หน้า 1 จากทั้งหมด 1

REBOUND กันทั่วโลก +++ ปรับฐาน หรือว่า โดนหลอกกันคับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 10:41 am
โดย ply33
-------------------------------------------------------------------------------

ข่าว 08.30 น. มุมมองบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯและตลาดหุ้นทั่วโลกที่ฟื้นตัวหนุนให้หุ้นนิวยอร์กปิดบวก
--------------------------------------------------------------------------------
Posted on Thursday, March 01, 2007
นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กต่างขานรับแถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ที่กล่าวอย่างเชื่อมั่นต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯว่า เศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นในระดับปานกลาง ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนบรรเทาความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯหลังจากนายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟดได้กล่าวในที่ประชุมธุรกิจของฮ่องกงว่า มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปลายปีนี้ และเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนตลาดอีกด้วย

นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นต่างประเทศบางแห่งฟื้นตัวขึ้นหลังจากทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยเฉพาะดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ของจีนที่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางกลุ่มยังระมัดระวังการซื้อขายขณะที่บางกลุ่มเลือกออกไปดูความเคลื่อนไหวอยู่นอกตลาด

นักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวขึ้น 2.2% ในไตรมาส 4 ปี 2549 จากระดับ 3.5% ที่กระทรวงได้ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ และรายงานของสมาคมฝ่ายจัดซื้อแห่งชาติเขตชิคาโกที่ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตในเขตมิดเวสต์อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2545 เป็นต้นมา โดยดัชนีทรุดตัวลงแตะระดับ 47.9 จุดในเดือนม.ค. จากระดับ 48.8 จุด

ทั้งนี้ หุ้นเมิร์ก แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ ดีดตัวขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาส 4 ที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขกำไรในปีนี้

ขณะที่หุ้นสปรินท์ เน็กซ์เทล คอร์ป ทะยานขึ้น 4.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรไตรมาส 4 พุ่งขึ้น 33%

-Dow Jones ปิดที่ 12,268.63 จุด (+0.43%)
-S&P 500 ปิดที่ 1,406.82 จุด (+0.56%)
-Nasdaq ปิดที่ 2,416.13 จุด (+0.34%)

ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ หลังจากที่นักลงทุนยังคงกระหน่ำขายหุ้นโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นธนาคารเอชบีโอเอส ร่วงลงหนักที่สุด คือ ลดลง 52 เพนซ์ ปิดที่ 1,081 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของคอลลินส์ สจ๊วต ได้แสดงความคิดเห็นว่า แนวโน้มผลประกอบการตลอดปี 2550 ของธนาคารแห่งนี้อาจจะออกมาไม่ค่อยดีนัก แม้ธนาคารเปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2549 อยู่ที่ 5.43 พันล้านปอนด์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก็ตาม

ความเคลื่อนไหวของธนาคารเอชบีโอเอสได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ดิ่งลง 28 เพนซ์ ปิดที่ 740 เพนซ์ หุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี รูดลง 11 เพนซ์ ปิดที่ 574 เพนซ์ และหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทรุดตัวลง 57 เพนซ์ ปิดที่ 2,009 เพนซ์

หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ปรับตัวลง 22 เพนซ์ ปิดที่ 1,428 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปประกาศลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ลงสู่ระดับ 'hold' จากเดิมที่ระดับ 'buy'

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขายเช่นกัน หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยหุ้นเอ็กสตราต้าดิ่งลง 84 เพนซ์ ปิดที่ 2,395 เพนซ์ หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 91 เพนซ์ ปิดที่ 2,416 เพนซ์ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ดิ่งลง 29-1/4 เพนซ์ ปิดที่ 1,021-1/2 เพนซ์ และหุ้นเวดันต้าปรับตัวลง 32 เพนซ์ ปิดที่ 1,243 เพนซ์

หุ้นกลุ่มน้ำมันถูกแรงขายทุบลงหลังจากราคาน้ำมันเคลื่อนตัวผันผวน โดยหุ้นบีจีดิ่งลง 25 เพนซ์ ปิดที่ 692 เพนซ์ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 48 เพนซ์ ปิดที่ 1,647 เพนซ์ และหุ้นบีพีปรับตัวลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 522 เพนซ์

-FTSE 100 ปิดที่ 6,171.50 จุด (-1.82%)
-DAX ปิดที่ 6,715.44 จุด (-1.53%)
-CAC 40 ปิดที่ 5,516.32 จุด (-1.29%)

ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ในรอบ 2 เดือนเมื่อวานนี้ หลังจากทางการสหรัฐฯเปิดเผยว่า น้ำมันกลั่นสำรองและน้ำมันเบนซินสำรอง ทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า น้ำมันเบนซินสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 23 ก.พ. ร่วงลง 1.9 ล้านบาเรล แตะระดับ 220.2 ล้านบาเรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 1.5 ล้านบาเรล

ขณะที่น้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ทรุดฮวบลง 3.8 ล้านบาเรล แตะระดับ 124.5 ลานบาเรล ซึ่งร่วงลงรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเพียง 2.7 ล้านบาเรล

อย่างไรก็ตาม น้ำมันดิบสำรอง เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาเรล แตะระดับ 329.0 ล้านบาเรล แม้ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาเรล ก็ตาม

นอกจากนี้ ผู้ซื้อขายน้ำมันยังคงจับตาดูความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกและอิหร่าน หลังจากที่อิหร่านปฏิเสธที่จะทำตามกำหนดเส้นตายของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) และ UN โดยนายมานูเชอร์ ม็อตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านได้ย้ำเมื่อวันอังคารว่า อิหร่านไม่มีวันที่จะระงับโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ซึ่งท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้ทำให้สหรัฐฯยืนยันว่าต้องการเจรจาโดยตรงกับอิหร่าน

-Nymex ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 61.79 ดอลลาร์สหรัฐ/บาเรล (+0.33 ดอลลาร์หสรัฐ/บาเรล)
-Brent ส่งมอบเดือนเมษายน ปิดที่ 61.89 ดอลลาร์สหรัฐ/บาเรล (+0.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาเรล)


เมื่อวานนั่งดูข่าวด้วย บอกว่ามีข่าวลือที่ทางการจีนจะขึ้นภาษีบริษัทข้ามชาติที่มาลงทุนในจีน จาก 15% เป็น 30% และก็จะขึ้นอัตราเล่น net margin เพื่อลดความร้อนแรงของพญามังกรลง หุ้นตกหวบเลย แต่ตอนเย็นข่าวออกว่าเป็นแค่ข่าวลือ

ที่น่าสนใจคือลงกันทั่วโลก แล้วก็ขึ้นกันทั่วโลกคับ ที่เมกาก็มีดีนะเวลามีอะไรประชุมอะไรออกทีวีสดได้เลย เมื่อวานนั่งดูประธาน FED อธิบายต่อวุฒิสภา ดีคับ บ้านเราน่าจะเอาบ้างงงงงงงง เนอะ
  :D

REBOUND กันทั่วโลก +++ ปรับฐาน หรือว่า โดนหลอกกันคับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 11:23 am
โดย jaychou
ศก.โลกนี่แปลก วันนึงชลอตัว วันนึงฟื้นตัว  :lol:

REBOUND กันทั่วโลก +++ ปรับฐาน หรือว่า โดนหลอกกันคับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 12:36 pm
โดย san
Green  House  Effects   ส่งผลให้อกาศโลกแปรปรวน

ก็เลยทำให้  คนอารมณ์แปรปรวน  คลุ้มดีคลุ้มร้ายครับ

เกิดอาการกลัว  Red  Stock  effects

นับต่อนี้ไป  ขอให้ ชาวประชา ชี ทั้งหลาย  ให้ระวัง  Red  stock effect  ที่เป็นผลต่อเนื่องจาก  Green  house  effects ในตลาดด้วยนะครับ

555

เราเตือนท่านแล้วนะครับ.........




ทั้งหมด  ข้างบนนี้ คือความฝันของเมื่อคืนครับ  อิอิอิ

ใครไม่อยากได้รับผลกระทบจาก   green  house  effect

อิอิอิ