ใครหว่า.....บทความของ ดr นิเวศน์ เรื่อง ความพอเพียงของศรัทธา
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 21, 2007 7:37 am
ความพอเพียงของศรัทธา
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ผมได้ฟังมาจากเพื่อนที่เป็น Value Investor อีกต่อหนึ่ง ผมจึงไม่สามารถรับรองความถูกต้องได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น การวิเคราะห์ต่อของผมก็อาจจะผิดจากความเป็นจริงได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า โดยภาพรวมแล้ว สิ่งที่ผมจะพูดน่าจะใกล้เคียงกับความเป็นจริง และน่าจะสามารถนำไปอ้างอิงได้ ถ้าจะพูดแบบนักลงทุนก็คือ เรื่องนี้น่าจะ Approximately Right นั่นคือ ประมาณว่าถูกต้อง
นี่คือเรื่องของการใช้ชีวิตของคน ๆ หนึ่งซึ่งตัดสินใจทิ้งงานประจำในฐานะของมนุษย์เงินเดือนมายึดอาชีพเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าเต็มตัวตั้งแต่อายุ 30 กว่าปี โดยที่ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยมาก่อน เขาน่าจะเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินเก็บออมจำนวนไม่มากนัก แต่ถึงวันนี้ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีความมั่งคั่งจากหุ้นในระดับประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป เขาคือคุณศรัทธา (ชื่อสมมุติ) ที่ผมคิดว่า คือรูปแบบของ Value Investor พันธุ์แท้คนหนึ่งที่ยึดมั่นแนวทางการลงทุนและการใช้ชีวิตแบบพอเพียงจนน่าทึ่ง
ศรัทธานั้น โดยพื้นฐานการศึกษาและการทำงานก็เป็นเช่นเดียวกับ Value Investor หลายคนที่เรียนจบปริญญาตรีและทำงานเป็นวิศวกร เขาเคยทำงานกับบริษัทปิโตรเคมีขนาดใหญ่ทางภาคตะวันออกของประเทศ แต่ครอบครัวของเขานั้น อาศัยอยู่ทางภาคใต้ และขณะนี้ หลังจากทำงานประจำมากว่า 10 ปี เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพ ในซอยสุขุมวิทต้น ๆ ซึ่งเป็นห้องเช่าที่เขาจ่ายค่าเช่าเพียงเดือนละ 2,000 บาทเศษ ห้องเช่านี้ แน่นอน คงไม่มีแอร์ แต่เขามีคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ติดต่อกับแหล่งข้อมูล เอาไว้ใช้ดู และซื้อขายหุ้น เราไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับศรัทธาได้ง่ายนัก เพราะเขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ และถ้าจะโทรไปหาเขาที่ห้องพัก โอกาสที่จะได้คุยกับเขาก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะเขาใช้มันเพื่อการต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาที่เขาอยู่
การใช้จ่ายแบบประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อของศรัทธานั้น รวมถึงการแต่งตัวที่เขามักสวมเสื้อยืดตัวเก่าและใช้รองเท้าผ้าใบราคาถูกแต่ทนทานที่ไม่ใช่ยี่ห้อไนกี้หรือรีบ็อค แต่เป็นแบบนันยาง เขาไม่มีรถยนต์ การเดินทางไปไหนมาไหนของเขานั้น เขาไม่ใช้แท็กซี่หรือรถไฟฟ้าที่มีราคาแพง เขาชอบที่จะอาศัยรถของคนที่รู้จักและเดินทางด้วยรถเมล์มากกว่า แต่ถ้าระยะทางไม่เกิน 2-3 ก.ม. เขาจะเดินด้วยเท้า เวลาไปฟังการสัมมนาเรื่องการลงทุนที่ไหนหรือไปประชุมผู้ถือหุ้นที่มีบริการเรื่องอาหาร เขาชอบที่จะรับประทานอาหารฟรี แต่ถ้าเขาต้องซื้ออาหารกินเอง เขาจะสั่งเฉพาะอาหารถ้าบริเวณใกล้เคียงมีออฟฟิสที่เขาจะหาน้ำสะอาดดื่มได้
ศรัทธาเป็นนักลงทุนที่ขยัน เขาศึกษาและวิเคราะห์หุ้นเกือบทุกตัวในตลาด เขาแกะงบของบริษัทจดทะเบียนกว่า 300 ตัว เขาทำตารางข้อมูลและเปรียบเทียบหุ้นต่าง ๆ เพื่อหาเป้าหมายที่เขาสนใจ และหุ้นตัวไหนที่เขาสนใจ เขาจะทำวิเคราะห์อย่างละเอียด เช่น ถ้าหุ้นตัวนั้นเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เขาก็จะเดินทางไปดูโครงการแทบทุกโครงการถ้าทำได้ ในช่วงที่มีงานผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุนหรืองาน Opportunity Day นั้น เขาจะไปฟังเกือบทุกวัน เช่นเดียวกัน ถ้าเขาเป็นผู้ถือหุ้น เขาจะไม่ขาดการประชุมผู้ถือหุ้นเลย
บ่อยครั้ง ศรัทธาพบหุ้นที่ถูกใจในด้านของตัวธุรกิจแต่ราคาหุ้นนั้นยังสูงเกินกว่าที่เขาคิดว่าจะมีความปลอดภัยหรือ Margin of Safety พอ เขาก็จะรอจนกว่าราคาหุ้นจะตกลงไปจนถึงจุดที่เขาต้องการซึ่งค่อนข้างต่ำมากจนเรารู้สึกว่าคงจะนานมากหรือไม่เกิดขึ้นเลย แต่เขาบอกว่าเขารอได้ เขาไม่ยอมซื้อหุ้นแพงไม่ว่าในกรณีใด
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่พอเพียงทั้งหลายที่กล่าวถึงนั้น คงไม่ใช่เฉพาะศรัทธาเท่านั้นที่ทำ เพราะดูเหมือนว่าศรัทธาจะมีเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรมที่คล้าย ๆ กันที่มักจะมาเจอกันในงานเกี่ยวกับการลงทุนทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม ศรัทธาดูเหมือนจะพอเพียงมากเป็นพิเศษ เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ศรัทธานั้นยังเป็นโสด ดังนั้น เขาจึงสามารถคิดและทำทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงคนในครอบครัวอื่นที่อาจจะมีความคิดไม่เหมือนกัน
ผมเองคิดว่าศรัทธาคงไม่รู้สึกลำบากอะไรกับการใช้ชีวิตอย่างนั้น เพราะในฐานะที่เป็นนักลงทุนโดยอาชีพ เราย่อมจะเป็นคนที่สามารถเลือกทำอะไรต่าง ๆ ได้เองค่อนข้างมาก ยิ่งถ้าไม่มีครอบครัวด้วยแล้ว คุณแทบจะไม่ต้องสนใจกับใครเลย ดังนั้น Value Investor คงไม่เลือกทำอะไรที่ตนเองทำแล้วไม่สบายใจ ว่าที่จริงการที่สามารถทำอะไรได้ตามใจตนเองนั้น เป็นคุณค่าที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเป็นนักลงทุนอาชีพนอกเหนือจากความมั่งคั่งที่อาจจะตามมา และนี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ศรัทธาเลือกเดินอย่างเต็มใจ
เรื่องของ Value Investor พันธุ์แท้ที่ใช้ชีวิตพอเพียงอย่างน่าทึ่งแบบศรัทธานั้น ผมคิดว่าน่าจะมีอยู่ไม่น้อยทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เรื่องของพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีคนรู้จัก แต่ผมเองเชื่อว่า ถ้าจะหาคนที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้ชีวิตต่ำกว่ามาตรฐานความมั่งคั่งที่มีทั้ง ๆ ที่เป็นคนร่ำรวยแล้วละก็ ไม่มีวงการไหนเท่ากับ Value Investor
....................................
ผมอ่านบทความนี้ในกรุงเทพธุรกิจเมื่อวันอังคาร แล้ว คิดถึงเพื่อน คนหนึ่ง ตรงตามที่ ดร.นิเวศน์ เขียนมาเลย
มีความรู้ดี อ่านหนังสือพิมพ์อังกฤษ จบวิศวะเพราะไม่อยากทำงาน ห้องเช่า 2 พันบาทต่อเดือน ไม่มีมือถือ ชอบเดินมากกว่านั่งรถ ใส่รองเท้าผ้าใบ ชอบเสื้อยืด
เพราะเมื่อวันก่อนผมไปเจอเขาที่ตลาดหลักทรัพย์ ในงาน opp day ไปฟัง TSTH จบตอนประมาณ 16.30 ผมบอกว่า จะไปประชุมวิสามัญที่ BH... เวลา 19.00 มีเวลาเหลืออีกมากเลย ก็ คุยกัน เขาบอก ว่า เดินไปกันไหม จากตลาดหลักทรัพย์ไปถึง BH นี่ หลายกิโลเลยนะครับ เขาบอก เดินลัดไปทางสวนโรงงานยาสูบก็ได้ ... เอา เดินก็เดิน เดินคุยกันไปกับเพื่อนอีกคน รวมกัน 3 คน ไปถึง BH ประมาณ 18.15 ได้ ... ผมไม่ได้ถามว่า มีหุ้นเท่าไหร่ แต่คิดว่า คิดว่าคงไม่มาก เพราะเขาถือหุ้น เกือบทุกบริษัทฯ ในตลาด เขามีความสนุกกับการลงทุน.... เขารอราคาหุ้นได้ คิดว่า ส่วนใหญ่แล้ว เขา ชนะตลาด เพราะการรอ คือ นิสัยของเขา งานนี้ ถ้าเขามี BH เป็นเศษหุ้น สิ่งที่เขาได้กำไรเห็น ๆ เลย คือ รับประทานอาหารเย็นฟรี แถมของชำร่วยในการประชุมครั้งนี้ คือ ปากกา parker สวย ๆ หนึ่งด้าม....ผมเคยทดลองซื้อหุ้น cpf จำนวน 100 หุ้น ...ผมไม่ชอบหุ้นฆ่าสัตว์ เลยถือนิดหน่อย เพื่อความรู้ ไป ประชุมกับเขา ตอนแรก ได้กระเป๋าเก็บความเห็นคงกว่าร้อยบาท แถม อาหารการกินเพียบ เอ.... ผมซื้อตอนนั้นประมาณ 3.80 ลงทุนไป 380 บาท ได้ของแถมก็น่าจะคุ้มแล้ว ในกระเป๋ามี ไส้กรอกที่เขาขายอีก คงคุ้มและกำไร ถ้าไปประชุมเรื่อย ๆ กำไรในหุ้นไม่พอ ยังกำไรของชำร่วยอีก ผมว่า สนุก ไม่ เบานะครับ.... ผมไม่ค่อยมีเวลา ไป ประชุมกับบริษัท ที่ถือน้อย ๆ ชอบไปประชุม กับบริษัทฯ ที่ถือมาก ๆ เพราะ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด...... เขาเป็นคนแข็งแรง ก่อนหน้านี้ ชอบขี่จักรยานไปประชุม หรือมา ที่ตลาด แต่ปรากฎว่า จักรยานถูกขโมยไป 2 คันแล้ว เลยเลิก ซื้อ เดินเอาดีกว่า ... เขาบอก เขาลงทุนใน spali เขาเดินไป ชมทุกโครงการณ์ที่เปิด แถว รามอินทรา เขาเดินมาหลายหมู่บ้านแล้วที่บอกเปิด เขาจึงรู้ว่าแต่ละโครงการเป็นอย่างไร เขามีหุ้นที่ดินแทบทุกตัว นี่แหละครับ การออกหาข้อมูลและความจริงในเวลาว่างของเขา ... เขายังโสด และสนุก กับการลงทุน และพอใจ พอเพียงในการลงทุนของเขา......ยืนยันว่า มีคนแบบนี้ แต่จะใช่เขาหรือไม่ ผมยังสงสัยอยู่ครับ น่าจะใช่ เพราะข้อมูลใกล้เคียงกันมาก นายศรัทธา....มาแสดงตัวเร็ว ๆ หน่อยครับ :lol: :lol:
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ผมได้ฟังมาจากเพื่อนที่เป็น Value Investor อีกต่อหนึ่ง ผมจึงไม่สามารถรับรองความถูกต้องได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น การวิเคราะห์ต่อของผมก็อาจจะผิดจากความเป็นจริงได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า โดยภาพรวมแล้ว สิ่งที่ผมจะพูดน่าจะใกล้เคียงกับความเป็นจริง และน่าจะสามารถนำไปอ้างอิงได้ ถ้าจะพูดแบบนักลงทุนก็คือ เรื่องนี้น่าจะ Approximately Right นั่นคือ ประมาณว่าถูกต้อง
นี่คือเรื่องของการใช้ชีวิตของคน ๆ หนึ่งซึ่งตัดสินใจทิ้งงานประจำในฐานะของมนุษย์เงินเดือนมายึดอาชีพเป็นนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าเต็มตัวตั้งแต่อายุ 30 กว่าปี โดยที่ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยมาก่อน เขาน่าจะเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินเก็บออมจำนวนไม่มากนัก แต่ถึงวันนี้ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีความมั่งคั่งจากหุ้นในระดับประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป เขาคือคุณศรัทธา (ชื่อสมมุติ) ที่ผมคิดว่า คือรูปแบบของ Value Investor พันธุ์แท้คนหนึ่งที่ยึดมั่นแนวทางการลงทุนและการใช้ชีวิตแบบพอเพียงจนน่าทึ่ง
ศรัทธานั้น โดยพื้นฐานการศึกษาและการทำงานก็เป็นเช่นเดียวกับ Value Investor หลายคนที่เรียนจบปริญญาตรีและทำงานเป็นวิศวกร เขาเคยทำงานกับบริษัทปิโตรเคมีขนาดใหญ่ทางภาคตะวันออกของประเทศ แต่ครอบครัวของเขานั้น อาศัยอยู่ทางภาคใต้ และขณะนี้ หลังจากทำงานประจำมากว่า 10 ปี เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพ ในซอยสุขุมวิทต้น ๆ ซึ่งเป็นห้องเช่าที่เขาจ่ายค่าเช่าเพียงเดือนละ 2,000 บาทเศษ ห้องเช่านี้ แน่นอน คงไม่มีแอร์ แต่เขามีคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ติดต่อกับแหล่งข้อมูล เอาไว้ใช้ดู และซื้อขายหุ้น เราไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับศรัทธาได้ง่ายนัก เพราะเขาไม่มีโทรศัพท์มือถือ และถ้าจะโทรไปหาเขาที่ห้องพัก โอกาสที่จะได้คุยกับเขาก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะเขาใช้มันเพื่อการต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาที่เขาอยู่
การใช้จ่ายแบบประหยัดอย่างไม่น่าเชื่อของศรัทธานั้น รวมถึงการแต่งตัวที่เขามักสวมเสื้อยืดตัวเก่าและใช้รองเท้าผ้าใบราคาถูกแต่ทนทานที่ไม่ใช่ยี่ห้อไนกี้หรือรีบ็อค แต่เป็นแบบนันยาง เขาไม่มีรถยนต์ การเดินทางไปไหนมาไหนของเขานั้น เขาไม่ใช้แท็กซี่หรือรถไฟฟ้าที่มีราคาแพง เขาชอบที่จะอาศัยรถของคนที่รู้จักและเดินทางด้วยรถเมล์มากกว่า แต่ถ้าระยะทางไม่เกิน 2-3 ก.ม. เขาจะเดินด้วยเท้า เวลาไปฟังการสัมมนาเรื่องการลงทุนที่ไหนหรือไปประชุมผู้ถือหุ้นที่มีบริการเรื่องอาหาร เขาชอบที่จะรับประทานอาหารฟรี แต่ถ้าเขาต้องซื้ออาหารกินเอง เขาจะสั่งเฉพาะอาหารถ้าบริเวณใกล้เคียงมีออฟฟิสที่เขาจะหาน้ำสะอาดดื่มได้
ศรัทธาเป็นนักลงทุนที่ขยัน เขาศึกษาและวิเคราะห์หุ้นเกือบทุกตัวในตลาด เขาแกะงบของบริษัทจดทะเบียนกว่า 300 ตัว เขาทำตารางข้อมูลและเปรียบเทียบหุ้นต่าง ๆ เพื่อหาเป้าหมายที่เขาสนใจ และหุ้นตัวไหนที่เขาสนใจ เขาจะทำวิเคราะห์อย่างละเอียด เช่น ถ้าหุ้นตัวนั้นเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เขาก็จะเดินทางไปดูโครงการแทบทุกโครงการถ้าทำได้ ในช่วงที่มีงานผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุนหรืองาน Opportunity Day นั้น เขาจะไปฟังเกือบทุกวัน เช่นเดียวกัน ถ้าเขาเป็นผู้ถือหุ้น เขาจะไม่ขาดการประชุมผู้ถือหุ้นเลย
บ่อยครั้ง ศรัทธาพบหุ้นที่ถูกใจในด้านของตัวธุรกิจแต่ราคาหุ้นนั้นยังสูงเกินกว่าที่เขาคิดว่าจะมีความปลอดภัยหรือ Margin of Safety พอ เขาก็จะรอจนกว่าราคาหุ้นจะตกลงไปจนถึงจุดที่เขาต้องการซึ่งค่อนข้างต่ำมากจนเรารู้สึกว่าคงจะนานมากหรือไม่เกิดขึ้นเลย แต่เขาบอกว่าเขารอได้ เขาไม่ยอมซื้อหุ้นแพงไม่ว่าในกรณีใด
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่พอเพียงทั้งหลายที่กล่าวถึงนั้น คงไม่ใช่เฉพาะศรัทธาเท่านั้นที่ทำ เพราะดูเหมือนว่าศรัทธาจะมีเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรมที่คล้าย ๆ กันที่มักจะมาเจอกันในงานเกี่ยวกับการลงทุนทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม ศรัทธาดูเหมือนจะพอเพียงมากเป็นพิเศษ เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ศรัทธานั้นยังเป็นโสด ดังนั้น เขาจึงสามารถคิดและทำทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงคนในครอบครัวอื่นที่อาจจะมีความคิดไม่เหมือนกัน
ผมเองคิดว่าศรัทธาคงไม่รู้สึกลำบากอะไรกับการใช้ชีวิตอย่างนั้น เพราะในฐานะที่เป็นนักลงทุนโดยอาชีพ เราย่อมจะเป็นคนที่สามารถเลือกทำอะไรต่าง ๆ ได้เองค่อนข้างมาก ยิ่งถ้าไม่มีครอบครัวด้วยแล้ว คุณแทบจะไม่ต้องสนใจกับใครเลย ดังนั้น Value Investor คงไม่เลือกทำอะไรที่ตนเองทำแล้วไม่สบายใจ ว่าที่จริงการที่สามารถทำอะไรได้ตามใจตนเองนั้น เป็นคุณค่าที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการเป็นนักลงทุนอาชีพนอกเหนือจากความมั่งคั่งที่อาจจะตามมา และนี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ศรัทธาเลือกเดินอย่างเต็มใจ
เรื่องของ Value Investor พันธุ์แท้ที่ใช้ชีวิตพอเพียงอย่างน่าทึ่งแบบศรัทธานั้น ผมคิดว่าน่าจะมีอยู่ไม่น้อยทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ เรื่องของพวกเขาส่วนใหญ่ไม่มีคนรู้จัก แต่ผมเองเชื่อว่า ถ้าจะหาคนที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้ชีวิตต่ำกว่ามาตรฐานความมั่งคั่งที่มีทั้ง ๆ ที่เป็นคนร่ำรวยแล้วละก็ ไม่มีวงการไหนเท่ากับ Value Investor
....................................
ผมอ่านบทความนี้ในกรุงเทพธุรกิจเมื่อวันอังคาร แล้ว คิดถึงเพื่อน คนหนึ่ง ตรงตามที่ ดร.นิเวศน์ เขียนมาเลย
มีความรู้ดี อ่านหนังสือพิมพ์อังกฤษ จบวิศวะเพราะไม่อยากทำงาน ห้องเช่า 2 พันบาทต่อเดือน ไม่มีมือถือ ชอบเดินมากกว่านั่งรถ ใส่รองเท้าผ้าใบ ชอบเสื้อยืด
เพราะเมื่อวันก่อนผมไปเจอเขาที่ตลาดหลักทรัพย์ ในงาน opp day ไปฟัง TSTH จบตอนประมาณ 16.30 ผมบอกว่า จะไปประชุมวิสามัญที่ BH... เวลา 19.00 มีเวลาเหลืออีกมากเลย ก็ คุยกัน เขาบอก ว่า เดินไปกันไหม จากตลาดหลักทรัพย์ไปถึง BH นี่ หลายกิโลเลยนะครับ เขาบอก เดินลัดไปทางสวนโรงงานยาสูบก็ได้ ... เอา เดินก็เดิน เดินคุยกันไปกับเพื่อนอีกคน รวมกัน 3 คน ไปถึง BH ประมาณ 18.15 ได้ ... ผมไม่ได้ถามว่า มีหุ้นเท่าไหร่ แต่คิดว่า คิดว่าคงไม่มาก เพราะเขาถือหุ้น เกือบทุกบริษัทฯ ในตลาด เขามีความสนุกกับการลงทุน.... เขารอราคาหุ้นได้ คิดว่า ส่วนใหญ่แล้ว เขา ชนะตลาด เพราะการรอ คือ นิสัยของเขา งานนี้ ถ้าเขามี BH เป็นเศษหุ้น สิ่งที่เขาได้กำไรเห็น ๆ เลย คือ รับประทานอาหารเย็นฟรี แถมของชำร่วยในการประชุมครั้งนี้ คือ ปากกา parker สวย ๆ หนึ่งด้าม....ผมเคยทดลองซื้อหุ้น cpf จำนวน 100 หุ้น ...ผมไม่ชอบหุ้นฆ่าสัตว์ เลยถือนิดหน่อย เพื่อความรู้ ไป ประชุมกับเขา ตอนแรก ได้กระเป๋าเก็บความเห็นคงกว่าร้อยบาท แถม อาหารการกินเพียบ เอ.... ผมซื้อตอนนั้นประมาณ 3.80 ลงทุนไป 380 บาท ได้ของแถมก็น่าจะคุ้มแล้ว ในกระเป๋ามี ไส้กรอกที่เขาขายอีก คงคุ้มและกำไร ถ้าไปประชุมเรื่อย ๆ กำไรในหุ้นไม่พอ ยังกำไรของชำร่วยอีก ผมว่า สนุก ไม่ เบานะครับ.... ผมไม่ค่อยมีเวลา ไป ประชุมกับบริษัท ที่ถือน้อย ๆ ชอบไปประชุม กับบริษัทฯ ที่ถือมาก ๆ เพราะ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด...... เขาเป็นคนแข็งแรง ก่อนหน้านี้ ชอบขี่จักรยานไปประชุม หรือมา ที่ตลาด แต่ปรากฎว่า จักรยานถูกขโมยไป 2 คันแล้ว เลยเลิก ซื้อ เดินเอาดีกว่า ... เขาบอก เขาลงทุนใน spali เขาเดินไป ชมทุกโครงการณ์ที่เปิด แถว รามอินทรา เขาเดินมาหลายหมู่บ้านแล้วที่บอกเปิด เขาจึงรู้ว่าแต่ละโครงการเป็นอย่างไร เขามีหุ้นที่ดินแทบทุกตัว นี่แหละครับ การออกหาข้อมูลและความจริงในเวลาว่างของเขา ... เขายังโสด และสนุก กับการลงทุน และพอใจ พอเพียงในการลงทุนของเขา......ยืนยันว่า มีคนแบบนี้ แต่จะใช่เขาหรือไม่ ผมยังสงสัยอยู่ครับ น่าจะใช่ เพราะข้อมูลใกล้เคียงกันมาก นายศรัทธา....มาแสดงตัวเร็ว ๆ หน่อยครับ :lol: :lol: