หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เปิดพอร์ตเศรษฐีหุ้นmaiครึ่งปีแรก

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 25, 2007 5:44 pm
โดย zen
เปิดพอร์ตเศรษฐีหุ้นmaiครึ่งปีแรก เฉลิมทรัพยากรเก็บเฉียดพันล.    



เปิด 10 ตระกูลแชมป์เศรษฐีหุ้น mai กลุ่มเฉลิมทรัพยากร ผู้ถือหุ้นใหญ่ยูนิมิตฯ ยักษ์ใหญ่ในตลาดเล็กเครือข่ายธุรกิจพลังงาน มูลค่าพอร์ตหุ้นเกือบพันล้านบาท แบ่งถือทั้งใน UEC-UMS ไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากรบอสใหญ่ ชี้เข้าถือธุรกิจถ่านหินUMS ตั้งแต่ยื่นไฟลิ่งและยืนยันยังรักษาสัดส่วนเดิม มองเป็นธุรกิจที่มีอนาคตไกลโตตามอุตสาหกรรมพลังงานแถม มีต้นทุนถูกสุด ขณะที่ เตชะมาถาวร เจ้าของธุรกิจจิวเวอรรี่โกลด์ไฟน์ฯ พอร์ตลงทุนเฉียด 750 ล้านบาท ด้าน สยามสินทรัพย์พัฒนา หุ้นใหญ่ธุรกิจโรงพยาบาล ครองพอร์ตเกือบ 430 ล้านบาท

จากการรวบรวมกลุ่มที่มีสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) สูงสุด 10 อันดับแรกงวดครึ่งแรกปี 2550 พบกลุ่มตระกูลที่ถือสัดส่วนการลงทุนมากที่สุดคือ

กลุ่มตระกูลเฉลิมทรัพยากร โดยแบ่งถือหุ้นในบริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ UEC จำนวน 26.78 ล้านหุ้น คิดเป็น 20.3% คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 543.70 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21 มิ.ย.50 ที่ 20.30 บาท) ซึ่งตระกูลเฉลิมทรัพยากรเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน UEC

นอกจากนี้ยังได้ถือหุ้นในบริษัท ยูนิคไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS จำนวน 26.42 ล้านหุ้น คิดเป็น 37.76% คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 420.22 ล้านบาท(คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21 มิ.ย.50 ที่ 15.90 บาท) รวมกลุ่มเฉลิมทรัพยากรถือหุ้นใน 2 บริษัทคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 963.92 ล้านบาท

นายไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากร ประธานกรรมการ บริษัท UEC กล่าวว่าการเข้าถือหุ้นใน UMS เป็นการถือหุ้นตั้งแต่ UMS ยื่นไฟลิ่งโดยมีบริษัทแห่งหนึ่งขายต่อให้ในสัดส่วน 37.76% ซึ่งตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้มีการเพิ่มหรือลดสัดส่วนแต่อย่างใด สาเหตุที่เข้าถือหุ้นใน UMS เนื่องจากมองว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตไกลและยังเติบโตได้ดีตามอุตสาหกรรมพลังงาน ขณะที่ปัจจุบันถ่านหินยังมีต้นทุนที่ถูกสุด โดยมีตัวเลขการใช้เพียง 17% ของการใช้พลังงานทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยมาก

อันดับที่ 2 คือ กลุ่มตระกูลเตชะมาถาวร ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอร์เรอส์ จำกัด(มหาชน)หรือ GFM จำนวน 103.23 ล้านหุ้น คิดเป็น 68.82% รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 743.32 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 มิ.ย.50 ที่ 7.20 บาท)

สำหรับอันดับที่ 3 คือ กลุ่มบริษัท สยามสินทรัพย์พัฒนา จำกัด ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นในหุ้นโรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด(มหาชน)หรือ TNH จำนวน 50 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.78% รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 427.50 ล้านบาท(คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21 มิ.ย.50 ที่ 8.55 บาท)

อันดับที่ 4 กลุ่มตระกูลเธียไพรัตน์ ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติกส์ จำกัด(มหาชน)หรือ ETG จำนวน 76.97 ล้านหุ้น คิดเป็น 66.95% รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 404.23 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21 มิ.ย.50 ที่ 5.25 บาท)

ส่วนอันดับที่ 5 คือ กลุ่มตระกูลวิฑูรย์เธียร ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด(มหาชน) หรือ ACAP จำนวน 49.12 ล้านหุ้น คิดเป็น 19.12% รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 299.65 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 20 มิ.ย.50 ที่ 6.10 บาท) ,อันดับที่ 6 คือ กลุ่มตระกูลอนันตรัมพร มีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท อินเตอร์ลิ้ง คอมมิวนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ILINK จำนวน 25.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 31.88% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 201.46 ล้านบาท(คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21 มิ.ย.50 ที่ 7.90 บาท)

อันดับที่ 7 กลุ่มตระกูลกิตติอิสรานนท์ มีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท เด็มโก้ จำกัด(มหาชน) หรือ DEMCO จำนวน 41.49 ล้านหุ้น คิดเป็น 19.77% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 195.86 ล้านบาท(คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21มิ.ย.50 ที่ 4.72 บาท)

อันดับที่ 8 นางนงน้อย ศิลปรัตน์ มีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัทบ้านร็อคการ์เด้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือ BROCK จำนวน 129.98 ล้านหุ้น คิดเป็น 64.99% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 155.98 ล้านบาท(คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21 มิ.ย.50 ที่ 1.20 บาท)

สำหรับอันดับที่ 9 กลุ่มตระกูลบูลกุล ซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ BROOK จำนวน 143.74 ล้านหุ้น คิดเป็น19.85% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 140.86 ล้านบาท(คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21มิ.ย.50 ที่ 0.98 บาท)

อันดับที่ 10 กลุ่ม บริษัท เคพีเค 1999 จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TRC จำนวน 35 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.34% รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 101.50 ล้านบาท (คำนวณจากราคา ณ วันที่ 21 มิ.ย.50 ที่2.90 บาท)


ที่มา:
ทันหุ้น (Th) 25 Jun 07