Thai VI

ข้างล่างนี้เป็นรายชื่อหุ้นที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมา 4 ถึง 6 ปีต่อกันมาแล้ว

ขอถามท่านผู้รู้ ที่ รู้ซึ่ง รู้ลึก ในธุรกิจเหล่านี้ หรือ เป็นผู้ที่ถือหุ้นที่มีรายชื่อเหล่านี้อยู่
มาช่วยกัน อธิบายให้ละเอียดหน่อยนะครับ
ว่าบริษัทเหล่านี้ กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น หรือไม่เพิ่ม ในปี 50

อธิบายถึงลักษณะธุรกิจ การตลาด และ ปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อไป หรือลดลง

มี NTV ครับ พี่ครรชิต มั่นใจว่ากำไรเพิ่ม
จากการเป็นผู้นำในการให้บริการในย่านนั้น
รวมทั้งแนวโน้ม ปัจจัย ต่างๆ ที่เอื้อต่อการเติบโตของกลุ่ม ร.พ.

ความสามารถในการรองรับคนไข้ในปัจจุบันยังรองรับการเติบโตได้บ้าง
ค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยที่ใช้สร้าง ร.พ. แห่งใหม่จะยังไม่ถูกบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบปี 50

โดยรวมๆแล้วมั่นใจว่ากำไรโตต่อเนื่อง
เพียงแต่จะรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างที่ผ่านๆมาได้หรือไม่
เป็นเรื่องที่ต้องติดตามครับ ...  :D

ถ้าตัดพวกที่เพิ่มทุนออกไปหล่ะครับพี่ฉัตรชัยเพราะบางตัวเพิ่มทุนแล้วกำไรต่อผู้ถือหุ้นลดลง(หรือเอาเฉพาะEPS) และROAมากกว่า10%จะเหลือซักกี่ตัวครับ

ให้พิจารณาดู ว่า กำไรสุทธิ จะเติบโตต่อไปหรือไม่ ซึ่งก็เป็นการเติบโตของบริษัทที่แท้จริง

ส่วนการเพิ่มทุน แล้ว Eps มันจะลดลงมา ราคามันก็จะลดลงมาตาม Eps อันนั้น
ให้คนที่คิดจะลงทุนในหุ้นนั้นๆ  ค่อยไปพิจารณาด้วยตัวเอง  
ว่าพอใจที่จะลงทุนในช่วง P/E เท่าไร

2 ตัวนี้ผมว่าทำได้ครับ
uec - งานล้นมือ ทำแทบไม่ทัน เลยเลือกรับเฉพาะงานที่มี Margin สูงๆเท่านั้น Backlog เหลือบานข้ามปี ในปีนี้ก็มีการขยายโรงงานจะเริ่มใช้งานบางส่วนได้ประมาณเดือน 7 และใช้งานได้เต็มๆประมาณเดือน 10 แนวโน้มการลงทุนของอุตสาหกรรมปิโตรยังอยู่ในระดับสูง
trc - story เดียวกับ uec เป๊ะเลยครับ งานล้นมือทำไมทัน Backlog ทำงานได้ทั้งปี 50 และรับงานเฉพาะที่ Margin สูง (งานท่อ) ด้วยเช่นกัน .. แต่ตอนนี้มีติดเรื่องการไป Takeover บริษัทสหการวิศวกร ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะออกหัวก้อย แต่ยังแอบหวังว่าน่าจะดีครับ

มารอฟัง

UEC เหตุผลเหมือนพี่ yoyo

BIGC กับ  HMPRO ก็น่าจะกำไรเพิ่มขึ้นเพราะขยายสาขาเพิ่ม ส่วนแบ่งตลาดก็เพิ่ม

Siam นี่กำไรลดลงแน่ เพราะประกาศงบมาแล้ว 2 ไตรมาส ลดไปเยอะ

คุณครรชิตกรองมาได้ดีมากครับ  น่าสนใจหลายตัว ผมคิดว่า 90% ผมเห็นด้วย และ พอติดตามกันอยู่ ..... พอแสดงความคิดเห็นได้บ้างในบางตัว  หุ้นโรงพยาบาล 2 ตัวนั่นดีทั้งคู่ แต่ค่อนข้างจะแพง การทำกำไรคงเติบโตขึ้นอีก จะชดเชยกับราคาที่แพงได้ เหมือนกับ Mint ที่ผมว่าแพง มีการเพิ่มทุนก็ยังรักษา eps ให้โตขึ้นอีกได้   ผมรอให้ลงมาหน่อยค่อยสะสมกับเขา ตอนนี้มีเพียงประดับ portforlio เอาไว้เท่านั้น.... Hmpro BigC  IT ผมว่าราคาแพงการเติบโตก็ยังมีแต่ค่อนข้างจะช้าลงแล้ว .... MCS อยู่กับความสามารถของผู้บริหาร ว่าจะเก่งแค่ไหน ถึงแม้จะมีการระบายหุ้นของเขาออกมา ผมก็ว่า เขายังไม่ทิ้งไปไหนหรอกครับ.... Rojana หุ้นในดวงใจอีกตัวมีความมั่นคงดี คงเติบโตได้จากรับรู้งาน Condo และเพิ่มการบริการน้ำและไฟมากขึ้นอีก   ราคาไม่แพงนักในขณะนี้ ....SNC ฟันธงไปก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว ยังถืออยู่เพราะคิดว่าผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ยาว แต่จะได้ผลหรือไม่ก็ต้องติดตามกันดูในปีนี้น่าจะรู้ว่า หมู่ หรือ จ่า  หรือ อาจเลื่อนเป็น นายพลไปเลยก็ได้ (แต่จะเป็นพลเอก หรือ พลตำรวจก็คงรู้ในปีใหม่นี้) ผมถือมากพอแล้ว......UEC ฟันธงไปเมื่อปีที่แล้ว อยากได้ อีก แต่เงินไม่มี รอ ปันผลส่วนใหญ่จะออกปลาย พฤษภาคม ราคาจะรอผมหรือเปล่านี้  ขอให้อย่าพึ่งหนีไปไหนเลย  ลงทุนในหุ้นบางทีก็ขึ้นอยู่กับโอกาสนะครับ.....WG ดีเหมือนเดิม บริษัทย่อย เริ่มกำไรแล้ว นำเข้าเคมีก็ได้ราคาถูกลง คิดว่า คงดี แต่ราคาไม่ขอวิจารณ์นะครับ ผมเหลือไว้ประดับ port เช่นเดิม เพราะต้องไปหาหุ้นฟันธงปีที่แล้วที่ไว้ในนี้แล้ว  .... ใครจะซื้อตัวไหนที่ผมวิจารณ์ไว้ให้ ก็ต้องคิดให้มากหน่อยนะครับ ว่า ราคามันเหมาะกับลงทุนไหน จะถือยาวได้แค่ไหน  ถ้าไม่ถือยาวไม่ควรเข้ามาลงทุนนะครับ เพราะหุ้นเหล่านี้ เหมาะลงทุนในระยะกลางและยาวนะครับ :lol:  :lol:  :lol:

การลงทุนมีความเสี่ยง ขอเตือนอีกทีหนึ่ง

หลายบริษัทมีผลการดำเนินงานไม่ครบทุกปีนะครับ

WG  ปีหน้าคงได้ลุ้นครับ

ปัจจัยบวก

1. เงินลงทุนใน Property Fund จะได้รับผลตอบแทนในปีนี้เพิ่มขึ้น เป็น MLR

2. ปี 2549  มีกำไรสุทธิต่ำกว่าความเป็นจริง  เพราะมีการตั้งสำรองเงินบำเหน็จพนักงาน  ซึ่งปีนี้คงไม่มีภาระส่วนนี้

3. ค่าเงินบาทที่ยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับที่แข็งค่า  คงมีส่วนช่วย Margin และยอดขาย ของบริษัทมากขึ้น

4. แนวโน้มการสร้างคอนโดมิเนียม  ส่งผลดีต่อ  อุตสาหกรรมสีอาคาร  และระบบดับเพลิง  (ซึ่งบริษัทย่อยของ WG ดำเนินงานอยู่)

5. สินค้าของบริษัทเป็นวัตถุดิบในหลากหลายอุตสาหกรรม  ซึ่งเป็นทั้งอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อขายในประเทศ  และส่งออก  

ถ้าการส่งออกของไทยยังเติบโตอยู่  แนวโน้มยอดขายก็คงมีส่วนได้รับผลดีด้วย  


ปัจจัยลบ

1. ปีหน้า  บริษัทจะเสียภาษีในอัตราเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 30%

2. การเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่  เพื่อนำหุ้นมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริหาร  คงส่งผลกระทบต่อ กำไรสุทธิต่อหุ้นบ้าง

ขอเดา+วิเคราะห์ มั่วๆมั่งนะคะ เอาที่คิดว่าพอเข้าใจ

aprint ....น่าจะต้องดูจากบรรดาหนังสือที่วางขาย กะล่วงหน้านานๆคงยาก แต่ดูจากฝีมือผู้บริหารรุ่นนี้แล้ว ไม่ธรรมดา ออกเล่มใหม่มาแต่ละเล่ม ยอดขายน่าจะดีทีเดียว

กลุ่มโรงพยาบาลโดยรวมๆ น่าทำกำไรได้มากขึ้น แต่ราคาเข้าลงทุนควรต้องพิจารณามากหน่อย เข้าใจว่าค่อนมาทางไม่ค่อยถูกแล้ว

bigc hmpro it ...อาจจะยังพอโตได้ แต่ไม่น่าจะโตมากๆอย่างรวดเร็วแบบที่ผ่านมา (ในสามตัวนี้ คิดว่า it น่าจะมีระยะเวลาในการโตเร็วได้ต่อไปอีก น่าจะดีกว่าอีกสองตัว)

mcot ....คงต้องคอยติดตาม เกี่ยวกะนโยบาย และผู้บริหาร ณ เวลาต่อๆไป การมีรัฐเป็นผุ้ถือหุ้นใหญ่ ขึ้นอยู่กะนโยบายบริหาร ณ ช่วงเวลานั้นๆ ว่าเลือกที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มหรือ จะไม่เน้นการทำกำไร เน้นด้านอื่นแทน เป็นต้น

rojana ....ด้านยอดที่ดิน อาจจะชะลอลงได้ แต่จะได้ยอด ไฟฟ้า และบริการสาธารณูปโภค รวมถึงคอนโด(จบคอนโดนี้แล้ว ต้องดูต่อว่า จะมีอะไรใหม่ๆมาเพิ่มเติมหรือไม่ด้วย)

wg ....ค่าเงินทิศทางระยะกลางถึงยาว ยังเชื่อว่าจะแข็งค่ากว่านี้ น่าจะเป็นผลดี ,เรื่อง esop ถ้าอยู่ในระดับ ประมาณ 3% นิดหน่อย ส่วนตัวยังคงรับได้ แต่หากมากกว่านี้ คงต้องดูหน่อยเหมือนกัน (ยกเว้น พรุ่งนี้ บาทไปยืน 32-33 โลด ก้น่าจะสบายใจได้ระดับนึง)

work ....รายได้น่าจะยังคงเติบโตได้ต่อจากปีก่อนหน้า เนื่องจากรายการทีได้เวลาผลิตเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 49 ,รวมทั้ง ธุรกิจผลิตและตัดต่อ น่าจะเป็นทิศทางเดียวกันที่เพิ่มขึ้น (ซึ่งจะเอื้อกันเอง สำหรับต้นทุนการผลิตแขนงอื่นของบริษัท), ส่วนที่ต้องระวังคือ รายได้จาก ภาพยนตร์ เป็นส่วนที่อาจจะกำไร หรือขาดทุน อย่างมโหฬารได้เสมอ ไม่มีคำว่าแน่นอน สำหรับธุรกิจหนังฉายโรง ,ทั้งนี้ราคาที่จะเข้าลงทุน เข้าใจว่าก็อยู่ในระดับก็ควรพิจารณาด้วย


จบการมั่วแต่เพียงเท่านี้ค่ะ (อันอื่นไม่รู้)  :lol: