Thai VI

นักเศรษฐศาสตร์ ช่วยวิจารณ์หน่อย

โจทย์แบบนี้ สมมติผมอยู่ ตปท.ได้รับเงินเดือนเป็น ดอลล่าร์

ถ้าผมกู้เงิน ตอนนี้ ๓๐,๐๐๐ เหรียญ ดอกเบี้ย ร้อยละ ๖ ต่อปี
ส่งกลับไปเมืองไทย อัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ ๓๕ เป็นเงิน ๑ ล้านบาท

จ่ายหนี้ ๓ ปี เดือนละ ๑๐๐๐ เหรียญ รวมเป็น ๓๖,๐๐๐ เหรียญ

เงินที่ส่งไป เมืองไทย ซื้อหุ้นปันผล ร้อยละ ๖ ต่อปีเช่นกัน เอามาทบต้น
หมดปีที่ ๓ จะได้ประมาณ ๑.๒๕ ล้าน

คิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ ๓๕ บาทเท่าปัจจุบัน

(ตัวเลข เอากลมๆ คิดถ้วนๆ)

เท่ากับ ๓ปี ผมส่งเงินกลับ เดือนละ ๑๐๐๐ เหรียญ โดยคงอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน

เวิร์คไหม ถ้าแนวโน้ม เงินบาทแข็งขึ้นชัดเจน

ความเสี่ยงคือ
๑. เงินบาทอ่อนลงกว่า ๓๕ บาทใน ๓ ปี
๒. ถ้าทำงานไม่ถึง ๓ ปี ต้องใช้หนี้ที่เหลือ
ทางแก้ ก็เอาเงินไทย แลกดอลล่าร์มาใช้หนี้
๓. หุ้นปันผล ไม่ถึง ๖ เปอร์เซนต์
อันนี้ คิดแบบ conservative แล้วนะ ไม่คิดcapital gain ด้วยซ้ำ

ทำให้เข้าใจเลยครับว่าทำไมช่วงนี้เงินบาทถึงแข็งขึ้นต่อเนื่อง ใครมีดอลล่าร์ตอนนี้หนีตายกันหมด :lol:

มาเข้าประเด็นดีกว่า ทำแบบนี้มี risk exposure เยอะมาก ทั้ง interest rate risk, exchange rate risk, equity risk ถ้ารวม transaction fee เข้าไปอีก ผมว่าได้ไม่คุ้มเสียนะครับ ตามความเห็นผมนะ

ดีใจ ที่ท่าน สุมาอี้ เข้ามาตอบนะเนี่ย  

อันที่จริง นี่เป็นไอเดียเพื่อนคนไทย ที่ทำงานด้วยกัน
เค้ามาเล่าให้ฟัง แล้วผมก็คล้อยตาม เค้าว่า ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
แล้วเงินบาท แข็งเอาๆ เหมือนที่ผ่านมา แค่จาก ๔๐ มา ๓๕ พวกผมก็ร้องจ๊ากกันแล้ว (หัวอกเดียวกับ ผู้ส่งออก)

ถ้าทำแบบนี้ คือประกันได้เลย ว่าอัตราแลกเปลี่ยน เท่ากับตอนนี้

คุ้ม ไม่คุ้ม คงจะขึ้นกับ อัตราแลกเปลี่ยน ในอนาคต อย่างเดียว
ถ้ามันแข็งขึ้น ไปถึง ๒๐ บาทจริงๆ ทำแบบนี้ก็สุดคุ้ม

แต่ถ้ามันอ่อนกว่านี้ ก็เสีย ๒ เด้ง

ผมก็ว่าเสี่ยงน่าดูเหมือนกันนะ

เงินบาท มันเหมือนหุ้นตัวนึงเหมือนกันนะ แต่ต้องเอาดอลล่าร์ซื้อเท่านั้น
แนวโน้มแข็งขึ้น ก็เหมือน หุ้นตัวนี้ พื้นฐานดี สำคัญที่ว่า ตอนนี้ มันมี margin of safety แค่ไหน อันนี้ดูไม่ออกจริงๆ

(ขนาด ธปท. ยังเก็งกำไรค่าเงิน แล้วเจ๊ง)  :lol:

ดูค่าเงินบาทโดยเปรียบเทียบกับดอลล่าห์อย่างเดียวคงไม่เพียงพอครับ น่าจะลองดูที่ค่าเงินบาทเปรียบเทียบกับเงินในภูมิภาคว่าแข็งขึ้นหรืออ่อนค่าลง เพราะบางทีที่เราเห็นเงินบาทแข็งค่า อาจจะเป็นว่าเงินดอลอ่อนค่ามากกว่า แต่อย่างไรก็ดี สำหรับ 3 ปี มันยาวนานเกินไปครับ เพราะถ้าจะคาดการณ์ค่าเงิน คุณต้องวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย อัตราเงินออม การเมือง ฯลฯ ของประเทศนั้นๆ แต่ก็ยังคาดการยากอยู่ดีครับ