Thai VI

พอดีเพิ่งเปิดบัญชี future
สงสัยว่าทำไมมันเทรดกันที่ราคาไม่มี premium เลย
สัญญาสิ้นสุด กย. เทรดกันที่ discount จาก set 50 ด้วยซ้ำ
ความคาดหวังของผลตอบแทนของ SET ไม่รวมปันผล มันต่ำขนาดนั้นเลยเหรอครับ

โพสผิดห้อง ขออภัยครับ

ปัจจัยทางจิตวิทยาครับ ทำให้Basisห่างกันโขอยู่

ถ้าshortจะเสี่ยงกว่าlongมากถ้าดูที่ Basis แต่ถ้าดูอารมณ์ตลาดแล้ว shortน่าจะwork กว่า นี่พูดแบบไม่มีหุ้นในportนะ

เมื่อวานผมshortป้องกันความเสี่ยงหุ้นในportไปแล้ว

อืม
คล้าย ๆ กับเล่น black jack ได้ 20 แต้ม แต่เจ้าโชว์ A
เลยต้อง insurance ไว้ก่อน ทั้ง ๆ ที่โอกาสที่เจ้าจะ black jack มันต่ำกว่าอัตราจ่าย รึเปล่าครับ

แต่ผม long ไปเพียบเลยครับ
พอดีค่า beta ของพอร์ตมันต่ำกว่า 1 เลยต้องเอา TFEX เข้ามาช่วย

ผลปรากฎว่าช่วยได้จริง ๆ ครับ ค่า beta ของพอร์ตสูงขึ้น แต่ดันสูงขึ้นในช่วงขาลงนี่สิ  :'O

ต้องการเพิ่มความเสี่ยงให้พอร์ตตัวเองครับ
แล้วก็รู้สึกว่าหุ้นใน SET50 ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากมาย

ส่วนที่ว่าเพียบนี่ ความจริงแล้วแค่ 10% ของพอร์ตครับ (คูณ 1,000 แล้วนะครับ)
คิดว่าคงไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงอะไรมากมาย

อีกอย่าง
ผม Long TFEX เพราะไม่ต้องการเสียโอกาสเวลาหุ้นขึ้น กับการถือเงินสดครับตอนที่ยังไม่รู้จะซื้อหุ้นอะไรอีกดีครับ
เมื่อต้องการซื้อหุ้นตัวใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการขายหุ้นเก่าออกไป เพราะ TFEX ไม่ต้องวางเงินเต็ม

ผมมองว่า SET50 มีโอกาสขึ้นมากกว่าลงอยู่ตลอดเวลาครับ ดังนั้นการถือเงินสดอย่างยาวนาน
มีความน่าจะเป็นที่จะเสียโอกาสที่หุ้นจะขึ้น มากกว่า ที่จะทำให้เกิดโอกาสในการซื้อหุ้นได้ถูกลงครับ
(ไม่รู้มองโลกในแง่ดีไปรึเปล่า)

short ถูกต้องแล้ว

คิดแปลกๆ...

มีหุ้นเต็มport เพื่อป้องกันความเสี่ยงก็ต้องshortครับ ยิ่งเป้นขาลงก็ยิ่งต้องทำ

ถ้ามีหุ้นแล้ว long ผมว่ามันแปลกๆอยู่ ถ้าไม่มีหุ้นแล้วlongกันเหนียวละพอว่า

ในมุมมองของนักลงทุนนะครับ นักเก็งกำไรไม่รู้คิดไง

ถ้าจะเล่นให้ถูกก็คือการShort

แต่ก็ไม่ใช่Longไม่ได้

ถ้าคิดจะlong ผมมองว่า โอกาสที่หุ้นลงต่ำมากๆๆๆๆๆ จริงๆ
แล้วเรากันเงินไว้ซัก10-20%
เพิ่มเตรียมlong ตรงนี้ผมว่าอาจจะช่วยให้พอร์ตฟื้นได้เร็วขึ้น

การทั้งมีหุ้นเต็มพอร์ตและทั้งLongด้วย น่าจะเหมาะสำหรับคนที่มองตลาดออกจริงๆๆๆๆๆ

แต่ก็อย่างท่านEto ว่า ถ้างั้นผมก็ไม่รู้จะShortให้ใคร 555

จ๋อย