หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ถามหนี้สินของบริษัทประกันครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 20, 2007 11:19 pm
โดย Accidental Hero
ตัวอย่างจาก Safe
หนี้สิน
เงินสำรองเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้ 550.60
สำรองค่าสินไหมทดแทนและค่าสินไหมทดแทนค้างจ่าย 354.79
เงินถือไว้จากการประกันภัยต่อ 11.17
เงินค้างจ่ายเกี่ยวกับการประกันภัยต่อ 11.98
หนี้สินอื่น 131.82
รวมหนี้สิน 1,060.36
---------------------------------------------------------------------------
สงสัยที่ เงินสำรองเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้
อ่านชื่อแล้วเหมือนกับว่า น่าจะเป็นรายได้ที่คาดว่าคงจะได้รับในอนาคต
ทำไมจึงมาใส่เป็นหนี้สินครับ
มันเป็นหนี้สินจริงๆหรือครับ
เพราะเป็นสัดส่วนที่มากทำให้ตัวเลขหนี้สินมากเกินกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ครับ
ถามหนี้สินของบริษัทประกันครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 21, 2007 5:29 am
โดย jaychou
เพราะ ณ วันที่ออกงบการเงินยังไม่เป็นรายได้นะสิครับ ยังรอๆไว้อยู่ เหมือนเงินมัดจำ จ่ายล่วงหน้า ของบริษัทอื่นๆครับ เงินก้อนนี้ทยอยรับรู้เป็นรายได้ตลอดอายุกรมธรรม์
ถ้ารีบรับรู้เป็นรายได้ จะต้องเสียภาษีทันที ทำให้เสียเงินสดออกจากบริษัททันที กำไรมากขึ้น..ผู้ถือหุ้นก็จะอ้างสิทธิในปันผลได้มากขึ้น เงินลงทุนก็จะน้อยลงไปเยอะ และถ้าเกิดการเคลมครั้งใหญ่ก็จะทำให้บริษัทเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน เพราะเงินสดถูกละลายไปแล้ว
ถามหนี้สินของบริษัทประกันครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 21, 2007 9:03 am
โดย Accidental Hero
jaychou เขียน:เพราะ ณ วันที่ออกงบการเงินยังไม่เป็นรายได้นะสิครับ ยังรอๆไว้อยู่ เหมือนเงินมัดจำ จ่ายล่วงหน้า ของบริษัทอื่นๆครับ เงินก้อนนี้ทยอยรับรู้เป็นรายได้ตลอดอายุกรมธรรม์
ขอบคุณครับ
ขอถามเพิ่มอีกนิด
ผมเข้าใจอย่างนี้ถูกไหมครับ
ตามที่คุณ jaychou บอก แสดงว่า มีการรับเงินล่วงหน้ามาแล้ว แต่ยังไม่ใช่รายได้ที่แท้จริง จึงต้องหักออกในส่วนของหนี้สินหรือครับ
ถ้าเป็นอย่างนี้ แสดงว่า เงินก้อนนี้ ถูกลงบัญชีใน 2 ที่ คือ แจ้งเป็นรายได้ และแจ้งเป็นหนี้สินด้วย เพื่อจะได้หักกันออกไป
ถามหนี้สินของบริษัทประกันครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 7:14 pm
โดย Pekko
Accidental Hero เขียน:
ขอบคุณครับ
ขอถามเพิ่มอีกนิด
ผมเข้าใจอย่างนี้ถูกไหมครับ
ตามที่คุณ jaychou บอก แสดงว่า มีการรับเงินล่วงหน้ามาแล้ว แต่ยังไม่ใช่รายได้ที่แท้จริง จึงต้องหักออกในส่วนของหนี้สินหรือครับ
ถ้าเป็นอย่างนี้ แสดงว่า เงินก้อนนี้ ถูกลงบัญชีใน 2 ที่ คือ แจ้งเป็นรายได้ และแจ้งเป็นหนี้สินด้วย เพื่อจะได้หักกันออกไป
ขอแทรกหน่อยนะครับ ที่คุณ Accidental Hero เข้าใจถูกต้องนะครับ
ธุรกิจบริการที่มีสัญญาระยะยาวๆ เมื่อรับเงินก้อน จะลงเป็นรายได้รับล่วงหน้า ซึ่งต้องอยู่ในส่วนของหนี้สิน และทยอยตัดจากหนี้สินเข้าเป็นรายได้ตามช่วงเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายดำเนินงานในช่วงเวลาเดียวกัน
ถ้าไม่ทำยังงี้ เมื่อมีการเลิกกิจการในช่วงปีหลังๆ จะมีแต่ค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว ไม่มีรายได้เลย สรรพากรคงไม่ยอมหรอกครับ
ถามหนี้สินของบริษัทประกันครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 10:40 pm
โดย Accidental Hero
ขอบคุณ คุณ jaychou และคุณ Pekko ครับ