หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 25, 2003 8:15 pm
โดย chatchai
ช่วงนี้มักมีนักลงทน VI มือใหม่หลายคนบ่นว่า มีเงินลงทนน้อยจะเหมาะกับการลงทนแนว VI หรือไม่ เนื่องจากกำไรได้ไม่มากเท่า VS

สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นตอนที่ตลาดกำลังเกิดฟองสบ่ครับ เหตการณ์ขณะนี้คล้ายกับเคยเกิดขึ้นสมัยดัชนีวิ่งจาก 900 จดไป 1700 จดในเวลา 3 เดือน

เวลานั้นห้นมีเพดานแค่ 10% ต่อวันเท่านั้น ถ้าวันไหนไม่มีห้นใน Port ที่ชนเพดาน จะร้สึกว่าไม่ดีเลย ซื้อผิดตัว ผ้คนไปไหนมาไหนก็พดคยกันเรื่องห้น หนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวเรื่องห้นและแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะสดใสในปีหน้า นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังต่างออกมาทำนายดัชนีที่จะพ่งต่อเนื่อง (บางคนเดี๋ยวนี้ก็ยังให้ข่าวเป็นประจำ) มีข่าวดีรายวัน

วันก่อนไปกินข้าวหน้าเป็ดที่ตลาด ก็เห็นเจ้าของร้านนั่งด ITV ในมือก็เปิดหนังสือพิมพ์หน้าตารางห้น ขีดๆเขียนๆ ไม่ออกมาต้อนรับลกค้า

วันนี้ผมพาลกไปหาคณหมอ คณหมอก็ชวนคยเรื่องห้น ไปกินข้าวที่โรงอาหารในโรงพยาบาล ก็เจอคณแม่คนหนึ่งพาลกมาพบหมอเช่นกันกำลังทานอาหารอย่ เธอก็คยโทรศัพท์กับ Marketing เรื่องซื้อขายห้น ได้ฟังแล้วก็ร้สึกแปลกๆ Marketing ก็ชวนซื้อตัวนั้นขายตัวนี้ว่นวายไปหมด แถวยังบังคับแก้มข่ให้ตั้งราคาตั้งแต่ตอนนั้น (เวลา 17.30 น.) จะตั้งพร่งนี้ก็ไม่ได้

เวลานี้ VS หน้าเก่า และหน้าใหม่กำลังสนกสนานครับ

คณดจดจบของรอบ 1700 จดมาที่ 204 จดซิครับ มี VS ซักกี่คนที่เหลือรอดมาได้ ชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไรบ้างครับ ตั้งไปขายแซนวิสบ้าง

แต่ผมก็ไม่ได้บอกนะครับว่าห้นกำลังจะลง ผมไม่ทราบหรอกครับ และคิดว่าไม่มีใครทราบหรอกครับว่าห้นจะวิ่งไปถึงไหน เมื่อไร พร่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า หรือแม้แต่อาจจะวิ่งไปอีก 10 ปีก็ได้ครับ เหมือนกับวันที่ดัชนีวิ่งไปที่ 1700 จด ไม่มีใครทราบหรอกครับว่ามันจะเป็นจดสงสดต่อไปอีกเป็น 10 ปี หรือวันที่ดัชนีลงแตะที่ 204 จด ก็ไม่มีใครทราบหรอกครับว่าจะเป็นดัชนีต่ำสดในรอบ 10 ปีหรือมากกว่านั้น

แต่การลงทนแบบ VI ที่มีความร้ที่แท้จริง ( ผมเน้นนะครับว่า ถ้าเป็น VI คณก็ต้องมีความร้ที่แท้จริงติดตัวด้วย ) จะทำให้คณรอดพ้นจะวิบากกรรมได้ครับ และคณจะมีความสขในการลงทนตลอดไป ถึงแม้จะมีเงินลงทนเริ่มต้นเพียงแสนเดียวก็รวยเป็นเศรษฐีได้ครับ

ลองดตัวเลขนะครับ

จำนวนปีที่ลงทน----------- กำไร 20%--------------กำไร 25%-----------
--------------------------------------------------------------------------------------
-----5-----------------------------248,832--------------------305,176-----------
-----10--------------------------619,174--------------------931,323------------------
-----15--------------------------1,540,702---------------2,842,170-----------------
-----20-------------------------3,833,760-----------------8,673,617----------------
-----25------------------------9,539,621------------------26,469,780----------------
----30-----------------------23,737,631------------------80,779,357----------------
----35-----------------------59,066,822-----------------246,519,033---------------

ปีนี้คณกำไรกี่เปอร์เซ็นต์ครับ ถ้ามากกว่า 25% ขอเพียงคณสามารถทำกำไรได้เท่าปีนี้ต่อไปอีกทกปี ไม่เกิน 30 ปี คณเป็นเศรษฐีแน่นอนครับ

แค่ปีละ Ceiling เดียวจริงๆนะครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 25, 2003 9:02 pm
โดย harry
ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ ผมมีแนวทางง่ายๆว่า ซื้อหุ้นบริษัทที่เราเข้าใจว่าดำเนินงานอย่างไร แล้วก็มีโอกาสไปที่บริษัทนั้นได้ หรือใช้สินค้าบริการนั้นได้ และก็มีฐานะการเงินแข็งแรง มีกำไรสม่ำเสมอ แม้ว่าจะเพิ่มหรือลงบ้าง แล้วก็ปันผลเรื่อยๆด้วย

ผมคงไม่หวังรวยมากๆหรอกครับ เอาแค่ว่าปันผลปีๆนึงได้พอหรือมากกว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็สบายใจแล้วครับ

Re: ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 25, 2003 10:11 pm
โดย ปรัชญา
chatchai เขียน:ช่วงนี้มักมีนักลงทน VI มือใหม่หลายคนบ่นว่า มีเงินลงทนน้อยจะเหมาะกับการลงทนแนว VI หรือไม่ เนื่องจากกำไรได้ไม่มากเท่า VS

สิ่งเหล่านี้มักเกิดขึ้นตอนที่ตลาดกำลังเกิดฟองสบ่ครับ เหตการณ์ขณะนี้คล้ายกับเคยเกิดขึ้นสมัยดัชนีวิ่งจาก 900 จดไป 1700 จดในเวลา 3 เดือน

เวลานั้นห้นมีเพดานแค่ 10% ต่อวันเท่านั้น ถ้าวันไหนไม่มีห้นใน Port ที่ชนเพดาน จะร้สึกว่าไม่ดีเลย ซื้อผิดตัว ผ้คนไปไหนมาไหนก็พดคยกันเรื่องห้น หนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวเรื่องห้นและแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะสดใสในปีหน้า นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังต่างออกมาทำนายดัชนีที่จะพ่งต่อเนื่อง (บางคนเดี๋ยวนี้ก็ยังให้ข่าวเป็นประจำ) มีข่าวดีรายวัน

วันก่อนไปกินข้าวหน้าเป็ดที่ตลาด ก็เห็นเจ้าของร้านนั่งด ITV ในมือก็เปิดหนังสือพิมพ์หน้าตารางห้น ขีดๆเขียนๆ ไม่ออกมาต้อนรับลกค้า

วันนี้ผมพาลกไปหาคณหมอ คณหมอก็ชวนคยเรื่องห้น ไปกินข้าวที่โรงอาหารในโรงพยาบาล ก็เจอคณแม่คนหนึ่งพาลกมาพบหมอเช่นกันกำลังทานอาหารอย่ เธอก็คยโทรศัพท์กับ Marketing เรื่องซื้อขายห้น ได้ฟังแล้วก็ร้สึกแปลกๆ Marketing ก็ชวนซื้อตัวนั้นขายตัวนี้ว่นวายไปหมด แถวยังบังคับแก้มข่ให้ตั้งราคาตั้งแต่ตอนนั้น (เวลา 17.30 น.) จะตั้งพร่งนี้ก็ไม่ได้

เวลานี้ VS หน้าเก่า และหน้าใหม่กำลังสนกสนานครับ

คณดจดจบของรอบ 1700 จดมาที่ 204 จดซิครับ มี VS ซักกี่คนที่เหลือรอดมาได้ ชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไรบ้างครับ ตั้งไปขายแซนวิสบ้าง

แต่ผมก็ไม่ได้บอกนะครับว่าห้นกำลังจะลง ผมไม่ทราบหรอกครับ และคิดว่าไม่มีใครทราบหรอกครับว่าห้นจะวิ่งไปถึงไหน เมื่อไร พร่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า หรือแม้แต่อาจจะวิ่งไปอีก 10 ปีก็ได้ครับ เหมือนกับวันที่ดัชนีวิ่งไปที่ 1700 จด ไม่มีใครทราบหรอกครับว่ามันจะเป็นจดสงสดต่อไปอีกเป็น 10 ปี หรือวันที่ดัชนีลงแตะที่ 204 จด ก็ไม่มีใครทราบหรอกครับว่าจะเป็นดัชนีต่ำสดในรอบ 10 ปีหรือมากกว่านั้น

แต่การลงทนแบบ VI ที่มีความร้ที่แท้จริง ( ผมเน้นนะครับว่า ถ้าเป็น VI คณก็ต้องมีความร้ที่แท้จริงติดตัวด้วย ) จะทำให้คณรอดพ้นจะวิบากกรรมได้ครับ และคณจะมีความสขในการลงทนตลอดไป ถึงแม้จะมีเงินลงทนเริ่มต้นเพียงแสนเดียวก็รวยเป็นเศรษฐีได้ครับ

ลองดตัวเลขนะครับ

จำนวนปีที่ลงทน----------- กำไร 20%--------------กำไร 25%-----------
--------------------------------------------------------------------------------------
-----5-----------------------------248,832--------------------305,176-----------
-----10--------------------------619,174--------------------931,323------------------
-----15--------------------------1,540,702---------------2,842,170-----------------
-----20-------------------------3,833,760-----------------8,673,617----------------
-----25------------------------9,539,621------------------26,469,780----------------
----30-----------------------23,737,631------------------80,779,357----------------
----35-----------------------59,066,822-----------------246,519,033---------------

ปีนี้คณกำไรกี่เปอร์เซ็นต์ครับ ถ้ามากกว่า 25% ขอเพียงคณสามารถทำกำไรได้เท่าปีนี้ต่อไปอีกทกปี ไม่เกิน 30 ปี คณเป็นเศรษฐีแน่นอนครับ

แค่ปีละ Ceiling เดียวจริงๆนะครับ

อ่านแล้ว เห็นด้วย กับข้อคิด ดีดี

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 25, 2003 10:12 pm
โดย Jeng
เห็นด้วย

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 25, 2003 10:32 pm
โดย sirivajj
ผมก็เห็นด้วยครับ

แต่บางครั้ง คนหนอคน
ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดใจไม่ได้ อ่ะครับ

อิ อิ
:D

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 25, 2003 10:37 pm
โดย champ
ผมยังเลือกไม่ถูกเลยครับ พี่ฉัตรชัยครับ
แต่ก็พยายามที่จะเป็นนะครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 26, 2003 2:42 am
โดย moo
ขอบคุณครับ
จำได้ว่าเคยมีคำพูดว่า ถ้าวันไหนแท็กซี่ชวนคุยเรื่องหุ้นแล้วละก็
ต้องระวังไว้ให้มาก ฟองสบู่ใกล้ระเบิดเต็มที
กรณีที่พี่ฉัตรชัยเล่ามา อ่านแล้วยังหวั่นๆอยู่เลยครับ
ผมไม่มีประสพการณ์ช่วงฟองสบู่
แล้วจะทำอย่างไรดีครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 26, 2003 3:42 am
โดย harry
moo เขียน:ขอบคุณครับ
จำได้ว่าเคยมีคำพูดว่า ถ้าวันไหนแท็กซี่ชวนคุยเรื่องหุ้นแล้วละก็
ต้องระวังไว้ให้มาก ฟองสบู่ใกล้ระเบิดเต็มที
กรณีที่พี่ฉัตรชัยเล่ามา อ่านแล้วยังหวั่นๆอยู่เลยครับ
ผมไม่มีประสพการณ์ช่วงฟองสบู่
แล้วจะทำอย่างไรดีครับ

ผมว่าถ้าคนที่มีการศึกษาดี มีเงินหน่อย ดาวน์แท็กซี่มาขับเล่นหารายได้พิเศษ แล้วเค้าก็ลงทุนในหุ้นด้วยนี่ แล้วเผอิญเค้าเห็นเราถือหนังสือเกี่ยวกับหุ้นก็เลยชวนคุยเรื่องหุ้น อย่างนี้อาจไม่ฟองสบู่ก็ได้นะครับ แต่ถ้าดูแล้วเป็นประเภทใช้แรงงาน มาจากต่างจังหวัด คุยแบบฟังคนอื่นบอกต่อมา นั่นแหละฟองสบู่ชัวร์

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 26, 2003 5:39 am
โดย Banchap
วิธีของคุณ Chatchai ทำให้รู้สึกได้ว่า ฝันมันเป็นจริงได้ในชาตินี้
ส่วนตัวผมก็เคยวิธีคล้าย ๆกัน แต่จะเพิ่มเงินเข้าไปทุกปีด้วยจำนวนเท่า ๆกัน
เหมือนฝากประจำ เช่น ปีละ 100,000 บาท ลองดูผลลัพธ์นะครับ

จำนวนปีที่ลงทน----------- กำไร 20%--------------กำไร 25%-----------
--------------------------------------------------------------------------------------
-----5-----------------------------892,992--------------------1,025,878-----------
-----10-------------------------3,115,041------------------- 4,156,612-----------
-----15------------------------ 8,644,212------------------ 13,710,854-----------
-----20---------------------- 22,402,559------------------ 42,868,086-----------
-----25---------------------- 56,637,729----------------- 131,848,898-----------
----30---------------------- 141,825,788-----------------403,396,783----------

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 26, 2003 11:49 am
โดย tom
อ่านกระทูนี้แล้ว เหมือนตอบคำถามพี่ผมโพสต์ในกระทู้ของคุณวิบูลย์เลยครับ ....พี่ปรัชญากรุณาให้คำแนะนำทั้งในกระทู้และตอนที่ pm ไปหา ....ขอบคุณ พี่ฉัตรชัย ด้วยนะครับ ที่ให้คำชี้แนะเพิ่มอีกคน

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 30, 2003 12:59 pm
โดย ake...
คนส่วนใหญ่ชอบทางลัดครับ แต่ ทางลัดไม่มีหรอกในชีวิตจริง

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 30, 2003 1:17 pm
โดย Jeng
ทางตรง คือทางลัด อย่าพยายามเดินอ้อม

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 30, 2003 2:37 pm
โดย stockms
นี่แหละครับที่เขาว่าการลงทุนมีความเสี่ยงครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 9:54 am
โดย ม้าเฉียว
ข้อคิดดีๆ ขุดมาให้อ่านกัน

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:31 am
โดย ForrestGump
กระทู้ยอดเยี่ยมอันหนึ่งใน thaivi.com

ลงทุนอย่าง "สบายใจ"กินอิ่มนอนหลับ  ได้ผลตอบแทน "น่าพอใจ" "มั่นคง" ในระยะยาว

รู้ "มูลค่า" ซื้อที่ราคา "ต่ำกว่ามูลค่า" ในระดับมี margin of safety ขอให้รู้จริง

โลภเท่าที่รู้

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:56 am
โดย nanakorn
ผมเริ่มลงทุนในหุ้นไม่นานนัก คือเริ่มหลังฟองสบู่แตกครั้งหลังสุด  ดังนั้นจึงถือว่าได้เปรียบผู้ที่ลงทุนมาก่อนหน้าฟองสบู่แตกในแง่ของอัตราผลตอบแทนที่ได้รับเฉลี่ยต่อปี  โดยอัตรา 20% เป็นอัตราที่เป็นไปได้โดยไม่ต้องมีฝีมืออะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม ผมไม่มั่นใจว่าอัตราผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ย 20% ต่อปีที่คุยกันเป็นอัตราที่คนส่วนใหญ่จะทำได้ในระยะยาว 20-30 ปี จากหนังสือหลายเล่มบอกว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาวของตลาดอเมริกันอยู่ที่ 12-15%  ดังนั้นถ้าการลงทุนแบบ VI ดีกว่าค่าเฉลี่ย ก็เป็นไปได้ว่าจะมีผลตอบแทนมากกว่า 12-15% (สำหรับตลาดอเมริกัน) ไม่แน่ใจว่า ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์หรือใช้กับตลาดไทยสักเพียงไร

ผมเลยถือโอกาสครั้งนี้เรียนถามนักลงทุนที่มีประสบการณ์มานานและผ่านมาหลายฟองสบู่ว่าอัตรา 20% นี้ มีความเป็นไปได้สักแค่ไหนครับ ขอบคุณมากครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 11:03 am
โดย nanakorn
อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาวของตลาดอเมริกันอยู่ที่ 12-15%  ดังนั้นถ้าการลงทุนแบบ VI ดีกว่าค่าเฉลี่ย ก็เป็นไปได้ว่าจะมีผลตอบแทนมากกว่า 12-15%
ขอลองแย้งตัวเองดูด้วยครับ  บางท่านอาจจะแย้งว่า อัตราผลตอบแทนระยะยาวคือ ผลตอบแทนของการลงทุนแบบ VI นั่นเอง เพราะ VI ลงทุนระยะยาว ดังนั้นผลตอบแทนของ VI ก็คือ 12-15% ไม่มากกว่านี้

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 11:18 am
โดย shanghai
นั่น หมายถึงว่า ศก.ไม่ได้ส่งผลกะหุ้นตัวนั่นเลย ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น  หุ้นตัวไหนหรอครับที่เข้าข่ายทฤษฎี 20-25% นั้นบ้าง

:wink:  :wink:  :wink:  :wink:  :wink:

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 11:45 am
โดย nanakorn
ความเห็นส่วนตัวลึกๆของผมคือ 20% เป็นค่าที่ค่อนข้างสูงไปครับสำหรับผลตอบแทนเฉลี่ย(ตามคน)ที่ VI จะทำได้  ถ้า 20% เป็นค่าเฉลี่ยและข้อมูลมีการกระจายแบบปกติ แปลว่าต้องมี VI ประมาณครึ่งหนึ่งที่ทำได้มากกว่า 20% และประมาณครึ่งหนึ่งที่ทำได้น้อยกว่า อัตราผลตอบแทนแบบนี้ถือว่าสูงมากเลยครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 12:49 pm
โดย iambuffet
ได้ดูสมรักออกทีวี
มีปัญหาเรื่องทำธุรกิจ

ปัญหาจะมาเหมือน ๆ กัน
คนเราทำในสิ่งที่ไม่เข้าใจมัน
มักจะมีปัญหา มาก ๆ ครับ

ถ้าเราเข้าใจหุ้นจริง ๆ มันก็ไม่ค่อยมีปัญหาครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 12:57 pm
โดย iambuffet
ลงทุนน้อยได้รวยได้จริง
แต่ต้องใช้เวลานาน
ต้องเข้าใจอย่างแท้จริง

ซึ่งก็อาจเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับหลาย ๆ คนครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 2:32 pm
โดย PaZZaHut
:D  :D  :D

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 7:54 pm
โดย hongvalue
พี่ฉัตรชัยครับ ความเป็นจริงแล้วเราจะไม่ได้เล่นหุ้นทุกปีไม่ใช่เหรอครับ อย่างที่พี่เคยพูดว่าตอน index boom พี่เห็นตัวเลขส่งออกมันลด ก็เลยหนีตลาดหุ้นดีกว่า แล้วกลับเข้ามาอีกทีแถว 200

หมายความว่า ค่าเฉลี่ย 25 % ทุกปี ถ้าปีนี้ไม่ได้เล่น ปีหน้าก็ควรได้ 50 % เพื่อมาชดเชยถูกไหมครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 9:00 pm
โดย chatchai
nanakorn เขียน:จากหนังสือหลายเล่มบอกว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยในระยะยาวของตลาดอเมริกันอยู่ที่ 12-15%
อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาด  ผมว่าคงวัดจากความต่างของราคาหุ้น ณ.ช่วงต้นระยะเวลาที่วัด  กับ  ณ.ช่วงปลายของเวลาที่วัด ของหุ้นทุกบริษัททั้งตลาด

นักลงทุน VI  

จะเลือกบริษัทที่ลงทุน  

แสดงว่าไม่ได้ลงทุนทุกบริษัท  และบริษัทที่เลือกน่าจะมีผลตอบแทนที่ดีกว่าบริษัทที่ไม่ได้เลือกและมากกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาด

จะเลือกราคาที่ซื้อ  ราคาที่ขาย

แสดงว่าไม่ได้ลงทุนโดยตลอด  มีช่วงเวลาที่ซื้อ  ช่วงเวลาที่ขาย  ซึ่งตามหลักการซื้อขายแล้ว  ก็น่าจะช่วยส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนดีกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของบริษัทนั้น

ส่วนที่ถามว่า  ผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่า 20% ต่อปีหรือไม่

สำหรับท่านที่เริ่มลงทุนแนว VI  และลงทุนในช่วงหลังวิกฤตไม่นาน  ผมว่าเกือบทุกท่านคงได้รับผลตอบแทนที่สูงมากกว่า 20% ต่อปีมาก

สำหรับผม  ผมเริ่มลงทุนตั้งแต่ปี 2533  ปัจจุบันก็ 16 ปีแล้ว  แบ่งเป็น 3 ช่วงระยะเวลา

1. ช่วงแรก  ยังเป็น VS อยู่  ผลตอบแทนไม่บวกไม่ลบครับ

2. ช่วงที่สอง ปี 39 ถึง 42  เป็นช่วงที่ไม่ได้ลงทุนเลยครับ

3. ช่วงที่สาม ตั้งแต่ปี 42  กลับมาลงทุนอีกครั้งแนว VI  ผลตอบแทนสูงทีเดียว

ถ้าคิดเอาผลตอบแทนช่วงที่สาม  เฉลี่ยตลอดระยะเวลา 16 ปี  ก็มากกว่า 20% ต่อปีครับ

แต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องยืนยันอะไรได้  ถ้าเกิดวิกฤตขึ้นอีกครั้งในอนาคต  แล้วผมไม่รอดพ้นเหมือนครั้งที่แล้ว  ผลตอบแทนก็คงลดไม่มากทีเดียวครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:13 pm
โดย Jeng
อยากรู้ว่า ณ วันที่กระทู้นี้ตั้งขึ้นมา WG ราคาเท่าไร และวันนี้ราคาเท่าไร

ปันผลไปแล้วเท่าไร

เหอๆ ให้น้องๆทำการบ้านละกัน

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 11:24 am
โดย nanakorn
ถ้าคิดเอาผลตอบแทนช่วงที่สาม  เฉลี่ยตลอดระยะเวลา 16 ปี  ก็มากกว่า 20% ต่อปีครับ
คุณ Chatchai  อาจจะไม่ใช่ค่าเฉลี่ยของ VI ทั้งหมดก็เป็นได้ครับ  คุณ Chatchai  อาจจะอยู่ในระดับที่เก่งมาก แต่นึกว่าตัวเองธรรมดา  คนที่คิดอย่างนี้หายากครับ  ผมขอแสดงความนับถือจริงๆครับ  ผมคิดว่า 16 ปี ได้มากกว่า 20%  ต่อปี เก่งจริงๆครับ

ผมเคยอ่านที่ไหนสักแห่งว่า มีการไปถามคนหลายคนว่า คิดว่าตัวเองขับรถยนต์ดีกว่าคนส่วนใหญ่หรือแย่กว่าคนส่วนใหญ่  คำตอบเกินครึ่งตอบว่าดีกว่า (ผมจำไม่ได้แล้วว่าเกินครึ่งไปเท่าไร)  ในความเป็นจริง ควรมีดีกว่าครึ่งหนึ่ง แย่กว่าครึ่งหนึ่ง

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 12:47 pm
โดย woody
[quote="nanakorn"][quote]ถ้าคิดเอาผลตอบแทนช่วงที่สาม

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 5:20 pm
โดย nanakorn
จากหนังสือ จิตวิทยาการลงทุน หรือเปล่าครับ
หนังสือแปลเล่มนี้ของ Nofsinger ผมได้อ่านแล้วครับ  สงสัยจะมาจากเล่มนี้จริงๆ จำไม่ได้แม่นครับ  (อ่านไปอ่านมา จนงงไปหมด)
หนังสือแปลเล่มนี้น่าสงสัยว่าจะโดนย่ออย่างมากครับ เืนื่องจากบางนิดเดียว  ผมจำได้ว่าพยายามหาตัวจริงรู้สึกว่าจะต้องสั่งและราีคาค่อนข้างแพง   ใครมีเล่มต้นฉบับ ช่วย confirm ด้วยครับว่าเล่มแปลและเรียบเรียงย่อมากหรือเปล่าครับ  ขอบคุณครับ

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 10:20 am
โดย ต.หยวนเปียว
เพิ่งมาอ่าน
ขอบคุณครับคุณฉัตรชัย  :D
จะพยายามครับ
สุดท้ายแล้ว ทำได้แค่ไหนแค่นั้น  :lol:

ลงทนน้อยก็รวยได้ ถ้าลงทนแบบ VI

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 13, 2008 12:35 am
โดย BOONPARUEY
...   ของดี ๆ ขุดมาให้อ่านกัน   ...


...    :cheers:  :cool:  :man:    ...