ไปประชุม..........RRC มาครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 23, 2007 11:55 pm
วันนี้ ไปประชุม RRC มาครับ
ขออนุญาติเล่าบรรยากาศการประชุมให้พี่ๆ เพื่อนๆ ฟังครับ เพราะบางครั้ง
เสน่ห์ของการลงทุนก็มาจากห้องประชุมผู้ถือหุ้นนี่แหละครับ
ประชุม RRC สถานที่จัด เซ็นทรัล ลาดพร้าว ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ชั้นบนสุด
เวลาประชุมเริ่ม 14:00 น ครับ
มีคนเข้ารวมประชุมประมาณ 1000 กว่า คนครับ มีเลี้ยงค๊อกเทลก่อนเข้า
ประชุม ใครมาไม่ทันก็จะอดกิน แต่เค้าจะเอาอาหารมาใหม่ตอนประมาณ
15:00 ครับ เผอิญผมออกมาเข้าห้องน้ำเลยได้กินกันแบบโล่งๆ ไม่ต้อง
แย่งกัน เพราะมาถึงที่ประชุมก็เกือบบ่าย 2 แล้ว พอเช็คชื่อเรียบร้อย ของ
กินชุดแรกก็ไม่เหลือแล้ว
ส่วนเนื้อหาการประชุม มีทั้งหมด 9 วาระ
วาระ 1-5 ผ่านไปเรื่อยๆ ใช้เวลาไม่เยอะครับ ทั้งที่มีหลายคนไม่ค่อยพอใจ
วาระที่ 5 (พิจารณาอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ)เท่าไหร่ เพราะจ่ายเยอะ
ตามสไตล์บริษัทในเครือ PTT ครับ แต่หลายคนก็อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
(ซึ่งไม่ค่อยหวานเท่าไหร่) ในวาระที่ 7
ส่วนวาระที่ 6 ไม่มีอะไร เรื่องแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ในที่สุดก็มาถึงวาระที่ 7 ที่ทุกคนรอคอยอย่างใจจดใจจอ ก็มาถึง
วาระที่ 7 พิจารณาอนุมัติการออกเสนอขายหุ้น ESOP จำนวน 58 ล้านหุ้น
คิดเป็น 2% ของหุ้นทั้งหมด แก่ ผู้บริหาร กรรมการ พนักงานบริษัท และ
ผู้บริหาร ปตท.ที่มาปฏิบัติงานเต็มเวลา(Secondees)
ESOP 58,000,000 หน่วย ราคาใช้สิทธิ์ 12 บาท ระยะเวลาใช้สิทธิ์ 2ปี
ใช้สิทธิ์ได้หลังครบกำหนด 1ปี 1.5ปี 2ปี ตามสัดส่วน 25% 25% 50%
ตามลำดับ
วาระนี้ใช้เวลานานสุด โดย ผู้ถือหุ้นหลายๆท่านได้ลุกขึ้นมาถามหาเหตุผล
และความชอบธรรมของการออก ESOP จำนวนมากขนาดนี้ และ ราคาใช้
สิทธิ์ 12 บาท ซึ่งในความรู้สึกของผู้เข้าประชุมคือ ไม่เป็นธรรม
ขอสรุปคำถามที่พอจำได้แล้วกันนะครับ แจมความคิดผมลงไปด้วยไม่ว่า
กันนะครับ
Q: ทำไมไม่จ่ายเป็นโบนัส หรือ เงินตอบแทนจากผลงาน ให้เยอะหน่อยก็ได้
เพราะการออก esop เนี่ยมันมีผลทำให้หุ้น ไดลูทลงไปเยอะมาก
A: การออก esop ครั้งนี้เป็นการออกตามกฏเกณฑ์ ตลท เพื่อให้เกิดประโยชน์
สูงสุดแก่องค์กร และการไดลูทก็จะคิดเป็นแค่ 0.5% เท่านั้น
อีกทั้งสาเหตุหลักๆก็มาจากการที่ RRC ได้เซ็นยกเลิกสัญญา
การดำเนินงานร่วมกันกับ SPRC ไปเมื่อ 8 ก.พ. 49 ไปแล้ว
จะมีผล ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 52 เป็นต้นไป
(คือ...แบบว่าโรงกลั่นที่ใช้อยู่เนี้ยเป็นการร่วมกันบริหารและจัดการภาย
ใต้ชื่อ ARC = RRC+SPRC)
เพราะฉะนั้นบริษัทก็จัดให้มี esop เพื่อเป็นการดึงตัวพนักงานเก่งๆ มา
ทำงานกับ RRC แทนที่จะไปอยู่กับ SPRC อีกทั้งตัว SPRC เองก็กำลัง
ยื่นเรื่องเข้า ตลาดหลักทรัพย์อยู่ และ SPRC เองก็มีการแจก esop เพื่อ
เป็นการดึงตัวพนักงานเช่นกัน เพราะฉะนั้น.....RRC ก็ต้องแจกด้วยไม่
งั้นเราอาจสูญเสียพนักงานดีๆ เก่งๆ ให้กับ SPRC ได้
Q: ราคาใช้สิทธิ์ทำไมต้อง 12 บาท
A: ราคาเป็นราคาเพื่อต้องการให้เป็นการจูงใจให้พนักงานที่ได้รับ esop
อยู่กับบริษัทนานๆ เติบโตไปกับบริษัท จะได้ทำงานเต็มที่เพื่อรอรับเงินปัน
ผลจากหุ้นที่ถืออยู่ (อืมม....ผมก็พึ่งรู้ว่าพนักงานบริษัทส่วนใหญ่มีแนวคิด
แบบ VI เลยนะนี่) เพราะถ้าเราไม่มี Discount ให้จะพนักงานจะทำให้
พนักงานไม่อยากใช้สิทธิ และ เป็นการเสียเปรียบกับทาง SPRC ที่เค้า
จะใช้ esop ราคาถูกๆมาดึงตัวพนักงานไป เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม
เพราะมีเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น
ส่วนมากหลักๆก็เป็นเรื่องของการขอร้องกรรมการ ให้เห็นใจรายย่อยบ้างเพราะ
การออก esop มันมีผลต่อทั้งทางจิตวิทยา และ ทางราคาจริงๆที่จะต้องลดลง
โดยรายย่อยได้แนะถึงวิธีอื่น รวมทั้งยกเหตุผลต่างๆเพื่อให้กรรมการได้เข้าใจ
ว่า esop ไม่ใช่เครื่องมือดึงตัวหรือสร้างความภักดีให้บริษัทเท่าไร เพราะที่ผ่านๆ
มาพอถึงกำหนดใช้สิทธิ์พนักงานเกือบทั้งหมดก็จะนำหุ้นออกมาขายทันที
คำถามหนึ่งซึงผมประทับใจมากคือ มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งได้ยกมือขึ้นและยืนยัน
คัดค้านการออก esop ครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่า esop ทำให้พนักงานที่ได้
รับหมกมุ่นกับเรื่องหุ้น จากประสบการณ์ตรงของพี่คนนั้นซึ่งทำงานบริษัทที่
มีลักษณะคล้ายกับ RRC (ไม่ยอมบอกชื่อ) ได้บอกว่าหลังจากพนักงานได้หุ้น
ไป ก็จะหมกมุ่นกับเรื่องหุ้นจนบ้างครั้งไม่เป็นอันทำงาน หรือ ทำงานไม่มี
ประสิทธิภาพ วันๆจะใจจดใจจ่ออยู่กับเรื่องราคาหุ้นเป็นส่วนมาก พอหุ้นตก
เยอะๆ บางคนก็จะเครียดทีเดียว จากที่เคยทำงานอยู่ดีๆ ชีวิตไม่ต้องคอย
มาห่วงเรื่องตลาดหุ้น ก็จะเปลี่ยนไปมาก จนบางทีมีผลต่องานที่ทำเลยทีเดียว
คำตอบที่ได้ก็น่าฟังเหมือนกัน โดยคุณ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ได้บอกว่า
ในความรู้สึกของท่าน ท่านว่าถ้าพนักงานไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับราคาหุ้น
ที่ขึ้นหรือลงก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ได้ เพราะถ้าเค้าต้องการให้ราคาหุ้นดี
เค้าก็จะพยายามทำงานเต็มที่ แต่ถ้าพนักงานไม่สนใจราคาหุ้นแล้วทำงาน
กันแบบเรื่อยๆไม่กระตือรือร้น ก็อาจจะไม่ดีต่อผู้ถือหุ้นก็เป็นได้
(อันนี้ผมว่า สองคนนี้อยู่คนละด้านของเหรียญครับ ส่วนผมขอเลือกอยู่ข้าง
พี่ผู้หญิงละกัน)
จริงๆรายละเอียดยังมีอีกเยอะ ไว้ใครสนใจละก็ลองซื้อติดพอร์ตไว้หน่อย
เพื่อปีหน้าเค้าจะมี VCD บันทึกการประชุมแจก เพราะมีคนขอให้ทำเป็น VCD
และกรรมการก็บอกว่าจะรับไว้พิจารณาด้วย
ในที่สุดหลังจากการยกเหตุผลต่างๆมายันกัน ก็มาถึงเวลา โหวตเสียงรับรองครับ
ผลปรากฏว่า มติที่ประชุม
:
:
:
:
:
:
:
:
:
:
:
รับรองมติด้วยคะแนนเสียง 91.12 % ประมาณ 1600 กว่าล้านหุ้น
คัดค้าน 7.44 % " 125 ล้านหุ้น
งดออกเสียง 1.44 % " 25 ล้านหุ้น
ก็เป็นอันว่าวาระนี้ผ่านไปแบบ กรรมการเสียวนิ๊ด..นิด
หลังจากประกาศผล วาระที่ 7 จบสิ้น ผู้ถือหุ้นส่วนมากก็ลุกขึ้นเดินออกจาก
ที่ประชุมทันที เพราะวาระที่ 8-9 ไม่ค่อยมีอะไรแล้วครับ ส่วนมากที่มากัน
ก็เพราะ วาระที่ 7 เนี้ยแหละครับ แล้วเวลาก็เย็นมากแล้วด้วย
ผมว่าถึงจะแพ้ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ที่เสียดายคือ ปริมาณหุ้นที่มา
ประชุมนี่ถ้ารวม รายย่อย ขาใหญ่สัก 20-30 คนนี่ไม่แน่ อาจมี เฮ กลางที่
ประชุมก็ได้นะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ขอบคุณครับ
ขออนุญาติเล่าบรรยากาศการประชุมให้พี่ๆ เพื่อนๆ ฟังครับ เพราะบางครั้ง
เสน่ห์ของการลงทุนก็มาจากห้องประชุมผู้ถือหุ้นนี่แหละครับ
ประชุม RRC สถานที่จัด เซ็นทรัล ลาดพร้าว ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ชั้นบนสุด
เวลาประชุมเริ่ม 14:00 น ครับ
มีคนเข้ารวมประชุมประมาณ 1000 กว่า คนครับ มีเลี้ยงค๊อกเทลก่อนเข้า
ประชุม ใครมาไม่ทันก็จะอดกิน แต่เค้าจะเอาอาหารมาใหม่ตอนประมาณ
15:00 ครับ เผอิญผมออกมาเข้าห้องน้ำเลยได้กินกันแบบโล่งๆ ไม่ต้อง
แย่งกัน เพราะมาถึงที่ประชุมก็เกือบบ่าย 2 แล้ว พอเช็คชื่อเรียบร้อย ของ
กินชุดแรกก็ไม่เหลือแล้ว
ส่วนเนื้อหาการประชุม มีทั้งหมด 9 วาระ
วาระ 1-5 ผ่านไปเรื่อยๆ ใช้เวลาไม่เยอะครับ ทั้งที่มีหลายคนไม่ค่อยพอใจ
วาระที่ 5 (พิจารณาอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ)เท่าไหร่ เพราะจ่ายเยอะ
ตามสไตล์บริษัทในเครือ PTT ครับ แต่หลายคนก็อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
(ซึ่งไม่ค่อยหวานเท่าไหร่) ในวาระที่ 7
ส่วนวาระที่ 6 ไม่มีอะไร เรื่องแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ ผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ในที่สุดก็มาถึงวาระที่ 7 ที่ทุกคนรอคอยอย่างใจจดใจจอ ก็มาถึง
วาระที่ 7 พิจารณาอนุมัติการออกเสนอขายหุ้น ESOP จำนวน 58 ล้านหุ้น
คิดเป็น 2% ของหุ้นทั้งหมด แก่ ผู้บริหาร กรรมการ พนักงานบริษัท และ
ผู้บริหาร ปตท.ที่มาปฏิบัติงานเต็มเวลา(Secondees)
ESOP 58,000,000 หน่วย ราคาใช้สิทธิ์ 12 บาท ระยะเวลาใช้สิทธิ์ 2ปี
ใช้สิทธิ์ได้หลังครบกำหนด 1ปี 1.5ปี 2ปี ตามสัดส่วน 25% 25% 50%
ตามลำดับ
วาระนี้ใช้เวลานานสุด โดย ผู้ถือหุ้นหลายๆท่านได้ลุกขึ้นมาถามหาเหตุผล
และความชอบธรรมของการออก ESOP จำนวนมากขนาดนี้ และ ราคาใช้
สิทธิ์ 12 บาท ซึ่งในความรู้สึกของผู้เข้าประชุมคือ ไม่เป็นธรรม
ขอสรุปคำถามที่พอจำได้แล้วกันนะครับ แจมความคิดผมลงไปด้วยไม่ว่า
กันนะครับ
Q: ทำไมไม่จ่ายเป็นโบนัส หรือ เงินตอบแทนจากผลงาน ให้เยอะหน่อยก็ได้
เพราะการออก esop เนี่ยมันมีผลทำให้หุ้น ไดลูทลงไปเยอะมาก
A: การออก esop ครั้งนี้เป็นการออกตามกฏเกณฑ์ ตลท เพื่อให้เกิดประโยชน์
สูงสุดแก่องค์กร และการไดลูทก็จะคิดเป็นแค่ 0.5% เท่านั้น
อีกทั้งสาเหตุหลักๆก็มาจากการที่ RRC ได้เซ็นยกเลิกสัญญา
การดำเนินงานร่วมกันกับ SPRC ไปเมื่อ 8 ก.พ. 49 ไปแล้ว
จะมีผล ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 52 เป็นต้นไป
(คือ...แบบว่าโรงกลั่นที่ใช้อยู่เนี้ยเป็นการร่วมกันบริหารและจัดการภาย
ใต้ชื่อ ARC = RRC+SPRC)
เพราะฉะนั้นบริษัทก็จัดให้มี esop เพื่อเป็นการดึงตัวพนักงานเก่งๆ มา
ทำงานกับ RRC แทนที่จะไปอยู่กับ SPRC อีกทั้งตัว SPRC เองก็กำลัง
ยื่นเรื่องเข้า ตลาดหลักทรัพย์อยู่ และ SPRC เองก็มีการแจก esop เพื่อ
เป็นการดึงตัวพนักงานเช่นกัน เพราะฉะนั้น.....RRC ก็ต้องแจกด้วยไม่
งั้นเราอาจสูญเสียพนักงานดีๆ เก่งๆ ให้กับ SPRC ได้
Q: ราคาใช้สิทธิ์ทำไมต้อง 12 บาท
A: ราคาเป็นราคาเพื่อต้องการให้เป็นการจูงใจให้พนักงานที่ได้รับ esop
อยู่กับบริษัทนานๆ เติบโตไปกับบริษัท จะได้ทำงานเต็มที่เพื่อรอรับเงินปัน
ผลจากหุ้นที่ถืออยู่ (อืมม....ผมก็พึ่งรู้ว่าพนักงานบริษัทส่วนใหญ่มีแนวคิด
แบบ VI เลยนะนี่) เพราะถ้าเราไม่มี Discount ให้จะพนักงานจะทำให้
พนักงานไม่อยากใช้สิทธิ และ เป็นการเสียเปรียบกับทาง SPRC ที่เค้า
จะใช้ esop ราคาถูกๆมาดึงตัวพนักงานไป เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม
เพราะมีเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น
ส่วนมากหลักๆก็เป็นเรื่องของการขอร้องกรรมการ ให้เห็นใจรายย่อยบ้างเพราะ
การออก esop มันมีผลต่อทั้งทางจิตวิทยา และ ทางราคาจริงๆที่จะต้องลดลง
โดยรายย่อยได้แนะถึงวิธีอื่น รวมทั้งยกเหตุผลต่างๆเพื่อให้กรรมการได้เข้าใจ
ว่า esop ไม่ใช่เครื่องมือดึงตัวหรือสร้างความภักดีให้บริษัทเท่าไร เพราะที่ผ่านๆ
มาพอถึงกำหนดใช้สิทธิ์พนักงานเกือบทั้งหมดก็จะนำหุ้นออกมาขายทันที
คำถามหนึ่งซึงผมประทับใจมากคือ มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งได้ยกมือขึ้นและยืนยัน
คัดค้านการออก esop ครั้งนี้ โดยให้เหตุผลว่า esop ทำให้พนักงานที่ได้
รับหมกมุ่นกับเรื่องหุ้น จากประสบการณ์ตรงของพี่คนนั้นซึ่งทำงานบริษัทที่
มีลักษณะคล้ายกับ RRC (ไม่ยอมบอกชื่อ) ได้บอกว่าหลังจากพนักงานได้หุ้น
ไป ก็จะหมกมุ่นกับเรื่องหุ้นจนบ้างครั้งไม่เป็นอันทำงาน หรือ ทำงานไม่มี
ประสิทธิภาพ วันๆจะใจจดใจจ่ออยู่กับเรื่องราคาหุ้นเป็นส่วนมาก พอหุ้นตก
เยอะๆ บางคนก็จะเครียดทีเดียว จากที่เคยทำงานอยู่ดีๆ ชีวิตไม่ต้องคอย
มาห่วงเรื่องตลาดหุ้น ก็จะเปลี่ยนไปมาก จนบางทีมีผลต่องานที่ทำเลยทีเดียว
คำตอบที่ได้ก็น่าฟังเหมือนกัน โดยคุณ ประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ได้บอกว่า
ในความรู้สึกของท่าน ท่านว่าถ้าพนักงานไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับราคาหุ้น
ที่ขึ้นหรือลงก็อาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ได้ เพราะถ้าเค้าต้องการให้ราคาหุ้นดี
เค้าก็จะพยายามทำงานเต็มที่ แต่ถ้าพนักงานไม่สนใจราคาหุ้นแล้วทำงาน
กันแบบเรื่อยๆไม่กระตือรือร้น ก็อาจจะไม่ดีต่อผู้ถือหุ้นก็เป็นได้
(อันนี้ผมว่า สองคนนี้อยู่คนละด้านของเหรียญครับ ส่วนผมขอเลือกอยู่ข้าง
พี่ผู้หญิงละกัน)
จริงๆรายละเอียดยังมีอีกเยอะ ไว้ใครสนใจละก็ลองซื้อติดพอร์ตไว้หน่อย
เพื่อปีหน้าเค้าจะมี VCD บันทึกการประชุมแจก เพราะมีคนขอให้ทำเป็น VCD
และกรรมการก็บอกว่าจะรับไว้พิจารณาด้วย
ในที่สุดหลังจากการยกเหตุผลต่างๆมายันกัน ก็มาถึงเวลา โหวตเสียงรับรองครับ
ผลปรากฏว่า มติที่ประชุม
:
:
:
:
:
:
:
:
:
:
:
รับรองมติด้วยคะแนนเสียง 91.12 % ประมาณ 1600 กว่าล้านหุ้น
คัดค้าน 7.44 % " 125 ล้านหุ้น
งดออกเสียง 1.44 % " 25 ล้านหุ้น
ก็เป็นอันว่าวาระนี้ผ่านไปแบบ กรรมการเสียวนิ๊ด..นิด
หลังจากประกาศผล วาระที่ 7 จบสิ้น ผู้ถือหุ้นส่วนมากก็ลุกขึ้นเดินออกจาก
ที่ประชุมทันที เพราะวาระที่ 8-9 ไม่ค่อยมีอะไรแล้วครับ ส่วนมากที่มากัน
ก็เพราะ วาระที่ 7 เนี้ยแหละครับ แล้วเวลาก็เย็นมากแล้วด้วย
ผมว่าถึงจะแพ้ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ที่เสียดายคือ ปริมาณหุ้นที่มา
ประชุมนี่ถ้ารวม รายย่อย ขาใหญ่สัก 20-30 คนนี่ไม่แน่ อาจมี เฮ กลางที่
ประชุมก็ได้นะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ขอบคุณครับ