หน้า 1 จากทั้งหมด 1
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 11:03 am
โดย metro
ในร้อยคนร้อยหุ้นไม่มีนะครับ
ไม่ทราบมีใครมีความรู้เกี่ยวกับหุ้นตัวนี้บ้างครับ
ขอบคุณครับ :D
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 11:07 am
โดย ปรัชญา
เคยมีครับ อิอิ
ตอนนั้น16-19บาทครับ
ไปชม รพ. เก่าๆ มีสาขาอีก2สาขา
ที่สมุทรสงครามกับปราณบุรี
แต่ขายหมดแล้วครับ เลยไม่ค่อยได้ตามข่าว
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 11:11 am
โดย metro
M-CHAI : MAHACHAI HOSPITAL PUBLIC COMPANY LIMITED (M.Baht)
2006 2005 2004 2003 2002
Assets 875.39 822.86 662.22 634.94 644.32
Liabilities 428.53 402.59 282.86 273.87 300.44
Equity 427.46 402.41 364.01 346.79 322.72
Paid-up Capital 160.00 160.00 160.00 160.00 160.00
Revenue 1,092.41 918.45 793.90 735.96 644.57
Net Profit 49.16 54.40 34.82 43.12 51.79
EPS(Baht) 3.10 3.44 2.20 2.73 3.28
ROA(%)* 10.51 10.98 8.80 10.25 12.41
ROE(%)* 11.85 14.20 9.80 12.88 17.11
Profit Margin(%) 4.50 5.92 4.39 5.86 8.04
P/E 12.37 9.82 9.80 6.28 12.41
P/BV 1.41 1.49 0.95 0.83 1.06
Book Value 26.92 26.78 24.21 22.86 20.74
Dvd. Yield(%) 3.95 3.75 4.35 5.79 5.68
Last Price(Baht) 38.00 40.00 23.00 19.00 22.00
Market Cap. 608.00 640.00 368.00 304.00 352.00
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 11:15 am
โดย ลูกอิสาน
เพิ่งไปใช้บริการไม่มานี้
ลูกค้าค่อนข้างเยอะครับ
เป็น รพ.เกรด b มีลูกค้าประกันสังคมค่อนข้างมาก
ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นพนักงานบริษัทที่ตั้งอยู่ใกล้ รพ.ครับ
ได้ข่าวว่าจะสร้างตึกใหม่ แยกประกันสังคมออกไป ดูเหมือนไตรมาส 4 จะกำไรลด ไม่แน่ใจเป็นเพราะประกันสังคมยกเลิกค่าคลอดบุตร ทำฟันหรือเปล่า
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 11:15 am
โดย metro
ถ้าคิดเฉพาะรายรับ ก็เพิ่มทุกปี แต่บริษัทไม่สามารถรักษา Net Profit Margin ไม่ให้ผันผวนได้ กำไรเลยค่อนข้างผันผวนตามนะครับ
ถ้าพี่ๆมีหุ้นตัวนี้และมีประเด็นน่าสนใจรบกวนด้วยนะครับ
ป.ล. ผมไม่มีหุ้นเลยนะครับ :D
ขอบคุณครับ :D
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 12:47 pm
โดย beammy
ติดตามคอมเม้นต์มานาน
คุณ metro ชอบหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจังครับ ...
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 12:47 pm
โดย nearly_vi
จ สมุทรสาคร มีรพ เอกชนเยอะมาก
รวมถึง รพ สมุทรสาครเอง ที่ รับผป ปกส
ล่าสุดมี รพ เอกชัย เปิด แต่ปีที่ผ่านมาติดเกณท์ ทำให้รับ ปกส ไม่ได้
ปีนี้ผ่านรึเปล่า ช่วงไหนไม่ทราบ
ถ้าผ่าน ก็คงดึง ฐานลูกค้าจาก รพ รอบๆ ด้วย
สงสัยอยู่เหมือนกันว่า เค้ก จะชิ้นเล็กเกินไปแล้วรึยัง
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 1:10 pm
โดย Monet
nearly_vi เขียน:ล่าสุดมี รพ เอกชัย เปิด แต่ปีที่ผ่านมาติดเกณท์ ทำให้รับ ปกส ไม่ได้
ปีนี้ผ่านรึเปล่า ช่วงไหนไม่ทราบ
ถ้าผ่าน ก็คงดึง ฐานลูกค้าจาก รพ รอบๆ ด้วย
ผมเห็นป้ายประกาศชักชวนให้เลือกประกันสังคมโรงพยาบาลเอกชัย
ริมถ.พระราม2 แถวๆสี่แยกมหาชัย ตั้งแต่หลายเดือนมาแล้ว
คิดว่าน่าจะผ่านเกณฑ์ให้รับประกันสังคมได้แล้วนะครับ
แต่ผมยังไม่เคยเข้าไปดูที่รพ.เอกชัยเองเลยว่าบริการดีมั้ย
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 2:05 pm
โดย Tiger
ลูกอิสาน เขียน:เพิ่งไปใช้บริการไม่มานี้
ลูกค้าค่อนข้างเยอะครับ
เป็น รพ.เกรด b มีลูกค้าประกันสังคมค่อนข้างมาก
ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นพนักงานบริษัทที่ตั้งอยู่ใกล้ รพ.ครับ
ได้ข่าวว่าจะสร้างตึกใหม่ แยกประกันสังคมออกไป ดูเหมือนไตรมาส 4 จะกำไรลด ไม่แน่ใจเป็นเพราะประกันสังคมยกเลิกค่าคลอดบุตร ทำฟันหรือเปล่า
พี่ไปทำอะไรที่มหาชัย ครับ

มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 2:10 pm
โดย Tiger
มาร์เก็ตติ้งของคนในเสื้อกาวน์
24 มกราคม 2550 10:00 น.
แต้มสีขาวให้ธุรกิจ
นพ.นพพร อนุกูลการกุศล
น้ำใจ การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และความหวังดีต่อกันอย่างจริงใจ ดูเหมือนกำลังเหือดแห้งไปจากสังคมไทยรวมไปถึงอีกหลายประเทศในโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ที่ทุกอย่างถูกตีราคาด้วยเงินตรา ค่านิยมเหล่านี้ทำให้คนในสังคมส่วนใหญ่อนุมานไปว่า หากไม่มีเงินตุงกระเป๋า ก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือไปด้วยโดยปริยาย หากความเข้าใจนี้ขยายวงกว้างและได้รับการยอมรับโดยดุษฎี อาจทำให้ผู้ที่มีสิทธิมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีทั้งกายและใจคือคนที่มีเงินเท่านั้น
ทว่าวันนี้ หมอ นพพร อนุกูลการกุศล กำลังพยายามพิสูจน์ว่า แม้จะไม่มีเงินมากมายก็มีสิทธิมีชีวิตความเป็นอยู่ดีที่ทั้งกายและใจได้ด้วยการเดินตามอุดมการณ์ทางแพทย์ของหมอเอง
ปัจจุบัน นายแพทย์นพพร อนุกูลการกุศล ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง แพทย์อายุรกรรม สาขาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรคระบบทางเดินอาหารและผู้อำนวยการศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับโรงพยาบาลมหาชัย เบื้องต้นของเส้นทางการแพทย์ หมอนพพร เริ่มจากความสนใจวิชาการแพทย์เพราะเพื่อนฝูงที่รู้จักล้วนแล้วแต่มีพ่อแม่ใส่ชุดกาวน์ ประกอบกับเป็นความหวังของครอบครัวคนจีนที่ต้องการให้ลูกเป็นหมอเพื่อเป็นที่พึ่งพิงยามแก่เฒ่า เหล่านี้ทำให้หมอนพพรมุ่งศึกษาต่อทางด้านการแพทย์ในระดับมหาวิทยาลัย จนจบสาขาแพทย์ศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี พ.ศ.2535
งานที่เป็นต้นกำเนิดน้ำใจของหมอ คือ การไปเป็นนักศึกษาฝึกงานที่โรงพยาบาลนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ หมอนพพรได้ฝากน้ำใจ อันนอกเหนือกจากการยื้อชีวิตคนไข้ไว้มากมาย อาทิ การเดินตามแพทย์รุ่นพี่ไปตรวจอาการคนไข้กลางดึกทั้งๆ ที่ไม่ใช่เวร หรือแม้แต่การนำดอกไม้ไปวางที่หัวเตียงคนไข้ในตอนเช้าเพื่อให้เกิดความเบิกบานในหัวใจ จนขยายผลเป็นกิจวัตรของโรงพยาบาลที่สละพื้นที่ปลูกแปลงดอกไม้เพื่อนำดอกไม้มาให้กับคนไข้ในตอนเช้า จนเกิดเป็นสวนสาธารณะสำหรับทุกคนในละแวกนั้น
หลังจากจบการฝึกงานและกลับมาศึกษาต่อที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย จนถึงปี พ.ศ. 2544 หมอจบการศึกษาอายุรกรรมสาขาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินอาหาร โดยสาเหตุที่เลือกเป็นผู้เชี่ยวชาญในโรคระบบทางเดินอาหารและตับเพราะเห็นว่าโรคเฉพาะทางโรคนี้ยังไม่ค่อยมีผู้เชี่ยวชาญมากนัก แต่ก็ยอมรับว่าแทพย์เฉพาะทางนี้อาจได้ผลตอบแทนจากวิชาชีพที่ไม่คุ้มค่าเพราะไม่ใช่โรคที่คนเจ็บไข้จะรีบวิ่งมาหาหมอเพราะกลัวการผิดปกติ อีกทั้งคนไทยมักปวดท้องเป็นประจำอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม วิชาชีพแพทย์ที่ถางทางมาตลอดกลับไม่เป็นดังคาด เมื่อรัฐบาลประกาศใช้ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ในปี 2545
"พอมีประกาศเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค รู้สึกว่าอยู่ไม่ได้ ไม่สบายใจเพราะนโยบายนี้ทำให้ระยะเวลาในการดูแลผู้ป่วยสั้นลง งานก็มากขึ้นด้วย มันทำให้มีความเสี่ยงในการวินิจฉัย รู้สึกว่าตรวจไม่ได้มาตรฐานเพราะถ้าทำตามมารตรฐานเราเองก็ทำให้ตรวจไม่ทัน ตกเป็นภาระหมอคนอื่นไปอีก ก็เริ่มคิดว่าจะทำอะไร ให้ผู้ช่วยได้รับการตรวจที่ได้มาตรฐานของเรา"
ณ เวลานั้น หมอนพพรได้รับการติดต่อ รพ.มหาชัย รพ.กรุงเทพ และรพ.บำรุงราษฎร์ แต่ทางเลือกสุดท้ายที่หมอนพพรเลือก กลับเป็น รพ.มหาชัย ซึ่งหากเทียบกับโรงพยาบาลที่เหลือแล้ว แน่นอนว่าค่าตอบแทนวิชาชีพย่อมน้อยกว่าเพราะรพ.มหาชัย มีขนาดเล็กกว่า แต่หมอนพพรบอกว่า เรื่องค่าตอบแทนไม่ใช่เรื่องสำคัญ
"สำคัญที่ใครตอบโจทย์ผมได้ ผมใช้เวลาในการพูดคุยวิสัยทัศน์กับผู้บริหารโรงพยาบาลมหาชัยประมาณ 6 เดือน สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลมหาชัยเพราะ1 ผู้บริหารโรงพยาบาลเห็นด้วยความอุดมคติของผมที่ว่า หมอต้องไม่ใช่แค่หมอรักษาคนไข้ แต่ต้องเป็นหมอที่ทำอะไรได้มากกว่านั้น และข้อที่ 2 เพราะผมรู้สึกติดค้างคนมหาชัย เพราะได้ทุนจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร จึงตัดสินใจกลับไปตอบแทน "
หลังจากเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลต่างจังหวัดเช่นนี้ หมอนพพรได้รับบทบาทสำคัญคือเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับโรงพยาบาลมหาชัย ควบด้วยตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฯ ดังกล่าว โดยเริ่มทำงานด้วยเจ้าหน้าที่ 3 คนคือ หมอนพพร พยาบาล และผู้ช่วย แต่ผลผลิตจากการทำงานกลับเทียบได้กับฝีมือแพทย์ 4-5 คน และในปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ 11 คน คือหมอ 3 คน พยาบาล 3 คน ผู้ช่วย 3 คน และฝ่ายธุรการ 2 คน สามารถรองรับผู้ป่วยประมาณ 528 คนต่อเดือน
หมอนพพรเล่าย้อนให้ฟังว่า แรกเริ่มที่เปิดศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับโรงพยาบาลมหาชัย เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนี้ ประกอบกับเห็นตัวเลขสถิติของรพ.ที่พบว่าจำนวนคนไข้ 1 ใน 3 ของจำนวนคนไข้ทั้งหมด จะเจ็บป่วยด้วยอาการปวดท้องเป็นสำคัญ
ขั้นแรกที่หมอเลือกทำคือการสร้างความสบายตาให้คนไข้ หมอเลือกตกแต่งสถานที่ภายในศูนย์ไม่ให้ดูมอซอเพื่อพยุงจิตใจคนไข้ไม่ให้จืดชืดไร้สีสัน โดยตกแต่งในสไตล์เอิร์ธโทน ที่รับรองผู้ป่วยนอกถูกตกแต่งในแบบบูติค ประดับด้วยโซฟานั่งยาวสวยงามไม่ใช่แค่ม้านั่งยาวที่เห็นกันดาษดื่นในสถานพยาบาลทั่วไป และที่สำคัญมีระบบการโทรแจ้งผู้ป่วยให้มาตามวันและเวลาที่ถูกกำหนดไว้เพื่อไม่ให้เสียเวลาผู้ป่วยที่จะทำการตรวจรักษา
"ผมทำเรื่องนัดหมายหรือตกแต่งสถานที่เพราะอยากทำ ผมไม่อยากให้คนไข้ที่มาหารู้สึกว่าต้องใช้เวลาทั้งวันเวลามาหาหมอ และไม่อยากให้รอด้วยความเบื่อหน่ายหรือวิตกจริต ผมจะให้เจ้าหน้าที่โทรเตือนตลอดว่าต้องมาพบผมวันนี้ เวลานี้ ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่พอใจ และผมก็รักษาชนิดที่หากไม่ทำให้ความเจ็บป่วยลดลงก็จะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด ข้อนี้เจ้าหน้าที่ในศูนย์และคนไข้ผมรู้ดีและก็พอใจด้วย หากวันหนึ่งผมวินิจฉัยคนไข้คนหนึ่งนานจนเกินเวลาคนไข้รายถัดไป คนไข้ที่ต่อคิวอยู่ก็จะเข้าใจและพอใจหากผมจะวินิจฉัยและรักษาพวกเขาเกินเวลาคนอื่น ถ้าทำให้คนไข้เจ็บปวดลดลงได้ ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดี "
จากจำนวนผู้ป่วยดังกล่าว หมอนพพรได้ริเริ่มนำเข้าเครื่องมือใหม่เพื่อรักษาคนไข้ที่มีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินอาหารและตับ โดยนำเข้านวัตกรรมเทคโนโลยีการส่องกล้องทางเดินอาหาร ประกอบด้วยแคปซูลส่องกล้องทางเดินอาหาร ( Capsule endoscope ) กล้องส่องทางเดินอาหารที่มีกำลังขยาย ( Magnify endoscope) โปรมแกรมการปรับเปลี่ยนความยาวคลื่นแสง( NBI หรือ FICE ) และกล้องส่องทางเดินอาหารติดลูกบอลลูน( Double balloon endoscope ) ซึ่งหากคำนวณเป็นงบประมาณการลงทุนแล้วพบว่าสูงถึง 7 หลักต่อเครื่องมือหนึ่งประเภท
หมอยอมรับว่า เครื่องมือเหล่านี้มีต้นทุนการนำเข้าที่สูง และกว่าจะถึงจุดคุ้มทุนและสร้างรายได้ให้กับรพ.ก็ต้องกินระยะเวลาพอสมควร แต่หมอมั่นใจว่าเครื่องมือเหล่านี้คุ้มค่าหากเทียบกับอาการเจ็บปวดที่ทุเลาลงภายหลังการได้รับการรักษา ทั้งนี้ หมอจะไม่ใช้เครื่องมือดังกล่าวกับคนไข้ทุกคน จะใช้กับคนที่มีความจำเป็นตามอาการเท่านั้น ไม่ว่าคนไข้รายนั้นจะมีเงินมากมาย หากอาการไม่คุ้มค่ากับการใช้เครื่องมือ หมอก็จะไม่ให้ใช้ ขณะเดียวกันหากคนไข้ที่ทรัพย์จางแต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยเครื่องมือแสนแพงนี้ หมอก็จะเซ็นรับโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายค่อยว่ากันทีหลัง
นับจากวันแรกที่ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับเปิดทำการในปี 2546 ถึงปัจจุบัน หมอนพพรยอมรับว่าค่อนข้างพอใจในผลงาน โดยเบื้องต้นที่เปิดศูนย์ใหม่ๆ มีคนไข้เข้ามาส่องกล้องกับศูนย์นี้ 20 คนต่อเดือน จากเดิมที่มีคนไข้มาส่องกล้องเพียง 20 คนต่อปีเท่านั้น และปัจจุบันมีคนไข้เข้ามาส่องกล้องเพิ่มขึ้นเป็น 60-100 คนต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นการทำงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
จากน้ำใจของหมอที่ต้องการให้ผู้เจ็บป่วยมีอาการทุเลาลงอย่างแท้จริง ขยายผลสู่การใช้น้ำเงินมาต่อยอดเครื่องมือเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือดอกผลที่มาความคิดการเอาคุณธรรมนำการตลาดของคุณหมอนพพร
"เราเป็นหมอควรดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด จากนั้นผลตอบแทนจะมาเองและมาอย่างคุ้มค่า ถ้าทำการตลาดด้วยเจตนาที่ถูกต้องและดี ธุรกิจจะยั่งยืนเอง" คุณหมอเชื่อเช่นนั้น
โดย ศนิชา ละครพล
น้องใจดีเขาส่งมาให้ เลยลองเอามาให้อ่านดู
ผมว่าโรงพยาบาลต่างจังหวัดแบบนี้
คงจะหาอัตราการเติบโตแบบ โรงพยาบาลในกรุงยาก
แต่ downside risk ก็น้อยเหมือนกันครับ
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 3:05 pm
โดย ลูกอิสาน
พอดีไปทำธุระน่ะครับ
ที่สังเกตุได้อีกอย่าง พยาบาลที่นี่น่ารักน้อยกว่า รพ.กรุงเทพ มากครับ :lol:
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 20, 2007 4:17 pm
โดย Linzhi
พูดในมุมผู้ใช้บริการนะครับ
ผู้บริหารพยายามดีครับ แต่ผมว่าบริการกลางๆ ไม่ค่อยเวิร์คมาก
ตึกหรือป้ายอะไรก็ดูโทรมครับ เห็นมีกิจกรรมสัมมนาให้หมอมาพูด แต่ก็ไม่ค่อยได้เรื่อง คนฟังแล้วก็เดินออก ยังมองอนาคตไม่ค่อยออกครับ น่าจะไปเรื่อยๆให้บริการชุมชนบริเวณนั้นที่ขยายตัวมากกว่า
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 21, 2007 12:17 am
โดย metro
สมมตินะครับ ถ้ามีคนรู้จักที่พี่ๆรู้จักต้องผ่าตัดหรือจำเป็นต้องเป้นผู้ป่วยใน พี่จะแนะนำให้เค้าเข้ารับการรักษาที่ M-CHAI หรือว่าจะเลือกเข้ามารักษาตัวใน กทม ครับ
ขอบคุณครับ :D
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 21, 2007 7:34 am
โดย nearly_vi
[quote="metro"]สมมตินะครับ ถ้ามีคนรู้จักที่พี่ๆรู้จักต้องผ่าตัดหรือจำเป็นต้องเป้นผู้ป่วยใน พี่จะแนะนำให้เค้าเข้ารับการรักษาที่ M-CHAI หรือว่าจะเลือกเข้ามารักษาตัวใน กทม ครับ
ขอบคุณครับ
มีใครมี M-chai บ้างมั้ยครับ
โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 21, 2007 7:38 am
โดย nearly_vi
อ้อ หมายถึง major operations นะครับ
ถ้าเล็กๆ น้อยๆ ไปไหนก็เหมือนๆกัน
แล้ว ในความเป็นจริง 95% ก็เป็น ไอ้ เล็กๆน้อยๆ นี่ละครับท่าน :D