หน้า 1 จากทั้งหมด 2
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 5:28 pm
โดย คนขายของ
วันนี้พอดีมีเวลาว่าง คนแถวนี้เขาหยุดกัน 7 วันตั้งแต่ 1 May ผมเลยมีเวลามานั่งวิเคราะห์ข้อมูล ว่าแล้วก็มองหากลุ่มที่คนคงไม่ค่อยสนใจ ก็มาหยุดตรงที่กลุ่มวัสดุฯ
เท่าที่ผมจำได้ ตอนปี 2546 กลุ่มนี้ร้อนแรงมาก มาตอนนี้น้อยคนคงจะสนใจ หลายตัวมีงบดุล และ กระแสเงินสดเป็นหนังคนละม้วน ผมเลยลองมองหาว่าจะมีกี่ตัวกันครับที่....
1) มีกำไรในปีที่แล้ว
2) มีปันผล และ ปันผลในปี 2006 มากกว่า 3.5%
3) P/E น้อยกว่า 10 และ P/BV ต่ำกว่า 1.5
4) D/E น้อยกว่า 0.5 คิดเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย
5) ยอดขายปี 2006 มากกว่า 2005
แล้วก็ร่อนออกมาได้ดังนี้ครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 5:44 pm
โดย คนขายของ
คัดรอบแรก ได้มา 5 ตัวก่อนครับ ยังไม่ได้ดู หนี้สิน (ที่มีดอกเบี้ย)/ทุน
1) MCS Div 10.48% PE 4.87 PBV 1.42
2) DRT Div 10.89% PE 6.43 PBV 1.44
3) RCI Div 5.13% PE 6.14 PBV 0.64
4) PAP Div 14.25%PE 5.13 PBV 0.65
5) VNG Div 5.25% PE 8.70 PBV 1.20
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 6:01 pm
โดย คนขายของ
พอพิจารณาเรื่อง หนี้สิน (เฉพาะส่วนที่มีดอกเบี้ย)/ทุน เหลือ 4 ตัว ครับ
1) DRT
2) MCS
3) PAP
4) RCI
แล้วต่อมาก็มาดู CASH FLOW ครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 6:16 pm
โดย คนขายของ
DRT : Total Cash from Operation
Y2006 = 565,000,000
Y2005 = 115,000,000
Diff = 450,000,000 Baht
MCS : Total Cash From Operation
Y2006 = 529,000,000
Y2005 = 217,000,000
Diff = 312,000,000 Baht
PAP : Total Cash From Operation
Y2006 = 154,238,000
Y2005 = - 339,852,000
Diff = 494,090,000
RCI :Total Cash From Operation
Y2006 = 117,336,000
Y2005 = 171,828,000
Diff = -54,492,000
ทั้ง 4 ตัวมี กระแสเงินสดจากการดำเนินการเป็นบวก สามตัวเพิ่มขึ้น หนึ่งตัวลดลง จากปี 2005
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 6:26 pm
โดย คนขายของ
โทษทีครับ คิดผิดไป RCI มี D/E มากกว่า 0.5 ครับ
ดังนั้นเหลือ 3 ตัวคือ
DRT, MCS และ PAP ครับ
ที่ผ่านมานี้เป็นกรองขั้นต้นเท่านั้นครับ
ซึ่งต่อจากนี้ก็ต้องมาดูว่า ผู้บริหารเป็นอย่างไรไว้ใจได้ไหมครับ
ประวัติในอดีตเป็นอย่างไร งบการเงินก็ต้องมาดูรายละเอียดอีกทีนะครับ
ว่ามีรายการพิเศษไหม ย้อนหลังหลายปีเป็นอย่างไร อย่าง PAP นี่
ผมดูตัวเลขแล้วยังงงอยู่ครับ เหมือนกับว่า กู้เงินระยะสั้นมาทำงานเป็นรอบๆไป
หนี้ระยะยาวเกือบเป็นศูนย์ คล้ายกับว่า กู้มาทำงาน งานเสร็จเก็บเงินลูกค้า
แล้วนำไปใช้หนี้ แปลกดีครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 6:28 pm
โดย คนขายของ
ข้อมูลและการคำนวณ ใช้ข้อมูลของตลาด ณ วันที่ 30 เมษายน 2550 ครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 8:41 pm
โดย worapot_ta
เยี่ยมมากเลยครับ :lol:
Re: นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 8:53 pm
โดย เพื่อน
คนขายของ เขียน:
1) มีกำไรในปีที่แล้ว
2) มีปันผล และ ปันผลในปี 2006 มากกว่า 3.5%
3) P/E น้อยกว่า 10 และ P/BV ต่ำกว่า 1.5
4) D/E น้อยกว่า 0.5 คิดเฉพาะหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย
5) ยอดขายปี 2006 มากกว่า 2005
แหมถ้าข้อ5 เปลี่ยนจากยอดขายมาเป็น
5) กำไรปี2006มากกว่า2005
ก็จะมีSTPIเป็นอีกตัวหนึ่งเข้ามา ได้คะแนนสูงมากด้วยสิครับ... :lol:
หมายเหตุ ผมมีหุ้นSTPIอยู่ครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 8:57 pm
โดย เพื่อน
ขอโทษครับ พอดีเพิ่งสังเกตุว่าเฉพาะ วัสดุก่อสร้าง ผมพาลไปเหมาเป็นกลุ่มก่อสร้าง...
แต่ MCS นี้ก็ไม่น่าจะเข้าข่ายวัสดุก่อสร้างด้วยมั้งครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 10:21 pm
โดย คนขายของ
คุณเพื่อนครับ
ผมก็ไม่แน่ใจครับว่า MCS อยู่หมวดไหน ผมเข้า set.or.th แล้ว
click เข้าไปที่ "CONMAT" เห็นมี MCS ออกมาด้วยครับ
จริง STPI ก็อยู่ในหมวดนี้ด้วยเช่นกันครับ
แต่เห็นว่า ปันผลปีที่แล้วให้แค่ 1.58% ก็เลยไม่อยู่ในกลุ่มครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 02, 2007 11:17 pm
โดย คนขายของ
ตอนที่ผมลองหาข้อมูลของแต่ละบริษัทในหมวดนี้ แล้วนำมาร่อน หาบริษัท
ที่ตรงตามลักษณะในแต่ละข้อ ผมสะดุดใจในกลุ่มกระเบื้องเพราะอะไรหลาย
อย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่อสังหาบูมตอนปี 45-46
ถ้าไม่นับปูนใหญ่ก็จะมี 4 บริษัทหลักที่ผลิตกรเบื้องเป็นล่ำเป็นสัน
DCC, UMI, TGCI และ RCI เรียงตาม Market Capตอนนี้ ก็จะได้ว่า
1) DCC 5,997 ล้าน ยอดขาย 4,460 ล้าน
2) TGCI 1,018 ล้านบาท ยอดขาย 2,301 ล้านบาท
3) RCI 612 ล้านบาท ยอดขาย 1,658 ล้านบาท
4) UMI 559 ล้านบาท ยอดขาย 2,352 ล้านบาท
แต่ถ้าเรียงตามกำไร จะได้ว่า
1) DCC 566 ล้าน
2) RCI 100 ล้าน
3) UMI ขาดทุน 150 ล้าน
4) TGCI ขาดทุน 669 ล้าน
ตอนปี 45 นี่ ด้าน Market Cap DCC เป็นที่หนึ่งเหมือนเดิมครับที่ 9,384ล้าน
แต่ที่ สองคือ TGCI 6,990 ล้าน ที่สาม UMI 2,912 ล้าน และอันดับสุดท้าย
คือ RCI 1,398 ล้าน
ผมสงสัยว่าทำไม RCI ถึงได้ยังทำกำไรได้ทุกปี ถึงกำไรลดลงแต่ยังไม่ขาดทุน (หรือปีนี้จะเป็นปีแรก?) และจ่ายปันผลได้ตลอด ในขณะที่ เบอร์สอง กับ เบอร์สาม เมื่อห้าปีก่อน กลับขาดทุน?
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 4:27 pm
โดย nearly_vi
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 10:16 pm
โดย คนขายของ
ตอนนี้กลุ่มกระเบื้องมีประกาศออกมาแล้ว สองตัวนะครับ ลองมาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
DCC ปะทะ RCI
DCC
Y2006 Profit = 186,820,000 Baht EPS = 0.46 Baht
Y2007 Profit = 166,321,000 Baht EPS = 0.41 Baht
เหนียวจริงครับ DCC ถึงยอดขายลดลงไปบ้างแต่ ก็ยังทำตัวเลขได้ดี เป็นกอล์ฟก็เรียกว่ตีประคอง เอาตัวรอดไปได้ มิน่าตลาดถึงยังคงให้ PBV เกือบ 3 เท่า ในขณะเพื่อนๆ นี่มีแต่ 1 กับ 0 จุดกว่าๆ
RCI
Y2006 Profit = 30,100,000 Baht EPS = 0.96 Baht
Y2007 Profit = 6,471,000 Baht EPS = 0.02 Baht
นี่ถ้าเป็นมวยก็นับแปด ละครับ ไม่รู่ว่าจะรอดไหม ยอดขายQ1 ปีนี้ลดลงจาก
Q1 ปีก่อน 13.31% NPM ลดลง จากประมาณ 32% เหลือ 25% แถมเพราะว่า ไตรมาส 1 ปี 2549 บริษัทยังคงมีเครดิตภาษี ในขณะ ที่ไตรมาส 1 ปี 2550 บริษัทต้องชำระภาษีอีก แล้วปีนี้ทั้งปีจะยืนแดนบวกไหวไหมครับนี่
ของ UMI กับ TGCI ยังไม่คลอด กลุ่มนี้นี่ไม่รู้ว่าจุดต่ำสุด ผ่านไปแล้ว, เพิ่งเกิดขึ้น หรือว่า ยังไม่ถึงกันแน่?
ตอนนี้ผมก็รอดูของ DRT, MCS และ PAP อยู่ ไม่รู้จะไหวกันไหมครับ คงต้องมาดูกันต่อไป อยากรู้ว่าจะมีกี่ท่านที่โตได้ ในสถานการณ์แบบนี้ แถมมี่ PE และ PBV และ DIV YIELD ที่น่าสนใจ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 10:45 pm
โดย เพื่อน
เท่าที่เห็นมาในช่วงหลังๆนี้ กระเบื้องจากจีนเข้ามาตีตลาดสูงมากครับ สวยๆทั้งนั้นราคาไม่แพง เหมือนหินธรรมชาติอีกต่างหาก
กระเบื้องพวกนี้ทำให้ส่วนแบ่ง กระเบื้องเกรดราคาสูงย่ำแย่พอสมควร โดยเฉพาะRCIที่เคยนำเข้าจากจีนมาขายได้ราคาดีในช่วงแรกๆ ตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มมีตัวเลือกมากขึ้นและราคาถูกลง
ส่วน DCCเน้นกระเบื้องราคาถูกเป็นหลัก ก็คงไปได้เรื่อยๆ แต่ก็คงถูกแรงกดดันจากบริษัทอื่นๆเข้ามาบ้าง marginอาจจะลดลงได้
UMIนั้นเคยเน้นจุดเด่นผลิตภัณฑ์ไปที่กลุ่มโมเสค ตอนนี้ผมว่าค่อนข้างเงียบ ไม่เห็นการพัฒนาในตลาดเท่าที่ควรครับ แถมเจอโมเสคจากCOTTOและจากจีนเข้ามาตีอีก สงสัยคงแย่ลงไปเรื่อยๆครับ ถ้ายังไม่ปรับตัว
ผมไม่แน่ใจว่าสุขภัณฑ์ยี่ห้อnahmเป็นของUMIรึปล่าวนะครับ เห็นว่ามีรูปแบบสวยงามน่าสนใจดี เริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็คงเฉพาะกลุ่มราคาค่อนข้างสูง
DRT ผมว่าน่าสนใจมากครับ (ผมยังไม่มีหุ้นครับ)ขอดูอีกสักพักครับ
ส่วนMCS ที่ผมว่าไม่น่าจัดอยู่ในกลุ่มวัสดุ เพราะเค้าเป็นประเภทMade to order มากกว่าครับ ไม่ใช่ประเภทวางขายให้เลือกซื้อครับ แต่ก็ไม่แปลกที่จะเอามาscanดูด้วยกัน เพราะเราคงเน้นไปที่กำไรในการถือหุ้นมากกว่านะครับ เพียงแต่ให้รู้ว่าเอามาเปรียบเทียบอุตสาหกรรมเดียวกันคงไม่เหมือนกันทีเดียว
ส่วนstpi นั้นต้องจัดเป็นพวกรับเหมาก่อสร้างได้แล้วครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 11:42 pm
โดย คนขายของ
เออ เห็นคุณ เพื่อน Post เรื่องกระเบื้องปูพื้น ปูผนังจากจีนเข้ามาบุกตลาดไทย
แล้วอย่างนี้จะมีกระเบื้องมุงหลังคาจากจีนมาตีตลาดไทยบ้างไหมครับ?
หรือว่าเข้ามายากอยู่เอาการ เพราะกว่าสร้าง แบรนด์ กว่าจะสร้าง ตัวแทนจำหน่ายต้องใช้เวลานาน ไหนจะเรื่องค่าขนส่งอีก หรือว่ายากเพราะ ผลิตภัณฑ์แตกต่างกัน หรือว่าติดปัญหาเรื่องภาษีนำเข้า หรือว่ากำลังเข้าแล้วละอีกไม่นานเจอกัน ไม่ทราบมีท่านใดพอทราบไหมครับ?
แต่อย่างไรก็ตามผมว่าผู้ผลิตไทยคงต้องพยายามคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นละครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 03, 2007 11:47 pm
โดย ลูกอิสาน
คนขายของ เขียน:เออ เห็นคุณ เพื่อน Post เรื่องกระเบื้องปูพื้น ปูผนังจากจีนเข้ามาบุกตลาดไทย
แล้วอย่างนี้จะมีกระเบื้องมุงหลังคาจากจีนมาตีตลาดไทยบ้างไหมครับ?
หรือว่าเข้ามายากอยู่เอาการ เพราะกว่าสร้าง แบรนด์ กว่าจะสร้าง ตัวแทนจำหน่ายต้องใช้เวลานาน ไหนจะเรื่องค่าขนส่งอีก หรือว่ายากเพราะ ผลิตภัณฑ์แตกต่างกัน หรือว่าติดปัญหาเรื่องภาษีนำเข้า หรือว่ากำลังเข้าแล้วละอีกไม่นานเจอกัน ไม่ทราบมีท่านใดพอทราบไหมครับ?
แต่อย่างไรก็ตามผมว่าผู้ผลิตไทยคงต้องพยายามคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นละครับ
น่าจะยากนะครับ เพราะกระเบื้องมุงหลังคาเป็นสินค้าที่มีมูลค่าต่อหน่วยต่ำ
และต้นทุนการผลิตขึ้นอยู่กับวัตถุดิบมากกว่าค่าแรง
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 12:07 am
โดย โอ@
จะว่าไป กระเบื้องเนี่ย ใช้แรงงานเยอะหรอครับ
ผมนึกว่าหนักไปทางจ้างคนออกแบบลายกระเบื้องซะอีก
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 7:24 am
โดย juntuma
drt น่าสนใจ แต่ภาวะอสังหาฝืดนี่ผลงานปีนี้น่าจะตก
ข้อสำคัญ สินค้าทดแทนหลังคาเหล็กเคลือบขึ้นลอน
กำลังแย่งส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 10:21 am
โดย คนขายของ
วันนี้ตอนเช้า กลุมวัสดุ มีประกาศเพิ่มมาอีกสองตัวนะครับคือ
KWH เจ้าท่อน้ำ และ SCCC ปูนนก
ปรากฎว่า....
KWH (งบรวม)
Y2006 Profit = 15,164,000 EPS = 0.05 Baht
Y2007 Profit = -1,838,000 EPS = -0.006 Baht
ขาดทุนซะแล้วครับ สงสัยต้องดูงบโดยละเอียดอีกที่ ไม่รู้ว่ารองบจากรัฐอยู่หรือเปล่า แต่ส่งออกน่าจะลำบากพอสมควรใน Q1 ที่ผ่านมา
SCCC ปูนนก (งบรวม)
Y2006 Profit = 1,158,956,000 EPS = 4.88 Baht
Y2007 Profit = 1,140,323,000 EPS = 4.96 Baht
กำไรตกนิดหน่อย แต่ EPS ดีขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการซื้อหุ้นคืน
รายได้รวมเป็นจำนวนเงิน 5,962 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 1 ปี 2550 ลดลงประมาณร้อยละ 4.6 จากจำนวนเงิน 6,248 ล้านบาท สำหรับไตรมาส 1 ปี 2549 เนื่องจากยอดขายที่ลดลงในส่วนงานธุรกิจซีเมนต์เป็นปัจจัยหลัก
จะมีใครโตบ้างไหมครับกลุ่มนี้?
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 10:39 am
โดย คนขายของ
หนังสือชี้แจงของ KWH ครับ
บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีขาดทุนสุทธิ สำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 เท่ากับ 1.84 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 15.16 ล้านบาท มาจากสาเหตุสำคัญดังต่อไปนี้
ตารางเปรียบเทียบยอดรายได้ปี 2550 และ 2549
ไตรมาสที่ 1 (พันบาท)
รายได้จากการขาย ปี 2550 ปี 2549
ปริมาณการขายท่อ (ตัน) 2,139 3,527
ขายท่อ-สุทธิ 171,791 250,178
ขายอุปกรณ์ข้อต่อ 22,803 24,227
ขายอื่น ๆ 11,454 12,475
รวมรายได้จากการขาย 206,048 286,880
ทั้งนี้เนื่องจากการชะลองานโครง การต่างๆ ของภาครัฐบาล และการขาดความเชื่อมั่นของในการลงทุนทั้งทางภาครัฐและเอกชนไม่ว่าจะเป็นตลาดในประเทศและต่างประเทศ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 12:25 pm
โดย pongto
วันก่อนฟังรายการวิทยุ บอกว่า ตอนนี้ หลังคาเหล็ก กำลังมาแรง
ไม่รู้จะมีผลต่อหลังคากระเบื้องมากแค่ไหน
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 2:35 pm
โดย คนขายของ
ขอเรียนถามท่านผู้รู้เรื่องหลังคาหน่อยครับ
ที่ว่าหลังคาเหล็กเป็นที่นิยมนี่ ผมสงสัยว่าเหล็กน่าจะนำความร้อนได้ดี อย่างนี้ ต้องปูฉนวนใต้ฝ้าหนาขึ้นไหมครับ?
ไม่ทราบว่าราคาถูกกว่า หรือเพราะเหตุใดจึงได้รับความนิยมครับ? หรือเพราะว่าติดตั้งง่ายครับ? ขอบคุณครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 9:40 pm
โดย เพื่อน
หลังคาเหล็กตีตลาดพวกโรงงานและโกดังและอาคารขนาดใหญ่มากกว่าครับ ไม่ค่อยเหมาะกับบ้านพักอาศัย ด้วยเรื่องของDetailในสัดส่วนขนาดใหญ่ที่ดูไม่เรียบร้อยเมื่อนำมาทำอาคารพักอาศัยขนาดเล็กกว่า และยังมีปัญหาเสียงดังเมื่อฝนตก พร้อมทั้งราคาก็ยังสูงอยู่มากเมื่อเทียบกับกระเบื้องลอนคู่หรือลอนลูกฟูกที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในตลาดสินค้าราคาถูกทั่วไป
เรื่องที่น่าสนใจของDRT ก็คือเห็นเค้าบอกว่าจะขยายตลาดไปประเทศข้างเคียง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะไปได้ดีแค่ไหน และช่วงที่ผ่านมามีพายุเข้ามาทำให้บ้านเรือนเสียหายโดยเฉพาะหลังคา ทำให้ต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแผ่นหลังคากันพอสมควร(แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะกระทบมากน้อยแค่ไหนครับ)
ขอกลับมาต่อเรื่องกระเบี้องอีกหน่อยครับ
กระเบื้องปูพื้นของจีนที่นำเข้ามา(ตีตลาด) เป็นคนละลักษณะกับกระเบื้องในประเทศทั่วไปครับ คือของจีนเค้าไปเจาะกลุ่มงานตกแต่งที่ตัดสินใจไม่ถูกระหว่างจะใช้หินธรรมชาติ(ราคาแพงแต่หรู)หรือจะใช้กระเบื้อง(ราคาถูกแต่ไม่หรู หรือถ้าหรูนำเข้าก็แพงมาก) ในช่วงแรกๆRCIนำเข้ามาก่อนลักษณะเป็นแผ่นใหญ่ๆ40-60ซม.สีขาว ขอบตัด ปูแล้วคล้ายหินอ่อน(เพราะลักษณะขอบตัด)..... ต่อมาก็มีอีกหลายบริษัทนำเข้ามา และมีลวดลายสวยงามหลายแบบมากขี้น แต่ยังคงเน้นที่ขนาดแผ่นใหญ่ดูคล้ายหินธรรมชาติมากขึ้น แม้แต่หินเทียมWhite Crystal ที่หลายๆคนยังคิดว่าเป็นหินธรรมชาติ(เพราะแผ่นหนาเท่าหินอ่อน)ก็นำเข้าจากจีนและเป็นที่นิยมมากเช่นกัน(ราคาก็ถูกลงมาเรื่อยๆเช่นกัน).....ช่วงหลังๆกระเบื้องและหินเทียมพวกนี้จะถูกนำเข้ามาจำหน่ายผ่านบริษัทที่ขายหินธรรมชาติเป็นหลัก ทำให้ความน่าสนใจที่จะใช้กระเบื้องของไทยเพื่อการตกแต่งลดลงไปมากในตลาดราคาระดับปานกลางถึงสูง โดยเฉพาะพื่นที่ขนาดใหญ่จะเสร็จพวกนี้เกือบทั้งหมด ในขณะที่ตลาดระดับล่างยังเน้นที่วัสดุราคาถูกอยู่DCCจึงยังคงทำตลาดไปได้เรื่อยๆครับ แต่ก็คงไม่มากขึ้นเหมือนเมื่อก่อน และมาร์จิ้นก็คงลดลงเพราะการแข่งขันสูงขึ้น
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2007 12:43 pm
โดย คนขายของ
ขอขอบคุณคุณเพื่อน มากครับสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวงการกระเบื้อง
ช่วงวันหยุดนี้หนังสือพิมพ์มีลงข่าวเรื่องกระเบื้องมุงหลังคา และ ไม้ฝา
เห็นผู้บริหาร DRT ให้สัมภาษณ์ว่ากระเบื้องมุงหลังคาใน Q1 ชะลอตัวถึงทรงตัว แต่ได้การเติบโตของไม้ฝามาชดเชย ข้อมูลเต็มสามารถอ่านได้จาก Link ข้างล่างนะครับ อีกไม่นานคงได้รู้กันว่าจะมี "วัสดุก่อสร้าง" ตัวไหนไหมครับที่ยังโตได้อยู่ในบรรยากาศแบบนี้ และ DRT จะเป็นจริงอย่างที่ให้สัมภาษณ์ไว้หรือไม่
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 2215 ครับ
http://www.thannews.th.com/detialnews.p ... issue=2215
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2007 1:30 pm
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
มารอลุ้นด้วยคนครับ จะสวนกระแสได้จริงหรือเปล่า 8)
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2007 2:59 pm
โดย contrarian
ขอทายว่า "Q-CON"
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2007 9:28 pm
โดย เพื่อน
ผมว่าQ-CON ค่อนข้างลำบากนะครับ
เมื่อก่อนผมก็สนใจQ-CONอยู่มากเหมือนกัน เพราะวงการก่อสร้างเริ่มยอมรับอิฐมวลเบามากขึ้นเรื่อยๆ พอดูๆไปก็เห็นมีผู้ประกอบการรายใหญ่+รายย่อยเกิดขื้นมามาก.... พอSUPPER เข้าตลาด ทั้งคู่ก็ฟาดฟันราคากัน จนราคาหุ้นก็ร่วงตามไปด้วยกัน
ดูๆแล้ว การผลิตอิฐมวลเบานั้นทำได้ไม่ยากครับ มีโรงงานเกิดขึ้นมามากมายในช่วงหลังๆ แต่ก็ยอมรับว่ามีการขยายตัวด้านความต้องการสูงเหมือนกันครับ...ต้องดูกลยุทธของQ-CONต่อไป
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 07, 2007 11:18 pm
โดย moonkiss
หลังคาเหล็ก อะไรน้า
ใช่ steel ก็ขายเปล่าน้อ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ค. 09, 2007 8:12 pm
โดย คนขายของ
บ้าย บาย ไปแล้วครับ Q-CON ไม่รู้ว่าอีกนานไหมกว่าจะมายืนแดนบวกอีกครั้ง
2006 Profit = -5,244,000 EPS = -0.013
2007 Profit = -21,606,000 EPS = -0.054
อีกหนึ่งสัปดาห์คงออกมารายงานตัวกันครบละครับ
นั่งร่อน กลุ่ม "วัสดุก่อสร้าง"
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 10, 2007 12:56 am
โดย เพื่อน
[quote="คนขายของ"]บ้าย บาย ไปแล้วครับ Q-CON ไม่รู้ว่าอีกนานไหมกว่าจะมายืนแดนบวกอีกครั้ง
2006