Thai VI

ไม่ทราบว่าคนอื่นเห็นด้วยกับผมรึเปล่า

เท่าที่ทราบข่าวต่างๆ  จากหลายๆ ศาสตร์  เช่น  เรื่องรันเวย์ทรุด  มีรอยแตก  แท็กซี่เวย์เสียหาย   และอาคารภายในมีปัญหาหลายจุด  (ตามที่อาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นกรรมการตรวจสอบได้รายงาน) อาทิ  เรื่องกระจก  เรื่องไฟไหม้  ...  รวมถึงคำพยากรณ์ของโหราศาสตร์ว่า    ให้ระวังเรื่องวาตะภัยอะไรเนี่ย

ผมมีลองนึกๆ ดู    มันคงไม่คุ้มกับความเสี่ยงที่เรายังไม่มั่นใจว่าจะเกิดหรือไม่นั่นคือ   หากเราเปิดใช้สุวรรณภูมิต่อไป   โดยค่อยๆ ซ่อมไปเรื่อยๆ
- เมื่อไหร่จะซ่อมเสร็จในขณะที่ยังใช้อยู่  ซึ่งมีคนใช้มากมาย
- ซ่อมเสร็จแล้วจะดีหรือเปล่า แล้วต้องซ่อมอีกกี่ครั้ง  กว่าจะพร้อมเท่ากับดอนเมืองเดิม
สองข้อข้างต้นนี้    หลายๆ คนคงเห็นเหมือนกัน  แต่อื่นๆที่ผมคิดดูว่าแล้ว  หากเกิดความเสี่ยงกับความปลอดภัยทั้งภายในอาคาร (ที่เกิดต่อตัวผู้โดยสาร)  หรือที่สำคัญที่สุด  หากมีเศษรอยร้าวเข้าไปในเครื่องเจ๊ตทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ผลที่ตามมาก็คือ
- เกิดวาตภัยตามที่โหรทำนาย
- กระทบต่อการท่องเที่ยวแน่ๆ (หากทำให้เครื่องบินมีปัญหา หรือเลวร้ายที่สุด คือเครื่องบินระเบิดเลย)
- ผลที่ตามต่อมาก็คือ  GDP เดี้ยงแน่ๆ  เพราะการท่องเที่ยวอยู่ใน GDP พอสมควรเลยทีเดียว

และอาจทำให้หุ้นต่างๆ เหล่านี้กระทบแน่ๆ คือ
AOT THAI  โรงแรมต่างๆ   ฯลฯ

โอย!!  คิดแล้ว  น่ากลัวจริงๆ (ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปหรือเปล่า)   ถ้าวิศวกรตรวจสอบแล้วยังไม่มั่นใจกับความปลอดภัย  (ให้องค์การบินระหว่งประเทศ IATA มารับรองก่อนดีกว่า  อย่าให้ทำอะไรตามใจคือไทยแท้เลย)  ผมเสนอให้ปิดซ่อมดีกว่า    เพราะถ้าเกิดเรื่องจริง  งานนี้คงได้ปิดหลายปีแน่ๆ เลย   ป้องกัน ดีกว่า แก้ไข หลังเกิดปัญหาแล้ว

คนอื่นเห็นว่าไง   เข้ามาแสดงความเห็นกันหน่อยครับ
- --

มันเสียหายทางการเมืองเท่านั้น

มันเสียหายก็เพราะว่า คนเก่าสร้าง คนใหม่ยอมไม่ได้ เลยต้องเสีย  

การแก้ปัญหาบนพื้นฐานความเป็นจริง  กับบนพื้นฐานความเชื่อ  แบบไหนดีกว่ากัน  แบบไหนเหนื่อยกว่ากัน  แบบไหนง่ายกว่ากัน แบบไหนถูกใจกว่ากัน  แบบไหนถูกต้องมากกว่ากัน แบบไหนได้ผลระยะยาวดีกว่ากัน

และเราอยากให้สังคมแก้ปัญหาด้วยวิธีไหนดีครับ

ชีวิตของคนเราเกิดมาผมว่าเจอความเสี่ยงนานับประการครับ ไม่ใช่แค่เรื่องลงทุนหรือเรื่องใหญ่ๆ อย่างสนามบินเท่านั้น อันที่จริงตอนกินข้าว (อาจเขี้ยวไม่ละเอียดทำให้ติดหลอดลม หรือกินเร็วไปทำให้จุกเสียด) ตอนไปทำงานที่ต้องเดินข้ามถนน (อาจถูกรถเชี่ยวชน) ฯลฯ ฉะนั้นสามารถพูดได้เลยว่าชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ดังที่คงเคยได้ยินกันมาเสมอๆ ว่าความแน่นอนคือความไม่แน่นอน

แต่ช้าก่อนถ้าเป็นเช่นนี้จริงชีวิตของคนเราจะได้ทำอะไรบ้างไหม? คนเราต้องอยู่กับความหวาดกลัวอย่างเดียวหรือไม่?

ดังนั้นเราอย่าพึ่งเอาคำว่าความเสี่ยง (Risk) ไปเหมารวมกับคำว่าความไม่แน่นอน (Uncertainty) ครับ เพราะความเสี่ยงเป็นสิ่งที่เราสามารถจะมาประเมินได้ (assess) ว่าจะเกิดเหตุใดขึ้นได้บ้างในอนาคต แล้วก็ค่อยพิจารณาถึงการบริหารรองรับความเสี่ยง (Risk Management) นั้นๆ ฟังดูเป็นศาสตร์ชั้นสูงนะครับสำหรับการบริหารความเสี่ยง แต่บางครั้งเราก็อาจทำโดยไม่รู้ตัวว่าเราบริหารความเสี่ยงอยู่ เช่นตอนกินข้าว เราก็อาจกินให้ช้าลง เขี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน (มีการประเมินความเสี่ยงแล้วว่าถ้ารีบๆ กิน รีบๆ กลืนจะเป็นอย่างไร พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกันคือทานให้ช้าลง เขี้ยวให้ละเอียดขึ้น) การเดินข้ามถนน (เราก็ประเมินว่าอาจจะเกิดความเสี่ยงฉะนั้นเราอาจจะต้องหาทางป้องกันเช่น เดินข้ามสะพานลอย ทางม้าลาย หรือดูซ้าย ขวาดีๆ ก่อนข้าม)
เช่นเดียวกันเรื่องของสนามบินถ้าเราสามารถทำเรื่องการบริหารความเสี่ยงเข้าช่วย เอาศาสตร์ต่างๆ มาช่วยกัน กลัวว่าจะเกิดอะไรได้บ้าง ก็เตรียมรับมือโดยการจัดระบบให้ควบคุมให้ดี ผมเชื่อว่าจะเป็นการดีกว่าที่เราจะต้องมานั่งพะวงจนไม่กล้าทำอะไรอยู่อย่างเดียวครับ

:lol:  หง่า ลองไปใช้บริการมั่งยังครับ นอกจากฟังข่าว

ผมยอมรับว่าเป็นสนามบินที่ การจัดการเรื่องต่างๆ ยังห่วยนะ แต่มันคงไม่ถึงขนาดที่ใช้ไป ซ่อมไป ไม่ได้หรอกมั้ง

ฟังบรรณวิทย์มากไปป่าว..

ในพันทิพมีคนไปถ่านรูป สนามบินมาเลเซีย สิงคโปร์ ตรงแทกซี่เวย์ก็มีรอยร้าวเป็นทางยาวเหมือนกัน

แต่แปลกตรงที่ว่า เขาก็ใช้งานได้ตามปกติ ไม่มีข่าวดังไปทั่วโลก

(เฉพาะตรงแท็กซี่เวย์อย่างเดียวครับ)

น้องวู้ดดี้ขายประกันหรอครับ

คนเรือ VI เขียน:น้องวู้ดดี้ขายประกันหรอครับ

ฮิฮิ แซวกันได้  

woody เขียน:

ฮิฮิ แซวกันได้

ฟังข่าวมากไปป่าวครับ ผมบินประจำไม่เห็นจะรู้สึกอะไร นักบินก็ยังเฉยๆ ผมเห็นมีนักข่าวกับ ทหารเรือท่านนึง เท่านั้น ที่จะให้ปิดให้ได้ คิดแบบนักธุรกิจ นะครับ ไม่เอาแบบชาวบ้าน ปิดแล้วใครรับผิดชอบเรื่องค่าย้าย?? ย้ายสนามบินนะครับไม่ใช่ย้ายบ้าน กี่สายการบิน กี่ร้านค้า ?? กี่พันล้าน??สนามบินเสียแค่ 3% ถึงกับต้องปิด?? น่าจะตอบเองได้แล้วนะครับ ว่าควรปิดหรือไม่  ดูจากราคาหุ้นเองละกันครับ คงไม่ต้องบรรยาย ผมยังจำได้เลย แค่ 3 อาทิตย์ที่แล้ว บทวิเคราะห์ ออกมาให้ SELL กันใหญ่ ทั้งที่ ราคาในกระดานตอนนั้น ไม่ถึง 50 บาท - -" เหตุผล สารพัด ข่าวก็ออกกันใหญ่ ท่อน้ำแตกก็ยังเป็นข่าวใหญ่ พอตอนนี้เห็นมีบางโบรกบอก BUY เห้อ!! ถ้านักลงทุนหลงเชื่อคงลำบากแย่ กรรมของนักลงทุนไทยจริงๆ