Thai VI

งบ PTT Q1 กำไรลดฮวบ งบออกแบบนี้แล้วราคาจะร่วงแบบเดือนพ.ค.ปีที่แล้วหรือเปล่า จะได้รอช้อน

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
                       บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                           สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
งบการเงินรวม
                                               ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2550              2549

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    22,580,779       23,722,792
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)            8.05              8.48


 งบการเงินเฉพาะกิจการ
                                               ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2550              2549

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    12,549,030       11,689,672
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)            4.47              4.18

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
     ไม่มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต


 หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
               ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

 "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
  การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
  ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"

                           ลงลายมือชื่อ _______________________
                                      ( นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ )
                              ตำแหน่ง     กรรมการผู้จัดการใหญ่
                                      ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

ผมว่ากำไรเขาดีกว่าที่ผมคิดอีกครับ :lol:
แต่ราคาจะขึ้นหรือลงนี่ตอบยากครับคุณmax

ถ้ารู้ก็รวยแล้วววววว.

กำไรลดลง 5% นี่เรียกว่า "ฮวบ" เลยเหรอครับ
ผมว่าลดลงนิดเดียวเองนะครับ  ดีกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก

แต่ถ้าราคาหุ้นลงแบบ "ฮวบฮาบ" เนี่ยสิ  อาจเป็นโอกาสที่ผมจะได้เป็นผู้ถือหุ้น PTT กะเค้ามั่ง  

ถ้าเทียบเป็นตัวเงิน คงเห็นว่าเยอะหนะครับ แต่ PTT เป็น บริษัทใหญ่ โอกาสที่ Q หน้าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น พัน 2พันล้านไม่ใช่เรื่องยากหนะ ครับ ก็ต้องดูแนวโน้มธุรกิจกันต่อไป ^^  

ถ้ามีแล้วมั่นใจว่าดีก็ถือเถอะครับ เก็งราคารายไตรมาส นี่เดายากครับ ว่าราคาจะขึ้นหรือ ลงหรือเปล่า บางตัวเห็นดีกว่า Q ก่อนปีที่แล้วพอสมควร ราคายังไม่ขยับเลย ^-^

ลดบ้างก็ไม่เห็นจะแปลกครับ เป็นรัฐวิสาหกิจนะ ไม่ใช่เอกชน 100% ทำอะไร อย่าเอาแต่คิดถึง กำไรสูงสุดบ้างก็ดี เพราะที่ผ่าน ๆ มา ขึ้นฮวบ ๆ มาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

5-6 ที่แล้วยังกำไร "ปี" ละ 2-3 บาทอยู่เลยครับ

ข่าวดีครับ ปันผลของ PTT งวดทีผ่านมา จำนวน 45% ของเงินปันผล สามารถเครดิตภาษีได้เท่ากับ PTTEP นั่นคือ 100% ครับ  :D  :D

ชัวร์หรือครับ ที่ว่าเครดิต ส่วนที่กำไรจาก สผ ได้อีก 100% ผมอ่านหมายเหตุแล้วยังงงๆอยู่เลย ฝากท่านอื่นๆช่วยยืนยันหน่อยครับ

น่าจะดีใจน่ะ PTT โตแบบก้าวกระโดดทุกๆปี ถ้าไม่มีเบรค ไมมีทรง ไม่มีดร็อป เล่นก้าวกระโดดแบบนี้ ประชาชนคนไทยเนี่ยแหละจะตาย ตายกันลูกเดียว  :lol:

โรคฮวบ

สาเหตุ
        เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ฮีโมฟิลุสดูเครย์ (Hemophilus ducreyi)



อาการ
        หลังได้รับเชื้อ 2-7 วัน จะมีแผลเล็ก ๆ ที่ปลายอวัยวะเพศ ลักษณะคล้ายแผลเปื่อย ขอบไม่แข็งและไม่เรียบ เรียกว่า
แผลริมอ่อน เวลาแตะถูกมักมีเลือดซิบ ๆ และรู้สึกเจ็บ มักมีหลายแผล ต่อมาจะพบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวมโตติดกัน
เป็นพืดและเจ็บ ลักษณะเป็นสีแดงคล้ำและนุ่ม อาจแตกเป็นหนองได้ ส่วนมากโตเพียงข้างเดียว บางคนอาจมีไข้ หนาวสั่น
เบื่ออาหารร่วมด้วย ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง แผลจะลุกลามไปมาก บางคนอาจเป็นมากจนอวัยวะเพศแหว่งหาย
ได้ คนไทยเราเรียกว่า โรคฮวบ

อาการแทรกซ้อน
        อาจทำให้เป็นแผลดึงรั้งจนเกิดภาวะหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายไม่เปิดในรายที่เป็นรุนแรง อาจทำให้อวัยวะ
แหว่งหาย (โรคฮวบ)





การรักษา
        1. ให้อีริโทรไมซิน ครั้งละ 500 มิลลิกรัม (2 แคปซูล) วันละ 4 ครั้ง นาน 7 วันหรือให้โคไตรม็อกซาโซล ครั้งละ
2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง นาน 7 วัน
        2. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรส่งโรงพยาบาลหรือศูนย์ควบคุมกามโรค เพื่อทำการย้อมหาเชื้อจาก หนองที่แผล ถ้าเป็น
แผลริมอ่อน ก็ให้การรักษา ด้วยยาขนานใด ขนาดหนึ่ง ดังต่อไปนี้
               - โอฟล็อกซาซิน 400 มก. กินครั้งเดียว
               - ไซโพรฟล็อกซาซิน 500 มก. กินครั้งเดียว
               - เซฟทริอะโซน 250 มก. ฉีดเข้ากล้ามครั้งเดียว

ข้อแนะนำ
        1. โรคนี้บางครั้งอาจแยกออกจากซิฟิลิส   ไม่ชัดเจน ถ้ารักษาแล้วไม่ดีขึ้นหรือสงสัยเป็นซิฟิลิส ควรแนะนำผู้ป่วยไป
โรงพยาบาล
        2. แม้ว่าอาการจะหายดีแล้ว ผู้ป่วยก็ควรเจาะเลือดตรวจวีดีอาร์แอล และเชื้อเอชไอวี เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็น
ซิฟิลิส หรือติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย
        3. ควรรักษาแผลเฉพาะที่โดยใช้น้ำเกลือชะล้าง ไม่ต้องใส่ยาอะไรทั้งสิ้น ไม่ควรใช้เพนิซิลลิน หรือซัลฟา ใส่แผล ;
เพราะอาจทำให้แพ้ได้ง่าย