หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ย้อนยุทธ์ตอนที่ 2 เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 16, 2007 8:45 pm
โดย กูรูขอบสนาม
ย้อนยุทธ์ตอนนี้สำหรับ VI ทุกท่านที่มีบัตรเครดิต โดยเฉพาะบัตรจากธนาคารต่างชาติแห่งหนึ่ง  ให้รู้ที่มาว่าบริษัทฯ มองเห็นโอกาสในตลาดไทยอย่างไรและวางแผนบุกเบิกจนมาแรงแซงโค้งรุ่นก่อนๆได้อย่างไร  ขณะนี้เป็นเวลา สองทุ่มเศษ กูรูพิมพ์ไปบนเสียงเพลงเพราะๆจากสถานีวิทยุแจ๊สแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังเปิดเพลงยุค Nostalgia อยู่พอดี สลับกับเสียงฟ้าข้างนอกร้องครืนๆ  เชิญสบายอกสบายใจอ่านได้เลยครับ

ตอนที่ 2   เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

ชีวิตสมัยใหม่ช่างมีเงินจับจ่ายง่ายดายเหลือเกินนะครับ   ไม่มีเงินธนบัตรจริงก็สามารถใช้เงินจากบัตรพลาสติกได้  แถมยังได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลมีเครดิตเสียอีก  ซ้ำยังได้รับอภิสิทธิ์อื่นๆอีกมากมาย เช่น  ได้รับส่วน ลดพิเศษเมื่อช้อปปิ้งตามร้านค้าต่างๆ   ใช้ผ่อนซื้อสินค้าดอกเบี้ย 0 %    รูดปรื๊ด รูดปรื๊ด สะสมคะแนนรับแลกของรางวัล เป็นต้น  บัตรเครดิต เป็นธุรกิจอีกประเภทที่สามารถขยายตัวได้ไม่สิ้นสุด  คนหนึ่งคนสามารถถือบัตร ได้ไม่จำกัดจำนวน   แถมบางท่านยังใช้ประโยชน์ในการบริหารหมุนเงินส่วนตัวได้อย่างเยี่ยมยอดอีกด้วย  

สำหรับกูรูของสนามเอง เห็นความจำเป็นของการมีบัตรเครดิตครั้งแรก เมื่อครั้งที่คุณพ่อเพื่อนเสียชีวิตกระทันหันในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง  เพื่อนของกูรูไม่สามารถเอาร่างคุณพ่อออกมาได้เพราะมีเงินสดไม่พอ  อีกทั้งช่วงนั้นก็เป็นวันหยุดยาวประจำสัปดาห์ กว่าจะรอธนาคารเปิดทำการก็อีก 3 วันข้างหน้า (สมัยนั้นยังไม่มีบริการธนาคารนอกเวลาอย่างทุกวันนี้) เพื่อนโทรศัพท์รบกวนขอความช่วยเหลือ   กูรูเองก็ต้องไปขอให้ญาติผู้ใหญ่มาช่วยชำระค่าใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตที ( เพราะกูรูเองก็ไม่มีบัตร)  กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการเอาร่างคุณพ่อเพื่อนออกมาประกอบฌาปนกิจศพก็ใช้เวลาพอสมควร  จึงเห็นประโยชน์ในการใช้บัตรเครดิตเมื่อยามฉุกละหุกเช่นนี้

ย้อนมองกลับไป  ในสมัยที่บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่ไกลสุดเอื้อม  ผู้ที่มีคุณสมบัติสามารถครอบครองบัตรต้องถูกคัดสรรจริงๆ  แถมยังแบ่งชนชั้นเครดิตว่าถือบัตรเงิน บัตรทอง หรือให้สูงสถานะขึ้นไปอีกก็คือบัตรอเมริกันเอ็กซเพรส  บัตรไดเนอร์สคลับ  แต่ละบัตรจะมีอภิสิทธิ์ลดหลั่งกันไป  การขอสมัครบัตรแต่ละใบ ก็ต้องส่งหลักฐานการเงินมากมายกว่าจะผ่านขั้นตอนการอนุมัติ   ใช้เวลานับเดือนจนเราลืมไปเลย  ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เราเห็นผู้ถือบัตรบางคนภาคภูมิใจนักหนากับความเป็นคนมีระดับของตัวเอง เขาหรือเธอเหล่านั้นก็มักจะอวดบัตรโชว์ให้เห็นอย่างไม่ตั้งใจ( จริงๆตั้งใจครับ)

ธนาคารต่างชาติอันดับหนึ่งในบ้านเรา  มองเห็นช่องว่างตลาดบัตรเครดิตของคนไทยที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมหาศาล  เตรียมแผนจะออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวใหม่คือบัตรเครดิต  C ออกมา   แต่จะทำอย่างไรดีเล่าให้แตกต่างจากบัตรพลาสติกรายอื่นๆซึ่งออกมาก่อนหน้านั้นแล้ว  นี่คือโจทย์สำหรับทีมงานการตลาดต้องหนุนหมอนนอนขบคิด

ทีมทำงานออกเดินเท้าทำวิจัย  สำรวจผู้ที่ยังไม่ได้ถือหรือไม่คิดจะถือบัตรเครดิต ก็ได้รับคำตอบว่า  ขั้นตอนการสมัครแสนยุ่งยาก ต้องมีหลักฐานการเงินน่าเชื่อถือ   ต้องมีเงินก้อนฝากในบัญชี    ต้องมีผู้ค้ำประกัน และสารพัดต้องทั้งหลายที่ตัดหนทางการสมัครเป็นสมาชิก (บางทีอาจจะเป็นความหวังดีที่ไม่อยากให้ผู้บริโภคเป็นหนี้ในอนาคตมากเกินไปก็ได้ครับ )    ทุกคนไม่มีข้อกังขาเรื่องประโยชน์หรือวิธีการใช้บัตรเลย  เพราะบัตรเครดิตจ้าวต่างๆที่อยู่ในตลาดก่อนหน้าได้ให้ความรู้และการศึกษาอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว

ทีมงานสุมหัวสรุปพฤติกรรมดังกล่าว อย่างนี้เขาเรียกว่า  Desire is heated but Underserved  ไฟปรารถนาถูกจุดขึ้นมาแล้ว แต่ไม่มีสินค้าหรือบริการมารองรับ ถ้าปล่อยทิ้งไว้  ก็คงจะดับม้วยมอดและจุดติดยาก  ฉะนั้น กลวิธีที่จะนำเสนอบัตรเครดิตตัวใหม่ ก็คือ  ลดข้อจำกัดการสมัครให้น้อยลง หรือพูดอีกด้าน เขย่าตลาดบัตรเครดิตด้วยการทำทุกอย่างให้ง่ายเข้าไว้   ( Make it Easy to All ) แน่นอนครับ การมาทีหลังอาจจะเสียเปรียบเรื่องการยอมรับ แต่ก็ได้เปรียบด้วยสามารถเปรียบเทียบจุดอ่อน จุดแข็งและบทเรียนความสำเร็จ ล้มเหลวของผู้ที่อยู่ในตลาดมาก่อน  บัตรเครดิต C จึงเตรียมกลยุทธความง่าย โดนใจดังนี้

ง่ายต่อการเข้าถึง ( Easy to Access)
แต่ไหนแต่ไร ลูกค้าท่านใดจะสมัครบัตรเครดิตต้องเดินเข้าไปสถาบันการเงินแห่งนั้น รอพบพนักงานผู้น่าเกรงขามและกรอกรายละเอียด  บางครั้งก็ต้องถูกตรวจสอบทางสายตาและซักถามด้วยวาจา  ลูกค้าบางท่านจึงไม่ทำธุรกรรมอะไรที่แบ็งก์นอกจากฝากเงิน  (ส่วนถอนเงิน ใช้ ATM อยู่แล้วครับ)  ทีมงานจึงสวนวิถีปฎิบัติแทนที่จะให้ลูกค้าเดินเข้ามาหา   ก็ออกไปเชื้อเชิญลูกค้านอกสถานที่ตามแหล่งชุมชนสำนักงาน  โปรยใบสมัครไปทั่วเหมือนแจกใบปลิวโฆษณา ทำให้ดูว่า การสมัครบัตรเครดิต C ช่างง่ายดาย  ไม่ใช่เรื่องพิเศษที่ต้องสงวนสิทธิ์เฉพาะคนกลุ่มน้อยอีกต่อไป   ( วิธีนี้ทำให้บรรดาคู่แข่งขวางๆอยู่สักหน่อย เพราะไปลดระดับชนชั้นบัตรเครดิตให้โก้น้อยลง)  หรือจะหยิบใบสมัครจากกล่อง Take One Box ซึ่งจะวางบนเคาน์เตอร์ทุกแห่งที่สามารถวางได้   แม้แต่ในลิฟท์ตามตึกหรือทางเข้าที่จอดรถ ถ้าเจ้าของสถานที่อนุญาต

ง่ายต่อการอนุมัติ ( Easy to Get Approval)
ตัดเรื่องยุ่งยากของหลักฐานการเงินทั้งหลายออกไป  ระบุการแนบเอกสารต่างๆเท่าที่จำเป็น เช่น ใบรับรองเงินเดือนหรือบัญชีแสดงสถานะเงินเดือนย้อนหลัง  ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน  ไม่ต้องมีวงเงินฝากอยู่กับสถาบันการเงินต้นสังกัด  ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า หนักไปกว่านั้นก็คือไม่ต้องชำระค่าสมาชิกรายปีตลอดชีพ...ว้าว  (อย่างหลังนี้ชอบมากๆเลยครับ)

ที่สำคัญเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจบัตรเครดิตเอื้อมแตะกลุ่มลูกค้าที่ถูกหมางเมินจากสถาบันการเงินทั่วไป  นั่นก็คือ เหล่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ   ซึ่งมักจะถูกประเมินว่ามีรายได้ไม่เข้าเกณฑ์   แต่หารู้ไม่ว่าคนกลุ่มนี้มีความมั่นคงทางหน้าที่การงานมากกว่าเอกชนนัก  ฉะนั้นหากท่านใดเป็นข้าราชการระดับ  C 4 ขึ้นไป ไม่แปลกใจเลยครับที่จู่ๆก็มีจดหมายเชื้อเชิญปูพรมแดงให้สมัครเป็นสมาชิกบัตรเครดิต C อย่างไร้เงื่อนไข  
เมื่อใบสมัครพร้อมหลักฐานครบ ขั้นตอนอนุมัติก็จะจบลงโดยเร็ว  รับประกัน ภายใน 1 สัปดาห์ หรือเร็วกว่านั้นในกรณีพิเศษ เช่น เจ้าของบัตรต้องเดินทางไปต่างประเทศเร่งด่วน

ง่ายต่อการบริหารเครดิต ( Easy to Manage Revolving Credit)
ข้อได้เปรียบของการเป็นเครือข่ายสถาบันการเงินต่างประเทศก็คือ ได้รับการถ่ายทอดและเรียนรู้ข้อเสนอ บริการใหม่ๆที่เป็นสากล   เช่นเดียวกัน เรื่อง Revolving Credit  หรือเครดิตหมุนเวียน ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในเงื่อนไขการชำระเงินในระบบบัตรเครดิตมาก่อน  นั่นก็คือ ผู้ใช้บัตรสามารถชำระเงินค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นผ่านบัตรเครดิตได้ขั้นต่ำเพียง 10% เท่านั้น  ส่วนที่เหลือก็สมทบยอดไปกับค่าใช้จ่ายในงวดต่อไป ( อย่าลืมต้องคำนวณดอกเบี้ยด้วยนะครับ)  บัตรเครดิตคู่แข่งไม่เคยมีข้อเสนอพิเศษนี้หยิบยื่นให้ แต่ประการใด   แต่ก็ได้เสนอตามติดๆมาภายหลัง และกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันว่า บัตรเครดิตคิดดอกเบี้ยขูดซิบๆเกินไปหรือไม่

ข้อกังวลใจประการหนึ่งที่น่าหวาดหวั่นก็คือ   ความง่ายจะกลายเป็นมักง่ายไปหรือไม่  ด้วยเป้าหมายการตลาดที่ต้องการคว้าแชมป์บัตรเครดิตอันดับหนึ่งให้ได้  นั่นหมายถึงบริษัทจะต้องกว้านหาลูกค้าจำนวนมหาศาล  ซึ่งอาจ จะมีความสามารถในการชำระเงินคืนครบบ้าง หย่อนบ้าง อันนำไปสู่ความล่าช้าหรือหนี้สูญ (โดยเฉพาะจากเงื่อนไข การชำระขั้นต่ำในระบบเครดิตหมุนเวียน)  บริษัทจะทำอย่างไรหากกองหนี้สูงท่วมหัว   คำตอบที่ได้รับก็คือ  ไม่ต้องกังวลหรอกครับ  เรามีทีมงานที่ติดตามหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งจะผ่านการอบรมถ่ายทอดประสบการณ์อย่างเข้มงวด  มาถึงทุกวันนี้ ทุกคนก็คงประจักษ์แล้วนะครับว่า ทีมงานติดตามหนี้ของบัตรเครดิต C จ้าวนี้เข้มแข็งแค่ไหน..บรื๋อ..

หลังจากแนะนำตัวเองสู่ตลาดไปแล้ว พร้อมพรั่งด้วยแผนงานการตลาดที่หว่านทั่ว  บัตรเครดิต C ก็พาตัวเองไปถึงดวงดาวจนได้ในที่สุด  ด้วยสโลแกนที่เกทับนิดๆ  ไมใช่แค่วีซ่าธรรมดา  

เห็นมั้ยครับ ถึงจะมาทีหลัง แต่ทำให้แตกต่าง ทำให้ง่ายขึ้น  ก็แซงหน้ารุ่นพี่ๆได้  

จากวันนั้นถึงวันนี้ บัตรเครดิต C ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการตลาดบัตรเครดิตในประเทศไทย   กลยุทธ ทำให้ง่ายเข้าไว้ ได้กลายเป็นวิถีปฎิบัติของบัตรเครดิตทุกจ้าวไปหมดแล้ว     ทุกๆที่ทั่วหนแห่ง   เราจะเห็นสาวๆชาวพริตตี้การ์ด เดิน ยืน คอยดักผู้สัญจรไปมาจนดูเป็นเรื่องแสนธรรมดาพร้อมข้อเสนอต่างๆมากมาย เช่น  ใช้บัตรฟรีตลอดชีพ แถมบัตรเสริม ไม่นับของสมนาคุณที่ประเคนให้ชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ หมดสมัยแล้วครับที่จะปล่อยลูกค้าเดินเข้ามาในออฟฟิคตามยถากรรม และกล่าวเสียงอ่อยๆเกรงใจ ขอสมัครใช้บริการบัตรเครดิต

ส่วนผู้บริโภคเองก็มีโอกาสกว้างขึ้นในการเลือกบัตรเครดิตที่ให้เงื่อนไขตอบแทนดีที่สุด  ไม่มีข้อผูกมัดหรือจำกัดเกินไป  ขอเพียงแต่รู้จักการใช้บัตรบริหารเครดิตของตัวเองให้เหมาะสม ไม่เกินตัว        สวัสดีครับ

ย้อนยุทธ์ตอนที่ 2 เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 18, 2007 10:08 am
โดย humdrum
ผมมีความสุขที่ได้อ่านบทความดี ๆ
เรื่อง"ยาก" ๆ คุณกู เขียนแล้วอ่าน "ง่าย"
 ขอบคุณครับ
ผมขอเปิดแฟ้ม "กูรูขอบสนาม" เป็นแฟ้มสำคัญอีกแฟ้มหนึ่ง
   อนาคตติดทีมชาติแน่นอนครับ
        :wink:

ย้อนยุทธ์ตอนที่ 2 เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 20, 2007 9:15 am
โดย ม้าเฉียว
นานๆที่ถึงจะได้เข้าบอร์ดมา

เช้านี้มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวสนุกๆ

นั่งอ่านกระทู้ห้องต่างๆู้ อื่มม
"ทำไมกรูนึกไม่ออกว่าจะคอมเม้นท์อะไรดี"
"ทำไมกรูอ่านกระทู้ไปแล้ว มันมึนๆงงๆ เขาคุยอะไรกันนักกันหน้านะ"
ผมบ่นกับตัวเอง

สงสัยจะสมองฝ่อ

เลยมาแวะทัก ดอกเตอร์โหน่ง ก็แล้วกัน

ย้อนยุทธ์ตอนที่ 2 เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 20, 2007 10:01 am
โดย สุมาอี้
ม้าเฉียว เขียน:นานๆที่ถึงจะได้เข้าบอร์ดมา

เช้านี้มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวสนุกๆ

นั่งอ่านกระทู้ห้องต่างๆู้ อื่มม
"ทำไมกรูนึกไม่ออกว่าจะคอมเม้นท์อะไรดี"
"ทำไมกรูอ่านกระทู้ไปแล้ว มันมึนๆงงๆ เขาคุยอะไรกันนักกันหน้านะ"
ผมบ่นกับตัวเอง

สงสัยจะสมองฝ่อ

เลยมาแวะทัก ดอกเตอร์โหน่ง ก็แล้วกัน

แสดงว่าคุณม้าเฉียวฝึกวิชาภาวะไร้ตลาดหุ้นได้ถึงขั้นสุดยอดแล้วสิครับ ไว้ผมจะตามไปบ้าง

ย้อนยุทธ์ตอนที่ 2 เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 8:47 am
โดย booklover
ชอบครับอ่านสนุกมาก จะรออ่านอีกนะครับ :D

ย้อนยุทธ์ตอนที่ 2 เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 16, 2008 6:46 pm
โดย Dech
สุดยอดครับ  :bow:  :bow:  :bow:

ย้อนยุทธ์ตอนที่ 2 เขย่าตลาดด้วยความง่ายกว่า

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 17, 2008 12:23 pm
โดย กูรูขอบสนาม
[quote="CopyWriter"]สุดยอดครับ