Thai VI

เงินบาทแข็งยังไง ส่งออกก็ยังเติบโต มีอะไรที่ผิดไปในความเข้าใจของเรา



พาณิชย์เปิดตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18.4% "เกริกไกร"พอใจเดือนมี.ค.ส่งออกทะลุ 1.3หมื่นล้านดอลลาร์สหรับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เผยไตรมาสแรกส่งออกมูลค่า 3.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เกินดุลการค้า 4,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/2 ... wsid=65633

ขอบอกว่างง ต้องการผู้รู้มาอธิบายเหมือนกัน

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 7%CD%CD%A1

เดือนแล้วเดือนเล่า  ที่ยอดส่งออกของไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

น่าจะมีนักข่าวไปถาม  ผู้ส่งออก  และ  ธปท. นะครับ  ว่าเมื่อไรยอดส่งออกถึงจะแย่ซักที   รอมานานแล้วนะครับ   :lol:

ผู้ส่งออกไทย เก่งว่าที่ ธปท คิดเยอะครับ

แล้วทำไม ธปท ยังต้องไปให้คลังออกพันธบัตรตั้งหลายแสนล้านมาอุ้มค่าเงินอีกหละครับ ส่งออกดีอย่างนี้ ตรงกันข้ามกับที่ ธปท บอกเลยหนิครับ หรือว่าข้อมูลนี่ไปไม่ถึงคนใน ธปท แบบว่า Infomation inefficiency หยั่งงี้ต้องให้  ธปท ออกโครงการปรับปรุงระบบการจัดการด้านข้อมูลครั้งใหญ่ โดยจ้างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้ดำเนิ นการ

ปัญหาไม่ใช่เฉพาะธปท. แต่สภาอุตสาหกรรม หอการค้า ก็ไม่แตกฉานด้วย น่ากลัวจริงๆ

ผมมีทฤษฎีส่วนตัวเองว่า เมืองไทยเป็นโรงงานชิ้นส่วนของโรงงานใหญ่ๆ ซึ่งพวกนี้วางตำแหน่งว่าโรงงานที่ไหนมีความสามารถในเรื่องไหนก็ผลิตเรื่องนั้นๆให้มากที่สุด โดยยุบทิ้งโรงงานลักษณะเดียวกันในประเทศอื่น

คราวนี้ความต้องการจะเกิดขึ้นจาก Global Demand ไม่ใช่โดนผลักดันด้วยราคาหรือต้นทุน เพราะการ sourcing โดนกำหนดโดย long term strategic decision ไปแล้ว

เคยมีคนทำวิจัยว่าการเติบโตของยอดส่งออกของไทยจะมี corelation กับ  GDP growth ของโลก โดยเฉพาะ GDP growth ของประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญเป็นหลัก แต่มี correlation กับอัตราแลกเปลี่ยนน้อยมาก  :roll:

in other words, เรากำลังตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอยู่

ยิ่งเมื่อดูไส้ใน  ยิ่งงง  เพราะสินค้าที่ส่งออกเพิ่มมากขึ้น  เป็นสินค้าเกษตร  และสินค้าเกษตรแปรรูป

ตรงข้ามกับกลุ่มผู้ส่งออกเคยพูดว่า  ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น  เป็นสินค้าอุตสาหกรรมของบริษัทข้ามชาติ  ที่นำเข้าวัตถุดิบมาจากต่างประเทศ  แล้วใช้ไทยเป็นแค่ฐานผลิตเพื่อส่งออก

ถ้าผู้บริหารของบริษัทในตลาดออกมาให้ข่าว  แล้วสิ่งที่ปรากฎตรงข้ามกับที่ให้ข่าว  เราคงต้องพิจารณาแล้วละครับ

เรื่องงานวิจัยที่คุณสุมาอี้พูดถึง  สงสัยผู้บริหารธปท.คงไม่เคยอ่าน  ถ้าคุณสุมาอี้มีสำเนา  ช่วยส่งไปให้ทางธปท.อ่านหน่อยนะครับ  ถือว่าทำประโยชน์ให้แก่ประเทศเถอะ

ดร.ศุภวุฒิเคยเขียนลงนสพ.ไปแล้วอ่ะครับ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถ้าจะให้ credit กับคนทำงานเป็นไปได้มั้ยครับว่าเป็นผลจาก FTA อ่านเจอเมื่อวานว่า ยอดค้าขายเรากับ India เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว...ทั้งที่เริ่ม เปิด ไป 82 ตัวสินค้า จาก หลายพัน..ตัว

แต่ส่งออกโตๆ และนำเข้าสินค้าทุนต่ำ แบบนี้ถ้ากำลังการผลิตของเราก่อนหน้ายังเหลื่ออยู่เยอะก็ไม่หน้าห่วงนะครับ..

ไตรมาสแรก  ยอดส่งออกของเราโต 18%  และยอดนำเข้าเพิ่มแค่ 2%

แล้วทำไม GDP ถึงโตน้อยนักละครับ

หรือว่าเป็นเพราะ  ถ้าเราแปลงยอดส่งออก  เป็นสกุลเงินบาท  ซึ่งในคำนวณ GDP  อัตราการเติบโตของการส่งออกลดลงไปมาก

ยังงี้น่าจะมีการคำนวณ GDP เป็นสกุลเงินดอลล่าร์บ้างนะครับ  จะได้โตเยอะๆ  :lol:

มองในแง่ดี เกินดุลการค้าดีแล้วครับ
ได้ทั้งการจ้างงาน ทั้งเงินเข้าประเทศ
ตอนที่เกิดวิกฤติครั้งที่แล้ว ก็เพราะขาดดุลการค้านี้ละ :lol:

เคยมีคนทำวิจัยว่าการเติบโตของยอดส่งออกของไทยจะมี corelation กับ  GDP growth ของโลก โดยเฉพาะ GDP growth ของประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญเป็นหลัก แต่มี correlation กับอัตราแลกเปลี่ยนน้อยมาก  

in other words, เรากำลังตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอยู่

น่าเศร้ากว่านั้นครับ.....รู้สึกว่าคนทำวิจัยเนี่ยก็อยู่ใน BOT เองครับ....รู้สึกเหมือนเคยได้ฟังในงานสัมนาประจำปีของแบงค์ชาติครับ

ที่นี่ประเทศไทย

ธปท.ยอมรับหมดสภาพ ค่าเงินบาทแท้จริงสูงสุดรอบ 9 ปี  
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2550 20:10 น.
 
 ธปท.ยอมรับมาตรการคุมค่าเงินบาท ไม่สามารถดูแลกลไกตลาดเงินตลาดทุนได้ เตรียมขยายเวลาการถือครองเงินตราต่างประเทศจาก 7 วันเป็น 15 วัน หวังลดแรงกดดันภาคเอกชน กระดิกตัวไม่ออก ส่งผลศักยภาพการแข่งขันทรุดฮวบ ระบุ ดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริงสิ้นเดือน มี.ค.สูงที่สุดในรอบ 9 ปี ที่ระดับ 90.46 แล้ว
     
      วันนี้(9 พ.ค.) น.ส.นิตยา พิบูลรัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายตลาดเงิน กล่าวว่า ธปท.ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อชี้แจงการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขายหรือฝากเงินตราต่างประเทศตามที่ได้ขอให้กระทรวงการคลังแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ.2485 โดยขยายเวลาการถือครองเงินตราต่างประเทศของผู้ส่งออกที่ได้รับเงินตราต่างประเทศมาจากการชำระค่าสินค้า รวมทั้งผู้ประกอบการคนไทยที่ได้รับเงินตราต่างประเทศมาจากแหล่งเงินได้ในต่างประเทศที่ไม่ใช่จากการส่งออก ซึ่งเดิม ธปท.กำหนดให้จะต้องขายหรือฝากเงินตราต่างประเทศดังกล่าวเป็นเงินบาทภายใน 7 วัน ขยายเวลาเพิ่มให้เป็น 15 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา
     
      น.ส.นิตยา กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ยืดระยะเวลาการถือครองเงินบาท เพราะต้องการให้ผู้ประกอบการมีความยืดหยุ่นในการบริหารเงินตราต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การประกอบธุรกิจคล่องตัวเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ประกอบกับทุนสำรองทางการระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงเพียงพอที่จะรองรับการถือครองเงินตราต่างประเทศในระยะเวลานานขึ้นได้
     
      ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การยืดเวลาการถือครองเงินตราต่างประเทศให้กับผู้ส่งออกและผู้ที่มีเงินได้เป็นเงินตราต่างประเทศดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะลดการแข็งค่าของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วของ ธปท. อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 2550 ค่าเงินบาทของไทยได้แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากคิดค่าเงินบาทเฉลี่ย ล่าสุดสิ้นเดือนเมษายนอยู่ที่ระดับ 34.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับค่าเงินบาทเฉลี่ยสิ้นปี 2549 พบว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกร้อยละ 2.79 ส่งผลให้สิ้นไตรมาสแรกของปีนี้ดัชนีค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 77.55 เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.7 สะท้อนถึงค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าและคู่แข่ง ขณะที่ดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง ซึ่งเป็นตัวชี้ความสามารถในการแข่งขันทางการค้าเทียบกับคู่ค้าและคู่แข่ง 21 ประเทศ สิ้นเดือนมีนาคมอยู่ที่ 90.46 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 88.9 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมจะปรับลดลงต่อเนื่อง และเป็นดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริงที่กลับขึ้นมาแตะระดับ 90 เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ตั้งแต่ปี 2541 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันทางค้าของไทยจากอัตราแลกเปลี่ยน มีความสามารถลดลงต่อเนื่อง

 8)

อยากเห็น Q2 ของกลุ่มส่งออกเร็วๆ จัง  8) ที่ว่าผู้ประกอบการรู้อยู่แล้วว่าบาทจะแข็งขึ้นอีกเลยเร่งส่งออกจนยอด Q1 พุ่งแรงเพราะถ้ารอขายช้าจะยิ่งขาดทุนนั้น จะได้ผลออกมาเป็นงัย

พี่ Ryuga  เห็นยอดส่งออกไตรมาสที่ 2  ออกมา 2 ใน 3  แล้ว  รู้สึกไงบ้างครับ

ผู้ส่งออกออกมาพูดถึงการส่งออกที่ลำบากมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

วันเวลาผ่านไป  ก็ยังสามารถส่งออกเติบโตได้ต่อเนื่อง  ทั้งๆที่ค่าเงินบาทก็ไม่ได้อ่อนค่าลงเลย