หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ทำกำไรตอนซื้อ สบายใจกว่าทำกำไรตอนขาย

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 9:57 pm
โดย OutOfMyMind
ไม่ว่าบริษัทจะแข็งแกร่ง ผู้บริหารสุดยอดจริยธรรม มีแบรนด์อันทรงอาณุภาพ มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวเพียงใด

สำหรับนักลงทุนที่ใจไม่ถึงอย่างผมแล้ว แค่นี้ยังถือว่าไม่เพียงพอที่จะทำให้ตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัทนั้นได้อย่างสบายใจ ยังไม่เพียงพอที่จะรับประกันว่า การลงทุนครั้งนี้จะสามารถทำกำไรให้ผมได้เป็นที่แน่นอน

เพราะสิ่งที่แน่นอนสำหรับกำไร ไม่ใช่การมั่นใจว่าวันใดวันหนึ่งในอนาคตเราจะสามารถขายหุ้นของบริษัทที่เราซื้อมาในราคาที่สูงขึ้นเพื่อทำกำไร

แต่คือการทำกำไร ณ วันนี้ เดี๋ยวนี้ ในวินาทีที่ผมตัดสินใจซื้อหุ้นตางหาก

ทำกำไรตั้งแต่ตอนซื้อจะเป็นจริงขึ้นมาได้ ก็ต่อเมื่อคุณซื้อของดีในราคาถูกกว่าที่มันควรจะเป็น ณ.วันที่คุณซื้อ ไม่ใช่การคาดเดามูลค่าของมันในอนาคต

แน่นอน คนที่เขาเก่งและสามารถคาดการณ์ราคาในอนาคตได้แม่นนั้นอาจจะมีอยู่มากมาย เหล่ากูรูเหล่านี้ล้วนสร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่ง แต่คงไม่ใช่ผม ผมไม่เชื่อว่าตัวเองจะคาดการณ์อนาคตได้แม่นยำ จึงขอตัดสินใจทำกำไรตั้งแต่ตอนซื้อเข้ามาเลยดีกว่า

ทำกำไรตอนซื้อ เป็นจริงด้วยการยึดกฏเหล็ก 2 ข้อ นั่นคือ
1. ห้ามทุนขาด (เพื่อเข้าซื้อหุ้นดีของคนทุนขาด)
เพราะของดี มักราคาแพง แต่บางครั้งโอกาสในซื้อของดีราคาถูกก็มาถึงเรา ไม่ว่าโดยฝีมือของค่าย สวรรค์ หรือ นรก ก็ตาม ลองพิจารณาดูก็ได้เมื่อ 19ธค49 ที่ผ่านมา ผมก็ไม่ทราบว่าควรสรุปเป็นผลงานของค่ายไหนกันแน่ แต่โอกาสมันมาเร็วมาก ผู้คนไร้ความมั่นใจ ทุนขาด ต้องการเปลี่ยนหุ้นในมือเป็นเงินสดให้เร็วที่สุด ตัวเราจึงต้องมีความพร้อม ต้องสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้รวดเร็วที่จะคว้าโอกาสนั้นไว้ จ่ายเงินซื้อหุ้นที่คนทุนขาดทั้งหลายเขายอมขายในราคาต่ำ เพื่อให้ได้เงินจำนวนน้อยนิดนั้นไปใช้ทำอย่างอื่น

ในบางกรณีก็เกิดขึ้นเมื่อขาลงของอุตสาหกรรมใด ๆ เกิดขึ้น มีอุปทานมากเกินไป ทุกรายประสบปัญญาขาดทุน จนรายที่ทุนน้อยจำต้องออกไป เมื่อทุนน้อยต้องออกไป ก็ถึงเวลาของคนที่ ทุนไม่ขาด เข้ามาซื้อของดี ที่จำต้องขายทิ้งในราคาถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง ณ เวลานั้นของมัน

และกฏข้อที่ 2. ห้ามขาดทุน (แต่ให้ขายหุ้นเมื่อมีคนยอมขาดทุน)
เมื่อเข้าไปถือครองหุ้นของบริษัทที่ดี มีอนาคต ได้ในราคาถูกกว่ามูลค่าของมันแล้ว ก็ถือว่าเราทำสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งหนึ่งก็คือ ห้ามขาดทุน เราต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เมื่อใดก็ตามที่ราคาขายในตลาดของมันเขยิบเกินมูลค่าที่แท้จริงของมันวันใด วันนั้นคือสัญญาณการขาย เพราะคนอื่น ๆ ยอมซื้อหุ้นที่คุณถืออยู่ในราคาที่แพงกว่าที่มันควรจะเป็น นั่นคือ เขายอมขาดทุนในวันนี้ เพื่อให้ได้หุ้นของคุณ และหวังทำกำไรในวันหน้าเมื่อหุ้นขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าศักยภาพของบริษัทในอนาคตจะชัดเจน ว่าราคาหุ้นน่าจะขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นผม ผมขอขาย ออกมารอดูห่าง ๆ ดีกว่าเพราะผมสนใจแต่ปัจจุบันเท่านั้น รอจนวันใดที่มูลค่าบริษัทขยับเลยราคาหุ้นเมื่อไร ผมจึงจะกลับเข้าไปอีกครั้ง

มูลค่าในปัจจุบันที่พูดถึงนี้ ผมประเมินจาก BV และ Brand Equity ส่วนศักยภาพ และ กำไรในอนาคต คิดลดมาเป็นปัจจุบัน ผมคงไม่เลือกใช้วิธีนี้เพราะผมคาดการณ์อนาคตไม่เก่งครับ

Re: ทำกำไรตอนซื้อ สบายใจกว่าทำกำไรตอนขาย

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 06, 2007 11:41 pm
โดย Accidental Hero
OutOfMyMind เขียน: ซื้อของดีในราคาถูกกว่าที่มันควรจะเป็น ณ.วันที่คุณซื้อ ไม่ใช่การคาดเดามูลค่าของมันในอนาคต
เท่าที่อ่าน ใจความสำคัญน่าจะเป็นประโยคข้างต้นนะครับ
ถ้าเน้นเรื่องปัจจุบัน เราได้กำไรวันที่ซื้อ จริงตามที่ว่า

แต่ถ้าเราคิดจะถือหุ้นนานขึ้นอีก 1 เดือน หรือ 1 ปี หรือ มากกว่า
อะไรจะให้ความมั่นใจว่า เราจะได้กำไรในวันที่ยังถือหุ้นอยู่ครับ

ทำกำไรตอนซื้อ สบายใจกว่าทำกำไรตอนขาย

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2007 10:25 am
โดย yoyo
ชอบมากครับ ...  :D

ทำกำไรตอนซื้อ สบายใจกว่าทำกำไรตอนขาย

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2007 12:22 pm
โดย Raphin Phraiwal
ชอบครับ...... ห้ามทุนขาด และห้ามขาดทุน

ขอบคุณครับ

ทำกำไรตอนซื้อ สบายใจกว่าทำกำไรตอนขาย

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2007 12:44 pm
โดย beammy
ชอบเหมือนกันนน  8)  ...

ทำกำไรตอนซื้อ สบายใจกว่าทำกำไรตอนขาย

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2007 3:10 pm
โดย alexx
ชอบครับ :lol:

ทำกำไรตอนซื้อ สบายใจกว่าทำกำไรตอนขาย

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 08, 2007 3:19 pm
โดย jezznet
เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีมากครับ
ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ก็คือการประเมินมูลค่าของหุ้น ไม่ว่าจะเป็นการประเมินค่าในปัจจุบัน หรือในอนาคตก็ตาม

ผมว่าการทำกำไรตอนซื้อตามบทความนี้ถือว่าเป็นก้าวแรกในการลงทุนนะครับ   เรียกว่าเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นยังน่าจะสะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตนะครับ

เป็นอีกหนึ่งความคิดเห็นนะครับ