วันนี้จะลุย แบกถ่าน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 15, 2007 8:40 am
จากงบเส้นใย เห็น งบผงถ่าน วันนี้ยอดตัวจะดำละ
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
บริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
ไตรมาสที่ 1
ปี 2549 2548
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 459,037 231,424
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 2.28000 1.15000
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( มยุรี ณ รังศิลป์ )
ตำแหน่ง เลขานุการบริษัท
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
หลักทรัพย์ TR
หัวข้อข่าว ชี้แจงผลการดำเนินงานประกอบรายงานทางการเงินสิ้นสุด 31/12/06
วันที่/เวลา 14 ก.พ. 2550 18:45:00
14 กุมภาพันธ์ 2550
เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานประกอบรายงานการเงิน
เรียน ฝ่ายบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย 1.งบการเงินสำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 และ 2548
2.รายงานสรุปฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
ตามที่บริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) ได้ส่งงบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวดสามเดือน
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 และ 2548 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามข้อบังคับเรื่องหลักเกณฑ์
เงื่อนไข และวิธีการจัดทำงบการเงินและรายงานเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินการ ที่ผ่านการ
สอบทานโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต พร้อมการนำส่งข้อมูลผ่านระบบ ELCID เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น บริษัทฯ
ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในผลประกอบการดังนี้
1. งบกำไรขาดทุน สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549
บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิเป็นจำนวน 459 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 231
ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 98 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง คือ
(1) รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 หรือคิดเป็นจำนวน 68 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้น
ของราคาขาย
(2) ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสียในบริษัทร่วมมีผลกำไรเป็นจำนวน 236 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับผลกำไรจำนวน 33 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 622
เป็นผลมาจากความสามารถในการทำกำไรของบริษัทร่วมในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมัน
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อต้นทุนของวัตถุดิบในการผลิตของบริษัทร่วมลดลง
(3) ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 หรือคิดเป็นจำนวน 9 ล้านบาท เนื่องจากยอดเงินฝากเพิ่มขึ้น
และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 5.25 จากร้อยละ 3.50 ในปีก่อน
(4) บริษัทฯ บันทึกบัญชีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 26 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับ
ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 6 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการแข็งค่า
ของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11
(5) ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มเป็น 2.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 0.4 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องมา
จากการกู้ยืมเงินชั่วคราวเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
(6) ภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 หรือคิดเป็นจำนวน 29 ล้านบาท เนื่องมาจากผลกำไรที่เพิ่มสูง
ขึ้นในไตรมาสนี้
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น กำไรสุทธิต่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเท่ากับ 2.28 บาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกัน
ของปีก่อน ซึ่งมีผลกำไรต่อหุ้นในอัตราหุ้นละ 1.15 บาท
.../2
-2-
2. งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 30 กันยายน 2549
มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
(1) เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงร้อยละ 8 หรือคิดเป็นจำนวน 139 ล้านบาท เนื่องมาจาก
การเพิ่มขึ้นของเงินทุนหมุนเวียน และการใช้เงินทุนเพื่อการขยายงานในโครงการต่างๆ ส่งผลทำให้
ยอดเงินฝากระยะสั้นลดลงร้อยละ 35 หรือคิดเป็นจำนวน 546 ล้านบาท
(2) ลูกหนี้การค้า - กิจการอื่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 หรือคิดเป็นจำนวน 52 ล้านบาท เนื่องจากการปรับ
เพิ่มขึ้นของราคาขาย
(3) เงินลงทุนระยะยาวอื่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 หรือคิดเป็นจำนวน 430 ล้านบาท เนื่องมาจากการลงทุนใหม่
ใน "บริษัท เบอร์ล่า จิงเว่ย์ ไฟเบอร์ จำกัด" ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และการลงทุนเพิ่มใน
"บริษัท เอวี แนคคาวิค อิงค์" ในประเทศแคนาดา
(4) ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ - สุทธิ เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 หรือคิดเป็นจำนวน 549 ล้านบาท เนื่องจากการ
ขยายโครงการเพื่อเพิ่มสายการผลิตใหม่
(5) เงินเบิกเกินบัญชีธนาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 153 หรือคิดเป็นจำนวน 8 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการ
เงินทุนหมุนเวียนชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากการเบิกวงเงินเกินบัญชีในไตรมาสนี้
(6) เจ้าหนี้การค้า - กิจการที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 หรือคิดเป็นจำนวน 69 ล้านบาท เป็นผลมา
จากราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและการซื้อเพิ่มเพื่อใช้ในการขยายโครงการ
(7) ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 59 หรือคิดเป็นจำนวน 95 ล้านบาท เนื่องจากการประเมิน
ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับไตรมาสนี้
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ หนี้สิน และกำไรสุทธิ ในไตรมาสนี้ ส่งผลทำให้ส่วนของ
ผู้ถือหุ้นปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 5 หรือคิดเป็นจำนวนทธิ 542 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
นางมยุรี ณ รังศิลป์
เลขานุการบริษัท