Thai VI

จากสูตร V =Dps1/(k-g) อ่ะค่ะ

   มีโอกาสมั้ยคะที่ g >= k
   สาเหตุเพราะอะไรหรอคะ

คงน้อยมากๆ นะครับถ้าจะเกิดได้จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยก็เกรงใจอยู่แต่คงประมาณ 0.00000000001% อะไรประมาณนี้เนื่องจากว่าค่า g ที่ใช้จะต้องเป็นการเจริญเติบโตในอนาคตที่คิดว่าจะเจริญได้หลังจากเริ่มตลาดเริ่มอิ่มตัวแล้วโดยมากก็ได้แค่โตตาม gdp ครับ ทีนี้มาดูค่า k ซึ่งคือต้นทุนทางการเงิน ถ้าต้นทุนทางการเงินดันมาต่ำมากๆ ก็คงโชคดีครับ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็ลำบากอีกแม้ว่าจะมี kd ที่ต่ำ แต่ ke อย่างไรก็จะช่วยดึงค่า k รวมสูงขึ้นเองครับ

ถ้า g >= k จะไม่สามารถใช้สูตรนี้ได้ครับ
ปกติ ถ้าบริษัทอยู่ในช่วง Super growth
g จะมากกว่า k

เราแก้ปัญหาดังกล่าวได้โดยการแยกคิด
ช่วง Super Growth ต่างหาก
จากนั้นค่อยใช้สูตรดังกล่าวสำหรับ Constant Growth

ถ้า  G > K ต้องทําเป็นsuper growth  model ครับ
คิดแยกเป็นช่วงๆ เช่น ช่วง เติบโตและ อิ่มตัว และค่อยหา PV ออกมาแต่ๆละปีๆ

ในหนังสือ business finance จะมีตัวอย่างครับลองดู

ทำช่วงแรกเป็น super growth ครับ

แล้วเอาสูตรนีไปใช้

p = EPS0 * Payout Ratio * {1- [(1+g)^n/(1+k)^n]}/(r-g) +EPS0*Payout Ratio*(1+g)^n*(1+gn)/(r-gn)(1+k)^n

g = growth during super growth
gn= growth at stable rate
EPS0 = earning last year
k = Require rate of return
n = number of year during super growth
หาตามหนังสือก็ได้ครับ

อย่างนั้นมันเป็น constant growth ได้อย่างไง

เลือกสูตรให้เหมาะกับบริษัทครับ สำคัญยิ่ง

มึนตึบ อาจารย์จะสอนสูตรแบบนี้ในวันอบรมไหมเนี่ย
แบบว่าตั้งแต่ลงทุนมาไม่เคยใช้เลย :lol: