากนั้นยังผลิตสินค้าที่เข้ากับ supertrend ที่สังคมเมืองขยายมากขึ้น การบริโภคสินค้าสำเร็จรูปก็จะเพิ่มตาม เปรียบเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ มีการใช้พลาสติคต่อประชากรสูงกว่าไทยมาก

เคยอ่านเจอว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งก็คีอ MODERN ต้องการเอาเข้ามาMAI เพราะเสียภาษีนิติบุคคลแค่ 20% ทั้งๆที่ไม่ได้ต้องการมาระดมทุนใดๆ
ผมขอยืนยันด้วยครับ จากหนังสือชี้ชวน ก่อนที่จะนำหุ้นเข้าตลาดปีสุดท้าย มีการปันผลพิเศษคืนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นสัญญานที่ดีว่าธุรกิจนั้นทำเงิน

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 2:32 pm
โดย ลูกอิสาน
ที่ผมหันมาสนใจตัวนี้ เพราะไตรมาสล่าสุดกำไรโตขึ้นมาก
และเท่าที่อ่านดู กำไรที่โตก็มีแนวโน้มยั่งยืน


ที่จริงบริษัทมียอดขายโตติดต่อกันทุกปีย้อนหลังไป 4-5 ปีเท่าที่มีข้อมูล และปีนี้ก็มีแนวโน้มที่จะโตเหมือนเดิม แม้ว่าเศรษกิจรวมจะดูไม่สดใส แต่ถ้าเราไปดูที่บรรทัดสุดท้ายหรือกำไร จะพบว่าระหว่างปี 45-47 กำไรลดลงทั้งที่ยอดขายเพิ่ม ไปอ่านดูในหนังสือชี้ชวน บริษัทให้เหตุผลว่าในช่วงนั้น ราคาเม็ดพลาสติดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่บริษัทต้องอาศัยเวลาในการปรับเพิ่มราคาสินค้า ทำให้กำไรลดลง  ฟังดูก็สมเหตุสมผล เพราะหลังจากนั้นราคาเม็ดพลาสติคเริ่มนิ่ง มาร์จินก็กลับมาเท่าๆกับในอดีต

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 5:05 pm
โดย ลูกอิสาน
ล่าสุดที่ผู้บริหารให้สัมภาษณ์ไว้ มีในร้อยคนร้อยหุ้นด้วยนะครับ

TPAC ฟุ้งครึ่งปีหลังพุ่ง ออเดอร์เก่า - ใหม่ทะลัก รุกปรับเป้ารายได้เพิ่ม
Source - กระแสหุ้น
Thursday, 21 June 2007 04:08

TPAC เชื่อไตรมาส 2 รายได้ใกล้เคียงไตรมาสแรก เหตุเลื่อนรับรู้รายได้ 2 โปรเจกต์ แต่จับตาดูครึ่งปีโตอย่างเห็นได้ชัด จากโปรเจกต์ใหม่ทั้งในและต่างประเทศเข้าเพียบ มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท และออเดอร์จากลูกค้าเก่าล้นมือ พร้อมปรับประมาณการปีนี้เพิ่มเป็น 872 ล้านบาทจากเดิม 820 ล้านบาท
         นายปรีชา ศรีอัศวกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPAC เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ของไตรมาส 2 น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับไตรมาสแรกที่มีรายได้ 207.68  ล้านบาท กำไร 17.30 ล้านบาท เนื่องจากคำสั่งซื้อของลูกค้ายังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่บริษัทผลิตเป็น Consumer Product ที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน แม้ว่าในไตรมาสนี้จะมี 2 โปรเจกต์มูลค่าเดือนละประมาณ 6 ล้านบาทดีเลย์ออกไปรับรู้ในไตรมาส 3
         จากเดิมไตรมาสนี้น่าจะมีการเติบโตมากกว่าไตรมาสแรก แต่ด้วยโปรเจกต์ที่เลื่อนออกไปทำให้มีการรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 2 เพียงเล็กน้อย โดยโปรเจกต์แรกจะเริ่มผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม ส่วนโปรเจกต์ที่เหลือจะผลิตได้เดือนสิงหาคม นายปรีชา กล่าว

        ขณะที่บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาส 3 จะมีการเติบโตมากกว่าไตรมาส 2 ค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากโปรเจกต์ที่เลื่อนมา รวมถึงงานจากลูกค้าเก่าที่มีการจัดโปรโมชั่น ส่งผลให้บริษัทมียอดการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีความพยายามที่จะสรุปการเจรจากับลูกค้าต่างประเทศในไตรมาส 3 ในการผลิตพลาสติกปิดฝากล่องน้ำผลไม้ส่งออกไปยังประเทศไต้หวัน และรัสเซีย หลังก่อนหน้านี้มีการผลิตส่งไปที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทปีละประมาณ 100 ล้านบาท
         นอกจากนี้ บริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าจำนวน 2 ราย มูลค่ารวมทั้ง 2 โปรเจกต์ประมาณปีละ 120 ล้านบาท โดยบริษัทจะให้การเจรจาดังกล่าวเสร็จสิ้นในไตรมาส 4 และจะทำให้สามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ได้ทันที ซึ่งถ้าการเจรจาดังกล่าวสำเร็จจะยิ่งทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 4 เติบโตกว่าไตรมาส 3 แน่นอน โดยในปีนี้จากเดิมที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 820 ล้านบาท แต่ด้วยโปรเจกต์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับออเดอร์ของลูกค้าเก่าที่มีล้นมือ ทำให้บริษัทมีการประเมินรายได้ใหม่ ซึ่งคาดว่ารายได้ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 874 ล้านบาท ส่วนอัตราไรขั้นต้นจะรักษาที่ระดับ 17-18%
         เดิมเราคาดหมายรายได้ไว้แค่ 820 แต่จากการที่มีการติดต่อลูกค้าใหม่ และลูกค้าต่างประเทศติดต่อเพื่อให้ผลิตสินค้านั้น ทำให้เราต้องมีการปรับประมาณการใหม่เพื่อให้สอดคล้อง ซึ่งเราก็คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นมาเป็น 874 ล้านบาท นายปรีชา กล่าว
ผมลองคำนวณหากำไรจากที่ให้ข่าว
แบบอนุรักนิยมหน่อย ยอดขาย 860 ล้าน กำไรสุทธิ 7.5% กำไรประมาณ 65 ล้าน ราคาหุ้น 5 บ. pe ประมาณ 7.7 เท่า

แบบมองในแง่ดีหน่อย ยอดขาย 874 ล้านตามที่ให้ข่าว กำไร 8.5 %(ที่ทำได้ในไตรมาสแรก) pe ประมาณ 6.7 เท่า

ดู pe ก็ไม่ถูกไม่แพง หวังว่าปีหน้าคงมีการเติบโตได้อีก pe จะได้ลดลง

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 5:35 pm
โดย oatty
พี่ลูกอิสาณครับ ผมก็เหมือนพี่บีเอ็ม นั่นแหละ เคยถือ และก็ปล่อยหมูออกจากเล้าไปแล้ว เคยดูตั้งแต่เข้าตลาดใหม่ ๆ ที่ไม่กล้าถือยาวเพราะเห็นว่าหนี้ระยะยาวเมื่อเทียบกับกำไรแล้ว อีกนานกว่าจะหมด

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 7:13 pm
โดย suwits
Annual Report ปี 2006 ของ TPAC ลองหาอ่านได้ที่นี่ครับ

http://www.thaiplaspac.com/Annual%202006%20PDF.pdf

เริ่มได้ยินหุ้นตัวนี้ครั้งแรก จากงานสัมมนาเกี่ยวกับ MAI ที่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อต้นปีนี้ครับ ตอนนั้นนักวิเคราะห์สาวจากไซรัสแนะนำหุ้น TPAC (ราคา ณ วันนั้น 3.02 บาท)  :bow: ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นกลุ่มอาหาร (ดัชมิลล์, โอวันติน, อื่นๆ) ซึ่งเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของบรรจุภัณฑ์ ความเสี่ยงคงมีเรื่องราคาวัตถุดิบ แต่เท่าที่ดูไตรมาสหลังๆ ทางบริษัทพยายามเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทำให้ของเสียลดลง บริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันยังขยายการผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น (PET) ด้วยในปีนี้  :D

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 7:53 pm
โดย Basketman
ตัว tpac นี่ผมเคยpmไปคุยกับพี่นริศดังนี้ครับ ....ลองอ่านดูเล่นๆนะครับ :lol:

tpac(3.xx)   นี่ผมภูมิใจเสนอครับได้มาแบบไม่ตั้งใจเท่าไหร่ถือเป็นตัวที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในพอร์ทผมตอนนี้ ผมเลือกเก็บตัวนี้เพราะที่บ้านทำ รง.พลาสติกอยู่แล้ว ผมเห็นตัวสินค้าที่เค้าผลิตให้ลูกค้าต่างๆแล้ว ก็คิดได้เลยว่าเค้าทำสินค้าได้เยี่ยมจิงๆ ให้รง.ผมทำสินค้าเหมือนเค้าก็คงทำไม่ได้ดีเท่าเค้า ทั้งลูกค้าแต่ละรายที่มาจ้างทำสินค้ารึบรรจุภัณฑ์ แต่ละรายอย่าง เนส์เล่ โอวัลติน ดัชมิลล์ ฯลฯ ก็เป็นสินค้า Consumer Product ที่เป็นผู้นำตลาดทั้งนั้น อีกทั้งผมเชื่อว่าลูกค้าเหล่านี้ที่มาจ้างผลิต ต้องมีความเข้มงวดมากๆในขั้นตอนการผลิตอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่ถ้าสามารถรับงานและทำได้ตามมาตราฐานที่ลูกค้าต้องการแล้ว การที่ลูกค้าจะย้ายไปจ้าง รง.อื่นให้ผลิต ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เช่นสี กลิ่น ความแข็งอ่อนของบรรจุภัณฑ์ มักจะเป็นเอกลักษณ์ของ รง.นั้นๆ ให้รง.อื่นทำก็ทำได้ไม่เหมือนเดิม100% จึงเป็นการสร้างความผูกพันธ์กับ บริษัทไปโดยปริยาย อีกทั้งต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวนก็สามารถผลักไปให้ลูกค้าได้ และเมื่อดูจากกำไรและการขยายตลาดแบบคร่าวๆแล้วก็คิดว่ามีอนาคตที่จะขยายฐานลูกค้าไปได้อีกมาก ผมดูคร่าวๆยังงี้ก็เลยซื้อครับ กับอีกเหตุผลส่วนตัวก็คืออยากเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เพื่อที่จะสามารถเข้าไปดูเรียนรู้กิจการเทคนิคต่างๆ เพื่อจะเอามาพัฒนา รง.ของตัวเองครับ :mrgreen: ก็สะสมไปเรื่อยๆครับ(ขาดอีกสี่แสนกว่าจะได้มีชื่อในบริษัทแล้ว :lol: ) แต่สภาพคล่องหุ้นหมุนเวียนน้อยมาก อีกทั้งราคาก็ผีเข้าผีออกจับไม่ถูก อย่างงบที่จะประกาศไตรมาศนี้ผมว่าก็น่าจะดี แต่ไม่น่าจะดีถึงขนาดทำราคาหุ้นขึ้นขนาดนี้ ก็ต้องติดตามข่าวเรื่อยๆครับ เพราะช่วงนี้ก็มีข่าวดีออกมาตลอดด้วย ถ้าข่าวดีจิงระยะยาว เผลอๆนู้น...ราคาน้องๆtoppละคร๊าบบบเจ้านาย......
   ป.ล. tpacพี่อย่าพึ่งตามมาเก็บนะครับ เดี๋ยวราคาจะทำ new high ซะป่าวๆ ให้พวกผมเก็บกันครบๆก่อนละกัน :lovl:  :lovl:  :lovl:


จิงๆตัวtpacนี่ ในงานmeeting ผมก็เสนอไปตอนอยู่ในกลุ่มนะครับแต่โดนvote ออกครับคะแนนเสียงไม่พอ555 :lol:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 9:27 pm
โดย VI Jr.
[quote="ลูกอิสาน"]โห.. :shock:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 9:52 pm
โดย naris
[quote="Basketman"]ตัว tpac นี่ผมเคยpmไปคุยกับพี่นริศดังนี้ครับ ....ลองอ่านดูเล่นๆนะครับ :lol:

tpac(3.xx)

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 10:11 pm
โดย ลูกอิสาน
สำหรับคนที่ขายตัดตอนกำไรไปแล้ว น้องโอ๊ต พี่bmw คุณFrodo คุณมัฟ
ถือว่าขายหุ้นไป เพื่อช่วยให้คนที่ซื้อต่อได้กำไรละกันครับ แบ่งๆกัน :lol:

นับถือวิธีหาหุ้นของน้องตึก น้องเจน เลยครับ :bow:  :bow:  ผมรู้สึกสนใจหุ้นตัวนี้งานเดียวกับคุณสุวิทย์ น้องตึกละครับ เพิ่งทราบว่าเป็นนักวิเคราะห์สาวจากไซรัส ราคาตอนนั้น 3 บาท วันที่น้องตึกประชุมผู้ถือหุ้นราคาปิด 4.28 บ. ผ่านมา 2 เดือนขึ้นมาเป็น 5 บ.แล้ว


จุดเด่นเท่าที่พอจะรวบรวมได้ น่าจะเป็นเพราะ

ผู้บริหารที่ดีและเก่ง ทำให้ใช้กลยุทธ์ธุรกิจที่เหมาะสมกับธุรกิจครับ
นักวิเคราะห์สาวเธอยืนยันว่าจากการไปเยี่ยมกิจการหลายครั้ง รู้สึกมั่นใจในการบริหารของผู้บริหารมาก บริษัทเน้นผลิตสินค้าทีเน้นคุณภาพจริงๆ จะไม่ใช้วัตถุดิบ recycle เลย นอกจากนั้นถึงกับสร้างห้อง clean room เพื่อผลิตและเก็บสินค้า นับว่าไม่ธรรมดาเลย นอกจากนั้นจากการสอบถามทราบว่าผู้บริหารค่อนข้างแฟร์กับคู่ค้ามาก ทำให้ได้รับออเดอร์อย่างต่อเนื่อง..

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 10:30 pm
โดย ลูกอิสาน
naris เขียน:แต่ตรงนี้ไม่ต้องห่วงครับ เพราะคุณลูกอิสานนี่เก่งงบมากกว่าผมเอง รับรองเคลียร์(มันเป็นภาพย่อยไม่ต้องไปสนใจ) ส่วนInsightก็หาเอาจากคุณบาสเก็ตแมนเอาครับ
แหะ แหะ มันก็บ่แน่ดอกครับพี่ :lol: ตอนซื้อ chuo stpi ก็มั่นใจงบมากนะ แต่สุดท้ายกินน้ำบัวบก เพราะงบก็เป็นเพียงแค่ปัจจัยนึ่งในการเลือกหุ้นเท่านั้นครับ

ตัวนี้ผมดูงบก็ไม่น่าจะมีอะไร งบลงทุนปีที่แล้วอาจจะมากหน่อย เหตุผลก็ตามที่เขียนใน 56-1 ดังนี้ครับ..
เนื่องจากในปี 2549  บริษัทฯ ได้ใช้เงินจากการเพิ่มทุนไปลงทุน ในโครงการเกี่ยวกับเครื่องจักรและแม่พิมพ์ เป็นการเพิ่มและทดแทนเครื่องจักรและแม่พิมพ์เก่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและขยายกำลังการผลิต  รวมถึงโครงการผลิตสินค้าใหม่(PET)  ทำให้ทรัพย์สินของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น  
ส่วนเงินกู้ระยาวที่น้องโอ๊ตกังวล งบqล่าสุดประมาณ 90 ล้าน ถ้าคาดว่ากำไรปีนี้ 6-70 ล้าน ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะยังมีค่าเสื่อมอีก พอที่จะรองรับการลงทุนเพิ่มบ้าง รวมถึงนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน..

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 10:39 pm
โดย ลูกอิสาน
มาดูข้อเสียบ้าง

ถ้ามองภาพใหญ่ๆ ธุรกิจนี้ไม่มี barrier of entry หรือมีก็น้อยมาก เพราะแค่ซื้อเครื่องมาฉีดมาเป่าก็ขายสินค้าได้แล้ว มาดูว่าบริษัทเขียนในหนังสือชี้ชวนอย่างไร..
ภาวะการแข่งขันและแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม

สำหรับผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกถือได้ว่ามีการแข่งขันที่สูงทั้งจากผู้ผลิตภายในประเทศที่มีจำนวนมาก
และผู้ผลิตจากต่างประเทศ โดยรวมแล้วมีการแข่งขันทั้งในด้านราคา คุณภาพและรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม
มาตรฐานของสินค้าและความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อลูกค้าเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ถือ
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสินค้า ดังนั้นผู้ผลิตสินค้าจึงต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีมาตรฐานและได้คุณภาพ โดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ถือความสะอาดของบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งหากลูกค้าเชื่อมั่นในผู้ผลิตรายใด
แล้วมักจะไม่เปลี่ยนผู้ผลิต
ปัจจุบันผู้ผลิตภายในประเทศที่มีศักยภาพทั้งในด้านเทคโนโลยี เงินทุน และการวางตำแหน่ง
ทางการตลาดเช่นเดียวกับบริษัทฯ อาทิ บริษัท อิมโก้แพ็ค คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด บริษัท มาลาพลาส จำกัด บริษัท
เหรียญไทย อินเตอร์พลาส จำกัด บริษัท เบอร์ลี่ ไดน่าพลาส จำกัด และบริษัท แอมคอร์ คอนเทนเนอร์ส แพคเกจจิ้ง
(ประเทศไทย) จำกัด
ซึ่งแต่ละบริษัทดังกล่าวจำหน่ายสินค้าที่มีความแตกต่างกันเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า ซึ่ง
หากเปรียบเทียบขนาดธุรกิจของบริษัทดังกล่าวในเชิงรายได้ บริษัทฯ มีรายได้เป็นอันดับที่ 3 จาก 6 บริษัทดังกล่าว
อยากรู้จังครับว่าบริษัทคู่แข่งเหล่านี้มีฐานะการเงินอย่างไรบ้าง ไม่ทราบพอมีใครมีงบการบริษัทเหล่านี้บ้างหรือเปล่า แต่ที่แน่ใจว่า tpac น่าจะมีงบการเงินที่ดีกว่าแอมคอร์แน่นอน หลายท่านคงทราบเหตุผล :lol:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 10:54 pm
โดย ลูกอิสาน
ความเสี่ยงอีกข้อ..

อำนาจการต่อรองของลูกค้า ส่งผลต่อการทำกำไรของ tpac หรือเปล่า คำตอบคือมีแน่นอนครับ เพราะหลักฐานแสดงให้เห็นอย่างนั้น ในปี 45-47 เม็ดพลาสติค(PP PE HDPE) ราคากำลังอยู่ในช่วงข้าขึ้น อัตราการทำกำไรของบริษัทลดลงมาก ถึงแม้ไม่ถึงกับขาดทุน นั่นแสดงว่าอำนาจต่อรองของลูกค้าก็สูงพอสมควร ทำให้บริษัทไม่สามารถปรับราคาได้ทันทีทันใด แต่พอราคาเม็ดพลาสติคเริ่มนิ่ง ดูเหมือนอัตราการทำกำไรกลับมาเป็นปกติที่ 7-8% แล้วครับ ดูจากงบปี 48-49..

ดังนั้นถ้าราคาเม็ดพลาสติคมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คนที่ถือตัวนี้ก็ต้องระวังหน่อย..


ไม่ทราบผมอ่านเจอจากที่ไหน ว่าบริษัทมีลูกค้าประมาณ 130 ราย และไม่มีรายใดที่มีสัดส่วนมากกว่า 10% ของยอดขาย แต่ผมไม่สามารถหาข้อมูลนี้มายืนยันได้ เลยไม่กล้ายืนยัน ถ้าใครมีข้อมูลนี้ช่วยโพสต์หน่อยนะครับ.. :D

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 02, 2007 12:20 am
โดย tanapol
ผมกะว่างบออก q2 แล้วค่อยเก็บนะคับ

เพราะงบ q2 คงไม่โตเด่นชัด

สงสัย....

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 02, 2007 7:20 pm
โดย Basketman
ลูกอิสาน เขียน:ความเสี่ยงอีกข้อ..

ไม่ทราบผมอ่านเจอจากที่ไหน ว่าบริษัทมีลูกค้าประมาณ 130 ราย และไม่มีรายใดที่มีสัดส่วนมากกว่า 10% ของยอดขาย แต่ผมไม่สามารถหาข้อมูลนี้มายืนยันได้ เลยไม่กล้ายืนยัน ถ้าใครมีข้อมูลนี้ช่วยโพสต์หน่อยนะครับ.. :D
เหมือนจะเคยอ่านเจอในร้อยคนร้อยหุ้น tpac นะครับ ของ Mr.Korn ในหน้าแรกเลย  http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=20969  
แต่เป็นปี2006นะครับ ของ2007ผมก็คุ้นๆว่าผ่านตามาแต่ยังหาไม่เจอครับ 8)

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 02, 2007 9:03 pm
โดย Basketman
ผมขอเสริมนิดนึงเกี่ยวกับโรงงานพลาสติกครับ ผิดถูกก็บอกกันครับ ตามประสาความรู้เท่าฝาหอยของผม.  :?
ลูกอิสาน เขียน: บริษัทเน้นผลิตสินค้าทีเน้นคุณภาพจริงๆ จะไม่ใช้วัตถุดิบ recycle เลย นอกจากนั้นถึงกับสร้างห้อง clean room เพื่อผลิตและเก็บสินค้า นับว่าไม่ธรรมดาเลย นอกจากนั้นจากการสอบถามทราบว่าผู้บริหารค่อนข้างแฟร์กับคู่ค้ามาก ทำให้ได้รับออเดอร์อย่างต่อเนื่อง..
การที่บริษัทไม่ใช้ วัตถุดิบrecycle เลยนั้น สิ่งดีที่ตามมาก็คือราคา เศษวัตถุดิบเหลือใช้ หรือสินค้าที่ไม่ผ่านคุณภาพของโรงงานหรือ ของลูกค้า ของตัวสินค้านั้นๆ ที่จะมีความบริสุทธิ์มาก สามารถนำมาขายต่อได้ในราคาสูง ประมาณ 30-60% ของต้นทุนวัตถุดิบให้แก่โรงงานrecycle(ที่มีการแข่งกันซื้อเศษพลาสติกพวกนี้อย่างดุเดือด)
อำนาจการต่อรองของลูกค้า ส่งผลต่อการทำกำไรของ tpac หรือเปล่า คำตอบคือมีแน่นอนครับ เพราะหลักฐานแสดงให้เห็นอย่างนั้น ในปี 45-47 เม็ดพลาสติค(PP PE HDPE) ราคากำลังอยู่ในช่วงข้าขึ้น อัตราการทำกำไรของบริษัทลดลงมาก ถึงแม้ไม่ถึงกับขาดทุน นั่นแสดงว่าอำนาจต่อรองของลูกค้าก็สูงพอสมควร ทำให้บริษัทไม่สามารถปรับราคาได้ทันทีทันใด แต่พอราคาเม็ดพลาสติคเริ่มนิ่ง ดูเหมือนอัตราการทำกำไรกลับมาเป็นปกติที่ 7-8% แล้วครับ ดูจากงบปี 48-49..

ดังนั้นถ้าราคาเม็ดพลาสติคมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คนที่ถือตัวนี้ก็ต้องระวังหน่อย..
ราคาเม็ดพลาสติกพวกนี้มีขึ้นๆลงๆตลอดครับ มีให้เก็งราคาซื้อกันทุกเดือน บางทีเก็งราคาซื้อผิดมีติดดอยก็มีนะครับ แต่พวกโรงงานใหญ่ๆมีประสบการณ์สูงอย่างtpacนี่ผมว่ามีคอนเน็กชั่นที่ดีกับพวกAgency ขายเม็ดต่างๆเหล่านี้อยู่แล้วครับ(เล็กๆอย่างผมยังมีเลย  :lol: ) คงต้องเรียกว่า inside ละครับก็จะได้เม็ดราคาถูกไปก่อน และเมื่อราคาตลาดขึ้นก็จะนำตัวเม็ดต้นทุนถูกนี้มาผลิตให้ลูกค้าละครับ ซึงตรงนี้กำไรแต่ละช่วงจะสูงมากจากกำไรปกติ 5-10% ครับ ที่นี้ผมก็มาคิดว่า การสั่งสินค้าของลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแบบไหนถ้าเป็นแบบสั่งเป็นชุดๆไปก็คงกำไรเป็นปกติ แต่ถ้าทำสัญญาส่งมอบเป็นช่วงๆในระยะเวลาที่กำหนดไว้แน่นอนละก็ผมว่าบริษัทได้เปรียบและได้กำไรมากกว่าครับ
ถ้ามองภาพใหญ่ๆ ธุรกิจนี้ไม่มี barrier of entry หรือมีก็น้อยมาก เพราะแค่ซื้อเครื่องมาฉีดมาเป่าก็ขายสินค้าได้แล้ว
ตรงนี้ต้องบอกว่า ตัวเครื่องจักรนี่ไม่ยากครับ มีมาขายที่งาน Inter Plas Pack ไบเทคบางนาแทบจะทุกเดือน จะมีงานใหญ่จิงๆปี 1-2 ครั้ง แต่ที่จะเป็น barrier of entry ผมว่าน่าจะเป็นที่บุคคลากรครับช่างเทคนิคฝีมือดีๆนี่หายาก ถึงตัวเครื่องจะเหมือนกันแต่ถ้าช่างคนละคนนี่สินค้าออกมาไม่เหมือนกันนะครับแถมเป็นตัวชี้วัดค่าความเสียหายระหว่างการผลิตซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อกำไรของโรงงาน(พวกขั้นตอนการขึ้นรูปการmaintenance เครื่องระหว่างผลิต)จะมากจะน้อยก็อยู่ที่ช่างด้วยครับ แต่ที่tpacผมก็เห็นเค้ามีอบรมบุคคลากรสม่ำเสมอครับ. กับอีกอย่างก็คือสายป่านในการแสวงหาวัตถุดิบพวกเม็ดพลาสติกนี่ละครับ ซึ่งบางครั้งมันจะไม่มีก็ไม่มีเอาซะดื้อๆ รึบางครั้งมีก็ราคาแพงมากๆก็ต้องหามาละครับเพราะ โรงงานพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ต้องเดินเครื่องกัน24 ชม.อยุ่แล้ว(นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่โรงงานเล็กๆอยู่ไม่ค่อยได้)ก็ต้องคอยหาวัตถุดิบป้อนโรงงานตลอด

     :idea: กับอีกความวิตกกังวลหนึ่งของผมนะครับ มองข้ามshotไปหน่อย ถ้าเค้าว่าอีก30-50 ปีนี้โลกเราไม่มีน้ำมัน รึไม่มีพวกปิโตรเคมี ในโลกนี้แล้ว(แน่นอนว่าพวกถุงพลาสติกต่างๆก็จะต้องไม่มีด้วย) เราจะใช้อะไรมาทดแทนครับ อย่างเวลาไปซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำ ซื้อแกง เค้าจะใส่อะไร(ไม่นับพวกหม้อ ปิ่นโต ที่จะหิ้วไปใส่เองนะครับ) ไปซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ ซื้อน้ำยาล้างจาน เค้าจะใช้อะไรบรรจุ?? น่าคิดนะครับ...  :nm:  แต่ตอนนี้ที่รู้มาพวกที่ทำ recycle พลาสติกเกรดA นี่รวยไม่รู้เรื่องแล้วครับ. :mrgreen:

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 03, 2007 12:08 am
โดย ลูกอิสาน
ขอบคุณน้องเจนครับ  :D
ได้ผู้ประกอบการจริงๆมาคอมเมนต์เลยนะครับ

เห็นบ่นว่าหาหุ้นยาก
วันนี้มีวางขายที่ 5.1 เจ็ดแสนหุ้น
ถ้าจะซื้อเพิ่ม ไม่ต้องเกรงใจกันนะ :lol:

เรื่องน้ำมันจะหมดโลกไม่ต้องกลัวครับ เพราะพวกเราคงอยู่ไม่ถึงวันนั้น  ที่จริงโพลีเมอร์ที่นำมาผลิตพลาสติคสามารถผลิตได้จากพืชหลายชนิดครับ แต่ราคายังแพงเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมัน เลยไม่ค่อยมีการผลิตกัน

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 03, 2007 7:31 pm
โดย Rocker
จุดเด่นของ TPAC คืออะไรครับ

Catalyst มีอะไรบ้างครับ + Critical Factors หลักๆครับ มีอะไรบ้างครับ

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 07, 2009 5:19 pm
โดย luckyman
เรื่องน้ำมันจะหมดโลกไม่ต้องกลัวครับ เพราะพวกเราคงอยู่ไม่ถึงวันนั้น  ที่จริงโพลีเมอร์ที่นำมาผลิตพลาสติคสามารถผลิตได้จากพืชหลายชนิดครับ แต่ราคายังแพงเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมัน เลยไม่ค่อยมีการผลิตกัน
จริงๆ แล้ววัตถุดิบของเม็ดพลาสติกคือ ก๊าซธรรมชาตินะครับ ไม่ใช่น้ำมัน

ใครติดตาม tpac บ้างครับ ผมกำลังสนใจ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 07, 2009 6:54 pm
โดย Skid
ถ้าหมดคง  ใช้ ไบโอพลาสติกแทนมั้งครับ วัตถุดิบมาจาก ข้าวโพด มันสัมปะหลัง อ้อย

http://www.ryt9.com/s/oie/544387/

ถ้า ksl ถ้าก้าวไปวิจัย ไบโอพลาสติกน่าจะดี มากๆ