Thai VI

มีคำแนะนำจากหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแนว buffett ให้ลดรอบการซื้อขายให้น้อยที่สุด เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายจากการซื้อขาย ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนในการลงทุนโดยไม่จำเป็น ...
ผมเลยอยากสำรวจดูว่า...
- สำหรับผู้ที่ลงทุนแบบนี้ มีรอบการซื้อขายต่อเดือน หรือต่อปี มากน้อยแค่ไหน
- มีการทำตามคำแนะนำเรื่องการลดรอบการซื้อขาย อย่างที่แนะนำในการลงทุนแนว bufflet หรือไม่

ซื้อเฉลี่ยเดือนละครั้งมั้งคับ

ซื้อประมาณ 2 เดือนครั้ง ปีประมาณ 6 ครั้ง ยกเว้นวันที่ 19 ธ.ค. เล่นไปเต็มปอดเลย

ไม่แน่นอน แต่ซื้อเมื่อมีตังค์  :lol:

ที่ลองสำรวจความคิดเห็น เพราะช่วงหลัง ที่ได้เข้าไปอ่าน comment ต่างๆในห้องร้อยหุ้น พบว่า เซียนหุ้นส่วนใหญ่ ทยอยทำกำไร หลังหุ้นฮอตฮิตในห้อง ส่วนใหญ่วิ่งขี้นมาเป็นตับ ก็เลยรู้สึก (ไปเองรึป่าว) ว่า เซียนหุ้นหลายๆท่าน ซื่้อขายก็ถี่เหมือนกันนะครับ

ของผมมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2-3 เท่าของพอร์ต
ส่วนใหญ่พวกที่เทรดน้อย ๆ นี่จะเป็นพวกติดดอยหรือไม่ก็ VI ตัวจริงครับ

ผมสวิทช์เมื่อหุ้นวิ่งตอบโจทย์ทะลุเป้าหมาย หรือไม่ ก็ปัจจัยเปลี่ยนต้องวิ่งหนี

ปอดแรก มาร์ร้องไห้ เพราะว่า ซื้อขายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ถือกันยาว เคาะครั้งแรกของปีนี้คือ เดือน 4 ครับแถมซื้อไม่มากด้วย เคาะครั้งก่อนหน้านั้นคือ ประมาณ 20/12/2549 แค่นี้ล่ะครับ

ปอดสอง เฉลี่ยแล้วปีนี้เคาะน้อยลงมากๆ เดือนละ1-2 ครั้งเดือนนี้เคาะมากหน่อย แต่ยังปรับปอดนี้ไม่สำเร็จ เพราะมีหุ้นกระจัดกระจาย กำลังงงกับปอดว่าเอาไงดี
ให้คำจำกัดความว่าเป็นอะไร แต่coreมันคือ หุ้นดี มีแนวโน้มเติบโต ถือลืมได้

ไม่มีความแน่นอนเลยครับ บางทีทั้งเดือนไม่ทำอะไรเลย แค่มาเช็คดูเรื่อยๆว่าราคาถึงไหนแล้ว

จะซื้อมากกว่าขาย ยกเว้นตัวที่ดูเล่นๆ ก็มีขายไปบ้าง ตัวจริงจังถือยาวครับ ถ้าไม่มีอะไรพลิกผัน

ซื้อเมื่อคิดว่า ผลตอบแทนที่จะได้รับมากกว่าที่ตั้งใจไว้

ขายเมื่อราคามันสูงเว่อร์จนทำให้คนที่ซื้อตอนนั้นแทบจะไม่ได้อะไร

ดังนั้นบางเดือนอาจจะซื้อแบบบ้าระห่ำ (เช่นช่วง 19/9/06 และต้นปี07) และเก็บตัวไม่ซื้อเลยครับ

จาก Investor มาเป็น Buyer
จาก Buyer มาเป็น Seller
จาก Seller มาเป็น Buyer
จาก Amateur Buyer-Seller มาเป็น Professional Trader
.
.
.
คุณ ต้องเคาะซื้อ-เคาะขาย ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเก่ง
กว่าจะเดินทางถึงจุดนั้น คุณอาจจะต้องหมดไปหลาย
ตังค์หน่อยนะครับ เพราะ นี่ Real Money not Money
Game in The Box!!!

ตั้งแต่ปลายปี49เป็นต้นมา ผมซื้ออย่างเดียวครับ เดือนละครั้ง ตามช่วงที่เงินเดือนและปันผลออก เพราะช่วงที่ตลาดหมีแบบนี้แหละครับ เป็นช่วงที่ต้องเก็บหุ้นตัวที่หมายปองให้ได้มากที่สุด หากเปรียบกับชาวนาละก้อ ช่วงนี้ผมเปรียบเหมือนเป็นฤดูของการหว่านกล้าและปักดำ ปลายปีพอต้นข้าวเริ่มตั้งตัวได้ก็เริ่มใส่ปุ๋ยบำรุงต้นและใบ คัดแยกต้นที่ไม่ค่อยเจริญเติบโต หรือเป็นโรคทิ้งครับ หากไม่มีอะไรผิดพลาด กำหนดเก็บเกี่ยวก็คือช่วง3-5ปีข้างหน้า ช่วงนั้นข้าวทั้งแปลงคงเหลืองอร่ามเต็มทุ่ง(ตลาดกระทิงเต็มตัว) เก็บเกี่ยวเสร็จ ก็ทิ้งหน้าดินตากไว้ รอเริ่มต้นฤดูกลาลเพาะปลูกครั้งต่อไปอีก เป็นวงจร :lol:

ซื้อขายทุกวัน  เรียกว่าเฝ้าเลยครับ
เหมือนสวิทช์วีไอกับสินธรครับ  :lol:
ทุนน้อยครับ มีแต่หุ้นอยากซื้อ

ตัวไหนนิ่ง ๆ  ก้อแบ่งมาไล่ตัววิ่ง ๆ  
พอนิ่ง ๆ  เสร็จแล้วก้อกลับมาตัวเก่า
วนอยู่นี่แหละสี่ห้าตัว  
ค่าคอมฯ  อานเลยครับ :lol:  :lol:  :lol:

[quote="juntuma"]ซื้อขายทุกวัน

[quote="juntuma"]ซื้อขายทุกวัน

เปลี่ยนตัวน้อยมากครับ ปีละตัวสองตัว ดังนั้นเทรดประมาณไม่เกิน 20% ของพอร์ต

ซื้อเพิ่มในตัวเดิม ๆ มากกว่า (ขายแล้วซื้อกลับก็ไม่ทำ เพราะดูเทคนิคไม่เป็น)

ผมไม่รู้มันส่งผลต้นทุนเรื่องคชจ.ค่าคอมมากขนาดนั้นรึเปล่า เพราะเมืองไทยยังต่างกับตปท. เรื่องกฎระเบียบภาษี ผมคิดว่าน้ำหนักสำหรับเหตุผลนี้ก็คงจะเป็นเรื่องการลดการเก็งกำไร แข่งกับ mr. Market มากกว่า

สำหรับผมคิดว่าใช้เวลากับการอ่านหนังสือดีกว่า เวลาที่ใช้เทรดแป๊ปเดียวเพราะกดคลิ๊กเดียวได้หุ้นมาเต็มกระเป๋าแล้ว

ตอนนี้หุ้นที่ถือนานที่สุดคือสามเดือน  หวังแค่ปันผล
คาดว่าจะถือต่อไปถ้าไม่มีรัยเปลี่ยนแปลง  คิวหนึ่งแนวโน้มดี
ผลปรากฎว่าดีเกินคาด  อาจเป็นเพราะฟลุ้คครับ  
เคยขายแล้วต้องกลับมาซื้อคืน  กะถือยาวเลยทีนี้ล้อคไว้แน่นหนา

อีกตัวเป็นหุ้นยอดนิยมในนี้  คาดการณ์ผิด  มีข่าวดีออกหลังจากขายได้วันเดียว
ต้องกลับมาไล่ซื้อใหม่  เฮ้อ

เมื่อวานหมาด ๆ  มีตัวนึงเห็นนิ่ง ๆ  หมุนไปซื้อตัวอื่น  วันนี้วิ่งกระจาย

เป็นบทเรียนว่าอย่าโลภ  หัดอยู่นิ่ง ๆ  ให้เป็น  ปู่บัฟ  พี่วิบูลย์
หลาย ๆ คนสอนแล้ว  ถ้าไม่โลภ  ส่วนใหญ่จะได้ผลดี
แต่มันทำใจยากครับ  ใครมีวิธีอยู่นิ่ง ๆ บอกทีครับ

ตามอารมณ์ครับ

ส่วนใหญ่ที่ซื้อก็ตัวเดิมๆ แต่ซื้อเพิ่มครับ  :P

ส่วนที่ trading สนุกๆ ไม่นับนะครับ เพราะน้อยมาก ประมาณ 3% ของพอร์ต

ผมคิดว่าจะเป็น VI หรือไม่  

คงไม่ใช่  

ซื้อขายนานครั้งจะเป็น VI  

หรือ  ซื้อหุ้นแล้วเก็บไว้นาน  แล้วจะเป็น VI

หรือ  ซื้อหุ้นที่มีชื่อเสียง  บริษัทใหญ่โต  แล้วจะเป็น VI

VI  ย่อมาจาก Value Investor  ซึ่งก็คือ  นักลงทุนที่ลงทุนตามหลักคุณค่าของบริษัท

ถ้าเราไม่รู้คุณค่าของบริษัทที่เราลงทุน  เราก็คงไม่ใช่ VI

แต่ถ้าเราซื้อขายบ่อย  ถือหุ้นไม่นาน  แต่เราซื้อขายโดยพิจารณามูลค่าของบริษัทเทียบกับราคาตลาด  ผมว่าก็เป็น VI นะ

ผมจะขายหุ้นหรือไม่  คงไม่ใช่ว่า  ในรอบปีนี้  รอบเดือนนี้  ผมซื้อขายมาบ่อยหรือยัง

และก็คงไม่ใช่ว่า  ผมถือหุ้นมานานแล้วหรือยัง

ผมคงขายเพราะ

1. ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นจนเกินมูลค่า

2. มีการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

3. พื้นฐานของบริษัทเปลี่ยน  หรือผมวิเคราะห์ผิด

ผมเองก็อยากจะถือหุ้นลงทุนแค่ไม่กี่วัน  แต่ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว  จนเกินมูลค่า  ผมคงไม่ลังเลที่จะโทรไปสั่งขายทันที

[quote="chatchai"]ผมคิดว่าจะเป็น VI หรือไม่

[quote="chatchai"]ผมคิดว่าจะเป็น VI หรือไม่

[quote="chatchai"]ผมคิดว่าจะเป็น VI หรือไม่

ผมซื้อขายปีละประมาณ 2-3 ครั้ง ซื้อเมื่อคิดว่าราคาถูก ขายก็เพื่อลดความเสี่ยง แต่ก็ได้กำไรดีเหมือนกันนะครับ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็น VI ป่าวแต่ชอบเก็บสะสมหุ้นมากกว่าการเป็น trader ครับเพราะได้กำไรระยะยาวดีมาก แต่ต้องอดทนรอหน่อยครับ