หน้า 1 จากทั้งหมด 4
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 7:32 pm
โดย สามัญชน
ตอนซื้อหุ้นเรามีเหตุผลดังนี้
อันเต็มอยู่ที่
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... &start=330
ผมนำเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับ ธรรมมาภิบาล
3. โดยธรรมชาติของงานรับเหมามักจะมีลักษณะเป็นสีเทาๆเพราะวงการนี้เป็นอย่างนี้เอง คนที่ตรงไปตรงมาไม่มีนอกมีในหรือใต้โต๊ะอาจจะไม่ได้งาน ดังนั้น ความซื่อสัตย์ของผู้บริหารจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
4. เมื่อรวมทุกปัจจัยแล้วกลุ่มรับเหมาจึงมักจะได้ p/e ไม่สูงนัก p/e ที่ 5-7 เท่าจึงเป็น p/e ที่พอเหมาะ ถ้าสูงกว่านี้ก็จะกลายเป็น “ค่อนข้างแพง” และถ้าจะลงทุนในกลุ่มนี้จะต้องมองหาตัวที่มี margin of safety มากๆ
งานนี้ต้อง
เดาว่า มีการใช้ข้อมูลวงในขายหุ้นออกมาก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับธรรมมาภิบาล
ถามว่าเราแปลกใจหรือไม่ที่เป็นแบบนี้ ที่จริงเราก็เผื่อไว้แล้วว่า โดยธรรมชาติของธุรกิจสีเทาๆ ธรรมมาภิบาลก็น่าจะเป็นสีเทาๆไปด้วย
เหมือนเพื่อนๆไปเที่ยวอาบอบนวด เพื่อนๆจะตั้งความหวังที่จะเจอสาวพรหมจรรย์ก็คงเป็นการตั้งความหวังที่สูงเกินไป
margin of safety จึงเปรียบเสมือน condom ที่เราพกไปด้วย
ถามว่า ณ.ราคานี้ 3.88 มี margin of safety หรือไม่
อนาคตบริษัทเป็นอย่างไร
เดี๋ยวมาคุยกันต่อครับ พอดีต้องไปรวมงานแต่งงานครับ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 7:39 pm
โดย beammy
เข้ามาปูเสื่อรอ ครับ
ไว้จะนำเรื่องนี้ไปฉะในที่ประชุมด้วย ครับ ...
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 7:54 pm
โดย ผู้ติดตาม
สงสัยครับว่าใน TVI มีถือรวมกันตั้งเป็นสิบล้านหุ้น ทำไมต้องไปตื่นเต้นด้วย
ทำไม ไม่ถือไว้ ถ้าเชื่อว่ามันยังดีอยู่ ถ้ามีเงินเหลือราคาลงก็ทยอยซื้อเพิ่ม ยังไงหุ้นก็มีไม่มาก ถ้าเป็นธุรกิจที่ดี คนที่เป็นมือการเงินแล้วคิดว่าแน่ปล่อยหุ้นออกมาแบบนี้ ถ้าเก็บกลับไม่ได้ เดี๋ยวดูไม่จืด คุณเบมมี่มีตั้งแยะไม่ลองเป็นหัวขบวนรวบรวมหุ้น แล้วไปโหวตขอตำแหน่งกรรมการดูล่ะ คิดว่าใน TVI น่าจะมีคนมอบฉันทะให้เยอะนะ ถึงแพ้ก็ไม่เป็นไร ให้เค้ารู้ว่าทำแบบนี้เจอตัวจริงคราวหน้าอาจหายทั้งบริษัท (ล้อเล่น) แต่ถ้าฟลุ๊คได้เป็นต่อไปจะได้จะได้มี อินไซด์แทน
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 7:58 pm
โดย Little Boy
เข้ามากางมุ้งรอฟังครับ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 8:01 pm
โดย beammy
เรื่องเสนอคนในเวบเราเข้าเป็นกรรมการ ในการสรรหากรรมการชุดใหม่ครั้งต่อไป มีอยู่แล้ว ครับ (รวมกันมีหลายสิบล้านแบบนี้ ยังไงเค้าต้องฟังเราแน่ ครับ)
พรุ่งนี้ผมเชื่อว่า มีการไล่ขาตุ๊ดแน่นอน
แล้วจะรู้ ว่าใครตัวจริง ครับ 8) ...
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 8:04 pm
โดย fantasia
ถ้าไม่นับการตั้งสำรอง กำไร q4 ก็ไม่นับว่าเลวร้ายอะไร
แต่จากประสบการณ์ เหตุการณ์แบบนี้มักจะเป็นจุดเริ่มของเหตุการณ์แย่ ๆ อื่น ๆ ตามมา
กำไร q1 ปี 50 จะเป็นอย่างไร
ปันผลสำหรับงบปี 49 จะมากหรือน้อย
อัตราปันผลจ่ายจะเป็นตัวบอกได้ดีครับว่าบริษัทใส่ใจผู้ถือหุ้นมากน้อยแค่ไหน
ถ้าไม่จ่ายหรือจ่ายน้อย นี่เหมือนล้มแล้วกระทืบซ้ำเลยครับ
ถ้าจ่ายเยอะ ยังพอจะเข้าใจได้ว่าบริษัทอาจไม่มีส่วนรู้เห็นใน inside ครั้งนี้
Re: ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 8:18 pm
โดย javidol
สามัญชน เขียน:
เหมือนเพื่อนๆไปเที่ยวอาบอบนวด เพื่อนๆจะตั้งความหวังที่จะเจอสาวพรหมจรรย์ก็คงเป็นการตั้งความหวังที่สูงเกินไป
margin of safety จึงเปรียบเสมือน condom ที่เราพกไปด้วย
ยกตัวอย่างได้สุดยอดจิงๆพี่
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 8:22 pm
โดย jaychou
ทฤษฎีแมลงสาบ
ตัวเีดีียวแมลงสาบเร้น
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 8:48 pm
โดย Doramon007
เหมือนเพื่อนๆไปเที่ยวอาบอบนวด เพื่อนๆจะตั้งความหวังที่จะเจอสาวพรหมจรรย์ก็คงเป็นการตั้งความหวังที่สูงเกินไป
margin of safety จึงเปรียบเสมือน condom ที่เราพกไปด้วย
เห็นภาพเลยครับคุณหมอ
ข้าน้อยขอคาราวะ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 8:50 pm
โดย น้ำครึ่งแก้ว
คุณ Jaychou แต่งกลอนเก่งจังครับ
ทำให้นึกถึงที่ บัฟเฟต์ พูดบ่อยๆ ประมาณว่า แมลงสาบมักไม่เจอตัวเดียว :lol:
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 9:47 pm
โดย juntuma
หุ้นตัวนี้ถือเป็นอาจารย์ใหญ่ของผมเลยครับ
เล่นหุ้นมาไม่ครบปี มีแต่เจ๊งกับเจ๊า
อยากให้ stpi เป็นเหมือน ilink ums uec
ของพี่ ๆ ในเว็บนี้ที่ได้กำไรคนละเด้งสองเด้ง
เก็บตอนราคาสี่บาท จะไปขายซักหกบาท ก้อยังดี
วาดความฝันไว้สวยหรู หุ้นอะไรดีอย่างนี้
เราเก่งเหมือนกันนะที่ค้นพบเพชรเม็ดใหม่
งบการเงินไตรมาส 3/49 สวยหรู พีอีสาม
เริ่มซื้อตั้งแต่ พ.ย. 49 หุ้นพุ่งรอบแรก
ซื้อที่ดอย 4.74 4.5 4.3 4.08 ไม่สนใจเทคนิค
คิดไปเองว่าพื้นฐานดี เฉลี่ยต้นทุน 4.30
เคยแม้กระทั่งคิดว่า ต่ำกว่าสี่บาทจะขายบ้านขายรถมาซื้อ
อีกไม่นานหรอก เด๋วราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
พอสิ้นปีใหม่ เสียงระเบิด ทำเอาหุ้นเทกระจาดหมด
ขายทิ้ง stpi ที่ 3.78 ขาดทุนรอบแรก ไม่เข็ด
รอบที่สองเริ่มเก็บใหม่ที่ 3.56 ต้นเดือนมกรา
เก็บมาเรื่อย ๆ จนต้นทุนเฉลี่ยรอบสอง 3.94 บาท
เคยแม้กระทั่งขาย egcomp มาซื้อคิดดูละกัน
ระหว่างทางที่หุ้นราคาขึ้นมา มีข่าวดีเต็มไปหมด
ใคร ๆ ก้อพูดถึง ที่พันธ์ทิพย์ ที่เว็บนี้
มีแฟน ๆ เหนียวแน่น มีคุณบีม เป็นตัวชูโรง
มาเฉลียวใจคิด ตอนอาทิตย์ก่อนที่หุ้นพุ่งเช้า บ่ายไหลลง
งบใกล้จะออก มีข่าวดีรออยู่ แต่ทำไมยังมีคนตั้งหน้าตั้งตาขาย
บอกคนอื่นในร้อยคนร้อยหุ้น แต่ตัวเองก้อไม่ปล่อย
เพราะความโลภ อยู่เหนือเหตุผล ที่ธรรมดามาก ๆ
เอาน่ายังไงก้อยังมีกำไรอยู่ จนเริ่มมีคนบ่นว่าจะบ้าเมื่อคืน
เปิดตลาดวันนี้ขายทันที หกสิบเปอร์เซ็นต์ 4.04
ดูลาดเลาอีกที ตกมาเหลือ 3.94 ขายหมดมือเลยครับ
วันนี้ทั้งวัน ดูรายงานการส่งงบที่ set.or.th
ไม่เห็น stpi ส่งงบเลย อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นยังไง
จนเย็นนี้หลังปิดตลาดจึงเห็นงบ สิ่งที่คิดไว้ไม่ผิดเลย
แค้นฝังหุ่นจริง ๆ เลยตัวนี้ รอบนี้กำไรด้านตัวเงินไม่คุ้มค่า
เพราะเล็กน้อยมาก กับเวลาที่เสียไปตั้งแต่ พ.ย. 49
ด้านประสบการณ์ได้มากเหลือเกิน ทำให้ได้คิดว่า
เรายังทำการบ้านไม่ดีพอ ต้องทำงานหนักกว่านี้
ทำอย่างไรผมถึงจะเก่งหาหุ้นได้ดีเหมือนพี่วิบูลย์ miracle
พี่มน พี่นริศ พี่ปรัชญา พี่คลาดเครียด ฯลฯ ในเว็บนี้
พี่ครับ ขอเด็ด ๆ ซักตัวครับ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 9:53 pm
โดย Luty97
[quote="Doramon007"][quote]เหมือนเพื่อนๆไปเที่ยวอาบอบนวด
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 9:59 pm
โดย javidol
juntuma เขียน:
ทำอย่างไรผมถึงจะเก่งหาหุ้นได้ดีเหมือนพี่วิบูลย์ miracle
พี่มน พี่นริศ พี่ปรัชญา พี่คลาดเครียด ฯลฯ ในเว็บนี้
คงเป็นเพราะแบบนี้มั๊งครับ
juntuma เขียน:พี่ครับ ขอเด็ด ๆ ซักตัวครับ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 10:28 pm
โดย shinnozuke
มารอฟังด้วยคนครับ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:15 pm
โดย Onokung
[quote="javidol"][quote="juntuma"]
ทำอย่างไรผมถึงจะเก่งหาหุ้นได้ดีเหมือนพี่วิบูลย์
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:32 pm
โดย เพื่อน
ใจเยน เยน
น่าจะมีปันผลให้เห็นอยู่นา
กำไร 0.98 บาท/หุ้น
ถ้า 30% ก็ได้หุ้นละ0.29บาท
ถ้า 60% ก็ได้หุ้นละ0.58บาท
(แต่สงสัยจะได้ 30%มากกว่านะครับ)
อาจจะไม่สามารถทดแทน Cap.Gainที่หายไป แต่ปันผลออกมาให้เห็นบ้าง ก็น่าจะดึงดูดความสนใจหุ้นขึ้นมาบ้าง...หวังว่านะ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:35 pm
โดย Blueblood
เพื่อน เขียน:ใจเยน เยน
น่าจะมีปันผลให้เห็นอยู่นา
กำไร 0.98 บาท/หุ้น
ถ้า 30% ก็ได้หุ้นละ0.29บาท
ถ้า 60% ก็ได้หุ้นละ0.58บาท
(แต่สงสัยจะได้ 30%มากกว่านะครับ)
อาจจะไม่สามารถทดแทน Cap.Gainที่หายไป แต่ปันผลออกมาให้เห็นบ้าง ก็น่าจะดึงดูดความสนใจหุ้นขึ้นมาบ้าง...หวังว่านะ
ถ้าปันผลน่าจะประกาศแล้วนะครับ หรืออย่างช้าควรจะพรุ่งนี้เช้า ถ้าหลังจากนั้นผมว่าหวังให้ปันผลประทับใจคงยากแล้วครับ ...
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:04 am
โดย san
ผมเองเข้ามาคุยทีหลัง พึ่งเข้ามาดูว่ามีอะไรเหรอ เพราะว่าไม่ได้ตามเลยตัวนี้ หลังจากเล่นมาเมื่อ 3 ปี ก่อน แล้วไม่เอาอีกเลย เพราะว่าไม่ตรงกับแนวที่ตัวเองชอบเท่าไร
กำไรเขาแล้วแต่อารมณ์เจ้าของจริงๆ ว่าจะแสดงให้เห้นว่ากำไรเท่าไร เมื่อไร หรือว่า ขาดทุนเท่าไร เมื่อไร ตามใจเขาจริงๆ
ก็ยังแปลกใจว่า ทำไม stpi ถึงเป็นหุ้นที่ vi เล่นกัน ทำไมมีชื่อ stpi อยู่ในบอร์ดบ่อยมาก ระยะหลัง แต่ว่าไม่สนใจ เลยไม่ด้ดู
ถ้าจะเล่น STPI ก็ต้องพยายามเดา ว่า เขามีการขยายการก่อสร้างงานเหล็กป่าว ไม่ใช่เหล็กเส้นนะครับ เหล็กที่ต้องใช้การประกอบเชื่อม เช่นงานสะพานเหล็ก หรือว่า โครงหลังคาของสุวรรณภูมิ ส่วนเรื่องการต่อเรือ ไม่แน่ใจครับ
โดย ธรรมชาติของบริษัทนี้ เป็นงานคล้ายๆรับเหมา ( มีส่วนเกี่ยวข้องกับ stec ) ทำให้ลักษณะการกำไร ไม่สม่ำเสมอ จะมีบางปี บางไตรมาส ที่กำไรสูงมาก จนคล้ายๆเป็น turn around แต่ว่า จริงๆ แล้วไม่น่าใช่....ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ทำให้กำไรทีแสดงออกมา มันไม่แน่ไม่นอน อีกอย่างมันขึ้นกับเจ้าของด้วยมังคัรบ ว่า จะทำให้มันแสดงผลกำไร หนักๆ ในงวดไหน ขาดทุนหนักๆในงวดไหน.....
วงการก่อสร้างมันเขี้ยวขนาดไหน ....... ก็ต้องเข้าใจลักษณะเจ้าของด้วยนะครับ ว่าไม่เขี้ยวไม่ได้ ต่อให้ ชาว VI ตั้งคนเข้าไปเถอะครับ
ยุ่งกับเขามากๆ แน่ใจเหรอครับ ว่ารอดออกมาอย่างไม่พิการทางกาย แค่เข้าไปในโรงงานแล้วเกิดมีอะไรหล่นใส่หัว แล้วจะทำอะไรได้ คิดดีๆ ดีกว่ามังครับ
ถ้าเขาไม่ให้ ก็อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่านะครับ เตือนด้วยความหวังดีแล้ว นา
คนคุมงาน site ผม คุมงานดีๆ โดนลูกปืนก็มี
โดนปล่อยไฟฟ้าเข้าไปที่เหล็ก คนคุมงานไปจับเหล็ก ดิ้นกระแด่วๆ เกือบตาย วันนั้นไม่รู้มันจะเล่นใคร ผมหรือว่าลูกน้อง บางที่เขาปิดไฟในห้อง แล้วเขามารุมตี พิการไปก็มี ขนาดเยอรมันยังพิการจนต้องเผ่นกลับประเทศเลย สถานทูตทำอะไรไม่ได้ ที่เล่ามาอันหลังนี่ ไม่ได้เกิดที่ STPI นะครับ
อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่ามังครับ
เดี๋ยวเขายุ่งกลับ คราวนี้จะร้องให้ใครช่วยหล่ะครับ
ที่นี่ประเทศไทยนะครับ ขอบอก......
ต้องจำให้แม่นๆครับ
Re: ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:13 am
โดย por_jai
[quote="สามัญชน"]
เหมือนเพื่อนๆไปเที่ยวอาบอบนวด
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:36 am
โดย san
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมว่า มือใหม่เพิ่งจะหัดร้อง แน่เลยหมอศรรามเนี่ย
ไปเที่ยวนวด ต้องพก condom ไปด้วยเนี่ย....
งั้นผมมือเก่าแน่ๆเลยครับพี่......condo นี่ไม่เคยพกเลยครับ
แฮ่ะๆๆๆ ไม่ใช่อะไร แค่ไปดูที่หน้ากระจก แล้วหากาแฟ หรือไม่ก็เบียร์ นั่งรอเพือนเท่านั้นครับ อิอิอิ จริงๆนะ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:23 am
โดย สามัญชน
อิอิ มือเก่าก็ต้องระวังนะครับท่านพี่ เผื่อน้องๆหวังประหยัดเลยซื้อยี่ห้อถูกๆ แล้วเกิดรั่วขึ้นมาละก็..........
จะเป็นการไม่วีไอเป็นอย่างยิ่ง
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:25 am
โดย สามัญชน
ขอเริ่มต้นด้วยคำเตือนก่อนนะครับ เพื่อความไม่ประมาท
1.ท่านที่รักเดียวใจเดียว ไม่มีกิ๊ก ชอบคนไหนแต่งกะคนนั้นและกะอยู่กะคนนั้นตลอดไป ขอได้โปรดข้ามกระทู้นี้ไป
2. ท่านที่อายุไม่ถึง 18 โปรดข้ามไป เพราะเนื้อหาคาบลูกคาบดอกพอสมควรครับ
3. ท่านที่ไม่เคยคิดนอกใจภรรยา(แนวทางวีไอนั่นแหละ) .แต่นอกกายมีบ้างยามเหงา” ก็เชิญทัศนาได้เลยครับ แฮ่ ๆ ๆ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:26 am
โดย สามัญชน
1. เมื่อเราจ่ายตังค์เป็นค่าตัวไปแล้ว แต่คนเชียร์แขกบอกว่าน้องไม่ดีอย่างนั้น แย่อย่างนี้ ไม่สวยสักนิด เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง แฮ่ ๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับบ้านและยอมเสียตังไปฟรีๆ แถมยังเสียเชิงชายโดยไม่ได้แอ้ม ก็ต้องตรวจเช็คดูก่อนครับ
2. สิ่งที่เราควรจะรู้ก่อนก็คือ การสำรวจตรวจตราว่า น้องเป็นเอดส์หรือเปล่า และถุงยางของเรานั้น ไม่มีรูรั่วแน่นะ และจะไม่รั่วในช่วงชุลมุนด้วยนะเออ........
3. วิธีที่จะรู้ว่าน้องเป็นเอดส์หรือไม่นั้นก็โดยการสำรวจของเราเองและผู้เชี่ยวชาญ(ถ้ามี)
4. เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์สดๆร้อนๆ มีการขายหุ้นออกมาจำนวนมากประมาณสองอาทิตย์ก่อนงบออก ร่วมกับ งบออกช้าเหลือเกิน คล้ายๆกับเป็นใจให้มีการออกของให้ได้มากที่สุด ประเด็นนี้ถ้ามองในแง่ดีก็อาจจะมองได้ว่า ก็เป็นแบบนี้กันเยอะเหมือนกัน บางทีผู้บริหารอาจจะไม่รู้ก็ได้ เพราะข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก โอกาสที่จะรั่วไหลนั้นมีอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แฮ่ ๆ ก็เป็นไปได้ครับ แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้ชัดๆว่าผู้บริหารไม่เกี่ยว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงต้องมองในแง่ร้ายสุดๆไว้ก่อน ว่าอาจจะรู้เห็นเป็นใจ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:27 am
โดย สามัญชน
5. ประวัติของผู้บริหารนั้น ค้นแล้วก็ไม่ค่อยเจอทั้งในgoogle และ ผจก. และข่าวที่ออกมาก็ไม่ค่อยบอกมากนักว่าสุจริตหรือทุจริต แต่ก็มีที่น่าสังเกตว่ามีการออกข่าวว่าเดือน ธค.จะทราบยอดของการประมูล แล้วก็เลื่อนไป มค. แล้วก็เลื่อนอีกว่า กพ. และก็เลื่อนอีก(แล้ว)ว่า มีค. แ ฮ่ ๆ จะเลื่อนต่อไปอีกเรื่อยๆเราก็ชักจะไม่แปลกใจเสียแล้ว
6. เราเลยต้องพึ่งพาบารมีผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ผู้ตรวจสอบงบการเงิน แต่ว่าก่อนที่จะพึ่งก็ต้องตรวจสอบผู้สอบบัญชีเองเสียก่อน วงการรับเหมานี้ ผมจำได้ว่าช่วงปี 47 หรือไงนี่แหละที่มีข่าวว่าบริษัท eto dermazel(ขอยืมชื่อหน่อยนะท่าน กลัวโดนฟ้อง ชื่อคนอื่นไม่ค่อยตรงกับบริษัทนี้อ่ะ) ได้ว่าจ้างผู้สอบบัญชี ให้รับรองงบการเงินโดยไม่สุจริต แล้วก็มีข่าวคราวข่มขู่กันในภายหลังเพราะผู้สอบบัญเรียกเงินเพิ่มหรือไงนี่แหละ อันนี้เป็นตัวอย่างชัดๆเรื่องธรรมมาภิบาล ก็เลยอยากรู้ว่า แล้วกรณีนั้นเขาลงความเห็นในใบหน้างบว่าอย่างไร แฮ่ ๆ พอค้นดูก็พบว่า ความเห็นผู้สอบบัญชียาวเป็นหางว่าวเหมือนกันครับ มีข้อสังเกตมีเงื่อนไขเยอะพอสมควร
เอ๊ะ.....แต่ของ stpi งวดนี้ สั้นๆและกระชับ มีเพียงสามย่อหน้าเท่านั้นเอง ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อสังเกต แล้วอย่างนี้เราจะพอทำใจเชื่อได้ไหมเนี่ย.....สำหรับผู้สอบบัญชีท่านนี้ และเมื่อเหลือบมองสำนักต้นสังกัด ก็พบว่าเป็นเอินส์ท แอนด์ ยัง เหมือนกันเสียด้วยสิ
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:29 am
โดย สามัญชน
7. เอาล่ะ เรายังพิสูจน์ไม่ได้เสียที งั้นมาดูเนื้อหาในงบกันหน่อย เริ่มต้นที่ งบดุล ก็พบว่าสินทรัพย์ลดลงแฮะ จาก 1,545 ลบ. มาเหลือ 1,523 ลบ. แต่หนี้สินก็ลดลงด้วยนะ ลดลงจาก964 ลบ.เหลือ 680 ลบ. และถ้าดูดีๆ ปี2549 มีการตั้งสำรองหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น ตั้ง 120 ลบ.ด้วยสิ ถ้าไม่ตั้งตัวนี้ หนี้สินก็จะลดลงถึง 404 ลบ.ทีเดียว และนี่ขนาดเอารายรับล่วงหน้าค่าก่อสร้าง 130ลบ. มาลงเป็นลูกหนี้ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 70 ลบ.ด้วยนะ
8. มาที่งบกำไรขาดทุน บริษัทได้กันสำรองหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นมากถึง 120 ลบ. มีผลทำให้ Q4 ขาดทุนถึง 83 ลบ. แต่ถ้าไม่กัน บริษัทก็จะพลิกเป็นได้กำไร 37 ลบ. แต่ถ้าหักยอดโอนกลับค่าเผื่อการด้อยค่าสินทรัพย์ถาวรอีก 15 ลบ. บริษัทก็จะยังมีกำไร 27 ลบ.
ถามว่ายอดที่กันสำรองหนี้ 120ลบ.นี้ สมเหตุสมผลหรือไม่ ก็ตอบยากครับ บริษัทแจ้งว่าเป็นไปตามความเห็นของฝ่ายกฎหมายและกรรมการบริหาร จากไตรมาสที่แล้วที่บอกว่า “ยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงแนวโน้มของผลคดีได้” อืม.....แล้วพอไตรมาสนี้ก็เริ่มที่จะคาดการณ์ได้อย่างนั้นหรือ ก็โอเคครับถ้าจะมองอย่างนั้น(แฮ่ ๆ น้องบีมมี่เป็นนักกฎหมายมองเรื่องนี้ว่าอย่างไรครับ พอจะมีโอกาสชนะคดีไหมครับ)
แต่ในแง่คนเล่นหุ้นก็มีสิทธิระแวงว่า คุณหยิบคุกกี้(กำไร) ออกไปซุกไว้หรือเปล่าเพราะปีนี้เป็นปีที่ทำกำไรได้งดงาม และวันร้ายคืนร้าย ก็หยิบคุกกี้ออกมาวางเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ นี่....ยังมีกำไรอยู่นะ อะไรทำนองนี้อ่ะครับ
กรณีนี้จะว่าร้ายก็ร้าย คือคุณสามารถหยิบคุกกี้ออกไปได้อีก เพราะว่าเขาฟ้องร้องมากถึง 6.8 ล้านเหรียญ เหลืออีกเกินครึ่งที่คุณจะหยิบออกไปได้อีก หรือถ้าเป็นแง่ดี เกิดคุณชนะคดีหรือฝ่ายกฎหมายเปลี่ยนใจเงินจำนวนนี้ก็จะกลับมาคืน
จุดตัดสินจึงอยู่ที่เพื่อนๆซึ่งเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย จะมาให้ความเห็นต่อประเด็นนี้ต่อไป
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:30 am
โดย สามัญชน
9. ทีนี้งบกระแสเงินสด อ่านแล้ว งง ๆอ่ะครับ ต้องรอท่านฉัตรชัยมาช่วยหน่อย(หรือท่านอื่นก็ได้เน้อ) พบว่าเงินสดเพิ่มขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว 156 ลบ. หายไปไหนยังตามไม่เจอครับ เท่าที่เห็นก็คือ ..... 555 ไม่ทราบครับ
ปัจจุบันบริษัทมีเงินสด 77ลบ.และเงินลงทุนชั่วคราว 458 ลบ. แล้วจะพอจ่ายปันผลไหมเนี่ย......เมื่อตามไปดูก็พบว่า ลงทุนในกองทุน 118ลบ.(ของไทยพานิชย์) แฮ่ ๆ และเอาไปฝากประจำกินดอกเบี้ยร้อยละ 5.25% ต่อปี มากถึง 340 ลบ. ดังนั้นเรื่องเงินที่จะจ่ายปันผลนั้นไม่เป็นปัญหาแน่ ถ้าบริษัทอยากจะจ่าย ปัญหาอยู่ที่อยากจะจ่ายหรือไม่เท่านั้นเอง และจากการที่มีช่องว่างประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังงบออกที่จะมีการประชุมตัดสินว่าจะจ่ายปันผลหรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่เสียงเหมือนกันว่า ผู้บริหารจะมาไม้ไหนกันแน่ เพราะเขาสามารถปรับกลยุทธ์ให้เขาได้เปรียบได้ง่ายๆ
10. เนื้อหาหลักๆของการตรวจดูว่าน้องเป็นเอดส์หรือไม่ ก็คงจะเป็นอย่างที่พูดมา ซึ่งผมเชื่อว่ายังไม่ถึงขั้นเป็นเอดส์ เพียงแต่ชอบตุกติกหน่อยๆ ลูกเล่นแพรวพราวเข้าทำนอง ม้าพยศ อิอิ เพราะสุขภาพงบการเงินก็ยังพอดูได้ ติดขัดเรื่องตั้งสำรองเท่านั้นเองที่ทำให้กำไรไม่สวยงามนัก แต่ถ้าเหตุผลของฝ่ายกฎหมายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เราก็คงเถียงไม่ออก
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:31 am
โดย สามัญชน
11. ขั้นตอนต่อไปก็คงต้องดูว่า condom ของเราเป็นอย่างไร มี safety พอไหม
การที่จะบอกว่าราคาหุ้นถูกหรือแพงก็คงหนีไม่พ้นที่จะประเมินอนาคตของธุรกิจ และประเมินได้ค่อนข้างยาก บาง Q อาจจะสูงปรี๊ด เพราะรับรู้รายได้พอดี บาง Q อาจจะลดลงมากเพราะไม่ได้ส่งมอบงาน แต่ถ้ายืดระยะยาวๆเป็นปี ก็อาจจะบอกได้หยาบๆ อย่างปีที่แล้วซึ่งไม่ค่อยดีก็ได้มาประมาณ 0.59 บาท ก็pe 3.88/0.59= 6.5 เท่า ปีนี้กำไรก็เยอะกว่าเพราะแนวโน้มดีกว่า ส่วนปี 50 ผมว่าก็ไม่เลวด้วยเหตุผลที่เคยพูดไว้อ่ะครับ
9. อย่างไรก็ตามเราสามารถคาดเดาได้ระดับหนึ่งถึงอนาคตของบริษัทโดยใช้ข้อมูลเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน รายได้หลักของ stpi มาจากส่วนโครงสร้างเหล็ก ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี อาคารสูง สะพาน ทางยกระดับ สนามบิน โครงสร้างสำหรับจานรับสัญญาณโทรคมนาคม (Antenna Structure) โครงสร้างเสาสายไฟฟ้าแรงสูง
10. ในแง่ demand นั้น เชื่อว่าในธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี มีโอกาสที่จะมีการขยายโรงงานมากขึ้น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากในช่วงสามปีที่ผ่านมาอุตสากกรรมนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น และสร้างผลกำไรให้ค่อนข้างมากมีเงินสดอยู่ในระดับสูง จึงคาดว่าน่าจะเป็นจังหวะการลงทุนเพิ่มของกลุ่มนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะอยู่ในบริบทคล้ายๆกัน ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆนั้น่าจะเติบโตตาม gdp ภาพรวมเท่านั้นเอง
11. ในแง่ supply พบว่าคู่แข่งในประเทศที่มีกำลังผลิตเกิน 10,000 ตัน/ปีนั้น(ของstpi 50,000-60,000ตัน/ปี) มีอยู่ประมาณ 6ราย แต่ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในตลาด การหาข้อมูลจึงค่อนข้างยาก ที่อยู่ในตลาดได้แก่ mcs ซึ่งขณะนี้มีควมชัดเจนแล้วว่าได้รับงานล่วงหน้าไปมากแล้ว และมีงานที่จะให้ทำในอนาคตยาวนานไปถึงกลางปี 2551 จึงแทบไม่เหลือความเป็นคู่แข่งสำหรับ STPI
12. อีกบริษัทหนึ่งคือ uec ถึงตอนนี้ก็ชัดเจนเช่นเดียวกันว่ามีงานในมือเป็นจำนวนมาก แม้ uec จะไม่ใช่คู่แข่งรายใหญ่ของ stpi ก็ตาม แต่ก็สะท้อนถึงปริมาณงานในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ว่ามีค่อนข้างมากในระยะเวลา 2-3 ปีถัดจากนี้
13. โดยรวมก็คือ demand มีค่อนข้างเยอะ แต่ supply นั้นลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีของ STPI
14. เช่นเดียวกับภาพของตลาดต่างประเทศ ก็พบว่ามี demand สูงมาก ประเทศในแถบตะวันออกกลางและกลุ่มโอเปค มีโครงการขนาดยักษ์ที่รอจะผุดขึ้นเยอะมาก เพราะพวกนี้ร่ำรวยจากวัฏจักรน้ำมันในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และพวกนี้เขามีบทเรียนจากวัฏจักรน้ำมันเมื่อราวๆยี่สิบปีที่แล้วที่เขาไม่ได้ทำพวกเรื่อง infrastructure พวกโรงงานต่างๆ พวกฯลฯ และและเมื่อหมดวัฏจักรเขาก็พบว่าเงินที่ได้มานั้น หายไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียเยอะ และงวดนี้เขาจะไม่ผิดพลาดอีก
15. supply ได้แก่คู่แข่งจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี ฯลฯ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะลดลงเรื่อยๆเพราะมีบริษัทที่จะได้รับงานไปเรื่อยๆแล้ว
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:33 am
โดย สามัญชน
11. ขั้นตอนต่อไปก็คงต้องดูว่า condom ของเราเป็นอย่างไร มี safety พอไหม
การที่จะบอกว่าราคาหุ้นถูกหรือแพงก็คงหนีไม่พ้นที่จะประเมินอนาคตของธุรกิจ และประเมินได้ค่อนข้างยาก บาง Q อาจจะสูงปรี๊ด เพราะรับรู้รายได้พอดี บาง Q อาจจะลดลงมากเพราะไม่ได้ส่งมอบงาน แต่ถ้ายืดระยะยาวๆเป็นปี ก็อาจจะบอกได้หยาบๆ อย่างปีที่แล้วซึ่งไม่ค่อยดีก็ได้มาประมาณ 0.59 บาท ก็pe 3.88/0.59= 6.5 เท่า ปีนี้กำไรก็เยอะกว่าเพราะแนวโน้มดีกว่า ส่วนปี 50 ผมว่าก็ไม่เลวด้วยเหตุผลที่เคยพูดไว้อ่ะครับ
9. อย่างไรก็ตามเราสามารถคาดเดาได้ระดับหนึ่งถึงอนาคตของบริษัทโดยใช้ข้อมูลเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน รายได้หลักของ stpi มาจากส่วนโครงสร้างเหล็ก ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี อาคารสูง สะพาน ทางยกระดับ สนามบิน โครงสร้างสำหรับจานรับสัญญาณโทรคมนาคม (Antenna Structure) โครงสร้างเสาสายไฟฟ้าแรงสูง
10. ในแง่ demand นั้น เชื่อว่าในธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี มีโอกาสที่จะมีการขยายโรงงานมากขึ้น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากในช่วงสามปีที่ผ่านมาอุตสากกรรมนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น และสร้างผลกำไรให้ค่อนข้างมากมีเงินสดอยู่ในระดับสูง จึงคาดว่าน่าจะเป็นจังหวะการลงทุนเพิ่มของกลุ่มนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะอยู่ในบริบทคล้ายๆกัน ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆนั้น่าจะเติบโตตาม gdp ภาพรวมเท่านั้นเอง
11. ในแง่ supply พบว่าคู่แข่งในประเทศที่มีกำลังผลิตเกิน 10,000 ตัน/ปีนั้น(ของstpi 50,000-60,000ตัน/ปี) มีอยู่ประมาณ 6ราย แต่ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในตลาด การหาข้อมูลจึงค่อนข้างยาก ที่อยู่ในตลาดได้แก่ mcs ซึ่งขณะนี้มีควมชัดเจนแล้วว่าได้รับงานล่วงหน้าไปมากแล้ว และมีงานที่จะให้ทำในอนาคตยาวนานไปถึงกลางปี 2551 จึงแทบไม่เหลือความเป็นคู่แข่งสำหรับ STPI
12. อีกบริษัทหนึ่งคือ uec ถึงตอนนี้ก็ชัดเจนเช่นเดียวกันว่ามีงานในมือเป็นจำนวนมาก แม้ uec จะไม่ใช่คู่แข่งรายใหญ่ของ stpi ก็ตาม แต่ก็สะท้อนถึงปริมาณงานในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ว่ามีค่อนข้างมากในระยะเวลา 2-3 ปีถัดจากนี้
13. โดยรวมก็คือ demand มีค่อนข้างเยอะ แต่ supply นั้นลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีของ STPI
14. เช่นเดียวกับภาพของตลาดต่างประเทศ ก็พบว่ามี demand สูงมาก ประเทศในแถบตะวันออกกลางและกลุ่มโอเปค มีโครงการขนาดยักษ์ที่รอจะผุดขึ้นเยอะมาก เพราะพวกนี้ร่ำรวยจากวัฏจักรน้ำมันในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และพวกนี้เขามีบทเรียนจากวัฏจักรน้ำมันเมื่อราวๆยี่สิบปีที่แล้วที่เขาไม่ได้ทำพวกเรื่อง infrastructure พวกโรงงานต่างๆ พวกฯลฯ และและเมื่อหมดวัฏจักรเขาก็พบว่าเงินที่ได้มานั้น หายไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียเยอะ และงวดนี้เขาจะไม่ผิดพลาดอีก
15. supply ได้แก่คู่แข่งจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี ฯลฯ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะลดลงเรื่อยๆเพราะมีบริษัทที่จะได้รับงานไปเรื่อยๆแล้ว
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:34 am
โดย สามัญชน
12. โดยสรุปก็คือ พรุ่งนี้จะขายหรือจะซื้อคงบอกไม่ได้ แฮ่ ๆ ถ้าแม่นคงรวยเละไปแล้ว แต่ระยะยาวๆก็น่าลุ้นอยู่ครับ ถ้ารักจะ “นอกกายมีบ้างยามเหงา แต่ไม่เคยคิดนอกใจ” นะครับ
หรือถ้าจะกลับบ้านเพราะกลัวเอดส์ก็โอเคครับ.....
ย้อนรอย stpi
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 1:49 am
โดย Jeng
คุณฉัตรชัย กรุณาสอนหมอสามัญชน ดูงบเงินสดหน่อยครับ
ส่วนหมอก็สอนพี่หน่อยว่า
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ปี2549 มีการตั้งสำรองหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้น ตั้ง 120 ลบ.ด้วยสิ ถ้าไม่ตั้งตัวนี้ หนี้สินก็จะลดลงถึง 404 ลบ.ทีเดียว และนี่ขนาดเอารายรับล่วงหน้าค่าก่อสร้าง 130ลบ. มาลงเป็นลูกหนี้ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึง 70 ลบ.ด้วยนะ
ตรงนี้ดูอย่างไรในงบดุล ถ้าลด 120 ล้าน แล้ว หนี้สินทำไมเหลือ 404 ล้าน
และ รายรับล่วงหน้าค่าก่อสร้าง มันอยู่ตรงไหน
อ่านสองรอบ มองไม่เห็นครับ