Thai VI

เค๊าบอกกันว่าธุรกิจบ้านจัดสรร เป็นธุรกิจหิวเงิน

อืม

ที่เรียกว่า cash hunger machine

prin เอง 2862 ล้าน โห เกือบ 3 พันล้านบาท ไม่ธรรมดา และมีกำไร 447 ล้านบาท

แต่ เงินสดติดลบมากเลย คงเนื่องจากขยายงาน  ( เดา )

ทำให้หนี้สินสูงขึ้นเยอะ เช่น เงินกู้ระยะยาว 1188 เงินกู้ระยะสั้น 327 ตั๋วสัญญาใช้เงินอีก 330 รวมเป็นเงินกู้ 1845 ล้าน

ตรงนี้ น่าหนักใจนะ เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ย 6.4 ล้าน ( เอ๊ะ ทำไมจ่ายน้อยจัง แปลกดี )

มาถึงวันนี้ prin ก็เลย ipo ซะเลย

คือ prin มี 670 ล้านหุ้น par 1 บาท prin ก็เลยเพิ่มทุนอีก 670 ล้านหุ้น แบ่งเป็นสองแบบ

แบบแรกให้ผู้ถือหุ้นเดิม ช่วยกันจ่าย สองหุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ในอัตรา 1 บาท

แบบสอง เสนอขายแก่ประชาชน ipo อีกรอบ เล่นหุ้นมาตั้งนาน เพิ่งเจอนี่แหละ ( หรือว่าเข้าใจผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ) โดยราคาเสนอขายต้องไม่ต่ำกว่า 90 % ของราคาตลาด

อืม แล้วทำไมราคา prin ต้องตกด้วย ในเมื่อ กำไร 447 มาร์เก็ตแค๊บ ตอนราคา 4.06 คือ 2720.20 เท่ากับ pe 6.09

แต่จริงๆ คิดแบบนี้ได้หรือเปล่า เอา pe มาคิดได้หรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ เพราะว่า บ้านก็ขายไปแล้ว กำไรก็กำไรไปแล้ว โครงการที่เหลือ หักหนี้สิน เท่านั้นแหละที่เป็นตัวบอกว่า จะได้เงินสดกลับมาทั้งหมดเท่าไร

ถ้าคิด แบบ ง่ายๆ ราคา prin ไม่น่าลง เพราะ pe ก็ต่ำ แถมเพิ่มทุนก็จ่าย แค่ 1 บาท ในขณะที่หุ้นอีก 335 ล้าน หุ้น อาจจะต้องมีคนเข้ามาซื้อที่ราคา ใกล้ๆ 4 บาท ถ้าราคาไม่ปรับตัวลงอย่างแรงแบบนี้

ทำไมราคา prin ถึงปรับตัวลดลงมหาศาล ในขณะที่ราคานี้ 3.5 จะได้ปันผล อีก .27 และยังได้หุ้นใหม่อีก ในราคาเพียงหุ้นละ 1 บาท

ในขณะที่ คนนอกซื้อในราคา 90 % ของราคาตลาด

อืม

ถ้า prin ได้เงินไปครั้งนี้ 335 หุ้น หุ้นละ 1 บาทเป็น 335 ล้าน

และหุ้น ที่ไปขายให้ประชาชนทั่วไป เอาซัก( สมมุติ ) ราคา 3.5 บาทละกันก็จะได้เงินมาอีก 335*3.5 เท่ากับ 1172.5 ล้าน

รวมเป็น 335+1172.5 = 1507.5

เอาเงินตรงนี้ ไปกลบหนี้ระยะสั้น ระยะยาว ตั๋วสัญญาใช้เงิน รวม 1845 ล้านให้หมด

prin ก็จะผ่าน 3-5 ปี นี้ไปได้อย่างสบายๆ ขาย สร้าง อย่างสบายใจ ไม่ต้องโดนดอกเบี้ยมาบีบ เหมือนโครงการบ้านจัดสรร รุ่นพี่ รุ่นพ่อ ที่เกือบตาย และตายมามากแล้ว

เจอแบบนี้ คิดไม่เป็นเลย

นับวันยิ่งมีลูกเล่นซับซ้อน ต้องให้ ศิษย์น้อง ทั้งหลาย ช่วยวิเคราะห์ซะแล้ว นั่งอ่านดีกว่า

อิอิ

คิดๆเล่นๆ รอมืออาชีพ

ถ้าซื้อ 3.5 2 หุ้น จ่ายเงินไป 7 บาท และได้อีก 1 หุ้น ราคา 1 บาท

ทุน 8 บาท ได้มา 3 หุ้น ทุนเรา 2.67 บาท

ถ้าปีนี้ กำไรเท่าปีที่แล้ว คือ  447 ล้าน ก็ต้องหารด้วยจำนวนหุ้น 1340 กำไรต่อหุ้นเท่ากับ .33

หุ้นที่เรามีต้นทุน 2.67 ก็จะมี pe 8.09 อืม

แพงกว่าตอนเพิ่มทุนอีก

มิน่าราคาลง

ผมเคยถือ Google พอเขาประกาศเพิ่มทุน เขาขายให้คนนอกอย่างเดียวเลย ผู้ถือหุ้นเดิมไม่ได้สิทธิพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น ตัวอื่นไม่เคยเจอถือตอนเพิ่มทุนแต่ดูเหมือนที่นั่นจะเป็นแบบนี้กันทุกตัว ไม่ทราบว่าเพราะอะไร และไม่มีใครด่าด้วย  :roll:

แต่ถ้าใครมองแง่ดี ปีนี้เศรษฐกิจดี ยอดขายบ้านโตแน่ๆ ก็ตามบายนะครับ หุ้นบ้านจัดสรร ผมไม่เคยยุ่งอยู่แล้ว

แต่ชอบเอามาคิดเล่นๆ เป็นประจำ

ธุรกิจที่ดีจริง ไม่น่าต้องมาเพิ่มทุน มีแต่ ปันผล และขยายงานได้ด้วยตัวเอง

สำหรับคนที่ถือ prin อยู่ มีอะไรจะแย้งก็แย้งเลยนะ ความเห็นแตกต่าง แต่ไม่แตกแยกครับ

แล้วเขาขายราคายุติธรรมหรือไม่ครับ ท่านสุมาอี้ หรือว่าขายกันถูกๆ ก็ไม่ว่าอะไร

[quote="Jeng"]

เข้ามาบริโภคข้อมูลครับ


ผมชอบประโยคนี้จัง

แบบสอง เสนอขายแก่ประชาชน ipo อีกรอบ เล่นหุ้นมาตั้งนาน เพิ่งเจอนี่แหละ ( หรือว่าเข้าใจผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ) โดยราคาเสนอขายต้องไม่ต่ำกว่า 90 % ของราคาตลาด

แฮะๆๆๆ  ฟังแล้วอยากเอาลิ้นเข้าไปเลียน้ำผึ้งบนปลายมีดจัง

ขอบคุณครับ [/quote]

ไม่น่าถูกครับพีเจ๋ง 3.5*2 หุ้น =7
ลบไป .54 ปันผล ได้ 6.46 บาท
เพิ่มอีกบาท หารสามหุ้น= 2.48 บาท
ถ้ากำไรเท่าเดิม .33/หุ้น = PE 7.5
แต่คิดแล้วก็แพงกว่า PE เดิม ที่ 6.09 อะ


งงๆแฮะ

prin ก่อนเพิ่มทุน ราคา 4.06 กำไร .67 ปันผล .27 pe 6.06 ไม่มีอะไรผิดปกตินี่ครับ

และถ้าจะ dilute หุ้น ก็ควรจะ dilute วันที่ x ไรหว่า ที่เรียกเพิ่มทุนไม่ใช่เหรอ

ทำไม ประกาศวันนี้ วันนี้ร่วงเลย

หมอก้อง จริงๆ แล้วเราคำนวณแบบนี้ แล้วเอาข้อมูลเพิ่มจากพวก โบรกเกอร์ ที่ชอบประมาณการยอดขาย และกำไร ปี 2550 2551 ประกอบ ก็จะพอรู้นะว่า ราคา prin น่าซื้อที่เท่าไร

ผมชอบกระทู้แบบนี้ครับพี่เจ๋ง

เอาอีกบ่อยๆนะครับ ได้ความรู้ดีครับ

ขอบคุณครับ  :D

1 น.ส.สิริลักษณ์ โกวิทจินดาชัย  155,595,000 23.22

2 นายปริญญา โกวิทจินดาชัย  100,000,000 14.93

3 นายสันติ โกวิทจินดาชัย  95,000,000 14.18

4 นางกิมลั้ง โกวิทจินดาชัย  80,000,000 11.94

5 นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล  45,050,000 6.72

หุ้นมาดูผู้ถือหุ้นใหญ่ นามสกุล โกวิทจินดาชัย ถือหุ้นรวมกัน 475.65 ล้านหุ้น เท่ากับ 70.99 % เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด 670 ล้านหุ้น

เสี่ยปู่ 45 ล้านหุ้น นี่ถ้าไม่ได้ขายออกมา ก็ต้องไปเพิ่มกะคนอื่น 45 ล้านบาทนะ

อืม

ที่นี้มาดูกัน ว่า 475.65 ล้านหุ้นได้ปันผล .27 หักภาษี ณ ที่จ่าย 10 % เหลือ .24 เท่ากับ ได้เงินไป 114.16 ล้าน

แล้วก็ต้องกลับมาเพิ่มทุน 1 บาทอีก 475.65 ล้าน โห ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ต้องเติมเงินนะนี่ ตั้ง 475.65-114.16 เท่ากับ 361.49 ล้านบาท

ถ้าอีก 335 ล้านหุ้น ขายคนนอกหมด ผลคือหุ้นใหญ่ จะเหลือหุ้น 475.65+237.83 เท่ากับ 713.48 ล้านหุ้น จากหุ้นทั้งหมด 1340 ล้านหุ้น

หรือมีหุ้นเท่ากับ 53 %

อืม เผื่อแลกกับความมั่นคงของบริษัท เพราะไปกู้เงินซะเยอะ เลย กลับต้องสูญเสีย สัดส่วนการถือหุ้น จาก 70.99 %เหลือ 53 %

อันนี้เดาล้วนๆ ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ คงไม่ได้ไปซื้อหุ้นเพิ่มที่ราคา 90 % ของราคาตลาด

ใจร้อนไปหน่อย ลืม ลูกกระจิบอีกเป็นพรวน แต่ไม่เป็นไร แค่คิดเล่นๆ

สรุปใหม่คือ กลุ่มหุ้นใหญ่มีหุ้น 549.39 ล้านหุ้น คิดเป็นก่อนเพิ่มทุน 82 % จากจำนวนหุ้น 670 ล้านหุ้น และเมื่อมีการเพิ่มทุน ถ้าไม่ได้ซื้อตรง 335 ล้านหุ้นเลย จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้น 549.39+274.70 เท่ากับ 797.11/1340*100 เท่ากับ 59.49 %

ได้รับปันผล 549.39*.24 เท่ากับ 131.85 ล้าน เพิ่มทุนเข้าไป หุ้นละ 1 บาทอีก 274.70 ล้าน เท่ากับเพิ่มเงิน 142.85

อาจเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีเงินไม่พอซื้อหุ้นเพิ่มทุน

3 บาท น่าซื้อหรือเป่า ท่านนัน

Jeng เขียน: แบบสอง เสนอขายแก่ประชาชน ipo อีกรอบ เล่นหุ้นมาตั้งนาน เพิ่งเจอนี่แหละ ( หรือว่าเข้าใจผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ) โดยราคาเสนอขายต้องไม่ต่ำกว่า 90 % ของราคาตลาด

FANCY เคยทำมาแล้วครับ แต่จำไม่ได้ว่าคิดราคากี่ % ของราคาตลาด
THAI ก็เคยที่ราคา 50 บาท เมื่อไม่นานมานี้
KBANK เคยทำตอนสมัยผมเล่นหุ้นใหม่ ๆ ตอนนั้นเพิ่มทุนที่ราคา 20 บาท
(ราคาตลาดรู้สึกจะ 30 กว่าบาท) ให้คนละไม่เกิน 2,000 หุ้นมั้ง
คนแห่กันไปจองที่ศูนย์สิริกิตย์ ได้แค่ใบจองยังเอามาขายต่อได้เลย

อย่างผมไม่มีเงินซื้อเพิ่มทุน

ก็ต้องขายออกบางส่วนครับเพื่อหาเงินมาเติมส่วนเพิ่มทุน
ข้อดีคือ

prin มี pe ที่ต่ำมากเที่ยบกับ growthเพราะความกังวลเรื่องเพิ่มทุนมานาน
หลังจากนี้ภาพก็ชัดเจนขึ้นครับ
ดังนั้นทางบริษัทก็จะไม่มีผลจาก high d/e ratio มาถ่วงในอนาคตครับ

pe ต่ำจริงเหรอครับ
หลังจากเพิ่มทุน

หลังจากนี้ไป ผมไม่รู้ว่าตลาดคอนโดจะเป็นยังไง
ถ้าถึงตอนนั้นตลาดมันไม่ดี peต่ำก็ไม่น่าสนใจเท่าไร

nanchan เขียน:pe ต่ำจริงเหรอครับ
หลังจากเพิ่มทุน

หลังจากนี้ไป ผมไม่รู้ว่าตลาดคอนโดจะเป็นยังไง
ถ้าถึงตอนนั้นตลาดมันไม่ดี peต่ำก็ไม่น่าสนใจเท่าไร

ผมหมายถึงก่อนเพิ่มทุนครับพี่ อันนี้เป็นมุมมองของผมครับ

ถ้า prin ไม่เพิ่มทุน หุ้นราคา 4บาท กำไร 0.67บาท ก็เป็นหุ้นที่น่าสนใจเพราะประวัติเติบโตมาตลอด

ผมดูว่า เทรนด์ในอนาคตเป็นอย่างไร
เพื่อนที่ อ๊อฟฟิศ ที่มีกำลังซื้อหน่อย ที่อายุ 20 ปลายๆ 30 ต้นๆ
ตอนนี้ถามว่าถ้าจะซื้อ อสังหา คนส่วนใหญ่บอกว่า
อยากซื้อบ้าน แต่ เห็นซื้อคอนโดเล็กๆแทน เพราะเดินทางมาทำงานไม่ไหว
แล้วพอมีเงินจริงๆ ค่อยซื้อบ้าน

ตอนปลายปีเลือกตั้งก็คงกลับมา ดอกเบี้ยน่าจะลดลงเรื่อยๆ
ตอนนี้ small player ในตลาดนี้ก็ไม่มากนัก และ กู้เงินเพิ่มน่าจะยากพอควร

แล้วก็ต้องมาดูว่า บริษัทจะทำได้ดี หรือไม่ดีอย่างไร ในอนาคตครับ
ความเสี่ยงก็คือ ธุรกิจปกติไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร เพราะน่าจะเป็น recession period อันนี้ผมมองว่าน่ากลัวสุด

ส่วนตลาดคอนโดจะเป็นอย่างไร ซึ่งผมมอง ว่า น่าจะใช้ได้ไม่ได้บูมสุดๆ แต่น่าจะไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับ location ของคอนโด
ซึ่งคงต้องทำการบ้านเพิ่มตอน งานขายเริ่มต้นขึ้นครับ

ตกลงว่าใช้สิทธิเพิ่มทุนที่ราคาเท่าไหร่ครับ

อ่านจากข่าวเมื่อวานเห็นบอกว่า ราคาใช้สิทธิคือ 1.50 บาท

สามัญชน เขียน:ตกลงว่าใช้สิทธิเพิ่มทุนที่ราคาเท่าไหร่ครับ

อ่านจากข่าวเมื่อวานเห็นบอกว่า ราคาใช้สิทธิคือ 1.50 บาท

ใช่ครับ พี่
1.50 บาท อัตรา 2:1 ครับ

ถ้าผมถืออยู๋แล้วอยากได้ หุ้นเพิ่มทุนนี้จะต้องทำไงหรอคับ

nanosec เขียน:ถ้าผมถืออยู๋แล้วอยากได้ หุ้นเพิ่มทุนนี้จะต้องทำไงหรอคับ

8) กรุงเทพ--26 ก.พ.--รอยเตอร์

หุ้นบมจ.ปริญสิริ (PRIN)เช้านี้ร่วงลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังประกาศ
เพิ่มทุนจำนวนมาก เพื่อขายผู้ถือหุ้นเดิมและประชาชนทั่วไป(PO)
ราคาหุ้น PRIN ลบ 0.38 บาท หรือ 9.36% มาที่ 3.68 บาท หลังลงแตะ
ระดับ 3.60 บาท ต่ำสุดเมื่อเทียบจาก 3.52 บาท เมื่อวันที่ 10 ม.ค.50
เช้านี้ PRIN ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 670 ล้านหุ้น
มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจะจัดสรร 335 ล้านหุ้น ขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน
2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 1.50 บาท/หุ้น
กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น
ในวันที่ 5 เม.ย.
ส่วนที่เหลืออีก 335 ล้านหุ้น จะจัดสรรเสนอขายให้กับ PO โดยภายหลังการ
เพิ่มทุนบริษัทจะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 1.34 พันล้านบาท จากเดิมที่ 670 ล้านบาท
บริษัทจะนำเงินจากการเพิ่มทุนราว 1 พันล้านบาทไปใช้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม
3 แห่ง--จบ--