ฤาจะกลายเป็นตำนาน...ต้นตาลเมืองเพชร
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 13, 2007 10:23 am
ฤาจะกลายเป็นตำนาน...ต้นตาลเมืองเพชร
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 มีนาคม 2550 18:22 น.
สวนตาลที่ยืนต้นเรียงรายท้าแดดท้าฝน
"...แรกรักกันมันหวานดั่งตาลเมืองเพชร ช่างหวานสะเด็ดไม่มีอะไรเปรียบปาน..."
บทเพลง ยับเยิน : วงซูซู
เป็นที่น่าสังเกตว่า หากพูดถึงต้นไม้สูงชะลูดที่มากประโยชน์อย่างต้น"ตาล"แล้ว ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงต้นตาลแห่งจังหวัดเพชรบุรี หรือตาลเมืองเพชรอันโด่งดัง เพราะจังหวัดนี้ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องรสชาติของตาลและภูมิปัญญาการปลูกตาลที่มีชื่อเสียงมาช้านาน
แต่ว่าปัจจุบันตาลเมืองเพชรกับค่อยๆถูกกาลเวลา ยุคสมัย และความเจริญทางวัตถุ กลืนหายไปเรื่อยๆ จนหลายๆคนกลัวว่า สักวันหนึ่งตาลเมืองเพชรอาจจะกลายเป็นเพียงตำนานเท่านั้น
ชาวสวนตาลกำลังปอกผลตาลให้แก่นักท่องเที่ยวชิม
จากไม้เอกลักษณ์ สู่การอนุรักษ์
ในประเทศไทยถิ่นที่เราจะสามารถพบต้นตาลได้มากที่สุดก็คือที่จังหวัดเพชรบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม โดยเฉพาะที่จังหวัดเพชรบุรีนั้นขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นเมืองแห่งต้นตาล โดยเฉพาะตาลโตนดแห่งเมืองเพชร ถือว่าไม่เป็นที่สองรองใคร
สำหรับเมืองเพชรในอดีตมองไปทางให้ก็สามารถเห็นต้นตาลอยู่ทั่วไป ด้วยเหตุนี้ต้นตาลจึงจัดเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของเมืองเพชร เป็นต้นไม้คู่เมืองและรากเหง้าแห่งเพชรบุรี
หากแต่ในปัจจุบันทาง จังหวัดได้ทำการสำรวจพบว่าจํานวนต้นตาลที่ปลูกมากมายหลายแสนต้นในจังหวัดเพชรบุรีมีจำนวนลดลงกว่าครึ่ง และจำนวนผู้ปลูกต้นตาลมีลดน้อยลงต้องประสบปัญหาหลายๆประการ โดยมีสาเหตุสำคัญคือ การทํานาปีละ 2 ครั้งของเกษตรซึ่งก่อให้เกิดน้ำท่วมขัง ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนานหลายเดือน จึงเป็นปัญหาต่อต้นตาลที่มักนิยมปลูกแซมตามคันนา
ผู้ว่าเมืองเพชรปีนต้นตาลสัญลักษณ์ปีการท่องเที่ยวเพชรบุรี
ถนอม ภู่เงิน วัย 69 ปี เกษตรกรสวนตาลเมืองเพชร ชาวตำบลถ้ำรงค์ อําเภอบ้านลาด ผู้ปลูกตาลมาช้านาน เป็นอีกคนหนึ่งที่เล็งเห็นความสําคัญของการอนุรักษ์ต้นตาล โดยเขาผันตัวเองจากเกษตรกรชาวสวนมะนาวมาเป็นชาวสวนตาลด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ตาลเมืองเพชรเหลือเพียงตำนาน
"ไม้ตาลเป็นไม้เอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรี คิดถึงเพชรบุรีต้องคิดถึงต้นตาล ในอดีตคนเมืองเพชรทุกหลังคาเรือนมีอาชีพทำตาล เพราะแต่เดิมตาลโตนดนั้นมีการขยายพันธุ์ทางธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากอิทธิพล 2 อย่าง อย่างแรกคือ น้ำ เพราะเมื่อก่อนเมืองเพชรบุรีจะเกิดน้ำท่วมบ่อย เมื่อลูกตาลสุกก็จะร่วงหล่น ลงมาแล้วถูกน้ำพัดพาไปตก และงอกเป็นต้นใหม่ อย่างที่สอง คือสัตว์เนื่องจากในสมัยก่อนเพชรบุรีมีการเลี้ยงวัวกันมาก เมื่อเลี้ยงวัวแบบปล่อย ผลตาลสุกจึงเป็นอาหารของวัว เมล็ดที่เหลือจากวัวกินก็จะงอกเป็นต้นใหม่
แต่ในปัจจุบันต้นตาลจากธรรมชาติหาได้น้อยเต็มที แม้แต่สวนตาลที่ปลูกเป็นกิจจะลักษณะก็หายาก ผมเลยคิดว่าเพชรบุรีไม่มีต้นตาลจะเป็นเมืองเพชรได้อย่างไร เลยอยากอนุรักษ์ต้นตาลเมืองเพชรไว้ อีกอย่างผมมองว่าถ้าเราทำตาลที่เป็นของแท้ เรื่องการรองรับของภาคตลาดจะไม่มีปัญหาทำเท่าไหร่ก็ไม่พอขายด้วยซ้ำไป การทำตาลคือการเกษตรที่ยั่งยืน ต้นตาลถ้าไม่แช่น้ำตาย ลมไม่พัดหัก มันจะอยู่ได้ถึง 400 ปี เป็นพืชยั่งยืนหลายชั่วอายุคน"ถนอมกล่าว
ปัจจุบันถนอมกลายเป็นชาวสวนตาลเต็มตัว เขาปลูกตาลบนพื้นที่ 10 ไร่ เป็นจำนวนกว่า 470 ต้น นอกจากนี้เขายังมองว่าการที่คนเมืองเพชรละเลยไม่สนใจในเรื่องของตาลมากดังเก่าก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสการไหลบ่าของความเจริญที่เข้ามาสู่ชาวบ้านมากขึ้น
การเคี่ยวตาลด้วยวิธีการแบบโบราณของคนเมืองเพชร
ส่วนเหตุผลอีกประการคือ ขั้นตอนการแปรรูปของตาลค่อนข้างยาก ถ้าเป็นแบบโบราณจริงๆขั้นตอนจะเยอะยุ่งยาก เพียงแค่การเคี่ยวตาลเพื่อทำน้ำตาลปี๊บ ตาลตัวผู้ต้องใช้ไม้แบน ตาลตัวเมียต้องใช้ไม้กลมในการนวด จะเห็นว่าใช้ไม้นวดก็ต่างกันแล้ว
"สิ่งที่ผมอยากเห็นในประเทศไทยคือการปลูกสวนตาลอย่างเป็นระเบียบ แม้บ้านเราจะปลูกตาลกันเยอะแต่จะหาคนที่จัดระเบียบปลูกเป็นสวนไม่ค่อยมี ซึ่งการปลูกสวนตาลอย่างเป็นระเบียบจะสามารถสร้างจุดสนใจให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตได้
ตอนนี้ทางจังหวัดเพชรบุรีมีโครงการของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เข้ามารณรงค์ให้ปลูกตาล1,000,000 ต้นเพื่อถวายในหลวง ซึ่งขณะนี้ปลูกผ่านไปแล้วในปีที่ผ่านมา 300,000 กว่าต้น ปีนี้ก็กำลังจะปลูกอีก 300,000 ต้น ภายในปีหน้าจะครบล้านต้น ทางอำเภอก็สนับสนุนให้ชาวบ้านปลูก ปลูกตามที่สาธารณะทั่วไป ให้ชุมชนเป็นเจ้าของ ผลผลิตที่จะได้ก็ให้ชาวบ้านจัดสรรกันเอง คิดว่าเป็นจุดหนึ่งที่จะทำให้คนท้องถิ่นกลับมาสนใจต้นตาลกันมากขึ้น"ถนอมกล่าวทิ้งท้าย
แปรรูปตาล สร้างมูลค่าเพิ่ม
ความคิดเห็นของถนอมคล้ายคลึงกับเชื้อ ม่วงทอง อายุ 60 ปี เกษตรกรชาวสวนตาลอีกคนหนึ่งที่ยึดอาชีพทำสวนตาลมานานตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ เชื้อเคยหวังไว้ในลูกหลานสืบทอดอาชีพชาวสวนตาล แต่จนถึงทุกวันนี้เขาต้องทำสวนตาลเพียงสองคนกับภรรยาเท่านั้น
"ลูกหลานมีแต่ว่าไม่มีใครสนใจที่จะสืบทอดต่างพากัน แยกย้ายไปทำงานอย่างอื่นกันหมด เราก็ไม่อยากบังคับทั้งที่กลัวอยู่ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปตาลเมืองเพชรอาจจะเหลือแต่ชื่อ ทั้งที่ตาลสำหรับคนเพชรบุรีแล้วเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร คาว หวาน ทำของกินเล่น ส่วนต่าง ๆของต้นนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย แทบทุกส่วน แม้แต่ขี้เถ้าของใบตาลนอกจากเป็นปุ๋ยแล้วยังนำมาละลายทำขนมเปียกปูนได้อีกด้วย"เชื้อกล่าว
ลูกตาลสามารถนำไปทำของกินได้หลายอย่าง
เชื้อ ยังได้อธิบายความต่อไปอีกว่า จากต้นตาลสามารถนำมาแปรรูปได้แทบทุกส่วนของตาลมีประโยชน์ทั้งนั้น อย่างน้ำตาลเมืองเพชรก็เป็นผลผลิตที่ขึ้นชื่อลือชา ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าน้ำตาลจากที่อื่น ในเรื่องเทคนิคพิเศษในการเคี่ยวน้ำตาล น้ำตาลสด ซึ่งเป็นน้ำตาลที่รองมาจากต้นตาลกินได้เลย ถ้านำมาต้มก็เรียกว่า "น้ำตาลอุ่น"
ผลตาลใช้ทำอาหารและขนมได้ทุกอายุใช้ทำอาหารคาวเรียกว่า "แกงหัวตาล" จาวตาล ก็สามารถนำมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ใส่น้ำเชื่อมและน้ำแข็งเป็น "ลูกตาลลอยแก้ว" ขนมเมืองเพชรขนานแท้และดั้งเดิมก็ต้องเป็น "โตนดทอด" เอาตาลโตนดมาเชื่อมแล้วชุบแป้งทอด
หรืออย่าง ขนมตาล ที่ทำจากลูกตาลสุกงอมโดยนำเอาเนื้อลูกตาลไปผสมกับแป้ง น้ำตาลโตนดและกะทิ คนให้เข้ากันหยดบนใบตองแล้วน้ำไปนึ่ง เมื่อสุกจะฟูเป็นสีเหลือง สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นประโยชน์ของต้นตาลที่คนเมืองเพชรรู้จักดี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าต้นตาลเมืองเพชรในวันนี้กำลังร่อยหรอลงเรื่อยๆ ซึ่งถ้าคนรุ่นหลังไม่สนใจบางที่ตาลเมืองเพชรอาจจะกลายเป็นตำนานก็เป็นได้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 มีนาคม 2550 18:22 น.
สวนตาลที่ยืนต้นเรียงรายท้าแดดท้าฝน
"...แรกรักกันมันหวานดั่งตาลเมืองเพชร ช่างหวานสะเด็ดไม่มีอะไรเปรียบปาน..."
บทเพลง ยับเยิน : วงซูซู
เป็นที่น่าสังเกตว่า หากพูดถึงต้นไม้สูงชะลูดที่มากประโยชน์อย่างต้น"ตาล"แล้ว ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงต้นตาลแห่งจังหวัดเพชรบุรี หรือตาลเมืองเพชรอันโด่งดัง เพราะจังหวัดนี้ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องรสชาติของตาลและภูมิปัญญาการปลูกตาลที่มีชื่อเสียงมาช้านาน
แต่ว่าปัจจุบันตาลเมืองเพชรกับค่อยๆถูกกาลเวลา ยุคสมัย และความเจริญทางวัตถุ กลืนหายไปเรื่อยๆ จนหลายๆคนกลัวว่า สักวันหนึ่งตาลเมืองเพชรอาจจะกลายเป็นเพียงตำนานเท่านั้น
ชาวสวนตาลกำลังปอกผลตาลให้แก่นักท่องเที่ยวชิม
จากไม้เอกลักษณ์ สู่การอนุรักษ์
ในประเทศไทยถิ่นที่เราจะสามารถพบต้นตาลได้มากที่สุดก็คือที่จังหวัดเพชรบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม โดยเฉพาะที่จังหวัดเพชรบุรีนั้นขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นเมืองแห่งต้นตาล โดยเฉพาะตาลโตนดแห่งเมืองเพชร ถือว่าไม่เป็นที่สองรองใคร
สำหรับเมืองเพชรในอดีตมองไปทางให้ก็สามารถเห็นต้นตาลอยู่ทั่วไป ด้วยเหตุนี้ต้นตาลจึงจัดเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของเมืองเพชร เป็นต้นไม้คู่เมืองและรากเหง้าแห่งเพชรบุรี
หากแต่ในปัจจุบันทาง จังหวัดได้ทำการสำรวจพบว่าจํานวนต้นตาลที่ปลูกมากมายหลายแสนต้นในจังหวัดเพชรบุรีมีจำนวนลดลงกว่าครึ่ง และจำนวนผู้ปลูกต้นตาลมีลดน้อยลงต้องประสบปัญหาหลายๆประการ โดยมีสาเหตุสำคัญคือ การทํานาปีละ 2 ครั้งของเกษตรซึ่งก่อให้เกิดน้ำท่วมขัง ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนานหลายเดือน จึงเป็นปัญหาต่อต้นตาลที่มักนิยมปลูกแซมตามคันนา
ผู้ว่าเมืองเพชรปีนต้นตาลสัญลักษณ์ปีการท่องเที่ยวเพชรบุรี
ถนอม ภู่เงิน วัย 69 ปี เกษตรกรสวนตาลเมืองเพชร ชาวตำบลถ้ำรงค์ อําเภอบ้านลาด ผู้ปลูกตาลมาช้านาน เป็นอีกคนหนึ่งที่เล็งเห็นความสําคัญของการอนุรักษ์ต้นตาล โดยเขาผันตัวเองจากเกษตรกรชาวสวนมะนาวมาเป็นชาวสวนตาลด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ตาลเมืองเพชรเหลือเพียงตำนาน
"ไม้ตาลเป็นไม้เอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรี คิดถึงเพชรบุรีต้องคิดถึงต้นตาล ในอดีตคนเมืองเพชรทุกหลังคาเรือนมีอาชีพทำตาล เพราะแต่เดิมตาลโตนดนั้นมีการขยายพันธุ์ทางธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากอิทธิพล 2 อย่าง อย่างแรกคือ น้ำ เพราะเมื่อก่อนเมืองเพชรบุรีจะเกิดน้ำท่วมบ่อย เมื่อลูกตาลสุกก็จะร่วงหล่น ลงมาแล้วถูกน้ำพัดพาไปตก และงอกเป็นต้นใหม่ อย่างที่สอง คือสัตว์เนื่องจากในสมัยก่อนเพชรบุรีมีการเลี้ยงวัวกันมาก เมื่อเลี้ยงวัวแบบปล่อย ผลตาลสุกจึงเป็นอาหารของวัว เมล็ดที่เหลือจากวัวกินก็จะงอกเป็นต้นใหม่
แต่ในปัจจุบันต้นตาลจากธรรมชาติหาได้น้อยเต็มที แม้แต่สวนตาลที่ปลูกเป็นกิจจะลักษณะก็หายาก ผมเลยคิดว่าเพชรบุรีไม่มีต้นตาลจะเป็นเมืองเพชรได้อย่างไร เลยอยากอนุรักษ์ต้นตาลเมืองเพชรไว้ อีกอย่างผมมองว่าถ้าเราทำตาลที่เป็นของแท้ เรื่องการรองรับของภาคตลาดจะไม่มีปัญหาทำเท่าไหร่ก็ไม่พอขายด้วยซ้ำไป การทำตาลคือการเกษตรที่ยั่งยืน ต้นตาลถ้าไม่แช่น้ำตาย ลมไม่พัดหัก มันจะอยู่ได้ถึง 400 ปี เป็นพืชยั่งยืนหลายชั่วอายุคน"ถนอมกล่าว
ปัจจุบันถนอมกลายเป็นชาวสวนตาลเต็มตัว เขาปลูกตาลบนพื้นที่ 10 ไร่ เป็นจำนวนกว่า 470 ต้น นอกจากนี้เขายังมองว่าการที่คนเมืองเพชรละเลยไม่สนใจในเรื่องของตาลมากดังเก่าก่อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสการไหลบ่าของความเจริญที่เข้ามาสู่ชาวบ้านมากขึ้น
การเคี่ยวตาลด้วยวิธีการแบบโบราณของคนเมืองเพชร
ส่วนเหตุผลอีกประการคือ ขั้นตอนการแปรรูปของตาลค่อนข้างยาก ถ้าเป็นแบบโบราณจริงๆขั้นตอนจะเยอะยุ่งยาก เพียงแค่การเคี่ยวตาลเพื่อทำน้ำตาลปี๊บ ตาลตัวผู้ต้องใช้ไม้แบน ตาลตัวเมียต้องใช้ไม้กลมในการนวด จะเห็นว่าใช้ไม้นวดก็ต่างกันแล้ว
"สิ่งที่ผมอยากเห็นในประเทศไทยคือการปลูกสวนตาลอย่างเป็นระเบียบ แม้บ้านเราจะปลูกตาลกันเยอะแต่จะหาคนที่จัดระเบียบปลูกเป็นสวนไม่ค่อยมี ซึ่งการปลูกสวนตาลอย่างเป็นระเบียบจะสามารถสร้างจุดสนใจให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตได้
ตอนนี้ทางจังหวัดเพชรบุรีมีโครงการของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เข้ามารณรงค์ให้ปลูกตาล1,000,000 ต้นเพื่อถวายในหลวง ซึ่งขณะนี้ปลูกผ่านไปแล้วในปีที่ผ่านมา 300,000 กว่าต้น ปีนี้ก็กำลังจะปลูกอีก 300,000 ต้น ภายในปีหน้าจะครบล้านต้น ทางอำเภอก็สนับสนุนให้ชาวบ้านปลูก ปลูกตามที่สาธารณะทั่วไป ให้ชุมชนเป็นเจ้าของ ผลผลิตที่จะได้ก็ให้ชาวบ้านจัดสรรกันเอง คิดว่าเป็นจุดหนึ่งที่จะทำให้คนท้องถิ่นกลับมาสนใจต้นตาลกันมากขึ้น"ถนอมกล่าวทิ้งท้าย
แปรรูปตาล สร้างมูลค่าเพิ่ม
ความคิดเห็นของถนอมคล้ายคลึงกับเชื้อ ม่วงทอง อายุ 60 ปี เกษตรกรชาวสวนตาลอีกคนหนึ่งที่ยึดอาชีพทำสวนตาลมานานตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ เชื้อเคยหวังไว้ในลูกหลานสืบทอดอาชีพชาวสวนตาล แต่จนถึงทุกวันนี้เขาต้องทำสวนตาลเพียงสองคนกับภรรยาเท่านั้น
"ลูกหลานมีแต่ว่าไม่มีใครสนใจที่จะสืบทอดต่างพากัน แยกย้ายไปทำงานอย่างอื่นกันหมด เราก็ไม่อยากบังคับทั้งที่กลัวอยู่ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปตาลเมืองเพชรอาจจะเหลือแต่ชื่อ ทั้งที่ตาลสำหรับคนเพชรบุรีแล้วเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร คาว หวาน ทำของกินเล่น ส่วนต่าง ๆของต้นนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย แทบทุกส่วน แม้แต่ขี้เถ้าของใบตาลนอกจากเป็นปุ๋ยแล้วยังนำมาละลายทำขนมเปียกปูนได้อีกด้วย"เชื้อกล่าว
ลูกตาลสามารถนำไปทำของกินได้หลายอย่าง
เชื้อ ยังได้อธิบายความต่อไปอีกว่า จากต้นตาลสามารถนำมาแปรรูปได้แทบทุกส่วนของตาลมีประโยชน์ทั้งนั้น อย่างน้ำตาลเมืองเพชรก็เป็นผลผลิตที่ขึ้นชื่อลือชา ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าน้ำตาลจากที่อื่น ในเรื่องเทคนิคพิเศษในการเคี่ยวน้ำตาล น้ำตาลสด ซึ่งเป็นน้ำตาลที่รองมาจากต้นตาลกินได้เลย ถ้านำมาต้มก็เรียกว่า "น้ำตาลอุ่น"
ผลตาลใช้ทำอาหารและขนมได้ทุกอายุใช้ทำอาหารคาวเรียกว่า "แกงหัวตาล" จาวตาล ก็สามารถนำมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ใส่น้ำเชื่อมและน้ำแข็งเป็น "ลูกตาลลอยแก้ว" ขนมเมืองเพชรขนานแท้และดั้งเดิมก็ต้องเป็น "โตนดทอด" เอาตาลโตนดมาเชื่อมแล้วชุบแป้งทอด
หรืออย่าง ขนมตาล ที่ทำจากลูกตาลสุกงอมโดยนำเอาเนื้อลูกตาลไปผสมกับแป้ง น้ำตาลโตนดและกะทิ คนให้เข้ากันหยดบนใบตองแล้วน้ำไปนึ่ง เมื่อสุกจะฟูเป็นสีเหลือง สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นประโยชน์ของต้นตาลที่คนเมืองเพชรรู้จักดี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าต้นตาลเมืองเพชรในวันนี้กำลังร่อยหรอลงเรื่อยๆ ซึ่งถ้าคนรุ่นหลังไม่สนใจบางที่ตาลเมืองเพชรอาจจะกลายเป็นตำนานก็เป็นได้