Thai VI

ทำไม่ราคา solar ลงไม่หยุด มันน่าจะลงต่ำสูดเท่าไหร่ครับ

กำไรหด เพราะ ความต้องการลดลง
อีกทั้ง วัตถุดิบก็มีราคาเพิ่มขึ้น
ต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์ก็ยังสูง

บววิเคราะห์จากค่าย กิมเอ็ง เมื่อ 1 มีนา 50
ให้ราคาเป้าหมายที่ 3.62 ครับ

http://www.settrade.com/brokerpage/Anal ... _solar.pdf

รัฐบาลน่าจะส่งเสริม มาตรลดภาษี กับ ครัวเรือนที่
ติดตั้งอุปกรณ์ solar cell นะครับ
แดดก็แรง แต่มองไปทางไหน ยังไม่เห็นแผง solar cell ซักเท่าไร่

หรือจะรอ solar cell ราคาถูกจากจีนเข้ามาตีตลาด
แล้ว ค่อยซื้อติดตั้งกัน

ขอบคูณมากครับสำหรับคำตอบของคุณ Tee Total   ราคาจะลงอีกต่อเนื่องกว่านี้ไหม้ครับ กะว่าอยากซื้อเก็บไว้ ซัก 10ปี

ผมว่าหุ้นตัวนี้จะน่าสนใจขึ้นถ้าราคาน้ำมันพุ่งแตะ 100 $/BBL

ตัวนี้ผมกาหัวตั้งแต่เข้าตลาดมาครับ เพราะเป็นหุ้นการเมือง

หุ้นการเมืองนี่เล่นยากครับ ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนเร็วมากๆโดยเฉพาะมาเจอ คมช.เข้าอีก :lol:

แต่เห็นราคาก็น่าตกใจนะครับ ตอนนั้นรู้สึกจะประมาณ15บาท(ตอนTVI meeting)ตอนนี้เหลือ3บาทกว่า

แต่ตอนนี้ก็เท่าบุ๊คแล้ว ก็ลองตรวจสอบกันดูครับ เผื่อจะเจอของดีๆ เวลาท๊ากกี้ รีเทิร์น :lol:

naris เขียน:ตัวนี้ผมกาหัวตั้งแต่เข้าตลาดมาครับ เพราะเป็นหุ้นการเมือง

หุ้นการเมืองนี่เล่นยากครับ ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนเร็วมากๆโดยเฉพาะมาเจอ คมช.เข้าอีก :lol:

แต่เห็นราคาก็น่าตกใจนะครับ ตอนนั้นรู้สึกจะประมาณ15บาท(ตอนTVI meeting)ตอนนี้เหลือ3บาทกว่า

แต่ตอนนี้ก็เท่าบุ๊คแล้ว ก็ลองตรวจสอบกันดูครับ เผื่อจะเจอของดีๆ เวลาท๊ากกี้ รีเทิร์น :lol:

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ หุ้นการเมือง ไม่เอาครับ

ผมว่านะครับ ถึงน้ำมันแพง เราก็ยังมี พลังงานอย่างอื่นพวก ก๊าซธรรมชาติ หรือ พวก ไบโอดีเซล ทดแทนได้ครับ หรือไม่ก็พวกถ่านหินก็ยังได้

ถ้าจะรอพลังงานแสงอาทิตย์นี่ผมว่านานหน่อยครับไม่น่าจะเร็วๆนี่ เพราะของยังแพงอยู่ครับ ถ้า technology ใหม่ ทำให้ ราคาต้นทุนถูกลงได้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีใน อนาคตครับ

Sumotin เขียน:ผมว่านะครับ ถึงน้ำมันแพง เราก็ยังมี พลังงานอย่างอื่นพวก ก๊าซธรรมชาติ หรือ พวก ไบโอดีเซล ทดแทนได้ครับ หรือไม่ก็พวกถ่านหินก็ยังได้

ถ้าจะรอพลังงานแสงอาทิตย์นี่ผมว่านานหน่อยครับไม่น่าจะเร็วๆนี่ เพราะของยังแพงอยู่ครับ ถ้า technology ใหม่ ทำให้ ราคาต้นทุนถูกลงได้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีใน อนาคตครับ

เห็นด้วยครับแต่ Solar cell ก็มีข้อดีที่สุดเรื่องความสะอาดซึ่งพลังงานอื่นอาจจะสู้ไม่ได้ แต่ผมก็เห็นด้วยว่าราคาต่อหน่วยผลิตไฟฟ้าของ Solar Cell มันยังแพงอยู่มาก

โพสซ้ำกันขออณุญาติลบไป 1 อันนะครับ

1. รายได้ 80% มาจากหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งตอนนี้ ได้มีการลดงบประมาณลง ทำให้ทาง solar ต้องปรับตัว หันมารับงานเอกชนเพิ่มมากขึ้น จาก 80:20 เป็น 40:60 ซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่อยู่เหมือนกัน
2. โปรเจค การผลิต solar cell ที่จะสร้างโรงงาน 1100 ล้าน ยังไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า เพราะยอดขายลดลงจากรัฐบาล อาจทำให้กำลังการผลิตยังไม่คุ้มทุนก็เป็นได้
3. การผลิตแผง solar เป็นธุรกิจที่ลงทุนต่ำ คู่แข่งสามารถเข้ามาแข่งได้ง่าย
4. ARK เป็นคู่แข่งโดยตรง เพราะจะหันมาจับ ด้านพลังงานจาก solar เหมือนกัน
5. ความเสี่ยงเรื่องการเมืองยังมีอยู่ เพราะผู้ถือุ้นมีความสัมพันธ์กับรัฐบาลเก่าอยู่

ปัญหาหลักของ Solar นั้นอยู่ที่

1.  ต้นทุนการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์มีแนวโน้มสูงขั้นระยะสั้นครับ ได้ข้อมูลจาก AKR มาประกอบ

ในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เซลล์แสงอาทิตย์(Solar Cell) มีแนวโน้มราคาต่อวัตต์พีคที่ลดลงมาโดยตลอด แม้ว่าอัตราความต้องการเซลล์แสงอาทิตย์ทั่วโลกมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ราคาเซลล์แสงอาทิตย์ยังลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากความก้าวหน้าทางการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับเซลล์แสงอาทิตย์ รวมทั้งการเกิดความประหยัดต่อขนาดการผลิต(Economy of Scale)

แต่ตั้งแต่กลางปี 2547 เป็นต้นมาผู้ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนซิลิคอนบริสุทธิ์เกรดเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar-grade silicon) ที่ใช้ในการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ ส่งผลให้ราคาเซลล์แสงอาทิตย์ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งราคาเซลล์แสงอาทิตย์ที่สูงขึ้นจะทำให้ต้นทุนการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Module) สูงขึ้นตามไปด้วย

2.  นโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนพลังงานทดแทนที่เป็นพลังงานสะอาดเมื่อเทียบกับบางประเทศเช่น เยอรมันซึ่งสนับสนุนในเรื่องนี้ชัดเจนกว่ามากครับ โดยออกมาเป็นกฏหมายสนับสนุนอย่างชัดเจน ทำให้เกิดความตื่นตัวของผู้ใช้ภายในประเทศที่มีต้องการการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่องครับ ซึ่งส่งผลต่อการวิจัยและพัฒนาการใช้พลังงานทดแทนดังกล่าว ซึ่งคาดว่าในอนาคตน่าจะมีราคาที่ถูกลงได้ครับ

รัฐบาลเยอรมันมีนโยบายสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีนโยบายส่งเสริมการติดตั้งระบบเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารสิ่งปลูกสร้าง มีกฎหมาย Renewable Energy Law (EEG) บังคับซื้อคืนไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ เป็นต้น ทำให้ตลาดผู้ใช้ในประเทศเยอรมันมีการขยายตัวอย่างมาก โดยรัฐบาลเยอรมันมีนโยบายในการสนับสนุนได้ออกมาเป็นกฎหมาย ไม่ใช่การรณรงค์เพียงชั่วครั้งชั่วคราว

สิ่งที่ผมจะชี้ให้เห็นก็คือ เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการใช้พลังงาน ฟอสซิส จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งเป็นพลังงานหลัก นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโลก ทำให้หลาย ๆ ประเทศในขณะนี้ให้การสนับสนุนพลังงานสะอาดซึ่งมีฐานการใช้พลังงานที่เล็กมาก และทำให้การเติบโตที่ผ่านมามีการเติบโตที่สูงมากครับ ข้อมูลจาก AKR

อัตราการเติบโตและสภาพอุตสาหกรรมการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ในตลาดโลก

ในปี 2548 บริษัทต่างๆในอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ได้ผลิตและจำหน่ายเซลล์แสงอาทิตย์ถึง 1,700 เมกะวัตต์ และมีอัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมขยายตัวเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2542-2547 เท่ากับร้อยละ 40 ต่อปี อันเนื่องมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตและความน่าสนใจของอุตสาหกรรม และจากการคาดการณ์ของ Credit Lyonnais Security Asia(CLSA) ได้ประมาณการว่ามูลค่าอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์จะขยายตัวจาก 280,000 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 1,200,000 ล้านบาท(24 พันล้านยูโร) ในปี 2553 โดยมีจำนวนเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผลิตและจำหน่ายถึง 5.3 กิกะวัตต์ (ที่มา : PV News 2006)

ตารางแสดงปริมาณการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ในตลาดโลก ตั้งแต่พ.ศ. 2541-2548
ข้อมูลในเรื่องการเติบโตของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์จากปี 41 ถึงปัจจุบันที่เติบโตจากฐานที่เล็กไปยังฐานที่ใหญ่ขึ้นมากในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่สนับสนุนพลังงานทดแทนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จากปี 41 ในภาพรวมที่อยุ่ที่ 154.9 เมกะวัตต์ต่อปี ขึ้นไปเป็น 1759 เมกะวัตต์ต่อปีในปี 48 เท่ากับเติบโต 1604.1 เมกะวัตต์ต่อปี หรือเท่ากับ 1035.57% เมื่อเทียบกับปี 41 ซึ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 7 ปีเท่านั้นครับ

ประเทศ/กลุ่มประเทศ ปริมาณการผลิตต่อปี(เมกะวัตต์)
2541 2542 2543 2544 2545 2546 2547 2548
ยุโรป 33.5 40.0 60.7 86.4 135.1 193.4 314 470
ญี่ปุ่น 49.0 80.0 128.6 171.2 251.1 363.9 602 833
สหรัฐอเมริกา 53.7 60.8 75.0 100.0 120.6 103.0 140 154
อื่นๆ 18.7 20.5 23.4 32.6 55.5 83.8 139 302
รวม 154.9 201.3 287.7 390.2 561.8 744.1 1195 1759
ที่มา : PV News 2006

สิ่งที่ผมจะชี้ต่อไปก็คือ

แนวโน้มของพลังงานสะอาดคงต้องมีการพัฒนาขึ้นอีกมากทดแทนการใช้พลังงานจากฟอสซิส แต่คงไม่ใช่การพัฒนาเพื่อทดแทนได้อย่างเร็วพลัน ต้องผ่านการวิจัยและพัฒนาอีกหลายขั้นตอน แต่จะเป็นธุรกิจในอนาคตที่จะเติบโตเพื่อทดแทนการใช้พลังงานจากฟอสซิสเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ

ปัญหาก็คือ หากเราไม่พยายามสนับสนุนพลังงานลักษณะนี้ให้มากขึ้น ในที่สุดประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย ก็จะพัฒนาเทคโนโลยีตรงนี้ไปอีกไกล จนถึงที่สุด เราก็ต้องกลับไปพึ่งพาเทคโนโลยีนี้จากต่างประเทศ และพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศมากขึ้น เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ที่เราไม่มีพลังงานน้ำมันที่เพียงพอกับความต้องการของประเทศไทย ทำให้เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้น ก็จะส่งผลกระทบกับการขาดดุลการค้าจำนวนมากครับ เพราะเราใช้พลังงานน้ำมันเป็นส่วนประกอบของต้นทุนการผลิต การบริโภคโดยการขนส่งทั้งเชิงพาณิชย์และส่วนบุคคลจำนวนมากครับ

ดังนั้นในต่างประเทศเติบโตมากและเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ แต่นโยบายของเรามองว่าต้นทุนตัวนี้ยังแพงอยู่มาก เอาไว้รอถูกกว่านี้ค่อยใช้ดีกว่า

ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองว่า ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไก่ครับ เพราะจะลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนได้เทคโนโลยีในเรื่องนี้ที่เป็นของชาติแต่เนิ่น ๆ หรือจะรอพึ่งลมหายใจของต่างชาติที่เขาพัฒนาในเรื่องนี้อย่างจริงจังครับ

ถ้าหากนโยบายในเรื่องนี้ไม่ชัดเจน เอกชนที่ทำในเรื่องนี้ทั้ง Solar และ AKR ก็คงต้องประสบกับปัญหาในระยะสั้น ก็คือ ต้นทุนค่อนข้างสูง ขณะที่ Demand ในประเทศไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง ก็ทำให้เจอทั้งการตลาดและต้นทุนที่ไม่สามารถผลักภาระได้ และ ทั้ง SOLAR และ AKR โดยทั้งคู่เริ่มทำโรงงานการผลิตแบบ Upstream ในปีนี้ โดยลงทุนแต่ละที่เป็น 1000 ล้านบาท (Solar 1100 ล้านบาท และ AKR 1400 ล้านบาท) ก็จะยิ่งประสบปัญหามากขึ้น จากตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศที่จะเจอกับค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ทำให้บั่นทอนศักยภาพการแข่งขันอีกด้วยครับ และการสร้างโรงงานใหม่ดังกล่าว จะทำให้ทั้ง 2 แห่งเจอกับต้นทุนค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น ทำให้กระทบกับกำไรสุทธิในปีนี้อย่างแน่นอนครับ

ซึ่งผมคิดว่า เป็นสาเหตุในระยะสั้นที่ทำให้ทั้ง Solar และ AKR ในรับผลกระทบกับการดำเนินงานในอนาคตที่มีโอกาสปรับลดลงจากปัจจัยดังกล่าว ทำให้สถานการณ์การแข่งขันในประเทศ และต่างประเทศมีความยากลำบากในการดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งราคาหุ้นก็คงต้องสะท้อนในเรื่องปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวครับ

เอาตลาดในประเทศมาดูกันบ้างครับ ก็มองได้ 2 มุมก็คือ ตลาดยังเล็กมีโอกาสเติบโตสูง หรือตลาดเล็กและมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย โอกาสจะดับก็มากขึ้นครับ เพราะภาวะอุตสาหกรรมตอนนี้แข่งขันกันดุเดือดมาก เพราะความต้องการพลังงานแสงอาทิตย์ กับ Supply ที่มีอยู่ยังค่อนข้างล้นตลาดอยู่ครับ แต่ AKR หันไปจับตลาดต่างประเทศมากหน่อย ก็ทำให้ตลาดในประเทศลดความรุนแรงไปได้บ้างครับ

อัตราการเติบโตและสภาพอุตสาหกรรมการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ของประเทศไทย
อุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยมีการเติบโตน้อยมากนับตั้งแต่อดีตจนถึงปี 2546 กล่าวคือ มีปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพียงประมาณ 5.8 เมกะวัตต์ เท่านั้น

สำหรับการแข่งขันในธุรกิจผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศ จากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเซลล์แสงอาทิตย์ในอุตสาหกรรมประมาณ 20 บริษัท มีบริษัทฯที่มีโรงงานผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ได้เองในประเทศ 5 บริษัท ดังตารางข้างล่างนี้





ตารางแสดงรายชื่อผู้ผลิตภายในประเทศที่สามารถผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์(Solar Module)
บริษัท ชนิดแผงเซลล์แสงอาทิตย์
ที่ผลิต กำลังการผลิต
(เมกะวัตต์ต่อปี)
1. บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด Cz-Si 12*
2. บริษัท โซล่าร์ตรอน จำกัด(มหาชน) Cz-Si 30
3. บริษัท ชาร์ป เทพนคร จำกัด Cz-Si 7
4. บริษัท บางกอกโซล่าร์ จำกัด Amorphous Si 15
5. บริษัท ไทย เอเย่นซี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด Amorphous Si , Cz-Si 10
หมายเหตุ :
* กำลังการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์(Solar Module) สูงสุด ของบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ที่สามารถผลิตได้จริงเท่ากับ 12 เมกะวัตต์ต่อปี

ต้นทุน พลังงานลม ยังถูกกว่าพลังงานแสงอาทิตย์
ผมคิดว่า ถ้า โลกร้อนขึ้น
จนส่งผลให้ ลม ที่พัดเข้าหาชายฝั่ง รุนแรงขึ้น
เทคโนโลยี พลังงานลมน่าจะมาก่อน พลังงานแสงอาทิตย์นะครับ

แต่ คนที่มีกังหันลม ตั้งอยู่ใกล้ๆ บ้าน จะส่งผลต่อ ความรู้สึกรำคาญตา หรือเปล่า (ช่าง ชาวเยอรมัน เล่าว่า ที่บ้านเขา มีบางหมู่บ้าน ต่อต้านไม่ให้ เอากังหันมาติดที่ในหมู่บ้านเขา เขาว่า ดูแล้ว มีผลต่อสุขภาพจิต)

ในใจ อยากเห็นพลังงานแสงอาทิตย์เหมือนกัน
เพราะ เห็นแดด ที่พื้นดินไทยแล้วเสียดาย
น่าจะเอามาผลิตไฟฟ้า
เอาไฟฟ้า นั้นมาแยก น้ำให้เป็น ไฮโดรเจน กับ อ๊อกซิเจน
มาใช้เป็นเชื้อเพลิง
ใช้เสร็จก็ได้น้ำกลับคืนมา เพื่อเอามาแยกด้วยไฟฟ้า จาก พลังงานแสงอาทิตย์ใหม่
ถ้า เมืองร้อนอย่างเมืองไทย ไม่คิดค้นพัฒนา
จะรอให้ประเทศหนาวๆ แดดไม่ค่อยแรงพัฒนา โซล่าเซลล์ คงต้องรออีกนาน

แล้วมีใครรุ้บ้างว่า ทีมวิจัยแลพัฒนาของ solar นี่ ความสามารถขนาดไหน

ในอนาคตอันใกล้ จะค้นพบ เทคโนโลยี เปลี่ยน พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นไฟฟ้า ในราคาที่ถูกลงหรือเปล่า

ผมมองว่า คงBoom อย่างเร็ว ถ้ามีผู้นำเข้าCell แสงอาทิตย์ ที่มีคุณภาพพอใช้ได้และราคาในระดับที่คืนทุนเร็ว จากประเทศจีนเข้ามาขาย
ในไม่ใช้ ทุกบ้านก็จะมีใช้ครับ ไม่นานเกินรอครับ