Thai VI

ไปดูราคาในอดีตนี่ต้องแหงนคอดูเลย
AIT,MFEC

ต้องให้เหตุผลหน่อยนะครับ ไปอิงตามราคาซึ่งมันเป็นอดีตและใช่ว่ามันจะทำนายอนาคตนะครับ

เหตุผลคือ กำไรบางปีเพิ่ม บางปีลด ไม่แน่นอน
อย่างปีนี้ 49 โตมาก ปี 50 อาจจะกำไรลดลงก็ได้
ดูการทำกำไรย้อนหลังก็เห็นว่าบางปีเพิ่ม บางปีลด

อ่า สำหรับ AIT รายได้หลักจะมาจากการประมูลครับ ถ้าปีไหนประมูลได้เยอะ ก็มีแนวโน้มที่ดี ถ้าปีไหนประมูลไม่ได้ ก็ให้ พนง. สังเคราะห์แสงแทนการกินข้าวไป

ธุรกิจไร่เลื่อนลอยครับ

ตอนนั้น trend IT มาแรงครับ  เป็นธุรกิจที่น่าจะเป็น STAR จึงให้พรีเมี่ยมกันสูง  ซื้อขายกันที่ pe> 20 แต่เมื่อผลประกอบการออกมาก็เป็นลักษณะเดียวกับ nasdaq

แต่ปัจจุบัน สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เปลี่ยนไปแล้วนะครับ
ฮาร์ดแวร์ถูกลงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   โรงเรียนในชนบทซื้อคอมพ์กันเป็นว่าเล่น  ทุกโรงเรียนมี internet  ที่กันดารใช้ solar กับ IP STAR

โรงเรียนที่ อยู่ในรัศมี ADSL ลงทุนซื้อเอง โดยเก็บเงินจากนักเรียน   โรงเรียนประจำอำเภอผม ยอมซื้อท่อ 2 M จ่ายเดือนละ 8,000 โดยไม่รอเงินงบประมาณ  ครูทำ CAI เอง เริ่มมีการ UPLOAD ขึ้นกันมากเรื่อยๆ ฯลฯ

ก็กำลังลุ้นอยู่ ว่าธุรกิจจะสามารถพัฒนาตัวเองจาก star มาเป็น cash cow ได้หรือไม่  
อย่างบริษํท M เนี่ย 5 ไตรมาส แล้วที่สามารถรักษา backlog ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน โดย 3 ไตรมาสหลัง รายได้โตตลอด

อย่าง 2 บริษํทเนี่ย ธุรกิจเดียวกัน แต่ทำธุรกิจไม่เหมือนกันหรอกครับ  คนทำการค้าก็จะรู้ว่าใครน่าคบกว่ากัน

อ้อ เมื่อก่อนแม้วทำไร่เลื่อนลอย แต่เดี๋ยวนี้เลิกแล้วนะครับ อยู่กับที่สบายกว่า  ปลูกกะหล่ำขาย  พอเข้าหน้าหนาวก็ตัดช้าหน่อย เอาไว้ขาย tourist ที่มาตั้งแคมป์ก่อน ได้กำไรหลายต่อ  แต่ละบ้านมีทั้ง VIGO, DMAX
ไร่เลื่อนลอยเลิกเด็ดขาย (ไม่มีที่ให้เลื่อนไปไหนแล้วครับ มองไปทางไหนก็โล้นโหมด)

เอ้อ ไอ้เจ้า 2 ตัวเนี่ย ถ้ามัน merge กันเมื่อไร ก็ต้องระวังนะครับ

contrarian Posted: Sun Feb 25, 2007 11:44 pm    Post subject:  

--------------------------------------------------------------------------------

เอ้อ ไอ้เจ้า 2 ตัวเนี่ย ถ้ามัน merge กันเมื่อไร ก็ต้องระวังนะครับ





ระวังอะไรหลอครับ[/quote][/code]